สวัสดีครับทุกท่านที่อาจจะมีโอกาสมาอ่านเรื่องราวที่ผมจะแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านกัน เวลาผมทำงานแต่งให้ลูกค้าแต่ละท่าน ผมจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจแค่บางส่วนเท่านั้น แต่พอมาถึงวันนี้ วันที่คุณแม่ผมบอกว่าพี่ชายจะแต่งงาน และมอบหมายให้เรา ในฐานะคนที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้มากที่สุดในครอบครัวเป็นผู้ดูแล เอาละซิครับ ความรับผิดชอบเน้นๆแน่นๆเลยครับงานนี้ แต่ไม่มีปัญหา ก็ดีเหมือนกัน จะได้มีเรื่องราวมาเขียนให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ
โดยโจทย์ในครั้งนี้คืองานหมั้นเช้า เลี้ยงก่อนเที่ยง ส่งตัวบ่ายโมง(หมู่บ้านแถวประชาชื่น) แขกประมาณ 50-80 คน โดยต้องคำนึงถึงสถานที่จัดงานและที่พักของญาติฝ่ายพี่สะใภ้ที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัดด้วย ในงบประมาณที่ไม่เกิน 150,000 บาทแบบรวมทุกอย่างแล้ว โอ้ว ครั้งแรกที่ได้ยินมาก็แอบนึกในใจว่ามันจะพอหรอ เราต้องบริหารจัดการยังไงดีให้อยู่ในงบ ในงบนี้รวมค่าอาหาร สถานที่ ชุดบ่าวสาวและจิปาถะสารพัดนะครับ แต่เอานะ ผมต้องทำได้
เรื่องราวครั้งนี้อาจจะต้องมีหลายภาคนะครับ คือ ผมจะเขียนเรื่องราวก่อนวันงานและหลังวันงานในแง่มุมต่างๆรวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแบบควบคุมได้และควบคุมไม่ได้มาให้ทุกท่านได้ลองคิดตามกันไปแบบสนุกๆ ตอนนี้ผมขอเน้นเรื่องของสถานที่จัดงานก่อนนะครับ เพราะรายละเอียดเยอะมาก และตอนต่อๆไปจะเป็นข้อมูลด้านอื่นๆนะครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1.สถานที่จัดงาน พี่ชายผมเค้าอยากจัดที่ร้านอาหารหรือร้านกาแฟที่ดูน่ารักๆ ส่วนว่าที่พี่สะใภ้ผมขอบรรยากาสแบบสวน เอาละซิ ต้องส่องละครับว่าที่ไหนคือตัวเลือกที่เหมาะสมที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งสองพี่ของผม ผมก็เลยทำการบ้านโดยส่องดูใน google ก่อนแล้วลองโทรถามดู ไม่น่าเชื่อนะครับ ในกรุงเทพมีหลากหลายร้านอาหารที่ตอบโจทย์นี้ได้ แถมบางร้านได้ระดับมิชลินอีกต่างหาก เอ่อนะ เราก็เพิ่มรู้เหมือนกัน ชักสนุกละซิ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมขออนุญาตไม่บอกชื่อร้านแต่ละร้านนะครับ ถ้าท่านได้อยากทราบ ทักไลน์มาคุยกันเพราะบางทีการบอกชื่อสถานที่มันมีเรื่องของลิขสิทธิ์และมีความเสี่ยงครับ แต่ถ้ามาคุยไลน์กัน ผมบอกได้ตามความคิดเห็นผมเลยครับ ไลน์ไอดีของผม gamemun ลองทักมาคุยกันครับ
