วันนี้ #หมอแป็ปชวนเที่ยว ขอมานำเสนอการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร
ที่ง่าย ประหยัด สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด
คือ การท่องเที่ยวทางน้ำ กับเรือด่วนเจ้าพระยา ธงส้ม 15 บาท ต่อท่าเรืองต่างๆ
หรือใช้เรือข้ามฝาก 3.5-5 บาท ในบางท่าเรือ
1.ท่าช้าง
ขอเริ่มกับท่าเรือที่อยู่ใกล้ๆ ที่พักของผมก่อนนะครับ
ผมมาดูงานที่ รพ.ศิริราช 1 เดือน เลยขอเริ่มท่าที่มีชื่อเสียงสุดๆ
กับสถานที่ ที่ถือว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย และติดอันดับโลก คือ พระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้ว
ท่าช้าง ตั้งอยู่ที่ด้านท้ายวัง ซึ่งสามารถเดินจากท่าเรือแค่ 200 เมตร ก็ถึงทางเข้าพระบรมมหาราชวัง
คนไทยเข้าชม เข้าไหว้พระแก้ว ชมพระมหาราชวัง ได้ฟรีครับ เปิด 8.30-15.30น.
เดินต่อมาอีก 300 เมตร ก็จะถึงศาลหลักเมืองกรุงเทพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรุงเทพ
สร้างมาพร้อมกับกรุงรัตนโกสินทร์
2.ท่ายอดพิมาน
ถัดจากท่าช้าง ไม่ไกลกันมากนัก คือท่ายอดพิมาน กับท่าเรือที่มีการออกแบบสวยงาม
คล้ายๆกับอาคารโบราณสมัยรัชกาลที่ 5
มีร้านอาหาร ร้านขายของมากมาย โดยเฉพาะวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา
ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตก โดยมีฉากหลังเป็นพระปรางค์วัดอรุณที่สวยงาม
หากมีเวลาเดินเล่นต่อเล็กน้อยไปยังปากคลองตลาด
ซึ่งเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
3.ท่ามหาราช
เดินจากท่าช้างหรือท่าพระจันทร์ไม่ไกล คือ ท่ามหาราช
เป็นท่าเรือที่มีลักษณะของ คอมมูนิตี้มอล ขนาดเล็ก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงวันพิเศษ
แถมยังตกแต่งด้วยแสงสี มีมุมถ่ายภาพสวยๆมากมาย
แนะนำว่าต้องแวะมาถ่ายรูปให้ได้เลยครับ เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมทุกวัน
เปิดแต่ช่วงสายๆ และปิดอีกที่ก็ดึกเลยครับ
4.ท่าสาทร
ขอตัดสลับมาท่าเรือที่สามารถเชื่อมต่อไปจุดท่องเที่ยว และ BTS ได้สะดวกที่สุด
สามารถนั่งเรือบริการฟรีไปยัง *
ไอคอนสยาม
ซึ่งถือว่าเป็นห้างที่สวยที่สุดในฝั่งธนบุรี และสวยติดระดับโลก
ด้วยการออกแบบ ที่เสมือนย่อประเทศไทยเอาไว้ บริเวณชั้น G
ทั้งของกิน ของขาย ทุกภูมิภาคทั่วไทย แบบว่า ได้ของฝากทั่วประเทศ ในที่เดียว
และ อีกหนึ่งไฮไลน์ คือการแสดงพลุ ซึ่งมีทุกวันช่วงๆเย็น พลาดไม่ได้จริงครับ
*ล้ง 1919 อีกหนึ่งสถานที่สวยๆ ฝั่งธนบุรี ที่สามารถนั่งเรือฟรีไปเที่ยวได้
กับบรรยากาศ ชุมชนจีนสมัยก่อน ที่ยังคงความงาม เมื่อร้อยกว่าปีก่อนเอาไว้ได้
โดยเป็นบ้าน ศาลเจ้า โกดังของคนจีนในสมัยก่อน ที่ประสานไปกับร้านค้า
ร้านอาหารสมัยใหม่ ให้ได้ไปชิม ไปช๊อปกัน
5.ท่าเอเชียทีค
ถือว่าเป็นไฮไลน์อันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยวทางน้ำ
