ก็รู้สึกว่าราชดำเนินพันทิป เป็นบางรักพันทิปไปแล้วแค่นั้น นอกน้ั้นต้องทำใจ คิดเสียว่าพวกเค้าคงหมดปัญญาแล้วเท่านั้น

กระทู้สนทนา
พันทิปก็มีไว้ให้คนได้ระบายความคิดที่เค้ามีต่อเรื่องต่าง ๆ
เราก็ควรเคารพจุดยืนตรงนี้ของพันทิป
พันทิปจะพัฒนาจนเกินคำว่าศาลาคนเศร้าได้
ก็ต้องอาศัยคนหายเศร้า
เหมือนกับการพัฒนาประเทศละ
ต่อให้ทำสารพัดวิธีเพื่อปรับปรุงคน
ถ้าคนไม่สามารถพัฒนาตนเอง
ลงท้ายก็ต้องพัฒนาต่อไป
ไม่ว่าจะเสียที่คนเหล่านั้นเองหรือไม่
ทำมันต่อไป
ต่อให้รุ่นเราพัฒนาได้หมด
มันก็ยังจะมีรุ่นใหม่ ๆ มาเรื่อย ๆตามกาลเวลาที่จะวิ่งเข้ามาไม่มีทางหมด
ตอนนี้เป็นหน้าที่ของรุ่นเรา
เราก็ช่วยกันทำกันไปจนตายจากนะละ
หน้าที่พลเมืองไทย
ไม่ได้จำกัดเวลาเกษียณเหมือนงานอื่นดอก
เป็นตั้งแต่เกิดยันตาย
https://www.naewna.com/politic/columnist/42927

กวนน้ำให้ใส
สารส้มวันพุธ ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 02.00 น.
พวก ‘หมากินสมอง’ หยามเหยียดประเทศชาติของตนเอง
คนไทยบางจำพวก มันมีอยู่ชีวิตด้วยความคับแค้น คับข้องหมองใจ

