วันนี้เรามีการท่องเที่ยวในแบบของเราเองมานำเสนอเพื่อนๆหลายคน โดยเฉพาะนักศึกษาหรือคนที่ทำงานใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ อาจจะเคยแบบว่าอยากจะเที่ยวพักผ่อน แต่มีวันหยุดเพียงแค่สองวันคือเสาร์-อาทิตย์ นอนหายใจเพลินๆแป๊บเดียวก็วันจันทร์อีกแล้ว เฮ้อ! จะไปเที่ยวที่ไหนได้ล่ะ เที่ยวในกรุงเทพก็มีแต่ห้างฯ โรงหนัง ห้างฯ แล้วก็โรงหนัง ไปบ่อยจนเบื่อแล้ว จะไปต่างจังหวัดก็ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงใช้ได้555
ซึ่งวันนี้เรานำข้อมูลและรูปภาพมาฝากด้วย เผื่อเป็นทางเลือกให้เพื่อนไปพักผ่อนหรือตามรอยกันได้น้า ^^
เรามาเริ่มต้นกันด้วยที่”ท่าเรือเทเวศร์”
ซื้อตั๋วเรือท่องเที่ยวเจ้าพระยาที่ช่องจำหน่ายตั๋วเรือท่องเที่ยวได้เลย จะมีตั๋วให้เลือกทั้งซื้อแบบเหมา 1 วัน ราคาคนละ 200บาท ขึ้นกี่รอบก็ได้ เป็นเรือธงฟ้า หรือจะซื้อแบบตั๋วรายเที่ยวๆละ15บาทก็ได้เช่นกัน🚤
เรามาเริ่มเที่ยวกันจริงๆจังๆเริ่มด้วย N13 ท่าพระอาทิตย์กันค่ะ
ที่แรกคือ “หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา” เป็นสถานที่ๆเกี่ยวกับนิทรรศการภาพถ่ายในอดีต..”คุณหลวงช่างภาพ”
ซึ่งหอศิลป์นี้มีด้วยกันทั้งหมด 2 ชั้นด้วยกัน มีรูปภาพถ่ายต่างๆมากมายที่น่าสนใจ
สถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันจันทร์ เวลา10.00-18.00น. เข้าชมฟรี ปิดวันอังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ซึ่งที่แห่งนี้มีCafe Amazon สาขานี้จุดเด่น คือ“บาริสต้า” หรือผู้ชงกาแฟจำหน่ายเป็น“ผู้พิการทางการได้ยิน” เพื่อสร้างโอกาส สร้างรายได้ และส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม
ต่อด้วยที่ๆสองคือ ป้อมพระสุเมรุ ซึ่งอยู่ติดกับสวนสาธารณะสันติชัยปราการ เดินเลยจากหอศิลป์มาแค่นิดเดียว
ที่ๆสามคือ “พิพิธบางลำพู” เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงวัฒนธรรมชุมชนตั้งอยู่ใกล้กับป้อมพระสุเมรุ ถนนพระสุเมรุ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน กรมธนารักษ์
พิพิธบางลำพู สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาชุมชนบางลำพูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และเป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงการศึกษาวัฒนธรรมชุมชนของชุมชนบางลำพู
เปิดให้เข้าชมทุกวัน (หยุดเฉพาะวันจันทร์) เวลา 10.00 - 18.00 น.