เอาละครับ ตอนที่ทำรายละเอียก่อนไปดูสถานที่จริง ผมลองส่องดูประมาณ 12-20 ที่ โดยเลือกที่ที่สามารถตอบโจทย์ทางด้านอาหาร และสถานที่ที่เดินทางไม่ไกลมากนักจากบ้านที่จะต้องส่งตัวตอนบ่ายโมงหรือโรงแรมที่น่าจะควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ผมใช้การโทรคุยขอข้อมูลก่อนในเบื้องต้นเพื่อประหยัดเวลาและตัดทิ้งสำหรับสถานที่ที่ไม่สามารถตอบโจทย์ของเราได้ แล้วเอามาทำเส้นทางการเดินทางของวันที่สำรวจสถานที่เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางไปแต่ละสถานที่ครับ
ครั้งแรก ผมและพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ไปดูสถานที่จัดงานทั้งหมด 3 ที่ โดยที่แรกเป็นโรงแรมริมน้ำ เป็นที่ที่หนึ่ง ระยะทางการเดินทางจากบ้านที่ส่งตัวพอเดินทางจริง เรารู้สึกว่าค่อนข้างไกลและลึกลับมากในการเดินทางมาที่โรงแรมนี้ครับ โรงแรมนี้มีหลากหลายห้องจัดงานให้เลือกทั้งที่ใหญ่และเล็ก แต่เอาเช้าจริงบรรยากาศในห้องจัดงานก็ไม่ต่างจากห้องจัดเลี้ยงซึ่งเป็นห้องสี่เหลี่ยมมองเห็นด้านนอกเพียงเล็กน้อย ส่วนถ้ามีการทานอาหารต่อ ถ้าใช้สถานที่เดิมก็จะต้องเปลี่ยนเซ็ทสถานที่เพื่อตั้งโต๊ะทานอาหารต่อ ฟังดูก็พอรู้สึกได้ถึงความวุ่นวานแล้วนะครับ สถานที่แรกเลยตกไปจากความคิดของเรา
ที่ที่สองเป็นร้านอาหารในสวนซึ่งไม่ไกลจากโรงแรมนัก ได้มิชลินอีกต่างหาก บรรยากาศได้มากๆร่มรื่น ริมน้ำ ในสวน มีตัวอาคารติดแอร์แบบโบราณด้วย เอ่อนะ น่าสนใจ อาหารจะเป็นอาหารไทยระดับชาววัง ฟังดูดีมิใช่น้อยนะครับ เราเข้าไปคุยกับทางเซลล์ของสถานที่แล้วขอราคาค่าใช้จ่าย พอได้ทราบราคา แอบตกใจเล็กน้อยว่าค่อนข้างสูงมากสำหรับค่าเช่าสถานที่แบบยังไม่รวมอาหาร ซึ่งพอรวมค่าอาหารเข้าไปแล้ว ก็เลยทำให้งบประมาณเกินกว่าที่ตั้งเอาไว้ เอาละซิ ยากละทีนี้ เรากลับมานั่งคิดกันใหม่ว่า ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายถ้าเราเลือกที่นี้ ประกอบการการเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ก็ค่อนข้างไกลจากใจกลางเมืองซึ่งคนส่วนใหญ่ที่จะมาร่วมงานต้องใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร เปรียบเทียบแล้ว เราลองหาตัวเลือกอื่นที่เข้าเมืองมากกว่านี้น่าจะดีกว่า ที่นี้จึงตกไปครับ
ที่ที่สามเป็นร้านกาแฟเล็กๆในซอยแถวแจ้งวัฒนะ บังเอิญผมผ่านแวบๆแล้วเห็นก็ร็สึกว่าน่าสนใจ เลยชวนกันไปดู พอไปดูแล้วค่าใช้จ่ายไม่สูงเลย คุยง่ายมาก มีที่พักที่ค่อนข้างใกล้ ที่จอดรถเพียงพอ โอ้ว ดูจะลงตัวไปหมดมีสวนด้านหน้า รีวิวด้านอาหารก็ดี งบประมาณก็ไม่สูง เอาละครับ ที่นี้ ดูเหมือนจะมาวินละ เราเก็บตัวเลือกที่นี้เอาไว้ก่อนเลย แต่ข้อจำกัดอยู่ที่ว่าสามารถรองรับจำนวนแขกได้แค่ 50 คน เท่านั้นและยังไม่มีประสบการณืในการใช้สถานที่จัดงานแต่งงาน เคยแต่รับจัดงานเลี้ยงเท่านั้น สองประเด็นนี้ทำให้ที่นี้ตกไปครับเพราะพอเรามานับจำนวนแขกที่จะมาเกิน 50 แน่นอนครับ
