คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
แรกๆก็ทำใจว่าหาอะไหล่ได้ คนนั้นบอกที คนนี้ก็เชียร์ .... พอมีปัญหาจริงๆคนเชียร์หาย ตัวเองมารับสภาพคนเดียว เดี๋ยวก็ท้อ ... คิดดูขนาดมีศูนย์ตอนยังไม่ปิด คนกลุ่มเดียวกันกับที่เชียร์ตอนนี้ ออกมาถล่มบริการไม่ดี อะไหล่ไม่มี ไม่มีใครเชียร์ยี่ห้อนี้เลย .... วันนี้ปิดศูนย์ ออกมาเชียร์ซะงั้น ... งง กับคุณท่านจริงๆ ....
ความคิดเห็นที่ 56
ราคาถูกลง 5 แสนแต่ผมมองว่ายังงัยก็ยังไม่คุ้มนะเพราะยังมี hidden cost และเรื่องที่จะจุกจิกปวดหัวตามมาอีกเยอะ ไม่ใช่ว่ารถไม่ดี แต่อาจจะเจอเรื่องปวดหัวมากกว่าแบรนด์อื่นที่ยังขายอยู่ปกติในท้องตลาด
1. เรื่องประกัน บทเรียนอาจจะคล้ายกับทาทา ที่บริษัทประกันน้อยจ้าวที่จะรับ ถ้ารับก็เบี้ยแพงมาก เพราะอะไหล่หายากและราคาสูงเกินความจำเป็น (บางตัวต้องสั่งจากต่างประเทศ โดนค่าขนส่งเพิ่มเติม) หรือถ้าไม่สั่งก็ต้องดองรถไว้ที่อู่ รอจนกว่าจะได้อะไหล่ สามเดือนห้าเดือนก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เสียโอกาสในการใช้รถอีก.....hidden cost ตัวที่ 1
2. อะไหล่สั่งจากต่างประเทศได้.....จริงหรือ???
ถ้าเป็นอะไหล่สิ้นเปลืองเบสิกธรรมดาก็คงไม่มีประเด็นอะไร แต่ถ้าเป็นอะไหล่ที่พิเศษขึ้นมาหน่อย มั่นใจหรือว่าจะสั่งได้ถูกต้อง อะไหล่บางตัวก็ต้องดู part number ดีดี ลองนึกภาพตามดูว่าจากเดิมที่รถเสียแค่ขับเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมไม่เกินวันนึงก็เอาออกมาวิ่งได้เหมือนเดิม แต่กลับต้องกลายเป็นต้องมานั่งวิเคราะห์อาการเองว่าเสียตรงไหน หาสั่งอะไหล่เอง แถมสั่งมาก็ยังไม่รู้จะใช่รึเปล่า แถมต้องวิ่งไปหาอู่ทำให้อีก ศูนย์บริการที่เหลืออยู่ก็คงไม่เปิดรอซ่อมไปตลอดเพราะไม่คุ้มทุน กลับกลายเป็นชีวิตยากขึ้นอีกเป็นกอง....นี่คือ hidden cost ตัวที่สอง
3. ใช้ไปก่อน อีกห้าปีค่อยขายทิ้ง
ขายทิ้งก็อาจไม่ได้ราคาตามที่ฝัน เพราะเต๊นท์รถก็ต้องประเมินความเสี่ยงในการรับรถเข้าเต๊นท์เหมือนกัน ถ้ารับซื้อก็คงกดราคาลงต่ำสุดๆๆๆๆ อาจจะเข้าอีหรอบเดิมเหมือนตอนโครงการรถคันแรก ที่เต๊นท์ไม่ได้ตีราคาเต็มของรถตามราคาขายจริงหน้าโชว์รูม แต่ตีราคาเต็มจากราคาที่ได้ส่วนต่างคืนภาษีแล้ว เช่น รถคันนี้ราคาหน้าโชว์รูมห้าแสน แต่ได้ส่วนลดภาษีหนึ่งแสน เต๊นท์มองว่ารถคันนี้ราคาเต็มคือแค่สี่แสน ไม่ใช่ห้าแสน ราคาขายมือสองได้ไม่สูงแน่นอน พอถึงเวลาที่จะขายจริง ก็จะคิดว่าขายได้ราคาแค่นี้ ขายไปก็ไม่คุ้ม เก็บไว้ใช้ดีกว่า พอเก็บไว้ใช้ก็จะวนไปเจอปัญหาเรื่องอะไหล่กับประกันอีก.....hidden cost ข้อที่ 3
ส่วนตัวมองว่าก็เป็นรถที่ใช้ดีอีกยี่ห้อนึง แต่อาจต้องทำใจเรื่องอะไหล่เอาไว้บ้างครับ
1. เรื่องประกัน บทเรียนอาจจะคล้ายกับทาทา ที่บริษัทประกันน้อยจ้าวที่จะรับ ถ้ารับก็เบี้ยแพงมาก เพราะอะไหล่หายากและราคาสูงเกินความจำเป็น (บางตัวต้องสั่งจากต่างประเทศ โดนค่าขนส่งเพิ่มเติม) หรือถ้าไม่สั่งก็ต้องดองรถไว้ที่อู่ รอจนกว่าจะได้อะไหล่ สามเดือนห้าเดือนก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เสียโอกาสในการใช้รถอีก.....hidden cost ตัวที่ 1
2. อะไหล่สั่งจากต่างประเทศได้.....จริงหรือ???
