สวัสดีค่าาาา…ใครยังไม่นอนบ้างเอ่ย ชูมือหน่อยยย
นี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท.นะคะ หากผิดพลาดประการใด
โปรดชี้แนะ จขกท.พร้อมจะนำไปปรับปรุงค่ะ
(ปล. พิมพ์ในมือถือนะคะ)
ขอเกริ่นก่อนว่า จขกท. เป็นคนชอบเที่ยว จริงๆอยากทำกระทู้แนวรีวิวท่องเที่ยวมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้ลงมือทำสักที ส่วนมากจะเป็นทริปยาว ดีเทลเยอะ เลยพาลขี้เกียจไปซะก่อน วันนี้ฤกษ์งามยามดีมีโอกาสจัดทริปง่ายๆ สั้นๆ เที่ยววันเดียวในกรุงเทพฯ (ที่ไม่ใช่ห้าง) ก็เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิปได้เอาไปเป็นไอเดียเที่ยว(นอกห้าง) ใน กทม กัน…
ออกเดินทางได้.....
เริ่มต้นเลย…ก่อนอื่นทริปนี้มีผู้ติดตาม 1 คน นัดเจอกันเรียบร้อยก็เดินไปขึ้นเรือข้ามฟากที่ท่าตากสิน เพื่อที่จะข้ามไปยังท่าสาทร ค่าโดยสารคนละ 5 บาท ระหว่างรอเรือออกก็ขอแชะสักหน่อย ปกติไม่ค่อยได้นั่งเรือ นานน๊านนานๆที ถึงจะได้ขึ้น
เรือออกแล้ว…..
ไม่นานก็ข้ามมาถึงท่าสาทร ก็รีบตรงดิ่งไปซื้อตั๋วเรือด่วนเจ้าพระยาแบบเหมารายวัน ราคาปกติใบละ 200 บาท ขึ้นกี่รอบก็ได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ถ้าใครใช้ AIS มีโปรลดเหลือ 280 ต่อสองใบ ตกใบละ 140 บาท ประหยัดเงินไปอีกกกก
ตั๋วก็จะมาพร้อมกับแผ่นพับแนะนำการเดินทาง
พร้อมกับตารางเดินเรือแบบนี้
โชคดีที่มาซื้อตั๋วทันก่อนเรือออก 5 นาที ก็เลยไม่ต้องรอนาน
ป้ายแรกที่จะไปก็คือท่าเรือวัดอรุณ
ไปโลดดดดดดดดด
ระหว่างทางก็ชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ข้างทาง
ลมพัดเย็นสบายแม้แดดจะร้อน
วิวจากด้านท้ายเรือ
ไม่นานก็มาถึงท่าเรือวัดอรุณ ตรงนี้จะเป็นท่า 2 ถ้าจะข้ามฝั่งไปท่าเตียนต้องเดินไปขึ้นท่า 4 ตอนนี้ขอเที่ยววัดอรุณก่อน
ท่าวัดอรุณ
เมื่อก่อนตอนประถม จขกท. เรียนอยู่ รร.ข้างวัดอรุณ ก็มีโอกาสได้เข้ามาในวัดบ่อยๆ สมัยนั้นจำได้ว่าวัดเงียบสงบมาก มีนักท่องเที่ยวบ้าง แต่ไม่มากเท่าในปัจจุบัน พยายามจะถ่ายรูปยังไงไม่ให้ติดคน ก็เลยได้ภาพเป็นมุมสูงๆซะส่วนใหญ่
พระปรางค์วัดอรุณ
ยักษ์วัดอรุณ หรือที่เรียกกันว่ายักษ์วัดแจ้ง
ไปต่อกันที่ท่าเตียนข้ามฝั่งมาจากวัดอรุณ คนละ 4 บาท
เดินออกมาจากท่าเตียนก็มาเจอกับวัดโพธิ์ ตอนนี้เป็นเวลา 11 โมง แดดร้อนมากอย่างกับพระอาทิตย์ลงโทษ มาถึงตรงนี้ไม่มีแพลนจะไปที่ไหนเป็นพิเศษ จึงเดินเล่นถ่ายรูป ชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ
ถนนท้ายวัง
ซึ่งตึกแถวบริเวณนี้ดีไซน์เป็นตึกสถาปัตยกรรมสไตล์ Colonial ที่เริ่มเข้ามาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ทำให้รู้สึกเหมือนเดินเล่นอยู่ในบรรยากาศเก่าๆ เท่าที่สังเกตผู้คนที่มาเที่ยวในบริเวณนี้เป็นนักท่องเที่ยวมากกว่าคนไทย
ตึกแถว Colonial Style
ใกล้เที่ยงแล้ว ขอแวะเติมพลังสักหน่อย ก่อนที่คนจะเยอะ (จริงๆ กลัวเพื่อนหิว เพราะยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า) ก็เลยฝากท้องไว้ที่ร้านชัยชวนชิม จขกท.สั่งวุ้นเส้นต้มยำ ของเพื่อนสั่งเกาเหลาหมูพิเศษ + ข้าวเปล่า มื้อนี้เบ็ดเสร็จรวม 100 บาท
กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ (ใครกล่าวไว้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เคยได้ยินมาแบบนี้ 5555)
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จก็อยากทานของหวานต่อ แถวนี้ร้านคาเฟ่เพียบ จนเลือกไม่ถูกว่าจะเข้าร้านไหน (ใครสายคาเฟ่ยกมือขึ้น) ก็เลยกะว่าจะลองแวะไปร้านชื่อดังที่รีวิวเยอะๆ แต่พอไปถึงคนแน่นจนล้นออกมานอกร้าน….ฮือออ ไว้จะมาใหม่นะ
ขอถ่ายป้ายหน้าร้านไว้หน่อย
เรามาถึงแล้วจริงๆนะ
ก็เลยไปจบที่ร้าน The Gate สั่งชาไข่มุกมาเติมความหวานในเส้นเลือดหน่อย แล้วค่อยออกไปลุยแดดกันต่อ
พักเหนื่อยเสร็จแล้วก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นวัดโพธิ์ ก่อนเข้าโบสถ์ไปชมพระนอน จะต้องถอดรองเท้าก่อน ที่นี่จะมีบริการถุงพลาสติกให้ใส่รองเท้าถือติดตัวเข้าไปด้วย ถือว่าดีมากๆเลย ป้องกันรองเท้าหาย เพราะคนเยอะมากๆ พอออกมาก็คืนถุงให้กับเจ้าหน้าที่
พระนอน…..องค์ใหญ่มาก เก็บภาพยากมาก
บรรยากาศในวัด
หลังจากเที่ยววัดโพธิ์เสร็จจะไปขึ้นเรือที่ท่าช้าง แต่เนื่องจากวัดใหญ่มาก ทำให้หลงอยู่ในวัด พอหาทางออกได้ก็เดินออกมาเจอกับหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
ก็เลยต้องเดินย้อนไปอีกฝั่งประมาณเกือบๆกิโล เพื่อที่จะไปท่าช้าง ตลอดทางเดินนี่ร้อนมาก ร้อนสุดๆ
วัดพระแก้ว
แต่ก็เดินมาถึงท่าช้างจนได้ แวะหาน้ำเย็นๆดื่ม ก็พบกับน้ำมะม่วง 30 บาท อร่อยดี ไม่หวานเกินไป
จากท่าช้างก็ไม่รู้จะไปไหนต่อก็เลยนั่งเรือเล่น แล้วก็วนกลับไปยังท่าสาทร
ขากลับเลือกที่จะนั่งบนดาดฟ้าเรือ ซึ่งลมพัดเย็นมาก วิวดีมาก ขณะนั้นประมาณบ่ายสองโมงครึ่งแดดยังร้อนอยู่ ถ้าเป็นตอนเย็นๆบรรยากาศน่าจะดีกว่านี้ เรือแล่นไปได้ 3 ท่าเรือ ทนร้อนไม่ไหวกลับลงมานั่งข้างล่าง 5555
และทริปนี้ก็จบเพียงเท่านี้ ถึงจะเป็นทริปสั้นๆ หาสาระไม่ได้เท่าไร แต่ก็ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น และได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับคนที่ไม่เคยนั่งเรือเที่ยวใน กทม.แบบ จขกท. (เคยนั่งเรือเที่ยวครั้งแรกตอนไปเวียดนาม ไว้ว่างๆจะมาเขียนกระทู้เล่าเรื่องเที่ยวเวียดนามให้ฟังกัน)
ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีเพื่อนชวน แถมวางแผนตอนเที่ยงคืนก่อนวันที่จะไป ก็เลยแพลนไว้ไม่เยอะเท่าไร เน้นพักผ่อนชิลๆ
สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยเรือ
ค่าเรือข้ามฟากท่าตากสิน-ท่าสาทร คนละ 5 บาท
ค่าตั๋วเรือด่วนเจ้าพระยาแบบรายวัน คนละ 140 บาท
(ราคาเต็มคนละ 200)
ค่าเรือข้ามฟากท่าวัดอรุณ-ท่าเตียน คนละ 4 บาท
รวมคนละ 149 บาท
(ไม่รวมค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าเดินทางอื่นๆ)
.
.
.
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะค้าาา
[CR] One Day Trip ล่องเรือเที่ยวชิลๆ 1 วันในกรุงเทพฯ
นี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท.นะคะ หากผิดพลาดประการใด
ป้ายแรกที่จะไปก็คือท่าเรือวัดอรุณ
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จก็อยากทานของหวานต่อ แถวนี้ร้านคาเฟ่เพียบ จนเลือกไม่ถูกว่าจะเข้าร้านไหน (ใครสายคาเฟ่ยกมือขึ้น) ก็เลยกะว่าจะลองแวะไปร้านชื่อดังที่รีวิวเยอะๆ แต่พอไปถึงคนแน่นจนล้นออกมานอกร้าน….ฮือออ ไว้จะมาใหม่นะ
ขากลับเลือกที่จะนั่งบนดาดฟ้าเรือ ซึ่งลมพัดเย็นมาก วิวดีมาก ขณะนั้นประมาณบ่ายสองโมงครึ่งแดดยังร้อนอยู่ ถ้าเป็นตอนเย็นๆบรรยากาศน่าจะดีกว่านี้ เรือแล่นไปได้ 3 ท่าเรือ ทนร้อนไม่ไหวกลับลงมานั่งข้างล่าง 5555
และทริปนี้ก็จบเพียงเท่านี้ ถึงจะเป็นทริปสั้นๆ หาสาระไม่ได้เท่าไร แต่ก็ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น และได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับคนที่ไม่เคยนั่งเรือเที่ยวใน กทม.แบบ จขกท. (เคยนั่งเรือเที่ยวครั้งแรกตอนไปเวียดนาม ไว้ว่างๆจะมาเขียนกระทู้เล่าเรื่องเที่ยวเวียดนามให้ฟังกัน)
ค่าเรือข้ามฟากท่าตากสิน-ท่าสาทร คนละ 5 บาท
ค่าตั๋วเรือด่วนเจ้าพระยาแบบรายวัน คนละ 140 บาท
ค่าเรือข้ามฟากท่าวัดอรุณ-ท่าเตียน คนละ 4 บาท
รวมคนละ 149 บาท
.
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะค้าาา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้