ปัจจุบันผมอายุ 37 ปี
ประมาณเดือน ส.ค.ปี 61 เคยตรวจเจอ lymphoma ซึ่งที่ตรวจเจอเพราะ มีก้อนนูนๆ ที่หลังใบหูต้นคอขวา จึงตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ(ตรวจเจอที่รพ พระมงกุฏ)
และส่งต่อไปรักษาที่รพ รามาธิบดี (ประกันสังคม) จึงได้ทำการตรวจ ct scan ช่วงลำคอ /ช่องท้องทั้งบน-ล่าง และ เจาะไขสันหลังไปตรวจ ไม่พบการลุกลามใดๆ ของโรค
โดยคุณหมอทำการรักษาด้วยการให้ยาเคมีแบบเม็ดมาทาน อยู่ 3 - 4 ครั้ง ในช่วง ปลายปี 61 ถึงประมาณกลางปี 62 (และต้องทานยาต้านไวรัส Vilerm 400 mg เช้า-เย็น จนถึงปัจจุบัน) อีกทั้งติดตามผลโดยการ ct scan ทุกๆ 3 เดือน
จนต้นเดือน ม.ค. 63 ผลขนาดต่อมน้ำเหลืองซึ่งคงที่อยู่ที่ 1.4 cm มา 1 ปี และไม่มีการลุกลามใดๆอีก ทางคุณหมอที่รักษาบอกว่าอาการโรคไม่น่าเป็นอันตรายแล้ว และถ้ายา vilerm หมดแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เพิ่มแล้ว ให้ดูแลสุขภาพ และมาตามนัดตรวจอาการทุกๆ 3 เดือนแทน
กอปรกับ เมื่อกลางเดือน ม.ค. คุณพ่อผมเข้ารักษาโรคมะเร็งตับอ่อนและเสียชีวิตที่รพ ประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน (รวมเวลาให้คีโมและรักษาอาการอื่นๆ ประมาณ 2ปีเศษ)
โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณกลางเดือน ธ.ค. - ปัจจุบัน (ตั้งแต่คุณพ่ออาการทรุด เข้ารพ. จนจบงานศพ)
ผมและครอบครัว เหนื่อยล้าตั้งแต่การดูแลพ่อช่วงท่านยังป่วยอยู่ ธุระงานศพ เรื่องเอกสาร ฯลฯ
เนื่องจากความเครียด วิตกกังวลมากจนนอนไม่ค่อยหลับ ไม่สบายตัว และมีความผิดปกติของร่างกายที่สังเกตุได้ ดังนี้
- เวลาเครียด หรือกังวล จะรู้สึกร้อนวาบในช่องปาก
- ข้างลิ้นทั้ง 2 ข้าง จะมีวงขาวเล็กๆ ซึ่งวงจะขยายใหญ่ และหายไปภายใน 2 - 3 วัน
- แน่นท้องจนรู้สึกตึงใต้ชายโครงขวา หากนั่งแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าจะปวดท้อง และเจ็บจี้ดทะลุหลังเป็นบางเวลา ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีความผิดปกติที่ตับ หรือตับอ่อนหรือไม่
เมื่อวันที่ 9 -10 กพ. ผมจึงไปหาหมอระบบทางเดินอาหารที่ศูนย์แพทย์พัฒนา เล่าอาการให้หมอฟัง
คุณหมอจึงให้ อัลตร้าซาวน์ upper abdomen และตรวจเลือดเพื่อหาค่าความเสี่ยงมะเร็งตับและตับอ่อน ได้ผลดังนี้
CEA (ค่ามะเร็งตับ) 0.72 (normal range < 4)
CA 19-9 (ค่ามะเร็งตับอ่อน) 4 (normal range < 35)
ผลอัลตร้าซาวน์ มีไขมันพอกตับ ส่วน ถุงน้ำดีและท่อน้ำดีปกติ ตับอ่อนปกติ ไตปกติ
คุณหมอแจ้งว่า เป็นเพราะความเครียดหรือพบเหตุการณ์สะเทือนใจรุนแรง จะทำให้กระเพาะท้องไส้ปั่นป่วน จึงให้ยา Mirax - M , Berchlomin, Omeprazole และ ยานอนหลับ มาทาน
และถ้ารู้สึกเจ็บแสบท้อง ผมเองจะทานกล้วยน้ำว้าด้วย และรีบนอน 4 ทุ่ม ตื่น 7 โมง
ตอนนี้ผ่านไป 1 สัปดาห์ ผมทานยาอย่างเคร่งครัด และพยายามทานอาหารให้ตรงเวลา เคี้ยวนาน และสังเกตุอาการตัวเองได้ดังนี้
- ความเครียด วิตกกังวลยังมีอยู่
- อาการปวดแน่นท้องยังมีอยู่ก่อนและหลังอาหาร ส่วนอาการแน่นจนเบียดซี่โครง และ เจ็บจี้ดทะลุหลังนั้นไม่ค่อยมีแล้ว (ยายังต้องทานติดต่อกันอีกสัปดาห์ โดยนัดหมออีกที เดือนมี.ค.)