ถ้าเป็นอะไหล่สิ้นเปลืองเบสิกธรรมดาก็คงไม่มีประเด็นอะไร แต่ถ้าเป็นอะไหล่ที่พิเศษขึ้นมาหน่อย มั่นใจหรือว่าจะสั่งได้ถูกต้อง อะไหล่บางตัวก็ต้องดู part number ดีดี ลองนึกภาพตามดูว่าจากเดิมที่รถเสียแค่ขับเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมไม่เกินวันนึงก็เอาออกมาวิ่งได้เหมือนเดิม แต่กลับต้องกลายเป็นต้องมานั่งวิเคราะห์อาการเองว่าเสียตรงไหน หาสั่งอะไหล่เอง แถมสั่งมาก็ยังไม่รู้จะใช่รึเปล่า แถมต้องวิ่งไปหาอู่ทำให้อีก ศูนย์บริการที่เหลืออยู่ก็คงไม่เปิดรอซ่อมไปตลอดเพราะไม่คุ้มทุน กลับกลายเป็นชีวิตยากขึ้นอีกเป็นกอง....นี่คือ hidden cost ตัวที่สอง
3. ใช้ไปก่อน อีกห้าปีค่อยขายทิ้ง
ขายทิ้งก็อาจไม่ได้ราคาตามที่ฝัน เพราะเต๊นท์รถก็ต้องประเมินความเสี่ยงในการรับรถเข้าเต๊นท์เหมือนกัน ถ้ารับซื้อก็คงกดราคาลงต่ำสุดๆๆๆๆ อาจจะเข้าอีหรอบเดิมเหมือนตอนโครงการรถคันแรก ที่เต๊นท์ไม่ได้ตีราคาเต็มของรถตามราคาขายจริงหน้าโชว์รูม แต่ตีราคาเต็มจากราคาที่ได้ส่วนต่างคืนภาษีแล้ว เช่น รถคันนี้ราคาหน้าโชว์รูมห้าแสน แต่ได้ส่วนลดภาษีหนึ่งแสน เต๊นท์มองว่ารถคันนี้ราคาเต็มคือแค่สี่แสน ไม่ใช่ห้าแสน ราคาขายมือสองได้ไม่สูงแน่นอน พอถึงเวลาที่จะขายจริง ก็จะคิดว่าขายได้ราคาแค่นี้ ขายไปก็ไม่คุ้ม เก็บไว้ใช้ดีกว่า พอเก็บไว้ใช้ก็จะวนไปเจอปัญหาเรื่องอะไหล่กับประกันอีก.....hidden cost ข้อที่ 3
ส่วนตัวมองว่าก็เป็นรถที่ใช้ดีอีกยี่ห้อนึง แต่อาจต้องทำใจเรื่องอะไหล่เอาไว้บ้างครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมถึงคิดว่า ต่อจากนี้อะไหล่ แคปติว่า จะหาได้ง่ายๆ ?
คนใกล้ตัวผม แห่กันไปซื้อ แคปติว่ากันใหญ่ ด้วยเหตุผลว่า ถูก ลดราคาจาก ราคาปกติ 4-5 แสนบาท
ผมก็ถามเพื่อนว่า แล้วไม่คิดถึงเรื่อง การเคลม & การนำเข้าอะไหล่ ต่อจากนี้เหรอ ?
เขาก็บอกว่า แบรนด์ระดับโลก อะไหล่ ไม่มีทางหมดไปง่ายๆหรอก....... เรื่องขายโรงงานแค่เหตุผลทางเศรษฐกิจ อะไหล่ของเซียงกงเยอะแยะ ..*0*..
ผมก็เลยสงสัยว่า อะไหล่ มันหาได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ ... แล้วถ้าใช้ไปเกิด แจ็คพอต ต้องเคลมขึ้นมาจะทำไง ถึงบริษัทจะมีนโยบายดูแลลุกค้า แต่หลังจากนี้เอาจริงๆ เขาขายบริษัททิ้งแล้ว ขายโรงงานแล้วด้วย ถ้าซัก3ปี 5ปี นี่ใครจะมาอยู่เคลมให้ล่ะครับ ?
ถ้ามีการสั่งอะไหล่นำเข้า ไม่รอเป็นเดือนๆเหรอ (แถมราคานำเข้าอีกล่ะ จะเป็นไงต่อ) เวลา ที่เสียไปตอนรออะไหล่ จะวิ่งทัน ค่าเสื่อมรถเหรอ ขายต่อ หรือ ขายทิ้ง ก็น่าจะยาก เลยอยากสอบถาม ผู้สันทัดกรณีแนะนำหน่อยครับ ว่าต่อจากนี้ไป ถ้าซื้อไปแล้วมีปัญหา เคลม ซ่อม หนักๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ จะทำยังไงอ่ะครับ รถจีนหรือ อิซุฯ ที่คนพูดๆกันมันใช้กันได้เป๊ะๆเลยเหรอครับ ...