มีโอกาสได้ใช้บริการสายการบิน Lufthansa เมื่อสัปดาห์ที่แล้วค่ะ เป็นเที่ยวบินยาวๆ จากสุวรรณภูมิไปแฟรงเฟิร์ต แล้วบินต่อจากแฟรงเฟิร์ตไปเจนีวา เป็นครั้งแรกของตัวเองที่ใช้บิรการของเขา และครั้งแรกของการต้องไปต่อเครื่องที่แฟรงเฟิร์ตด้วย เลยขอมาเล่าสู่กันฟังนะคะ ออกตัวก่อนว่า จขกท ไม่ได้บินชั้นธุรกิจบ่อย มันก็จะตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้นนิดนึงเนอะ
ชั้นธุรกิจของเขานั่งสบายอยู่ค่ะ ขณะนั้นเป็นเวลา 23.50 น. โดยประมาณ เห็นหมอนละก็อยากนอน
บินด้วยเครื่อง A380-800 ใหญ่โตเชียวค่ะ ได้เดินขึ้นบันไดวนด้วยเป็นครั้งแรกเลย
ขอสำรวจอุปกรณ์ตรงกระเป๋าหน้าที่นั่งนิดนึง นอกจากน้ำขวด 500 มิลลิลิตร แล้วก็มีเจ้ากระเป๋าหนังอันนี้ค่ะ ภายในบรรจุอุปกรณ์การนอนอย่างที่อุดหู ที่ปิดตา ครีมทาผิว ลิปมัน
นอกจากหมอนและผ้าห่มแล้ว ยังมีแจกเสื้อนอนด้วยค่ะ ให้ใส่เหมือนกันทั้งลำ เหมือนชุดนอนโรงเรียนอนุบาลเลย อิอิ เสื้อยืดผ้านุ่มคุณภาพดีค่ะ
ก่อน take off พนักงานจะบริการเครื่องดื่ม แล้วก็เอาเมนูอาหารเย็น (ดึก) มาให้เลือก จขกท เลือกอันนี้ค่ะ เป็นหอยชนิดหนึ่ง เสริฟแบบในภาพ รสชาติดี
ส่วนจานหลักเลือกเป็นพาสต้า มือไม้สั่น เพราะง่วงและหิว ภาพเบลอกันเลยทีเดียว
จอสามารถเลื่อนไปทางขวาได้อีกด้วยค่ะ ที่เห็นในถุงสีขาวมัดปากนั่นคือ ผ้าปูที่ให้ไว้ปูบนเบาะโดยสาร เหมือนผ้าปูที่นอนงิ
บริการของสายการบินถือว่าเยี่ยมเลยค่ะ อาหารรสชาติดี ที่นั่งกว้างขวางสบายอยู่ พนักงานต้อนรับหน้าตายิ้มแย้ม ใส่ใจ ลืมสายชาร์จโทรศัพท์ก็ขอยืมเขา เขาก็ไปยืมเพื่อนมาให้ 😜 ไม่มีโกโก้ร้อนบริการ ดีว่าเราพกไมโล 3 in one ติดตัวไป เขาก็ไปชงมาให้ เวลาพูดด้วยยังกะจะขอเราแต่งงาน คือ เขาย่อจนเกือบคุกเข่า
ก่อนจะหลับ ลุกไปเข้าห้องน้ำค่ะ มีอุปกรณ์เสริมหล่อที่จำเป็นอย่างที่โกนหนวดให้ มีน้ำยาบ้วนปากและทิชชูเปียก
ตื่นมา มีบริการอาหารเช้าก่อนเครื่องจะลงค่ะ ชา กาแฟมีบริการครบ
มาลุ้นเหงื่อแตกตอนเครื่องลงที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเรามีกำหนดต่อเครื่องไปเจนีวาในเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด ..เราวิ่ง 4 x 100 ตั้งแต่ลงเครื่องแล้วนะแบบว่าอีก 20 นาทีต้องขึ้นเครื่อง แต่ยังติดอย่ตรงตรวจความปลอดภัย หรือ Security Check ที่นี่ตรวจละเอียดมาก ชนิดที่ว่า กรีดพ็อกเก็ตบุคดูทุกหน้าเลย น้ำหอม สุรา ที่ใส่ถุงซิปแล้วก็ยังยกส่องไฟ ไม่รีบร้อน ประหนึ่งว่าผู้โดยสารมีเวลาทั้งวันทั้งคืน
พ้นมาเจอ ตรวจคนเข้าเมือง แล้ววิ่งไปทางออกขึ้นเครื่อง ซึ่งอยู่สุดทางเลยจ้า สนามบินคุณก็กว้างมากแบบว่าหอบแฮ่ก เดินไปขึ้นรถบัส เป็นคนเกือบสุดท้าย ไปต่อเครื่องอีกลำถึงที่หมาย เหนื่อยกายเหนื่อยใจในอุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียส
Bus Gate ที่ต้องขึ้นไปต่อเครื่องบินลำเล็กไปเจนีวา
เครื่องบินลำเล็ก 100 ที่นั่ง
ยังอุตส่าห์มีโซนชั้นธุรกิจด้านหน้าประมาณ 6 แถวแรก
มีบริการอาหารเช้าและเครื่องดื่มอีกรอบ อิ่มแล้วอิ่มอีก แต่ก็นั่นแหละค่ะ จะได้พร้อมทำงานทันทีที่ถึงจุดหมายปลายทาง หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ตัดภาพมาที่การเดินทางกลับ ..ขากลับก็ใช้ route บินแบบเดิมค่ะ แต่ตอนบินจากเจนีวา ไป แฟรงเฟิร์ตนั้น เป็นการดำเนินงานโดย Swiss Air
บินตอนค่ำหน่อย เครื่องลำเล็กออกจากเจนีวาตรงตามเวลา
มีน้ำดื่มเย็นชื่นใจ คลับแซนวิช และ ช็อคโกเลต บริการ ที่ชอบมากคือ คุณกัปตันออกมายืนโชว์ตัว ตรงหน้าห้องโดยสาร แนะนำตัวก่อนจะเดินทางด้วยละ
ส่วนเที่ยวบินจากแฟรงเฟิร์ตกลับสุวรรณภูมิยังเป็นเครื่อง A83-800 ของ Lufthansa เหมือนเดิม
Appetizers ของมื้อค่ำขากลับจากแฟรงเฟิร์ต
อาหารเช้าก่อนเครื่องลงที่สุวรรณภูมิ จขกท ติดซองโกโก้จากสวิสมาขอให้พนักงานช่วยเติมน้ำร้อนให้ค่ะ
โดยรวมรู้สึกประทับใจสายการบินนี้พอสมควรเลย กัปตันและลูกเรือพูดจาสุภาพ ชัดถ้อยชัดคำเวลาประกาศอะไรบนเครื่อง ฟังง่ายกว่าหลายสายการบิน เชื่อว่าหลายท่านที่เคยใช้บริการน่าจะประทับใจไม่แพ้กัน เอามาเล่าสู่กันฟังไว้เผื่อท่านใดมีแผนการเดินทางและเลือกพิจารณาสายการบินอยู่ค่ะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ
รีวิวสายการบิน Lufthansa เส้นทาง กรุงเทพฯ-แฟรงเฟิร์ต-เจนีวา
ชั้นธุรกิจของเขานั่งสบายอยู่ค่ะ ขณะนั้นเป็นเวลา 23.50 น. โดยประมาณ เห็นหมอนละก็อยากนอน
บินด้วยเครื่อง A380-800 ใหญ่โตเชียวค่ะ ได้เดินขึ้นบันไดวนด้วยเป็นครั้งแรกเลย
ขอสำรวจอุปกรณ์ตรงกระเป๋าหน้าที่นั่งนิดนึง นอกจากน้ำขวด 500 มิลลิลิตร แล้วก็มีเจ้ากระเป๋าหนังอันนี้ค่ะ ภายในบรรจุอุปกรณ์การนอนอย่างที่อุดหู ที่ปิดตา ครีมทาผิว ลิปมัน
นอกจากหมอนและผ้าห่มแล้ว ยังมีแจกเสื้อนอนด้วยค่ะ ให้ใส่เหมือนกันทั้งลำ เหมือนชุดนอนโรงเรียนอนุบาลเลย อิอิ เสื้อยืดผ้านุ่มคุณภาพดีค่ะ
ก่อน take off พนักงานจะบริการเครื่องดื่ม แล้วก็เอาเมนูอาหารเย็น (ดึก) มาให้เลือก จขกท เลือกอันนี้ค่ะ เป็นหอยชนิดหนึ่ง เสริฟแบบในภาพ รสชาติดี
ส่วนจานหลักเลือกเป็นพาสต้า มือไม้สั่น เพราะง่วงและหิว ภาพเบลอกันเลยทีเดียว
จอสามารถเลื่อนไปทางขวาได้อีกด้วยค่ะ ที่เห็นในถุงสีขาวมัดปากนั่นคือ ผ้าปูที่ให้ไว้ปูบนเบาะโดยสาร เหมือนผ้าปูที่นอนงิ