- น้ำหนักลด จากช่วงต้นเดือน ม.ค. 106 กก. - ปัจจุบัน 101 กก. ผมคุมอาหาร และทานน้อยลง และเลิกทานจุกจิก
- เมื่อ 2-3 วันก่อน คลำใต้รักแร้ซ้ายเจ็บ แสบร้อน ประมาณ 1 วันแล้วหายเอง และเมื่อวานคลำข้างขวา เจ็บเหมือนอักเสบตรงต่อมน้ำเหลืองข้างซี่โครงขวา ตอนนี้ไม่ค่อยเจ็บแล้ว (ไม่บวม)
- ข้างลิ้นทั้ง 2 ข้าง จะมีวงขาวเล็กๆ อยู่ ซึ่งวงจะขยายใหญ่ และหายไปเองภายใน 2 - 3 วัน แล้วก็จะมีวงขาวๆขึ้นใหม่อีก เป็นแบบนี้มา 1 เดือนแล้ว
ตอนนี้ที่กังวลคิดไม่ตก มี 4 เรื่อง จึงอยากสอบถามในพันทิปดังนี้
1. อาการปวดท้องจากโรคกระเพาะ โดยทั่วไปถ้าเริ่มทานยาแล้ว ใช้เวลาประมาณกี่สัปดาห์ควรหายครับ?
2. วงขาวๆที่ลิ้นอันตรายหรือไม้ และเกิดจากอะไรได้บ้าง เพราะดูตามเวป มันเกิดได้จากภูมิต้านทานตก/อักเสบช่องท้อง/ร้อนใน ผมกลัวว่ามันเป็นผลข้างเคียงจากอาการอื่นๆหรือไม่? หรือเพราะการทานยาทานยาต้านไวรัส Vilerm 400 mg ติดต่อกันเป็นเวลานาน?
3. จากที่เล่ามา อาการของผมอันตรายไหมครับ? ผลเลือดและอัลตร้าซาวน์เพียงพอหรือไม่ และผมควรรีบไปตรวจร่างกายหาสาเหตุอื่นๆ เลยมั้ยครับ?
4. ถ้าไปตรวจกับรพเอกชน ค่าใช้จ่าย พวก ค่าหมอ ct scan ประมาณเท่าไหร่ครับ เพราะถ้ารอตรวจกับ รพ รัฐ กว่าจะได้คิวตรวจ ct scan นานมาก
โดยหาหมอโรคกระเพาะ มี.ค. นี้ ส่วนนัดหมอรามา เม.ษ.นี้ครับ
ขอบคุณมากครับ
กังวลเรืองโรคกระเพาะ และข้างลิ้นเป็นวงขาวเล็กๆ เป็นๆหายๆ อันตรายหรือไม่?
ประมาณเดือน ส.ค.ปี 61 เคยตรวจเจอ lymphoma ซึ่งที่ตรวจเจอเพราะ มีก้อนนูนๆ ที่หลังใบหูต้นคอขวา จึงตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ(ตรวจเจอที่รพ พระมงกุฏ)
และส่งต่อไปรักษาที่รพ รามาธิบดี (ประกันสังคม) จึงได้ทำการตรวจ ct scan ช่วงลำคอ /ช่องท้องทั้งบน-ล่าง และ เจาะไขสันหลังไปตรวจ ไม่พบการลุกลามใดๆ ของโรค
โดยคุณหมอทำการรักษาด้วยการให้ยาเคมีแบบเม็ดมาทาน อยู่ 3 - 4 ครั้ง ในช่วง ปลายปี 61 ถึงประมาณกลางปี 62 (และต้องทานยาต้านไวรัส Vilerm 400 mg เช้า-เย็น จนถึงปัจจุบัน) อีกทั้งติดตามผลโดยการ ct scan ทุกๆ 3 เดือน
จนต้นเดือน ม.ค. 63 ผลขนาดต่อมน้ำเหลืองซึ่งคงที่อยู่ที่ 1.4 cm มา 1 ปี และไม่มีการลุกลามใดๆอีก ทางคุณหมอที่รักษาบอกว่าอาการโรคไม่น่าเป็นอันตรายแล้ว และถ้ายา vilerm หมดแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เพิ่มแล้ว ให้ดูแลสุขภาพ และมาตามนัดตรวจอาการทุกๆ 3 เดือนแทน
กอปรกับ เมื่อกลางเดือน ม.ค. คุณพ่อผมเข้ารักษาโรคมะเร็งตับอ่อนและเสียชีวิตที่รพ ประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน (รวมเวลาให้คีโมและรักษาอาการอื่นๆ ประมาณ 2ปีเศษ)
โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณกลางเดือน ธ.ค. - ปัจจุบัน (ตั้งแต่คุณพ่ออาการทรุด เข้ารพ. จนจบงานศพ)
ผมและครอบครัว เหนื่อยล้าตั้งแต่การดูแลพ่อช่วงท่านยังป่วยอยู่ ธุระงานศพ เรื่องเอกสาร ฯลฯ
