เป็นหนังอีกเรื่องที่นำเอาเรื่องราวคดีฟ้องร้องเคสจริงมาตีแผ่ให้เป็นหนัง แค่ชื่อนักแสดงหญิงที่อยู่ใน OSCAR นอมินีลิสต์ทั้งสามคนที่มารับบทนำอย่าง ชาร์ลิซ เธอรอน, นิโคล คิดแมน, มาร์โกต์ ร็อบบี้ ก็ซู๊ดปากแล้ว เรื่องนี้ต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่นอน บวกกับเนื้อหาหนังที่เปิดโปงวงการสื่อยักษ์ใหญ่ของอเมริกาด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความน่าดูให้กับหนังอย่างมากมาย หนังอาจจะดูเงียบๆ ไม่ได้โปรโมทอะไรมากในเมืองไทย แต่กลับมีกระแสคนรอดูหนังเรื่องนี้และพูดถึงเป็นวงกว้าง คิดว่าหนังน่าจะมีอะไรจากวงในมาแฉและเพิ่มเติมรสชาติให้สนุกเข้มข้นขึ้นกว่าเรื่องจริง
Bombshell สร้างมาจากเรื่องจริงของคดีสุดอื้อฉาววงการสื่อโทรทัศน์ เมื่อหญิงสาวสามคนผู้เป็นพิธีกรและผู้ประกาศสาว “เมกิน เคลลี” (ชาร์ลิซ เธอรอน), “เกรตเชน คาร์ลสัน” (นิโคล คิดแมน), “เคย์ลา พอสพิซิล” (มาร์โกต์ ร็อบบี้) ถูกคุกคามทางเพศจาก “โรเจอร์ ไอล์ส” (จอห์น ลิธโกว์) เจ้าพ่อวงการข่าวผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ Fox News นำไปสู่การที่พวกเธอต้องร่วมมือกันเพื่อแฉและเปิดโปงเบื้องลึกของการกระทำนี้ให้ถึงที่สุด!
ฉากหน้าของหนังเหมือนจะเล่าถึงความเก่งกาจของนักข่าวสาวที่ไต่เต้าขึ้นมาจนได้เป็นแถวหน้าของวงการให้เรารู้จักตัวละครแต่ละตัวละครที่ชูความเป็นหญิงแกร่ง ก่อนที่จะเริ่มค่อยๆ แฉเบื้องลึกเบื้องหลังความย่ำแย่ของวงการที่มีแต่เรื่องของการถูกคุกคามทางเพศโดยคนที่มีอำนาจออก่มาเรื่อยๆ ตั้งแต่เจ้าพ่อสื่อไปจนถึงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เลยทีเดียว ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของหนัง เราอาจต้องใช้สมาธิในการดูเยอะหน่อย เพราะไดอะล็อกคำพูดเยอะมากจนถ้าเผลอนิดเดียวอาจจะหลุดใจความสำคัญไปได้เลย หนังในช่วงแรกจะพูดถึงความโดดเด่นของ เมกิน มากกว่า บวกกับการไม่ลงรอยกันกับขั้วอำนาจสื่อของ เกรตเชน ซึ่งทั้งสองคนนี้มีส่วนโดยตรงกับการเปิดโปง โรเจอร์ มากที่สุด
แต่พอหนังดำเนินมาได้ถึงช่วงครึ่งหลัง หนังเริ่มใส่ความเป็น Feminist เข้ามาเต็มๆ โดยค่อยๆ มีการสืบสาวราวเรื่องและเปิดโปงวิธีการที่ผู้หญิงทุกคนถูกกระทำ ครึ่งหลังนี้แหละเป็นอะไรที่เข้มข้นและสะเทือนใจมากๆ ในช่วงครึ่งหลัง คนที่โดดเด่นขึ้นมา กลับเป็น เคย์ลา ที่รับบทโดย มาร์โกต์ ร็อบบี้ และ มาร์โกต์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ฉากที่เธอระบายอารมณ์ออกมา เป็นฉากที่คนดูทุกคนเหมือนโดนหนังตบหน้าจนหูดับไปเลย เป็นฉากที่สามารถทำให้คนดูสะอึกและอึนไปได้หลายนาที ถึงแม้ว่าเราจะรู้แล้วว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวละครนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสะเทือนใจไปกับสิ่งที่เธอโดนกระทำ