ครั้งที่สองของการสำรวจสถานที่จัดงาน เราย้ายเข้าเมืองมากขึ้น โดยเลือกสถานที่จัดงานแถวลาดพร้าว เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา และใกล้เคียงครับ ได้มาอีกหกที่ เอาละครับ คราวนี้เราไปดูกันตั้งแต่เช้า ร้านแรก เป็นร้านอาหารชื่อดังระดับมิชลินอีกเช่นกัน เข้าไปดูสถานที่โดยได้เจอตัวเจ้าของเลย คุยง่ายมาก และค่อนข้างมีความพร้อมในการจัดงานครับเพราะมีคนมาจัดงานที่เค้าบ่อยๆ มีร้านกาแฟอยู่ข้างๆ ที่จอดรถเพียงพอ สถานที่มีบรรยากาศสวน ด้านในอาคารมีจัดต้นไม้เขียว แอร์เย็น ฟังดูก็ครบครันนะครับ เอาละครับ อยู่ในใจเราทั้งสามคนอีกที่นึงละครับ แต่ส่วนตัวผม แค่แอบติดเรื่องการคืนสถานที่ให้ทางร้านเพราะเราจัดงานวันอาทิตย์ ทางร้านจะให้เราคืนสถานที่ภายในเวลากำหนดเพื่อรองรับลูกค้าต่อ ประเด็นนี้ติดใจผมเล็กน้อย แต่ยังไม่หนักหนามากนักครับ น่าจะหาทางออกร่วมกันได้ด้วยดี แปะไว้ก่อนครับ
สถานที่ที่สองเป็นร้านอาหารและสถานที่จัดงานมีชื่อแถวเลียบด่วน ไฮไลท์ที่มีต้นไม้ใหญ่ตรงกลางหนึ่งต้น ซึ่งวันจัดงานของเรา สถานที่บริเวณสวนและต้นใม้ใหญ่ถูกจองสำหรับจัดงานเย็นแล้ว ถ้าเราใช้สามารถใช้สถานที่ชั้นสองได้ เอาละไปกัน พอไปดูสถานที่จริง มันใหญ่เกินไปครับ ใหญ่จนเราคิดว่าถ้ารองรับจำนวนแขกแค่ 80 คน นั่งกันแล้วก็ยังดูอ้างว้างห่างไกลกันเหลือเกิน เรื่องอื่นไม่มีปัญหาเลยครับ แต่บังเอิญวันที่เราไปดูสถานที่ มีการจัดงานบริเวณสวนด้านล่างพอดี สิ่งหนึ่งที่เราแอบกลัวคือความวุ่นวานของคนที่มางานซึ่งอาจจะดูค่อนข้างวุ่นวานทีเดียว งั้นที่นี้เราพักไว้ก่อนดีกว่าครับ
สถานที่ถัดไปไม่ไกลจากที่ที่สอง ตอนที่ส่องในเนตและโทรคุยเค้าบอกว่ารองรับจำนวนแขกของเราได้ แต่พอไปดูสถานที่จริง ผมว่าน่าจะเล็กเกินกว่าจะรองรับได้จริงครับ จากการสำรวจสถานที่ทำให้เราเข้าใจว่า การดูสถานที่จริงค่อนข้างสำคัญนะครับ อย่าดูแต่ในรูปเพราะในรูปจะดูค่อนข้างกว้างขวางใหญ่โด ที่นี้เราเลยไม่ได้มีการพูดคุยอะไรนะครับ แต่กินข้าวที่นี้แทน อาหารใช้ได้อยู่ครับ ว่างๆน่าลองไปทานได้
สถานที่ถัดไปเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงานแบบครบวงจร ซึ่งพอดีวันที่ไปดู เค้าเปิด open house พอดี เลยมีการจัดสถานที่ให้คนที่มาดูได้เห็นภาพรวมการจัดงานพอดี ที่นี้ประเด็นใหญ่คือเรื่องของงบประมาณที่ค่อนข้างสูงครับ เกินงบด้วย แต่ผมเห็นว่าไหนๆอยู่ละแวกนั้นแล้ว แวะดูก็คงไม่เสียหาย เพราะเวลาดูข้อมูลในเนตจะค่อนข้างตื่นตาตื่นใจพอสมควร แต่พอได้ดูสถานที่จริง ผมเฉยๆนะ หรือเพราะเราเห็นมาเยอะก็เลยไม่ตื่นเต้นกับตัวอาคารรูปแบบนี้ที่ทำกันเยอะในปัจจุบัน สำหรับที่นี้ก็ผ่านไปครับ