คอมมูนนิตี้มอลขนาดใหญ่ที่สุด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งต้องสะดุดตากับ
ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ สวนสนุก ครบจบในที่เดียว
ในการออกแบบโกดังสมัยก่อนมาประยุคเป็นร้านค้าต่างๆ ได้อย่างลงตัว
เปิดทุกวัน ช่วงสายๆ ถึงดึกๆ เลยทีเดียว
6.ท่าสี่พระยา
วนกลับมาท่าเรือ ใกล้ๆท่าสาทร คือ ท่าสี่พระยา
สามารถเดินเล่นท่องเที่ยวชุมชน street art ที่แผงตัวไปกลับบ้านเก่าอาคารโบราณสวยๆ
งานศิลปะถูกสอดแทรกไปทุกตอกซอกซอยของชุมชนตลาดน้อย
ใกล้ๆ เป็นที่ตั้งของไปรษณีย์กลาง บางรัก อาคารเก่าแก่ที่ ถือว่าคลาสสิค ในย่านบางรัก
สามารถเข้าไปชมภายในได้ อีกทั้งยังขึ้นไปชมวิวด่านฟ้าได้ฟรีๆ ทำการทุกวัน
7.ท่าราชวงศ์
ท่าเรือที่ เชื่อมต่อไปยังถนนเยาวราช ถนนอาหารที่อร่อยที่สุดในกรุงเทพมหานคร
กับบรรยากาศอาหารจีนๆ ชุมชนจีน ศาลเจ้าจีน ที่มากที่สุดในกรุงเทพ
ถ้ายังเดินไหว แนะนำไปไหว้
หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร
ที่ถือว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำ ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ 2 จุดคือ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อทองคำ และ พิพิธภัณฑ์ชาวจีนเยาวราช
8.ท่าวัดอรุณ
ท่าเรือที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเยี่ยมชมและกราบไหว้
ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาลักษณ์ของประเทศไทย
เป็นพระปราค์ที่สูงที่สุดในกรุงเทพ ถูกกสร้างมาตั้งแต่รัชกาลที่2
ตกแต่งด้วยเครื่องถ้วยชาม แบบจีน และเครื่องเบณจรงค์
และอีกหนึ่งไฮไลน์คือ ยักษ์วัดแจ้ง ที่หลายๆคนรู้จักกันดี ตั้งอยู่ที่ซุ้มประตูหน้าทางเข้าพระอุโบสถ์
เดินต่อไม่ไกล ก็เป็นที่ตั้งของ หลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตร
หรือที่ชาวจีนเรีกว่า ซำปอกง องค์ใหญ่
9.ท่าเตียน
(นั่งเรือข้ามฝากจากท่าวัดอรุณ)
ถ้าพูดถึงยักษ์วัดแจ้งแล้ว ก็ต้องพูดถึงยักษ์วัดโพธิ์ ที่ท่าเตียน ท่าเรือฝั่งตรงข้าม
วัดโพธิ์เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ซึ่งอยู่ติดริมรั่วพระบรมมหาราชวัง
ภายในประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ พระเจดีย์ 4 รัชกาล พระนอนองค์ใหญ่
เดินอีกไม่ไกล จะพบกับมิวเซียมสยาม อาคารโบราณสีเหลือง 3 ชั้น
ภายในมีนิทัศการ เกี่วกับประเทศไทยที่น่าสนใจมากมาย และมีการเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน
10.ท่าพระจันทร์
ท่าเรือที่อยู่ติดๆกัน อยู่ด้านข้างของ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทน์
ซึ่งเป็นที่ดินเดิมของวังหน้า เดินทางออกมาทางซ้ายมือ เล็กน้อย เป็นที่ตั้งของ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของประเทศไทย ที่ประชาชนสามารถเข้าชมได้
เปิดให้เข้าชม ในวันพุธ ถึงวันอาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น.
ภายในประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์ องค์จริง ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์
และยังเปิดพระที่นั่งต่างๆให้เข้าชมได้ ซึ่งภายในเป็นที่รวบรวมโบราณสถานสำคัญของชาติ ตั้งแต่ยุคสมัยต่างๆ
อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงราชรถ แห่งเดียวในประเทศไทย
11.ท่ารถไฟ
ท่าเรือเดียวที่ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาล คือ รพ.ศิริราช
ที่ชื่อท่ารถไฟ เพราะ ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟบางกองน้อยเดิม ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านคงจะรู้จักดี
จากบทละครเรื่องคู่กรรม เป็นสถานที่เสียชีวิตของ โกโบริ พระเอกของเรื่อง
ปัจจุบัน เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ภิมุขสถาน ซึ่งเป็นสถานที่ของวังหลังเดิม
ภายในจัดแสดง ประวัติศาสตร์วังหลัง ประวัติการแพทย์
หุ่นจำ]องทางการแพทย์ สามรถมาเล่นบทบาทเป็นแพทย์สาขาต่างๆได้ เช่น หมอผ่าตัด
เปิดให้เข้าชมในทุกวันเวลา 10.00-17.00น. ราคาบัตร 80 บาท
12.ท่าวังหลัง
อีกหนึ่งท่าเรือที่รู้จักกันดี ในฐานะเป็นแหล่งร้านค้า ร้านอาหารแห่งใหญ่ ในเขตฝั่งธนบุรี
ด้วยของที่หลากหลาย ราคาไม่แพงมากนัก
จึงเป็นจุดหมายปลายทางของคนที่ชอบอาหารอร่อยในราคามิตรภาพ
เดินออกจากวังหลังเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของวัดระฆังโฆศิตาราม
เป็นวัดเก่าแก่โบราณ โดยเฉพาะ เป็นวัดที่หลวงปู่โต เคยจำพรรษา
ปัจจุบันได้สร้างรูปหล่อหลวงปู่โตขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
13.ท่าพระอาทิตย์
ท่าเรือใกล้ๆ สะพานพระราม 8 เป็นอีกท่าเรือหนึ่งที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ
ป้อมพระสุเมรุ ป้อมกำแพงเมืองเก่าแก่ ที่หลงเหลือแค่เพียง 2 ที่ในเกาะรัตนโกสินทร์
บริเวณโดยรอบ ตกแต่งเป็นสวนสุขภาพ และมีทางเดินชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เรียกกันว่า
River walk สามารถชมความงาม ของสะพานพระปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 ได้สวยงาม
ใกล้ กับป้อมพระสุเมรุ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์บางลำพู เป็นสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์
ของชุมชมกำแพงเมือง ในอาคารโรงพิมพ์เก่าแก่ เปิดให้เข้าชม
อังคาร-อาทิตย์ 10.00-18.00 น.
14.ท่าเทเวศร์
ท่าเรือ ที่อยู่ติดๆกับสะพานพระราม 8 เป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้วัดสำคัญ 2 วัดคือ
วัดราชาธิวาส และวัดเทวราชกุญชร
วัดเทวราชกุญชรเป็นวัดเก่าแก่ที่ยังคงรูปแบบโบสถ์โบราณเอาไว้
อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ไม้สักทอง ที่เปิดให้เข้าชมทกวัน ค่าเข้าชม 30 บาท
อาคารสร้างด้วยไม่สักทองทั้งหลัง ภายในมีหุ่นขี้ผึ้งพระสังฆราชไทย
ทุกพระองค์ประดิษฐานเอาไว้
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 17.00 น.
*วัดราชาธิวาส วัดที่มีโบสถ์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ภายนอก ด้วยการประยุคศิลปะขอม
แต่ภายในเขียนภาพด้วยศิลปะเขียนสีบนปูยเปียกแบบตะวันตก
ออกแบบโดย สมเด็จครู กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
15.ท่าสะพานพุทธ
เดินข้ามสะพานพุทธ จะเป็นที่ตั้งของวัดประยุรวงศาวาส ที่พึ่งได้รับยกย่องจากยูเนสโก
ด้วยศิลปกรรมเก่าแก่ และยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร
เป็นเจดีย์โบราณสร้างโดยมีแกนไม้ซุงเป็นแกนใน ไม่มีการใช้เสาเข็มในการก่อสร้าง
ไม่ไกลมากนักเป็นที่ตั้งของ
พิพิธภัณฑ์สมเด็จย่า
ที่ถูกสร้างในสถานที่ประสูติของท่าน ภายในอนุรักษ์ โครงสร้างโบราณเอาไว้
ในรูปแบบสวนสุขภาพ มีการจำรองบ้านเดิมของสมเด็จย่าเอาไว้
เปิดทุกวัน เวลา 8:30–16:00น.