หนังเรื่องนี้นักแสดงที่โดดเด่นคือสามคนที่ว่า คนที่ผมชอบที่สุด คือ มาร์โกต์ ร็อบบี้ ในบท เคย์ลา ถึงจะเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีตัวตนจริง ถูกเสริมแต่งขึ้นมาเพื่อความเข้มข้น แต่เป็นบทที่เป็นเหมือนจุดบ่งชี้ชัดให้กับรูปคดีที่หนังกำลังตามหาอยู่ และ มาร์โกต์ ก็ทำได้ดีมากๆ โดยเฉพาะฉากที่ว่า คนที่สองที่ผมชอบคือ ชาร์ลิซ เธอรอน ในบท เมกิน เคลลี ซึ่งคนนี้มีตัวตนจริงในคดีเขย่าวงการ เป็นตัวละครที่ยืนอยู่ระหว่างความคาบเกี่ยวของตัวเลือกสองอย่างคือ หน้าที่การงาน และความถูกต้อง ซึ่งกลายเป็นจุดหักเหหลักของหนังที่ทำให้รูปคดีชัดเจนขึ้นมาก ส่วนอีกคนคือ นิโคล คิดแมน ในบท เกรตเชน สำหรัยผมถือว่าบทนี้น้อยเกินไป เพราะเป็นคนจุดชนวนไฟของคดีใหญ่ขนาดนี้ แต่บทกลับมีแค่ในตอนที่นั่งคุยกับทนายฟ้องร้อง ที่เหลือคือเหมือนแค่เป็นองค์ประกอบของหนังเท่านั้น น่าจะให้ความสำคัญกับตัวละครอีกสักหน่อย ตัวละครนอกเหนืแจากนี้ ก็จะมีอีกหลายคนมากที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของคดี แต่ก็จะเกลี่ยๆ ความสำคัญกันไป ไม่ได้ถึงกับโดดเด่นมากมาย
หนังอาจจะไม่ได้แมสมากถึงขั้นว่าทุกคนต้องดูแล้วสนุก แต่ถามว่าหนังน่าดูมั๊ย ต้องบอกว่า ด้วยความเข้มข้นทางด้านดราม่าของตัวหนังเอง ถือว่าหนังทำออกมาได้ดีเกินความคาดหมายจริงๆ บวกกับการที่ได้นักแสดงที่ 2 ใน 3 คนมีรางวัล OSCAR ติดตัวมาแล้วด้วย สำหรับผมถือว่าคุ้มแล้วที่จะดู และทั้งสามคนนี้ก็ปล่อยพลังออกมาได้ดีมากๆ อาจจะเสียดายตรงที่บทของ นิโคล คิดแมน ดูไม่เด่นเท่าอีกสองคนก็ตาม แนะนำให้ดูครับ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
ขอขอบคุณรอบสื่อดีๆ จาก MONGKOL MAJOR ด้วยครับ
[SR] [#Review] Bombshell แฉกระฉ่อนโลก - หนังดราม่าดุเดือดที่แฉเบื้องหลังเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศของเจ้าพ่อสื่อยักษ์ใหญ่
เป็นหนังอีกเรื่องที่นำเอาเรื่องราวคดีฟ้องร้องเคสจริงมาตีแผ่ให้เป็นหนัง แค่ชื่อนักแสดงหญิงที่อยู่ใน OSCAR นอมินีลิสต์ทั้งสามคนที่มารับบทนำอย่าง ชาร์ลิซ เธอรอน, นิโคล คิดแมน, มาร์โกต์ ร็อบบี้ ก็ซู๊ดปากแล้ว เรื่องนี้ต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่นอน บวกกับเนื้อหาหนังที่เปิดโปงวงการสื่อยักษ์ใหญ่ของอเมริกาด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความน่าดูให้กับหนังอย่างมากมาย หนังอาจจะดูเงียบๆ ไม่ได้โปรโมทอะไรมากในเมืองไทย แต่กลับมีกระแสคนรอดูหนังเรื่องนี้และพูดถึงเป็นวงกว้าง คิดว่าหนังน่าจะมีอะไรจากวงในมาแฉและเพิ่มเติมรสชาติให้สนุกเข้มข้นขึ้นกว่าเรื่องจริง
Bombshell สร้างมาจากเรื่องจริงของคดีสุดอื้อฉาววงการสื่อโทรทัศน์ เมื่อหญิงสาวสามคนผู้เป็นพิธีกรและผู้ประกาศสาว “เมกิน เคลลี” (ชาร์ลิซ เธอรอน), “เกรตเชน คาร์ลสัน” (นิโคล คิดแมน), “เคย์ลา พอสพิซิล” (มาร์โกต์ ร็อบบี้) ถูกคุกคามทางเพศจาก “โรเจอร์ ไอล์ส” (จอห์น ลิธโกว์) เจ้าพ่อวงการข่าวผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ Fox News นำไปสู่การที่พวกเธอต้องร่วมมือกันเพื่อแฉและเปิดโปงเบื้องลึกของการกระทำนี้ให้ถึงที่สุด!