เนื่องจากความเครียด วิตกกังวลมากจนนอนไม่ค่อยหลับ ไม่สบายตัว และมีความผิดปกติของร่างกายที่สังเกตุได้ ดังนี้
- เวลาเครียด หรือกังวล จะรู้สึกร้อนวาบในช่องปาก
- ข้างลิ้นทั้ง 2 ข้าง จะมีวงขาวเล็กๆ ซึ่งวงจะขยายใหญ่ และหายไปภายใน 2 - 3 วัน
- แน่นท้องจนรู้สึกตึงใต้ชายโครงขวา หากนั่งแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าจะปวดท้อง และเจ็บจี้ดทะลุหลังเป็นบางเวลา ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีความผิดปกติที่ตับ หรือตับอ่อนหรือไม่
เมื่อวันที่ 9 -10 กพ. ผมจึงไปหาหมอระบบทางเดินอาหารที่ศูนย์แพทย์พัฒนา เล่าอาการให้หมอฟัง
คุณหมอจึงให้ อัลตร้าซาวน์ upper abdomen และตรวจเลือดเพื่อหาค่าความเสี่ยงมะเร็งตับและตับอ่อน ได้ผลดังนี้
CEA (ค่ามะเร็งตับ) 0.72 (normal range < 4)
CA 19-9 (ค่ามะเร็งตับอ่อน) 4 (normal range < 35)
ผลอัลตร้าซาวน์ มีไขมันพอกตับ ส่วน ถุงน้ำดีและท่อน้ำดีปกติ ตับอ่อนปกติ ไตปกติ
คุณหมอแจ้งว่า เป็นเพราะความเครียดหรือพบเหตุการณ์สะเทือนใจรุนแรง จะทำให้กระเพาะท้องไส้ปั่นป่วน จึงให้ยา Mirax - M , Berchlomin, Omeprazole และ ยานอนหลับ มาทาน
และถ้ารู้สึกเจ็บแสบท้อง ผมเองจะทานกล้วยน้ำว้าด้วย และรีบนอน 4 ทุ่ม ตื่น 7 โมง
ตอนนี้ผ่านไป 1 สัปดาห์ ผมทานยาอย่างเคร่งครัด และพยายามทานอาหารให้ตรงเวลา เคี้ยวนาน และสังเกตุอาการตัวเองได้ดังนี้
- ความเครียด วิตกกังวลยังมีอยู่
- อาการปวดแน่นท้องยังมีอยู่ก่อนและหลังอาหาร ส่วนอาการแน่นจนเบียดซี่โครง และ เจ็บจี้ดทะลุหลังนั้นไม่ค่อยมีแล้ว (ยายังต้องทานติดต่อกันอีกสัปดาห์ โดยนัดหมออีกที เดือนมี.ค.)
- น้ำหนักลด จากช่วงต้นเดือน ม.ค. 106 กก. - ปัจจุบัน 101 กก. ผมคุมอาหาร และทานน้อยลง และเลิกทานจุกจิก
- เมื่อ 2-3 วันก่อน คลำใต้รักแร้ซ้ายเจ็บ แสบร้อน ประมาณ 1 วันแล้วหายเอง และเมื่อวานคลำข้างขวา เจ็บเหมือนอักเสบตรงต่อมน้ำเหลืองข้างซี่โครงขวา ตอนนี้ไม่ค่อยเจ็บแล้ว (ไม่บวม)
- ข้างลิ้นทั้ง 2 ข้าง จะมีวงขาวเล็กๆ อยู่ ซึ่งวงจะขยายใหญ่ และหายไปเองภายใน 2 - 3 วัน แล้วก็จะมีวงขาวๆขึ้นใหม่อีก เป็นแบบนี้มา 1 เดือนแล้ว
ตอนนี้ที่กังวลคิดไม่ตก มี 4 เรื่อง จึงอยากสอบถามในพันทิปดังนี้
1. อาการปวดท้องจากโรคกระเพาะ โดยทั่วไปถ้าเริ่มทานยาแล้ว ใช้เวลาประมาณกี่สัปดาห์ควรหายครับ?
2. วงขาวๆที่ลิ้นอันตรายหรือไม้ และเกิดจากอะไรได้บ้าง เพราะดูตามเวป มันเกิดได้จากภูมิต้านทานตก/อักเสบช่องท้อง/ร้อนใน ผมกลัวว่ามันเป็นผลข้างเคียงจากอาการอื่นๆหรือไม่? หรือเพราะการทานยาทานยาต้านไวรัส Vilerm 400 mg ติดต่อกันเป็นเวลานาน?
3. จากที่เล่ามา อาการของผมอันตรายไหมครับ? ผลเลือดและอัลตร้าซาวน์เพียงพอหรือไม่ และผมควรรีบไปตรวจร่างกายหาสาเหตุอื่นๆ เลยมั้ยครับ?
4. ถ้าไปตรวจกับรพเอกชน ค่าใช้จ่าย พวก ค่าหมอ ct scan ประมาณเท่าไหร่ครับ เพราะถ้ารอตรวจกับ รพ รัฐ กว่าจะได้คิวตรวจ ct scan นานมาก
โดยหาหมอโรคกระเพาะ มี.ค. นี้ ส่วนนัดหมอรามา เม.ษ.นี้ครับ
ขอบคุณมากครับ