สถานที่ถัดมาเป็นสถานที่จัดงานอีกเช่นกัน มีสวนและมีตัวอาคารติดแอร์ อยู่ไม่ไกลจากบ้านที่ส่งตัวด้วย แต่เมื่อถึงสถานที่จริง สิ่งแรกที่เตะตาทั้งผมและพี่สะใภ้คือ เก้าอี้นั่ง ซึ่งเป็นเก้าอี้ไม้แบบเก้าอี้นักเรียน เรารู้สึกได้เลยว่าน่าจะนั่งไม่สบายมากนัก ตัวอาคารก็มีแอร์ตู้เพียง 6 ตัว ซึ่งผมไม่มั่นใจนักว่าจะเอาอยู่ไหมด้านความเย็นเวลาจัดงาน และราคาที่อยู่ระดับกลางแต่สิ่งที่ได้กลับมา ผมว่าไม่ค่อยคุ้มค่ามากนักครับ เลยตัดทิ้งครังสำหรับที่นี้
มาถึงสถานที่สุดท้ายละ พร้อมกับความเหนื่อยและง่วงครับ เอาจริงๆที่นี้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักเพราะผ่านบ่อยๆ ไม่มีอะไรเตะตาผมเท่าไหร่ เอาจริงๆคือไปงั้นๆเอง ไปให้ครบ แต่พอมาถึงสถานที่จริง แปลกมากครับ พอมาถึง มีอะไรให้ผมตื่นเต้นเยอะไปหมด ตั้งแต่ประตูทางเข้า ที่ร้านได้มิชลินเหมือนกันแต่ในแง่ของวัตถุดิบการปรุงอาหารดีคุ้มค่าเหมาะสมกับราคาอาหาร เค้ามีคำเรียกเฉพาะนะครับ แต่ผมจำไม่ได้ ด้วยความเบลอ ดูสถานทีจากด้านนอก ดูเหมือนจะไม่ใหญ่โตมาก แต่พอเข้าไปดูจริงๆ สถานที่ห้องจัดเลี้ยงจัดเป็นสัดส่วนมากๆ โต๊ะเก้าอี้มีทั้งแบบไม้และแบบสีขาวเพียงพอกับการจัดงาน ขนาดสถานที่กำลังเหมาะ บรรยากาศห้องจัดงานตกแต่งด้วยไม้ดูไปทางไทยๆหน่อย แต่สะอาดสะอาน โอ้วมันช่างลงตัวไปหมดแถมใกล้บ้านที่ส่งตัวมากๆครับ ถ้าผมจำไม่ผิดที่นี้ตอนแรกที่เปิดตัวจะทำเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงานโดยเฉพาะแล้วหลังๆมีการปรับรูปแบบเป็นร้านอาหาร ใช่หรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ เพราะผ่านบ่อยมากแต่ไม่ค่อยได้สนใจครับ จากการดูภาพรวมแล้วเยี่ยมเข้าตาเลยครับ เราเลยขอคุยกับทางผู้จัดการร้านซึ่งก็ได้รับข้อมูลมา ราคาค่าใช้จ่ายไม่สูงเลยครับ คุ้มค่ามาก เอาละ ที่นี้ชักจะมาวินละครับในหลายๆด้าน
เราเลยวางแผนกันต่อว่าพรุ่งนี้เราจะมาลองชิมอาหารที่ร้านแบบสั่งมาลองทานกันดู เพื่อจะดูว่าอาหารของทางร้าน ถ้าสั่งมาทานเองแบบจ่ายเงินค่าอาหารไม่ได้อยู่ในลักษณะการมาลองชิมอาหารก่อนวันจัดงาน คุณภาพและรสชาติจะเหมือนเดิมไหม โดยชวนคุณพ่อคุณแม่ของผม ซึ่งเป็นคนที่ทานอาหารทำเองมาตลอด ชวนพี่น้องที่ว่างมาลองชิม หลานๆมาด้วย ไปพร้อมๆกันโดยลองสั่งเมนูต่างๆที่เราคิดว่าสนใจจะสั่งให้แขกในวันงานมาลองชิมกันดูก่อนเพื่อดูลักษณะหน้าตาอาหาร รสชาติว่าเป็นอย่างไร โดยเลือกสั่งมาทีละเมนูตามแพคเกจที่เราที่ว่าจะสั่งครับ แล้วให้ทุกคนได้ชิมพร้อมๆกัน ให้ความคิดเห็นส่วนตัวแล้วให้คะแนนตามความรู้สึกของตัวเอง โดยรวมแล้วทุกคนให้ผ่านครับ อร่อย คุ้มค่าจริง เป็นอันว่าผ่านครับ ทุกคนตกลงใจเลือกสถานที่นี้สำหรับการจัดงานครับ
วันนี้ขอเอาแค่นี้ก่อนนะครับเพราะแอบเอาเวลางานมาเขียนนานละ สำหรับตอนต่อๆไป จะเป็นเรื่องของขันหมาก อุปกรร์ประกอบการจัดงาน ชุดบ่าวสาว พิธีการและคนฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตามอ่านกันดูนะครับ ว่าผมจะจัดงานนี้ให้พี่ชายในงบประมาณที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ เผื่อเป็นทางเลือกให้กับทุกท่านที่จะจัดงานแบบควบคุมค่าใช้จ่ายได้นะครับ หรือถ้าอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็ทักไลน์มาคุยกันครับ