ฉากหน้าของหนังเหมือนจะเล่าถึงความเก่งกาจของนักข่าวสาวที่ไต่เต้าขึ้นมาจนได้เป็นแถวหน้าของวงการให้เรารู้จักตัวละครแต่ละตัวละครที่ชูความเป็นหญิงแกร่ง ก่อนที่จะเริ่มค่อยๆ แฉเบื้องลึกเบื้องหลังความย่ำแย่ของวงการที่มีแต่เรื่องของการถูกคุกคามทางเพศโดยคนที่มีอำนาจออก่มาเรื่อยๆ ตั้งแต่เจ้าพ่อสื่อไปจนถึงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เลยทีเดียว ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของหนัง เราอาจต้องใช้สมาธิในการดูเยอะหน่อย เพราะไดอะล็อกคำพูดเยอะมากจนถ้าเผลอนิดเดียวอาจจะหลุดใจความสำคัญไปได้เลย หนังในช่วงแรกจะพูดถึงความโดดเด่นของ เมกิน มากกว่า บวกกับการไม่ลงรอยกันกับขั้วอำนาจสื่อของ เกรตเชน ซึ่งทั้งสองคนนี้มีส่วนโดยตรงกับการเปิดโปง โรเจอร์ มากที่สุด
แต่พอหนังดำเนินมาได้ถึงช่วงครึ่งหลัง หนังเริ่มใส่ความเป็น Feminist เข้ามาเต็มๆ โดยค่อยๆ มีการสืบสาวราวเรื่องและเปิดโปงวิธีการที่ผู้หญิงทุกคนถูกกระทำ ครึ่งหลังนี้แหละเป็นอะไรที่เข้มข้นและสะเทือนใจมากๆ ในช่วงครึ่งหลัง คนที่โดดเด่นขึ้นมา กลับเป็น เคย์ลา ที่รับบทโดย มาร์โกต์ ร็อบบี้ และ มาร์โกต์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ฉากที่เธอระบายอารมณ์ออกมา เป็นฉากที่คนดูทุกคนเหมือนโดนหนังตบหน้าจนหูดับไปเลย เป็นฉากที่สามารถทำให้คนดูสะอึกและอึนไปได้หลายนาที ถึงแม้ว่าเราจะรู้แล้วว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวละครนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสะเทือนใจไปกับสิ่งที่เธอโดนกระทำ
หนังเรื่องนี้นักแสดงที่โดดเด่นคือสามคนที่ว่า คนที่ผมชอบที่สุด คือ มาร์โกต์ ร็อบบี้ ในบท เคย์ลา ถึงจะเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีตัวตนจริง ถูกเสริมแต่งขึ้นมาเพื่อความเข้มข้น แต่เป็นบทที่เป็นเหมือนจุดบ่งชี้ชัดให้กับรูปคดีที่หนังกำลังตามหาอยู่ และ มาร์โกต์ ก็ทำได้ดีมากๆ โดยเฉพาะฉากที่ว่า คนที่สองที่ผมชอบคือ ชาร์ลิซ เธอรอน ในบท เมกิน เคลลี ซึ่งคนนี้มีตัวตนจริงในคดีเขย่าวงการ เป็นตัวละครที่ยืนอยู่ระหว่างความคาบเกี่ยวของตัวเลือกสองอย่างคือ หน้าที่การงาน และความถูกต้อง ซึ่งกลายเป็นจุดหักเหหลักของหนังที่ทำให้รูปคดีชัดเจนขึ้นมาก ส่วนอีกคนคือ นิโคล คิดแมน ในบท เกรตเชน สำหรัยผมถือว่าบทนี้น้อยเกินไป เพราะเป็นคนจุดชนวนไฟของคดีใหญ่ขนาดนี้ แต่บทกลับมีแค่ในตอนที่นั่งคุยกับทนายฟ้องร้อง ที่เหลือคือเหมือนแค่เป็นองค์ประกอบของหนังเท่านั้น น่าจะให้ความสำคัญกับตัวละครอีกสักหน่อย ตัวละครนอกเหนืแจากนี้ ก็จะมีอีกหลายคนมากที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของคดี แต่ก็จะเกลี่ยๆ ความสำคัญกันไป ไม่ได้ถึงกับโดดเด่นมากมาย
หนังอาจจะไม่ได้แมสมากถึงขั้นว่าทุกคนต้องดูแล้วสนุก แต่ถามว่าหนังน่าดูมั๊ย ต้องบอกว่า ด้วยความเข้มข้นทางด้านดราม่าของตัวหนังเอง ถือว่าหนังทำออกมาได้ดีเกินความคาดหมายจริงๆ บวกกับการที่ได้นักแสดงที่ 2 ใน 3 คนมีรางวัล OSCAR ติดตัวมาแล้วด้วย สำหรับผมถือว่าคุ้มแล้วที่จะดู และทั้งสามคนนี้ก็ปล่อยพลังออกมาได้ดีมากๆ อาจจะเสียดายตรงที่บทของ นิโคล คิดแมน ดูไม่เด่นเท่าอีกสองคนก็ตาม แนะนำให้ดูครับ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
ขอขอบคุณรอบสื่อดีๆ จาก MONGKOL MAJOR ด้วยครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม