ส่วนตัวผมว่ามันดูน่าเหลือเชื่อเกินไปครับที่จะ ตัดครึ่ง เลยใน episode แรก เห้ย คุณยังไม่ได้เห็นฝีมือเค้าอย่างแท้จริงเลยนะ
คุณอาจจะบอกว่า เอ้านั่นมันคือการแข่งขันของระดับมืออาชีพ ก็ต้องโหดอยู่แล้ว
ผมว่า ถ้าคิดแบบนั้น นี่จะเป็นเกมที่ไร้มาตรฐานมากครับ
1. วัตถุดิบไม่เหมือนกัน
ผมว่ามันโอเคนะถ้าจะแข่งต่างวัตถุดิบ แต่มันควรเป็นรอบหลังไง (รอบหลังใน EP เดียวกัน) สังเกตดูสิครับ ใน another seasons of MasterChef สิทธิ์ที่จะเลือกอะไรให้คนอื่นคือสิทธิ์จากคนทำจานดีสุดของรอบแรก แม้แต่ใน Iron Chef ก็ด้วย
วัตถุดิบต่างกัน มันมีความยากง่ายที่ต่างกันอย่างแน่นอนครับ จะเกินไปนะถ้าใช้แบบนี้ในการตัดครึ่ง
รอบแรก ทุกคนควรใช้วัตถุดิบเดียวกันเพื่อหา คนเก่งที่สุดที่แท้จริง ก่อนครับ
2. แข่งกันแค่เป็นคู่
ตามแบบข้อ 1 เลย มันก็จะโอเคกว่านะถ้าใช้วัตถุดิบเดียวกัน
แต่ทำแบบนี้ก็มีการเพิ่มเติมในการไร้มาตรฐานครับ
คนแพ้ทีม A อาจจะดีกว่า คนชนะทีม B ก็ได้ ถูกมั้ยล่ะครับ แล้วงั้นใครกันแน่คือคนที่ทำดีที่สุด 10 คน แบบแท้จริง
3. ประสบการณ์ในห้องครัวไม่พอ
ไม่ว่าคุณจะเป็นเชฟมืออาชีพแค่ไหน คุณก็ต้องเรียนรู้ห้องครัวในต่างที่ครับ
พูดในฐานะของคนนึงที่ทำของหวานมามากระดับหนึ่ง อุปกรณ์ทำอาหารแต่ละยี่ห้อ มีเอกลักษณ์ของตัวเองครับ โดยเฉพาะ Oven
ปรับอุณหภูมิเดียวกัน แต่ยี่ห้อ A ร้อนกว่ายี่ห้อ B นี่คือเรื่องปกตินะครับ
ประเด็นนี้ แม้แต่เหล่าคณะกรรมการก็เคยพูดถึงบ่อยๆ นะ
แม้จะเคยแข่ง แต่มันก็คงจำไม่ได้ขนาดนั้นหรอกน่า
ดูอย่าง พี่ลัท เจ้าแม่ขนมหวานยังทำแป้งมิลเฟยไหม้ ผมว่าไม่แปลกอะ
ผมก็คิดอยู่ตลอดเลยว่า ไม่ออกหรอก กรรมการแค่เล่นสนุก
สิ่งที่ทำให้มั่นใจมากขึ้นคือ คำพูดป้าป้อมในตอนท้าย ป้าดูตอกย้ำคนที่ทำแย่กว่าอีกคนในคู่ เหลือเกิน แทนที่จะปลอบ เป็นการเล่นกับ emotions ที่ดีนะ
โหดดีผมชอบ 55555
แล้วก็เป็นไปตามคาด ไม่มีใครออกเลยซักคนจริงๆ
ขอชื่นชมจากใจ ผมชอบใน ideas คนวางเกมมากๆ นะ
ด้วยความที่คุณเอาคนจากต่าง seasons มาเจอกัน
แน่นอนว่าในช่วงแรกๆพวกเค้าก็จะสนิทแค่กับ season เดียวกัน
ให้แข่งทีม ก็ยังไงอยู่ อีกอย่าง ในทีมจะมีเพื่อน season ตัวเอง สุดท้ายก็จะเป็นการจับกลุ่มคุยกับคนที่ตัวเองสนิท เกิดช่องว่างใน communication
แต่แข่งคู่ โอกาสตั้ง 67% ที่คุณจะเจอเพื่อนจาก season อื่น
อาจจะบอกว่า เห้ยนี่คือการแข่งขันแบบ 2 ตัด 1 นะ ยังไงคู่ที่มาก็ต้องอยากให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้ไป
ในความเป็นจริงผมว่าเค้าไม่เป็น antagonists กันระดับนั้นหรอก
ยังไงแม้สถานการณ์บังคับแค่ไหน ก็เกิดการพูดคุยกัน ปลอบใจกัน อยู่ดี
MasterChef All Stars ถือเป็นเกียรติอย่างสูง คนแข่งจะอยากรู้จักกัน
ยิ่งในช่วงแรกสุดมันมี motivations ในการไปรู้จักทุกคน
สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครอิกซักคน แต่ได้ การกระชับมิตรที่ดีมากๆ
ทีมงานครับ สำหรับผมแล้ว ผมว่าคุณเป็น มืออาชีพ มากนะ