อาจด้วยปมชีวิตมันไร้ค่า อาจมีปัญหาในครอบครัว แล้วพาลมาลงเอากับสังคมประเทศไทยโดยรวม ว่าเป็นตัวการทำให้ชีวิตของมันล้มเหลว หรือเกิดปัญหาทุกอย่าง (มักง่าย)
มันจึงไม่เคยเห็น “คุณค่า” หรือ “ความสำเร็จ” ของประเทศไทย
คนพวกนี้ คือ พวกที่กำลังใช้ข่าวปลอม เฟคนิวส์ โจมตีรายวันว่าประเทศไทยมีคนตายเพราะไวรัสอู่ฮั่นอย่างนั้นอย่างนี้ ที่นั่นที่นี่ ฯลฯ
หมอไทยพบวิธีรักษา ก็รีบออกมาด้อยค่าว่า ลอกคนอื่นมา
คนไทย-จีนให้กำลังใจกันละกัน คนพวกนี้ก็จะโจมตีว่าไทยเป็นเมืองขึ้นของจีน
เรียกร้องให้ปิดประเทศไม่รับคนจีน พอทัวร์จีนหาย ก็โทษรัฐบาลไทย
เอาเครื่องบินแอร์เอเชียไปรับคนไทยในอู่ฮั่น คนพวกนี้ก็จะโจมตีว่าทำไมไม่ใช้เครื่องบินการบินไทย โดยไม่ยอมเปิดกะโหลกกะลาว่าแอร์เอเชียเขาได้รับใบอนุญาตบินตรงสนามบินอู่ฮั่นอย่างไรบ้าง
เอาคนไทยจากอู่ฮั่นกลับมาดูแลในเขตฐานทัพเรือสัตหีบ ก็โจมตีว่าวิธีแบบเผด็จการทหาร มันไม่ลืมหูลืมตาว่า สหรัฐ อังกฤษ และอีกเกือบทุกประเทศล้วนแต่ใช้พื้นที่ทหารทั้งนั้น เพราะเอื้ออำนวย และประสิทธิภาพในการดูแล
ผู้ทรงคุณวุฒิทางการสาธารณสุขระดับโลกชื่นชมไทยในการรับมือกับไวรัสอู่ฮั่น คนพวกนี้ไม่สนใจ แต่กลับไปเชื่อเกรียนคีย์บอร์ดที่อุปโลกน์ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ตัวจริงเป็นใครก็ไม่รู้ เรียนอะไรมาก็ไม่รู้ ผ่านงานอะไรสำเร็จมาบ้างก็ไม่มี ไร้ความน่าเชื่อถือใดๆ ในโลกความจริง
แต่พอมีข่าวอะไรก็ตาม ที่สามารถลากมาดิสเครดิตประเทศไทยได้ คนพวกนี้ก็จะ “งับ” ทันที
1. ล่าสุด รายงานข่าวว่า เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อ “ไวรัสโคโรนา” หลังเดินทางกลับจากไทย
คนพวกนี้ก็เอาเรื่องนี้มาดิสเครดิตประเทศตัวเองกันสนุกปาก เหลือเชื่อมาก
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กรณีข่าวดังกล่าวอาจจะต้องวินิจฉัยให้ละเอียดมากกว่านี้ เพราะยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าการเดินทางกลับจากประเทศไทย หมายความว่าติดเชื้อภายในประเทศไทยหรือไม่
เนื่องจากเชื้อมีเวลาในการฟักตัว 14 วัน ตลอดระยะเวลา 14 วันนักท่องเที่ยวคนนี้เดินทางไปที่ไหนมาก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือติดจากบนเครื่องบินก็อาจเป็นไปได้
นพ.ยงยืนยันว่า การพบผู้ป่วยในประเทศไทยสะสมจำนวน 19 ราย ซึ่งเป็นอันดับที่ 3 รองจากประเทศญี่ปุ่น และจีนนั้น ถือว่าสะท้อนถึงศักยภาพในการตรวจคัดกรองโรค เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเลยที่อาจจะไม่มีคุณภาพในการคัดกรองหรือการตรวจวินิจฉัยโรคที่ดีเพียงพอ
คาดว่าช่วงของการแพร่ระบาด หรือ out break จะพีคต่อเนื่องไป เมื่อมีผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้นก็จะเกิดภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ จนทำให้เชื้อโรคสงบลง เหมือนอย่างโรคระบาดอื่นๆที่เคยแพร่เข้ามาในอดีต
2. ศ.นพ.ยง ให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา แนวโน้มการระบาดของโรคปอดบวม อู่ฮั่น โคโรนาไวรัส ยังเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวในทุก 6-7 วัน การเพิ่มขึ้นจึงเป็นแบบเอกซ์โพเนนเชียล และพบนอกประเทศจีนกว่า 25 ประเทศ
การระบาดรวดเร็วกว่า SARS หลายเท่าตัว เพราะผู้ป่วยที่มีอาการน้อย เป็นจำนวนมากไม่ได้รับการวินิจฉัย ยอดการติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงเป็นการยากที่จะติดตามผู้สัมผัสได้ทั้งหมด 
สำหรับประเทศไทย จะต้อง delay ด้วยการป้องกัน ไม่ให้เกิดการติดเชื้อรายใหม่ให้ได้มากที่สุด
โชคดีของประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อน โรคทางเดินหายใจ ก็จะพบน้อยลงอย่างมาก ทำให้พอมีเวลา เตรียมเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน การระบาดจะเป็นไปได้ง่ายมาก เหมือนโรคทางเดินหายใจที่จะมีมากในฤดูฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
ตัวเลขที่พบผู้ป่วยติดเชื้อ ที่เพิ่มขึ้นนอกประเทศจีน จะเห็นว่าประเทศไทย ญี่ปุ่น เกาหลี อยู่ในลำดับต้นๆ ตัวเลขเป็นเพียงบ่งบอกว่า ประเทศดังกล่าวมีระบบการตรวจสอบที่ดี สามารถวินิจฉัยแต่เริ่มแรกและเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรค ไม่ควรจะไปยึดถือตัวเลข 
ขณะนี้ที่เป็นห่วงอย่างมาก คือประเทศที่มีกระบวนการตรวจสอบหรือควบคุมได้น้อย ถ้าเกิดเป็นจุดระบาดใหม่ที่มีขนาดใหญ่ จะยิ่งยากต่อการควบคุม 
ดังนั้น ทุกประเทศในโลกนี้ จะต้องช่วยกันประสานมือร่วมกัน ทั้งประเทศที่มีความสามารถ และมีความสามารถน้อย และทุกคนในโลกเรานี้ ก็ต้องช่วยกันทุกคน จึงจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้
3. หากมองถึงระดับมาตรฐานความพร้อมที่จะรับมือกับโรคระบาดก็จะพบว่า ประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่แนวหน้าของโลก อยู่อันดับหนึ่งของเอเชีย
เรื่องแบบนี้ คนบางจำพวกจะไม่ชอบ แต่มันคือความจริง
ขออนุญาตเผยแพร่รายงานพิเศษของ VOA เรื่อง “ดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพชี้ความพร้อมรับมือโรคระบาดของไทยอยู่ในแถวหน้าของโลก” สรุปอย่างชัดเจน ระบุว่า
“ดัชนีความมั่นคงด้านสาธารณสุข หรือ Global Health Security Index (GHS Index) ซึ่งเป็นการประเมินความพร้อมของนานาประเทศทั่วโลกในการรับมือโรคระบาด จัดให้ประเทศไทยมีความพร้อมสูงเป็นอันดับที่ 6ของโลก และเป็นประเทศที่พร้อมที่สุดในเอเชียที่จะรับมือกับการระบาดของโรคร้าย
…รายงาน GHS Index โดยทีมนักวิจัยโครงการ Nuclear Threat Initiative มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์ และ The Economist Intelligence Unit ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของนิตยสาร The Economist ได้ชื่อว่าเป็นการประเมินสถานะความมั่นคงด้านสุขภาพโลกที่ครอบคลุมที่สุดฉบับแรก
รายงานนี้ ที่เผยแพร่สู่สาธารณะตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องใน 195 ประเทศ และวิเคราะห์ปัจจัยที่สำคัญ 6 ปัจจัย อันได้แก่ การป้องกัน การตรวจจับและรายงาน ความรวดเร็วในการโต้ตอบและรับมือ ระบบสาธารณสุข มาตรฐานการปฏิบัติตามบรรทัดฐานโลก และความเสี่ยงต่างๆ
รายงานแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีคะแนนสูงเป็นอันดับที่ 6 ด้วยคะแนน 75.5 จาก 100 คะแนน และเป็นประเทศกำลังพัฒนาหนึ่งเดียวใน
15 ประเทศ ที่มีการเตรียมพร้อมด้านความมั่นคงทางสุขภาพสูงสุด 15 อันดับซึ่งนำโดย สหรัฐอเมริกา ตามมาด้วย สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และแคนาดา
เมื่อแบ่งตามปัจจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์ ประเทศไทยได้คะแนนสูงสุดในด้านการตรวจจับและรายงาน ที่ 81 คะแนน ขณะที่คะแนนด้านความเสี่ยงต่างๆ อยู่ในระดับต่ำ ที่ 56.4”
4. น่าสงสัยมาก ว่าคนจำพวกที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น สภาพจิตมันเป็นอย่างไร?
จัดได้ว่าเป็นคนจำพวก “หมากินสมอง” ไปแล้ว ได้หรือไม่?
สารส้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่