มาแชร์แนวคิดการจัดงานแต่งงาน ในงบประมาณ 150,000 บาทแบบรวมทุกอย่างแล้ว (ตอนที่ 1 สำรวจสถานที่จัดงาน)
โดยโจทย์ในครั้งนี้คืองานหมั้นเช้า เลี้ยงก่อนเที่ยง ส่งตัวบ่ายโมง(หมู่บ้านแถวประชาชื่น) แขกประมาณ 50-80 คน โดยต้องคำนึงถึงสถานที่จัดงานและที่พักของญาติฝ่ายพี่สะใภ้ที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัดด้วย ในงบประมาณที่ไม่เกิน 150,000 บาทแบบรวมทุกอย่างแล้ว โอ้ว ครั้งแรกที่ได้ยินมาก็แอบนึกในใจว่ามันจะพอหรอ เราต้องบริหารจัดการยังไงดีให้อยู่ในงบ ในงบนี้รวมค่าอาหาร สถานที่ ชุดบ่าวสาวและจิปาถะสารพัดนะครับ แต่เอานะ ผมต้องทำได้
เรื่องราวครั้งนี้อาจจะต้องมีหลายภาคนะครับ คือ ผมจะเขียนเรื่องราวก่อนวันงานและหลังวันงานในแง่มุมต่างๆรวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแบบควบคุมได้และควบคุมไม่ได้มาให้ทุกท่านได้ลองคิดตามกันไปแบบสนุกๆ ตอนนี้ผมขอเน้นเรื่องของสถานที่จัดงานก่อนนะครับ เพราะรายละเอียดเยอะมาก และตอนต่อๆไปจะเป็นข้อมูลด้านอื่นๆนะครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1.สถานที่จัดงาน พี่ชายผมเค้าอยากจัดที่ร้านอาหารหรือร้านกาแฟที่ดูน่ารักๆ ส่วนว่าที่พี่สะใภ้ผมขอบรรยากาสแบบสวน เอาละซิ ต้องส่องละครับว่าที่ไหนคือตัวเลือกที่เหมาะสมที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งสองพี่ของผม ผมก็เลยทำการบ้านโดยส่องดูใน google ก่อนแล้วลองโทรถามดู ไม่น่าเชื่อนะครับ ในกรุงเทพมีหลากหลายร้านอาหารที่ตอบโจทย์นี้ได้ แถมบางร้านได้ระดับมิชลินอีกต่างหาก เอ่อนะ เราก็เพิ่มรู้เหมือนกัน ชักสนุกละซิ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมขออนุญาตไม่บอกชื่อร้านแต่ละร้านนะครับ ถ้าท่านได้อยากทราบ ทักไลน์มาคุยกันเพราะบางทีการบอกชื่อสถานที่มันมีเรื่องของลิขสิทธิ์และมีความเสี่ยงครับ แต่ถ้ามาคุยไลน์กัน ผมบอกได้ตามความคิดเห็นผมเลยครับ ไลน์ไอดีของผม gamemun ลองทักมาคุยกันครับ
เอาละครับ ตอนที่ทำรายละเอียก่อนไปดูสถานที่จริง ผมลองส่องดูประมาณ 12-20 ที่ โดยเลือกที่ที่สามารถตอบโจทย์ทางด้านอาหาร และสถานที่ที่เดินทางไม่ไกลมากนักจากบ้านที่จะต้องส่งตัวตอนบ่ายโมงหรือโรงแรมที่น่าจะควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ผมใช้การโทรคุยขอข้อมูลก่อนในเบื้องต้นเพื่อประหยัดเวลาและตัดทิ้งสำหรับสถานที่ที่ไม่สามารถตอบโจทย์ของเราได้ แล้วเอามาทำเส้นทางการเดินทางของวันที่สำรวจสถานที่เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางไปแต่ละสถานที่ครับ