MasterChef All Stars Thailand มีใครมองออกแต่แรกเหมือนผมบ้างครับว่า จะไม่มีใครออกเลยซักคนจริงๆ
คุณอาจจะบอกว่า เอ้านั่นมันคือการแข่งขันของระดับมืออาชีพ ก็ต้องโหดอยู่แล้ว
ผมว่า ถ้าคิดแบบนั้น นี่จะเป็นเกมที่ไร้มาตรฐานมากครับ
1. วัตถุดิบไม่เหมือนกัน
ผมว่ามันโอเคนะถ้าจะแข่งต่างวัตถุดิบ แต่มันควรเป็นรอบหลังไง (รอบหลังใน EP เดียวกัน) สังเกตดูสิครับ ใน another seasons of MasterChef สิทธิ์ที่จะเลือกอะไรให้คนอื่นคือสิทธิ์จากคนทำจานดีสุดของรอบแรก แม้แต่ใน Iron Chef ก็ด้วย
วัตถุดิบต่างกัน มันมีความยากง่ายที่ต่างกันอย่างแน่นอนครับ จะเกินไปนะถ้าใช้แบบนี้ในการตัดครึ่ง
รอบแรก ทุกคนควรใช้วัตถุดิบเดียวกันเพื่อหา คนเก่งที่สุดที่แท้จริง ก่อนครับ
2. แข่งกันแค่เป็นคู่
ตามแบบข้อ 1 เลย มันก็จะโอเคกว่านะถ้าใช้วัตถุดิบเดียวกัน
แต่ทำแบบนี้ก็มีการเพิ่มเติมในการไร้มาตรฐานครับ
คนแพ้ทีม A อาจจะดีกว่า คนชนะทีม B ก็ได้ ถูกมั้ยล่ะครับ แล้วงั้นใครกันแน่คือคนที่ทำดีที่สุด 10 คน แบบแท้จริง
3. ประสบการณ์ในห้องครัวไม่พอ
ไม่ว่าคุณจะเป็นเชฟมืออาชีพแค่ไหน คุณก็ต้องเรียนรู้ห้องครัวในต่างที่ครับ
พูดในฐานะของคนนึงที่ทำของหวานมามากระดับหนึ่ง อุปกรณ์ทำอาหารแต่ละยี่ห้อ มีเอกลักษณ์ของตัวเองครับ โดยเฉพาะ Oven
ปรับอุณหภูมิเดียวกัน แต่ยี่ห้อ A ร้อนกว่ายี่ห้อ B นี่คือเรื่องปกตินะครับ
ประเด็นนี้ แม้แต่เหล่าคณะกรรมการก็เคยพูดถึงบ่อยๆ นะ
แม้จะเคยแข่ง แต่มันก็คงจำไม่ได้ขนาดนั้นหรอกน่า
ดูอย่าง พี่ลัท เจ้าแม่ขนมหวานยังทำแป้งมิลเฟยไหม้ ผมว่าไม่แปลกอะ
ผมก็คิดอยู่ตลอดเลยว่า ไม่ออกหรอก กรรมการแค่เล่นสนุก
สิ่งที่ทำให้มั่นใจมากขึ้นคือ คำพูดป้าป้อมในตอนท้าย ป้าดูตอกย้ำคนที่ทำแย่กว่าอีกคนในคู่ เหลือเกิน แทนที่จะปลอบ เป็นการเล่นกับ emotions ที่ดีนะ
โหดดีผมชอบ 55555
แล้วก็เป็นไปตามคาด ไม่มีใครออกเลยซักคนจริงๆ
ขอชื่นชมจากใจ ผมชอบใน ideas คนวางเกมมากๆ นะ
ด้วยความที่คุณเอาคนจากต่าง seasons มาเจอกัน
แน่นอนว่าในช่วงแรกๆพวกเค้าก็จะสนิทแค่กับ season เดียวกัน
ให้แข่งทีม ก็ยังไงอยู่ อีกอย่าง ในทีมจะมีเพื่อน season ตัวเอง สุดท้ายก็จะเป็นการจับกลุ่มคุยกับคนที่ตัวเองสนิท เกิดช่องว่างใน communication
แต่แข่งคู่ โอกาสตั้ง 67% ที่คุณจะเจอเพื่อนจาก season อื่น
อาจจะบอกว่า เห้ยนี่คือการแข่งขันแบบ 2 ตัด 1 นะ ยังไงคู่ที่มาก็ต้องอยากให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้ไป
ในความเป็นจริงผมว่าเค้าไม่เป็น antagonists กันระดับนั้นหรอก
ยังไงแม้สถานการณ์บังคับแค่ไหน ก็เกิดการพูดคุยกัน ปลอบใจกัน อยู่ดี
MasterChef All Stars ถือเป็นเกียรติอย่างสูง คนแข่งจะอยากรู้จักกัน
ยิ่งในช่วงแรกสุดมันมี motivations ในการไปรู้จักทุกคน
สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครอิกซักคน แต่ได้ การกระชับมิตรที่ดีมากๆ
ทีมงานครับ สำหรับผมแล้ว ผมว่าคุณเป็น มืออาชีพ มากนะ