ต่อมา N10 พรานนก เราจะพามา “ตลาดวังหลัง”
ร้านเฮงซิมอี้ / ติมไข่แข็ง ที่เรื่องลือกันหนาหูว่าใครมาวังหลังควรมาโดน มีเครื่องให้เลือกหลายหลาย
แท๊นแทน!!! อร่อยมากแนะนำต้องมาลองราคาเบาๆจ้า
ตามมาด้วย “ท่ามหาราช” จุดนัดพบแห่งใหม่ของไลฟ์สไตล์บนถนนมหาราช ตั้งอยู่บนเกาะรัตนโกสินทร์ ริมแม่นํ้าเจ้าพระยา
มีทั้งร้านอาหารของกิน และ Wall painting กับจุดถ่ายรูปชิคๆมากมาย
เป็นศิลปะแบบจินตนาการ
การเดินทางจากN10นั่งเรือข้ามฟากมาลงท่าช้างN9และเดินมาท่ามหาราชได้เลย
ต่อมาเป็น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ “วัดโพธิ์” เป็นวัดประจำรัชกาลที่1 และยังเป็นมรดกความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติอีกด้วยเป็นวัดที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาอีกด้วย การเดินทางจากท่ามหาราชสามารถเดินเท้ามาได้เลย
ต่อมาเป็น “วัดอรุณราชวรารามราชวรวิหาร” หรือ “วัดแจ้ง” เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
การเดินทางจากวัดโพธิ์เดินไปท่าเรือท่าเตียน แล้วก็สามารถนั่งเรือข้ามฟากมาวัดอรุณได้เลย
สถานที่ต่อมาคือที่ถ่ายรูปยอดฮิตของวัยรุ่นคือ “ล้ง1919” เกิดขึ้นจากการบูรณะอาคารเก่าทั้งหมด มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีน ก่ออิฐถือปูนและการใช้โครงสร้างไม้ที่ยังคงเก็บรูปแบบอย่างเดิมไว้ลักษณะของโครงการนี้คล้ายคลึงกับ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
มีจิตกรรมฝาพนังที่เป็นการเขียนเส้นแบบจีน โดยหลังจากบูรณะมาได้บางส่วนแล้ว (เป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆอีกด้วย)
ผัดไทยจากร้าน เพลินวาน พาณิชย์
การเดินทางมาล้ง1919จากท่าเตียนมาลงN5ท่าราชวงศ์และนั่งเรือข้ามฟากมาล้ง1919ได้เลย
ต่อมาN3 ท่าสี่พระยา
วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) Holy Rosary Church
คู่มือบอกว่าโบสถ์นี้สร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1786 หลังตั้งกรุงเทพ 4 ปี
ส่วนอันนี้คือ ธนาคารไทยแห่งแรกของประเทศ ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป (ปัจจุบันเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย)
ซึ่งจากท่าสี่พระยาสามารถนั่งเรือข้ามฝากมาICONSIAMได้เลย
(ฟรีจ้า)
ซึ่งจากท่าสี่พระยาสามารถนั่งเรือข้ามฝากมาICONSIAMได้เลย
(ฟรีจ้า)
ในส่วนของที่นี่จะแยกๆเป็นโกดังนะคะ แต่ละโกดังก็จะแยกเป็นตรอกๆ (ราคาของแอบแรงเหมือนเน้นขายชาวต่างชาติ)
ของขายและมุมถ่ายรูปมีให้เลือกมากมาย
การเดินทางนั่งเรือ ICon Siam ไปลงท่าสาทร(BTSตากสิน)
แล้วรอเรือ Shuttle ของ เอเชียทีค อีกทีนึง (ฟรี)
สำหรับทริปนี่ที่เรานำมาเสนอนะคะจะบอกว่าเป็นทริปที่ครบจริงๆ ค่ะ ทั้งกิน ช้อป ทำบุญ ได้บรรยากาศนั่งเรืออีกด้วยค่ะ ขอบคุณที่รับชมนะคะ ขอบคุณค่ะ
ฝากติดตามกดlikeให้ด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/DiarySS20/
[CR] เที่ยวด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา
ซึ่งวันนี้เรานำข้อมูลและรูปภาพมาฝากด้วย เผื่อเป็นทางเลือกให้เพื่อนไปพักผ่อนหรือตามรอยกันได้น้า ^^
เรามาเริ่มต้นกันด้วยที่”ท่าเรือเทเวศร์”
ซื้อตั๋วเรือท่องเที่ยวเจ้าพระยาที่ช่องจำหน่ายตั๋วเรือท่องเที่ยวได้เลย จะมีตั๋วให้เลือกทั้งซื้อแบบเหมา 1 วัน ราคาคนละ 200บาท ขึ้นกี่รอบก็ได้ เป็นเรือธงฟ้า หรือจะซื้อแบบตั๋วรายเที่ยวๆละ15บาทก็ได้เช่นกัน🚤
เรามาเริ่มเที่ยวกันจริงๆจังๆเริ่มด้วย N13 ท่าพระอาทิตย์กันค่ะ
ที่แรกคือ “หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา” เป็นสถานที่ๆเกี่ยวกับนิทรรศการภาพถ่ายในอดีต..”คุณหลวงช่างภาพ”
ซึ่งหอศิลป์นี้มีด้วยกันทั้งหมด 2 ชั้นด้วยกัน มีรูปภาพถ่ายต่างๆมากมายที่น่าสนใจ
สถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันจันทร์ เวลา10.00-18.00น. เข้าชมฟรี ปิดวันอังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ซึ่งที่แห่งนี้มีCafe Amazon สาขานี้จุดเด่น คือ“บาริสต้า” หรือผู้ชงกาแฟจำหน่ายเป็น“ผู้พิการทางการได้ยิน” เพื่อสร้างโอกาส สร้างรายได้ และส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม
ต่อด้วยที่ๆสองคือ ป้อมพระสุเมรุ ซึ่งอยู่ติดกับสวนสาธารณะสันติชัยปราการ เดินเลยจากหอศิลป์มาแค่นิดเดียว
ที่ๆสามคือ “พิพิธบางลำพู” เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงวัฒนธรรมชุมชนตั้งอยู่ใกล้กับป้อมพระสุเมรุ ถนนพระสุเมรุ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน กรมธนารักษ์
พิพิธบางลำพู สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาชุมชนบางลำพูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และเป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงการศึกษาวัฒนธรรมชุมชนของชุมชนบางลำพู
เปิดให้เข้าชมทุกวัน (หยุดเฉพาะวันจันทร์) เวลา 10.00 - 18.00 น.