ครั้งแรก ผมและพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ไปดูสถานที่จัดงานทั้งหมด 3 ที่ โดยที่แรกเป็นโรงแรมริมน้ำ เป็นที่ที่หนึ่ง ระยะทางการเดินทางจากบ้านที่ส่งตัวพอเดินทางจริง เรารู้สึกว่าค่อนข้างไกลและลึกลับมากในการเดินทางมาที่โรงแรมนี้ครับ โรงแรมนี้มีหลากหลายห้องจัดงานให้เลือกทั้งที่ใหญ่และเล็ก แต่เอาเช้าจริงบรรยากาศในห้องจัดงานก็ไม่ต่างจากห้องจัดเลี้ยงซึ่งเป็นห้องสี่เหลี่ยมมองเห็นด้านนอกเพียงเล็กน้อย ส่วนถ้ามีการทานอาหารต่อ ถ้าใช้สถานที่เดิมก็จะต้องเปลี่ยนเซ็ทสถานที่เพื่อตั้งโต๊ะทานอาหารต่อ ฟังดูก็พอรู้สึกได้ถึงความวุ่นวานแล้วนะครับ สถานที่แรกเลยตกไปจากความคิดของเรา
ที่ที่สองเป็นร้านอาหารในสวนซึ่งไม่ไกลจากโรงแรมนัก ได้มิชลินอีกต่างหาก บรรยากาศได้มากๆร่มรื่น ริมน้ำ ในสวน มีตัวอาคารติดแอร์แบบโบราณด้วย เอ่อนะ น่าสนใจ อาหารจะเป็นอาหารไทยระดับชาววัง ฟังดูดีมิใช่น้อยนะครับ เราเข้าไปคุยกับทางเซลล์ของสถานที่แล้วขอราคาค่าใช้จ่าย พอได้ทราบราคา แอบตกใจเล็กน้อยว่าค่อนข้างสูงมากสำหรับค่าเช่าสถานที่แบบยังไม่รวมอาหาร ซึ่งพอรวมค่าอาหารเข้าไปแล้ว ก็เลยทำให้งบประมาณเกินกว่าที่ตั้งเอาไว้ เอาละซิ ยากละทีนี้ เรากลับมานั่งคิดกันใหม่ว่า ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายถ้าเราเลือกที่นี้ ประกอบการการเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ก็ค่อนข้างไกลจากใจกลางเมืองซึ่งคนส่วนใหญ่ที่จะมาร่วมงานต้องใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร เปรียบเทียบแล้ว เราลองหาตัวเลือกอื่นที่เข้าเมืองมากกว่านี้น่าจะดีกว่า ที่นี้จึงตกไปครับ
ที่ที่สามเป็นร้านกาแฟเล็กๆในซอยแถวแจ้งวัฒนะ บังเอิญผมผ่านแวบๆแล้วเห็นก็ร็สึกว่าน่าสนใจ เลยชวนกันไปดู พอไปดูแล้วค่าใช้จ่ายไม่สูงเลย คุยง่ายมาก มีที่พักที่ค่อนข้างใกล้ ที่จอดรถเพียงพอ โอ้ว ดูจะลงตัวไปหมดมีสวนด้านหน้า รีวิวด้านอาหารก็ดี งบประมาณก็ไม่สูง เอาละครับ ที่นี้ ดูเหมือนจะมาวินละ เราเก็บตัวเลือกที่นี้เอาไว้ก่อนเลย แต่ข้อจำกัดอยู่ที่ว่าสามารถรองรับจำนวนแขกได้แค่ 50 คน เท่านั้นและยังไม่มีประสบการณืในการใช้สถานที่จัดงานแต่งงาน เคยแต่รับจัดงานเลี้ยงเท่านั้น สองประเด็นนี้ทำให้ที่นี้ตกไปครับเพราะพอเรามานับจำนวนแขกที่จะมาเกิน 50 แน่นอนครับ
ครั้งที่สองของการสำรวจสถานที่จัดงาน เราย้ายเข้าเมืองมากขึ้น โดยเลือกสถานที่จัดงานแถวลาดพร้าว เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา และใกล้เคียงครับ ได้มาอีกหกที่ เอาละครับ คราวนี้เราไปดูกันตั้งแต่เช้า ร้านแรก เป็นร้านอาหารชื่อดังระดับมิชลินอีกเช่นกัน เข้าไปดูสถานที่โดยได้เจอตัวเจ้าของเลย คุยง่ายมาก และค่อนข้างมีความพร้อมในการจัดงานครับเพราะมีคนมาจัดงานที่เค้าบ่อยๆ มีร้านกาแฟอยู่ข้างๆ ที่จอดรถเพียงพอ สถานที่มีบรรยากาศสวน ด้านในอาคารมีจัดต้นไม้เขียว แอร์เย็น ฟังดูก็ครบครันนะครับ เอาละครับ อยู่ในใจเราทั้งสามคนอีกที่นึงละครับ แต่ส่วนตัวผม แค่แอบติดเรื่องการคืนสถานที่ให้ทางร้านเพราะเราจัดงานวันอาทิตย์ ทางร้านจะให้เราคืนสถานที่ภายในเวลากำหนดเพื่อรองรับลูกค้าต่อ ประเด็นนี้ติดใจผมเล็กน้อย แต่ยังไม่หนักหนามากนักครับ น่าจะหาทางออกร่วมกันได้ด้วยดี แปะไว้ก่อนครับ
สถานที่ที่สองเป็นร้านอาหารและสถานที่จัดงานมีชื่อแถวเลียบด่วน ไฮไลท์ที่มีต้นไม้ใหญ่ตรงกลางหนึ่งต้น ซึ่งวันจัดงานของเรา สถานที่บริเวณสวนและต้นใม้ใหญ่ถูกจองสำหรับจัดงานเย็นแล้ว ถ้าเราใช้สามารถใช้สถานที่ชั้นสองได้ เอาละไปกัน พอไปดูสถานที่จริง มันใหญ่เกินไปครับ ใหญ่จนเราคิดว่าถ้ารองรับจำนวนแขกแค่ 80 คน นั่งกันแล้วก็ยังดูอ้างว้างห่างไกลกันเหลือเกิน เรื่องอื่นไม่มีปัญหาเลยครับ แต่บังเอิญวันที่เราไปดูสถานที่ มีการจัดงานบริเวณสวนด้านล่างพอดี สิ่งหนึ่งที่เราแอบกลัวคือความวุ่นวานของคนที่มางานซึ่งอาจจะดูค่อนข้างวุ่นวานทีเดียว งั้นที่นี้เราพักไว้ก่อนดีกว่าครับ
สถานที่ถัดไปไม่ไกลจากที่ที่สอง ตอนที่ส่องในเนตและโทรคุยเค้าบอกว่ารองรับจำนวนแขกของเราได้ แต่พอไปดูสถานที่จริง ผมว่าน่าจะเล็กเกินกว่าจะรองรับได้จริงครับ จากการสำรวจสถานที่ทำให้เราเข้าใจว่า การดูสถานที่จริงค่อนข้างสำคัญนะครับ อย่าดูแต่ในรูปเพราะในรูปจะดูค่อนข้างกว้างขวางใหญ่โด ที่นี้เราเลยไม่ได้มีการพูดคุยอะไรนะครับ แต่กินข้าวที่นี้แทน อาหารใช้ได้อยู่ครับ ว่างๆน่าลองไปทานได้
สถานที่ถัดไปเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงานแบบครบวงจร ซึ่งพอดีวันที่ไปดู เค้าเปิด open house พอดี เลยมีการจัดสถานที่ให้คนที่มาดูได้เห็นภาพรวมการจัดงานพอดี ที่นี้ประเด็นใหญ่คือเรื่องของงบประมาณที่ค่อนข้างสูงครับ เกินงบด้วย แต่ผมเห็นว่าไหนๆอยู่ละแวกนั้นแล้ว แวะดูก็คงไม่เสียหาย เพราะเวลาดูข้อมูลในเนตจะค่อนข้างตื่นตาตื่นใจพอสมควร แต่พอได้ดูสถานที่จริง ผมเฉยๆนะ หรือเพราะเราเห็นมาเยอะก็เลยไม่ตื่นเต้นกับตัวอาคารรูปแบบนี้ที่ทำกันเยอะในปัจจุบัน สำหรับที่นี้ก็ผ่านไปครับ
สถานที่ถัดมาเป็นสถานที่จัดงานอีกเช่นกัน มีสวนและมีตัวอาคารติดแอร์ อยู่ไม่ไกลจากบ้านที่ส่งตัวด้วย แต่เมื่อถึงสถานที่จริง สิ่งแรกที่เตะตาทั้งผมและพี่สะใภ้คือ เก้าอี้นั่ง ซึ่งเป็นเก้าอี้ไม้แบบเก้าอี้นักเรียน เรารู้สึกได้เลยว่าน่าจะนั่งไม่สบายมากนัก ตัวอาคารก็มีแอร์ตู้เพียง 6 ตัว ซึ่งผมไม่มั่นใจนักว่าจะเอาอยู่ไหมด้านความเย็นเวลาจัดงาน และราคาที่อยู่ระดับกลางแต่สิ่งที่ได้กลับมา ผมว่าไม่ค่อยคุ้มค่ามากนักครับ เลยตัดทิ้งครังสำหรับที่นี้