จบแล้วนะครับกับการท่องเที่ยว 15ท่าเรือ ทั้งกรุงเทพทั้งฝั่งเกาะรัตนโกสินทร์ และฝั่งธนบุรี
สงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่าย ติดต่อ พูดคุย ขออนุญาตการนำภาพไปใช้ ซื้อขายภาพ
facebook:
https://www.facebook.com/thapanun.mahisanun
เที่ยวกรุงเทพ 15 ท่าเรือ...ด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา 15 บาท *ฉบับ ภาพจริง สถานที่จริง #หมอแป็ปชวนเที่ยว
วันนี้ #หมอแป็ปชวนเที่ยว ขอมานำเสนอการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร
ที่ง่าย ประหยัด สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด
คือ การท่องเที่ยวทางน้ำ กับเรือด่วนเจ้าพระยา ธงส้ม 15 บาท ต่อท่าเรืองต่างๆ
หรือใช้เรือข้ามฝาก 3.5-5 บาท ในบางท่าเรือ
1.ท่าช้าง
ขอเริ่มกับท่าเรือที่อยู่ใกล้ๆ ที่พักของผมก่อนนะครับ
ผมมาดูงานที่ รพ.ศิริราช 1 เดือน เลยขอเริ่มท่าที่มีชื่อเสียงสุดๆ
กับสถานที่ ที่ถือว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย และติดอันดับโลก คือ พระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้ว
ท่าช้าง ตั้งอยู่ที่ด้านท้ายวัง ซึ่งสามารถเดินจากท่าเรือแค่ 200 เมตร ก็ถึงทางเข้าพระบรมมหาราชวัง
คนไทยเข้าชม เข้าไหว้พระแก้ว ชมพระมหาราชวัง ได้ฟรีครับ เปิด 8.30-15.30น.
เดินต่อมาอีก 300 เมตร ก็จะถึงศาลหลักเมืองกรุงเทพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรุงเทพ
สร้างมาพร้อมกับกรุงรัตนโกสินทร์
2.ท่ายอดพิมาน
ถัดจากท่าช้าง ไม่ไกลกันมากนัก คือท่ายอดพิมาน กับท่าเรือที่มีการออกแบบสวยงาม
คล้ายๆกับอาคารโบราณสมัยรัชกาลที่ 5
มีร้านอาหาร ร้านขายของมากมาย โดยเฉพาะวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา
ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตก โดยมีฉากหลังเป็นพระปรางค์วัดอรุณที่สวยงาม
หากมีเวลาเดินเล่นต่อเล็กน้อยไปยังปากคลองตลาด
ซึ่งเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
3.ท่ามหาราช
เดินจากท่าช้างหรือท่าพระจันทร์ไม่ไกล คือ ท่ามหาราช
เป็นท่าเรือที่มีลักษณะของ คอมมูนิตี้มอล ขนาดเล็ก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงวันพิเศษ
แถมยังตกแต่งด้วยแสงสี มีมุมถ่ายภาพสวยๆมากมาย
แนะนำว่าต้องแวะมาถ่ายรูปให้ได้เลยครับ เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมทุกวัน
เปิดแต่ช่วงสายๆ และปิดอีกที่ก็ดึกเลยครับ
4.ท่าสาทร
ขอตัดสลับมาท่าเรือที่สามารถเชื่อมต่อไปจุดท่องเที่ยว และ BTS ได้สะดวกที่สุด
สามารถนั่งเรือบริการฟรีไปยัง *ไอคอนสยาม
ซึ่งถือว่าเป็นห้างที่สวยที่สุดในฝั่งธนบุรี และสวยติดระดับโลก
ด้วยการออกแบบ ที่เสมือนย่อประเทศไทยเอาไว้ บริเวณชั้น G
ทั้งของกิน ของขาย ทุกภูมิภาคทั่วไทย แบบว่า ได้ของฝากทั่วประเทศ ในที่เดียว
และ อีกหนึ่งไฮไลน์ คือการแสดงพลุ ซึ่งมีทุกวันช่วงๆเย็น พลาดไม่ได้จริงครับ
*ล้ง 1919 อีกหนึ่งสถานที่สวยๆ ฝั่งธนบุรี ที่สามารถนั่งเรือฟรีไปเที่ยวได้
กับบรรยากาศ ชุมชนจีนสมัยก่อน ที่ยังคงความงาม เมื่อร้อยกว่าปีก่อนเอาไว้ได้