ต่อมา N10 พรานนก เราจะพามา “ตลาดวังหลัง”
ร้านเฮงซิมอี้ / ติมไข่แข็ง ที่เรื่องลือกันหนาหูว่าใครมาวังหลังควรมาโดน มีเครื่องให้เลือกหลายหลาย
แท๊นแทน!!! อร่อยมากแนะนำต้องมาลองราคาเบาๆจ้า
ตามมาด้วย “ท่ามหาราช” จุดนัดพบแห่งใหม่ของไลฟ์สไตล์บนถนนมหาราช ตั้งอยู่บนเกาะรัตนโกสินทร์ ริมแม่นํ้าเจ้าพระยา
มีทั้งร้านอาหารของกิน และ Wall painting กับจุดถ่ายรูปชิคๆมากมาย
เป็นศิลปะแบบจินตนาการ
การเดินทางจากN10นั่งเรือข้ามฟากมาลงท่าช้างN9และเดินมาท่ามหาราชได้เลย
ต่อมาเป็น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ “วัดโพธิ์” เป็นวัดประจำรัชกาลที่1 และยังเป็นมรดกความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติอีกด้วยเป็นวัดที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาอีกด้วย การเดินทางจากท่ามหาราชสามารถเดินเท้ามาได้เลย
ต่อมาเป็น “วัดอรุณราชวรารามราชวรวิหาร” หรือ “วัดแจ้ง” เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
การเดินทางจากวัดโพธิ์เดินไปท่าเรือท่าเตียน แล้วก็สามารถนั่งเรือข้ามฟากมาวัดอรุณได้เลย
สถานที่ต่อมาคือที่ถ่ายรูปยอดฮิตของวัยรุ่นคือ “ล้ง1919” เกิดขึ้นจากการบูรณะอาคารเก่าทั้งหมด มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีน ก่ออิฐถือปูนและการใช้โครงสร้างไม้ที่ยังคงเก็บรูปแบบอย่างเดิมไว้ลักษณะของโครงการนี้คล้ายคลึงกับ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
มีจิตกรรมฝาพนังที่เป็นการเขียนเส้นแบบจีน โดยหลังจากบูรณะมาได้บางส่วนแล้ว (เป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆอีกด้วย)
ผัดไทยจากร้าน เพลินวาน พาณิชย์
การเดินทางมาล้ง1919จากท่าเตียนมาลงN5ท่าราชวงศ์และนั่งเรือข้ามฟากมาล้ง1919ได้เลย
ต่อมาN3 ท่าสี่พระยา
วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) Holy Rosary Church
คู่มือบอกว่าโบสถ์นี้สร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1786 หลังตั้งกรุงเทพ 4 ปี
ส่วนอันนี้คือ ธนาคารไทยแห่งแรกของประเทศ ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป (ปัจจุบันเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย)
ซึ่งจากท่าสี่พระยาสามารถนั่งเรือข้ามฝากมาICONSIAMได้เลย
(ฟรีจ้า)
ซึ่งจากท่าสี่พระยาสามารถนั่งเรือข้ามฝากมาICONSIAMได้เลย
(ฟรีจ้า)
ในส่วนของที่นี่จะแยกๆเป็นโกดังนะคะ แต่ละโกดังก็จะแยกเป็นตรอกๆ (ราคาของแอบแรงเหมือนเน้นขายชาวต่างชาติ)ของขายและมุมถ่ายรูปมีให้เลือกมากมาย
การเดินทางนั่งเรือ ICon Siam ไปลงท่าสาทร(BTSตากสิน)
แล้วรอเรือ Shuttle ของ เอเชียทีค อีกทีนึง (ฟรี)
สำหรับทริปนี่ที่เรานำมาเสนอนะคะจะบอกว่าเป็นทริปที่ครบจริงๆ ค่ะ ทั้งกิน ช้อป ทำบุญ ได้บรรยากาศนั่งเรืออีกด้วยค่ะ ขอบคุณที่รับชมนะคะ ขอบคุณค่ะ
ฝากติดตามกดlikeให้ด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/DiarySS20/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้