มาถึงสถานที่สุดท้ายละ พร้อมกับความเหนื่อยและง่วงครับ เอาจริงๆที่นี้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักเพราะผ่านบ่อยๆ ไม่มีอะไรเตะตาผมเท่าไหร่ เอาจริงๆคือไปงั้นๆเอง ไปให้ครบ แต่พอมาถึงสถานที่จริง แปลกมากครับ พอมาถึง มีอะไรให้ผมตื่นเต้นเยอะไปหมด ตั้งแต่ประตูทางเข้า ที่ร้านได้มิชลินเหมือนกันแต่ในแง่ของวัตถุดิบการปรุงอาหารดีคุ้มค่าเหมาะสมกับราคาอาหาร เค้ามีคำเรียกเฉพาะนะครับ แต่ผมจำไม่ได้ ด้วยความเบลอ ดูสถานทีจากด้านนอก ดูเหมือนจะไม่ใหญ่โตมาก แต่พอเข้าไปดูจริงๆ สถานที่ห้องจัดเลี้ยงจัดเป็นสัดส่วนมากๆ โต๊ะเก้าอี้มีทั้งแบบไม้และแบบสีขาวเพียงพอกับการจัดงาน ขนาดสถานที่กำลังเหมาะ บรรยากาศห้องจัดงานตกแต่งด้วยไม้ดูไปทางไทยๆหน่อย แต่สะอาดสะอาน โอ้วมันช่างลงตัวไปหมดแถมใกล้บ้านที่ส่งตัวมากๆครับ ถ้าผมจำไม่ผิดที่นี้ตอนแรกที่เปิดตัวจะทำเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงานโดยเฉพาะแล้วหลังๆมีการปรับรูปแบบเป็นร้านอาหาร ใช่หรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ เพราะผ่านบ่อยมากแต่ไม่ค่อยได้สนใจครับ จากการดูภาพรวมแล้วเยี่ยมเข้าตาเลยครับ เราเลยขอคุยกับทางผู้จัดการร้านซึ่งก็ได้รับข้อมูลมา ราคาค่าใช้จ่ายไม่สูงเลยครับ คุ้มค่ามาก เอาละ ที่นี้ชักจะมาวินละครับในหลายๆด้าน
เราเลยวางแผนกันต่อว่าพรุ่งนี้เราจะมาลองชิมอาหารที่ร้านแบบสั่งมาลองทานกันดู เพื่อจะดูว่าอาหารของทางร้าน ถ้าสั่งมาทานเองแบบจ่ายเงินค่าอาหารไม่ได้อยู่ในลักษณะการมาลองชิมอาหารก่อนวันจัดงาน คุณภาพและรสชาติจะเหมือนเดิมไหม โดยชวนคุณพ่อคุณแม่ของผม ซึ่งเป็นคนที่ทานอาหารทำเองมาตลอด ชวนพี่น้องที่ว่างมาลองชิม หลานๆมาด้วย ไปพร้อมๆกันโดยลองสั่งเมนูต่างๆที่เราคิดว่าสนใจจะสั่งให้แขกในวันงานมาลองชิมกันดูก่อนเพื่อดูลักษณะหน้าตาอาหาร รสชาติว่าเป็นอย่างไร โดยเลือกสั่งมาทีละเมนูตามแพคเกจที่เราที่ว่าจะสั่งครับ แล้วให้ทุกคนได้ชิมพร้อมๆกัน ให้ความคิดเห็นส่วนตัวแล้วให้คะแนนตามความรู้สึกของตัวเอง โดยรวมแล้วทุกคนให้ผ่านครับ อร่อย คุ้มค่าจริง เป็นอันว่าผ่านครับ ทุกคนตกลงใจเลือกสถานที่นี้สำหรับการจัดงานครับ
วันนี้ขอเอาแค่นี้ก่อนนะครับเพราะแอบเอาเวลางานมาเขียนนานละ สำหรับตอนต่อๆไป จะเป็นเรื่องของขันหมาก อุปกรร์ประกอบการจัดงาน ชุดบ่าวสาว พิธีการและคนฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตามอ่านกันดูนะครับ ว่าผมจะจัดงานนี้ให้พี่ชายในงบประมาณที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ เผื่อเป็นทางเลือกให้กับทุกท่านที่จะจัดงานแบบควบคุมค่าใช้จ่ายได้นะครับ หรือถ้าอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็ทักไลน์มาคุยกันครับ