บริการของสายการบินถือว่าเยี่ยมเลยค่ะ อาหารรสชาติดี ที่นั่งกว้างขวางสบายอยู่ พนักงานต้อนรับหน้าตายิ้มแย้ม ใส่ใจ ลืมสายชาร์จโทรศัพท์ก็ขอยืมเขา เขาก็ไปยืมเพื่อนมาให้ 😜 ไม่มีโกโก้ร้อนบริการ ดีว่าเราพกไมโล 3 in one ติดตัวไป เขาก็ไปชงมาให้ เวลาพูดด้วยยังกะจะขอเราแต่งงาน คือ เขาย่อจนเกือบคุกเข่า
ก่อนจะหลับ ลุกไปเข้าห้องน้ำค่ะ มีอุปกรณ์เสริมหล่อที่จำเป็นอย่างที่โกนหนวดให้ มีน้ำยาบ้วนปากและทิชชูเปียก
ตื่นมา มีบริการอาหารเช้าก่อนเครื่องจะลงค่ะ ชา กาแฟมีบริการครบ
มาลุ้นเหงื่อแตกตอนเครื่องลงที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเรามีกำหนดต่อเครื่องไปเจนีวาในเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด ..เราวิ่ง 4 x 100 ตั้งแต่ลงเครื่องแล้วนะแบบว่าอีก 20 นาทีต้องขึ้นเครื่อง แต่ยังติดอย่ตรงตรวจความปลอดภัย หรือ Security Check ที่นี่ตรวจละเอียดมาก ชนิดที่ว่า กรีดพ็อกเก็ตบุคดูทุกหน้าเลย น้ำหอม สุรา ที่ใส่ถุงซิปแล้วก็ยังยกส่องไฟ ไม่รีบร้อน ประหนึ่งว่าผู้โดยสารมีเวลาทั้งวันทั้งคืน
พ้นมาเจอ ตรวจคนเข้าเมือง แล้ววิ่งไปทางออกขึ้นเครื่อง ซึ่งอยู่สุดทางเลยจ้า สนามบินคุณก็กว้างมากแบบว่าหอบแฮ่ก เดินไปขึ้นรถบัส เป็นคนเกือบสุดท้าย ไปต่อเครื่องอีกลำถึงที่หมาย เหนื่อยกายเหนื่อยใจในอุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียส
Bus Gate ที่ต้องขึ้นไปต่อเครื่องบินลำเล็กไปเจนีวา
เครื่องบินลำเล็ก 100 ที่นั่ง
ยังอุตส่าห์มีโซนชั้นธุรกิจด้านหน้าประมาณ 6 แถวแรก
มีบริการอาหารเช้าและเครื่องดื่มอีกรอบ อิ่มแล้วอิ่มอีก แต่ก็นั่นแหละค่ะ จะได้พร้อมทำงานทันทีที่ถึงจุดหมายปลายทาง หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ตัดภาพมาที่การเดินทางกลับ ..ขากลับก็ใช้ route บินแบบเดิมค่ะ แต่ตอนบินจากเจนีวา ไป แฟรงเฟิร์ตนั้น เป็นการดำเนินงานโดย Swiss Air
บินตอนค่ำหน่อย เครื่องลำเล็กออกจากเจนีวาตรงตามเวลา
มีน้ำดื่มเย็นชื่นใจ คลับแซนวิช และ ช็อคโกเลต บริการ ที่ชอบมากคือ คุณกัปตันออกมายืนโชว์ตัว ตรงหน้าห้องโดยสาร แนะนำตัวก่อนจะเดินทางด้วยละ
ส่วนเที่ยวบินจากแฟรงเฟิร์ตกลับสุวรรณภูมิยังเป็นเครื่อง A83-800 ของ Lufthansa เหมือนเดิม
Appetizers ของมื้อค่ำขากลับจากแฟรงเฟิร์ต
อาหารเช้าก่อนเครื่องลงที่สุวรรณภูมิ จขกท ติดซองโกโก้จากสวิสมาขอให้พนักงานช่วยเติมน้ำร้อนให้ค่ะ
โดยรวมรู้สึกประทับใจสายการบินนี้พอสมควรเลย กัปตันและลูกเรือพูดจาสุภาพ ชัดถ้อยชัดคำเวลาประกาศอะไรบนเครื่อง ฟังง่ายกว่าหลายสายการบิน เชื่อว่าหลายท่านที่เคยใช้บริการน่าจะประทับใจไม่แพ้กัน เอามาเล่าสู่กันฟังไว้เผื่อท่านใดมีแผนการเดินทางและเลือกพิจารณาสายการบินอยู่ค่ะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