โดยเป็นบ้าน ศาลเจ้า โกดังของคนจีนในสมัยก่อน ที่ประสานไปกับร้านค้า
ร้านอาหารสมัยใหม่ ให้ได้ไปชิม ไปช๊อปกัน
5.ท่าเอเชียทีค
ถือว่าเป็นไฮไลน์อันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยวทางน้ำ
คอมมูนนิตี้มอลขนาดใหญ่ที่สุด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งต้องสะดุดตากับ
ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ สวนสนุก ครบจบในที่เดียว
ในการออกแบบโกดังสมัยก่อนมาประยุคเป็นร้านค้าต่างๆ ได้อย่างลงตัว
เปิดทุกวัน ช่วงสายๆ ถึงดึกๆ เลยทีเดียว
6.ท่าสี่พระยา
วนกลับมาท่าเรือ ใกล้ๆท่าสาทร คือ ท่าสี่พระยา
สามารถเดินเล่นท่องเที่ยวชุมชน street art ที่แผงตัวไปกลับบ้านเก่าอาคารโบราณสวยๆ
งานศิลปะถูกสอดแทรกไปทุกตอกซอกซอยของชุมชนตลาดน้อย
ใกล้ๆ เป็นที่ตั้งของไปรษณีย์กลาง บางรัก อาคารเก่าแก่ที่ ถือว่าคลาสสิค ในย่านบางรัก
สามารถเข้าไปชมภายในได้ อีกทั้งยังขึ้นไปชมวิวด่านฟ้าได้ฟรีๆ ทำการทุกวัน
7.ท่าราชวงศ์
ท่าเรือที่ เชื่อมต่อไปยังถนนเยาวราช ถนนอาหารที่อร่อยที่สุดในกรุงเทพมหานคร
กับบรรยากาศอาหารจีนๆ ชุมชนจีน ศาลเจ้าจีน ที่มากที่สุดในกรุงเทพ
ถ้ายังเดินไหว แนะนำไปไหว้ หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร
ที่ถือว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำ ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ 2 จุดคือ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อทองคำ และ พิพิธภัณฑ์ชาวจีนเยาวราช
8.ท่าวัดอรุณ
ท่าเรือที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเยี่ยมชมและกราบไหว้
ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาลักษณ์ของประเทศไทย
เป็นพระปราค์ที่สูงที่สุดในกรุงเทพ ถูกกสร้างมาตั้งแต่รัชกาลที่2
ตกแต่งด้วยเครื่องถ้วยชาม แบบจีน และเครื่องเบณจรงค์
และอีกหนึ่งไฮไลน์คือ ยักษ์วัดแจ้ง ที่หลายๆคนรู้จักกันดี ตั้งอยู่ที่ซุ้มประตูหน้าทางเข้าพระอุโบสถ์
เดินต่อไม่ไกล ก็เป็นที่ตั้งของ หลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตร
หรือที่ชาวจีนเรีกว่า ซำปอกง องค์ใหญ่
9.ท่าเตียน
(นั่งเรือข้ามฝากจากท่าวัดอรุณ)
ถ้าพูดถึงยักษ์วัดแจ้งแล้ว ก็ต้องพูดถึงยักษ์วัดโพธิ์ ที่ท่าเตียน ท่าเรือฝั่งตรงข้าม
วัดโพธิ์เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ซึ่งอยู่ติดริมรั่วพระบรมมหาราชวัง
ภายในประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ พระเจดีย์ 4 รัชกาล พระนอนองค์ใหญ่
เดินอีกไม่ไกล จะพบกับมิวเซียมสยาม อาคารโบราณสีเหลือง 3 ชั้น
ภายในมีนิทัศการ เกี่วกับประเทศไทยที่น่าสนใจมากมาย และมีการเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน
10.ท่าพระจันทร์
ท่าเรือที่อยู่ติดๆกัน อยู่ด้านข้างของ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทน์
ซึ่งเป็นที่ดินเดิมของวังหน้า เดินทางออกมาทางซ้ายมือ เล็กน้อย เป็นที่ตั้งของ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของประเทศไทย ที่ประชาชนสามารถเข้าชมได้
เปิดให้เข้าชม ในวันพุธ ถึงวันอาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น.
ภายในประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์ องค์จริง ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์
และยังเปิดพระที่นั่งต่างๆให้เข้าชมได้ ซึ่งภายในเป็นที่รวบรวมโบราณสถานสำคัญของชาติ ตั้งแต่ยุคสมัยต่างๆ
อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงราชรถ แห่งเดียวในประเทศไทย
11.ท่ารถไฟ
ท่าเรือเดียวที่ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาล คือ รพ.ศิริราช
ที่ชื่อท่ารถไฟ เพราะ ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟบางกองน้อยเดิม ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านคงจะรู้จักดี
จากบทละครเรื่องคู่กรรม เป็นสถานที่เสียชีวิตของ โกโบริ พระเอกของเรื่อง
ปัจจุบัน เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ภิมุขสถาน ซึ่งเป็นสถานที่ของวังหลังเดิม
ภายในจัดแสดง ประวัติศาสตร์วังหลัง ประวัติการแพทย์
หุ่นจำ]องทางการแพทย์ สามรถมาเล่นบทบาทเป็นแพทย์สาขาต่างๆได้ เช่น หมอผ่าตัด
เปิดให้เข้าชมในทุกวันเวลา 10.00-17.00น. ราคาบัตร 80 บาท
12.ท่าวังหลัง
อีกหนึ่งท่าเรือที่รู้จักกันดี ในฐานะเป็นแหล่งร้านค้า ร้านอาหารแห่งใหญ่ ในเขตฝั่งธนบุรี
ด้วยของที่หลากหลาย ราคาไม่แพงมากนัก
จึงเป็นจุดหมายปลายทางของคนที่ชอบอาหารอร่อยในราคามิตรภาพ
เดินออกจากวังหลังเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของวัดระฆังโฆศิตาราม
เป็นวัดเก่าแก่โบราณ โดยเฉพาะ เป็นวัดที่หลวงปู่โต เคยจำพรรษา
ปัจจุบันได้สร้างรูปหล่อหลวงปู่โตขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
13.ท่าพระอาทิตย์
ท่าเรือใกล้ๆ สะพานพระราม 8 เป็นอีกท่าเรือหนึ่งที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ
ป้อมพระสุเมรุ ป้อมกำแพงเมืองเก่าแก่ ที่หลงเหลือแค่เพียง 2 ที่ในเกาะรัตนโกสินทร์
บริเวณโดยรอบ ตกแต่งเป็นสวนสุขภาพ และมีทางเดินชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เรียกกันว่า
River walk สามารถชมความงาม ของสะพานพระปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 ได้สวยงาม
ใกล้ กับป้อมพระสุเมรุ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์บางลำพู เป็นสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์
ของชุมชมกำแพงเมือง ในอาคารโรงพิมพ์เก่าแก่ เปิดให้เข้าชม
อังคาร-อาทิตย์ 10.00-18.00 น.
14.ท่าเทเวศร์
ท่าเรือ ที่อยู่ติดๆกับสะพานพระราม 8 เป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้วัดสำคัญ 2 วัดคือ
วัดราชาธิวาส และวัดเทวราชกุญชร
วัดเทวราชกุญชรเป็นวัดเก่าแก่ที่ยังคงรูปแบบโบสถ์โบราณเอาไว้
อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ไม้สักทอง ที่เปิดให้เข้าชมทกวัน ค่าเข้าชม 30 บาท
อาคารสร้างด้วยไม่สักทองทั้งหลัง ภายในมีหุ่นขี้ผึ้งพระสังฆราชไทย
ทุกพระองค์ประดิษฐานเอาไว้
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 17.00 น.
*วัดราชาธิวาส วัดที่มีโบสถ์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ภายนอก ด้วยการประยุคศิลปะขอม
แต่ภายในเขียนภาพด้วยศิลปะเขียนสีบนปูยเปียกแบบตะวันตก
ออกแบบโดย สมเด็จครู กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
15.ท่าสะพานพุทธ
เดินข้ามสะพานพุทธ จะเป็นที่ตั้งของวัดประยุรวงศาวาส ที่พึ่งได้รับยกย่องจากยูเนสโก
ด้วยศิลปกรรมเก่าแก่ และยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร
เป็นเจดีย์โบราณสร้างโดยมีแกนไม้ซุงเป็นแกนใน ไม่มีการใช้เสาเข็มในการก่อสร้าง
ไม่ไกลมากนักเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์สมเด็จย่า
ที่ถูกสร้างในสถานที่ประสูติของท่าน ภายในอนุรักษ์ โครงสร้างโบราณเอาไว้
ในรูปแบบสวนสุขภาพ มีการจำรองบ้านเดิมของสมเด็จย่าเอาไว้
เปิดทุกวัน เวลา 8:30–16:00น.
จบแล้วนะครับกับการท่องเที่ยว 15ท่าเรือ ทั้งกรุงเทพทั้งฝั่งเกาะรัตนโกสินทร์ และฝั่งธนบุรี
สงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่าย ติดต่อ พูดคุย ขออนุญาตการนำภาพไปใช้ ซื้อขายภาพ
facebook: https://www.facebook.com/thapanun.mahisanun