ในรอบปีนี้ที่จะผ่านพ้นไป วงการโทรทัศน์ไทยโดยรวมแล้วดูเหมือนจะยังไม่คึกคักเท่าที่ควร ข่าวที่ออกมาส่วนมากมักเป็นสิ่งอันน่าหดหู่ที่คนดูทีวีอย่างเราต้องปรับตัว

โดยเฉพาะช่วงก่อนสิ้นปี ซึ่งสถานีทุกช่องจะต้องแถลงนโยบายพร้อมผังรายการสำหรับปีหน้าให้คนดูเตรียมเฮ แต่งวดนี้กลับกลายเป็นว่าเงียบเหงา จะมีเพียงไม่กี่ช่องที่แถลงกันอย่างเอิกเกริก ส่งผลงานใหม่ ๆ เตรียมลงจอเป็นกะตั๊ก อย่างเช่น MONO29 

หากย้อนไปตั้งแต่ต้นปีก็มีข่าวที่ช็อกวงการทีวีเช่นกันเริ่มจากการถอนยวงรายการเช่าเวลาของกันตนาออกจากช่อง 7 อันได้แก่ คดีเด็ด เรื่องจริงผ่านจอ และพิภพมัจจุราช ไปออนแอร์ทางช่อง 3 แทน

ข่าวการสูญเสียคนทีวีก็หนีไม่พ้นเช่นทุกปี ไล่ตั้งแต่รุ่นเก๋าอย่าง พ่อครูสมณะโพธิรักษ์  บรรเจิดศรี ยมาภัย  โฉมฉาย ฉัตรวิไล  ฉลอง ภักดีวิจิตร  อ.วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์  อานนท์ สุวรรณเครือ  พล.ต.ประพาศ ศกุนตนาค ยันดาราระดับตัวเอกอย่าง เมฆ วินัย  อ๋อม อรรคพันธ์  หญิง จุฬาลักษณ์  และ เบียร์ สรณัฐ รวมถึงผู้ประกาศข่าว ดร.มนัส ตั้งสุข และ จักรพันธุ์ ยมจินดา

ปีนี้มีรายการสำคัญระดับเก่าแก่จำต้องลาจอไปด้วยเหตุผลที่ว่า...จะทนอยู่ต่อให้ไหวทำไม? นั่นคือรายการ "ตีสิบ" ของ วิทวัส สุนทรวิเนตร์ ที่ครองจอช่อง 3 นานถึง 27 ปี ส่วนที่ลาจอแบบเงียบ ๆ ก็คือรายการรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง สบาย สไตล์ มยุรา ของเจ๊ตั๊กนั่นเอง

ส่งท้ายด้วยภาวะถดถอยของรายการประเภทละครทั้งหลายแหล่ รวมถึงพวกละครน้ำเน่าที่อาจมีหวังล้มตายจากปริมาณการฉายละครใหม่ โดยเฉพาะช่องที่ฉายมากสุดปีละราว ๆ 25-30 เรื่อง ก็หดแค่ไม่เกิน 15 เรื่อง ทำเอาบรรดาผู้จัดผู้ภักดีทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างอ่วมอรทัยตาม ๆ กัน

แถมบริษัทสื่อและสถานีบางแห่งก็ปลดลูกจ้างออกเป็นจำนวนมาก นี่คือความชอกช้ำของวงการทีวีไทยตามธรรมเนียมส่งท้ายปี

และยังมีอีกหลายข่าวที่ช็อกวงการทีวีไม่แพ้กัน

แล้วข่าวไหนที่เรียกได้ว่า "ช็อกที่สุดแห่งปี" ก็ให้คุณชี้ขาดเอาเองนะ...ลาทีปีเก่า สวัสดีปีใหม่.