วันนี้ The Momentist ขอมารีวิวร้านซูชิ Sushi Oku (รวมสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ) ซึ่งได้ไปกินมาไม่นานมานี้ ตามที่เห็นใน 3 รูปแรก ร้าน Sushi Oku มีบุฟเฟ่ต์ทั้งหมดอยู่สี่ราคา 499++ 699++ 1199++ 1499++ จริงๆ ตอนแรกคิดว่า 1199++ ก็พอแล้วเพราะมีทั้งตับห่าน (foie gras) และมันปูญี่ปุ่นย่างไฟ (Kani Miso Yaki) แต่พอเห็นมี Akami Chutoro และ Otoro (ในเมนูชื่อ Hon Maguro Nigiri Set) ก็ห้ามไม่ได้ที่จะจัดชุด 1499++
กฎของบุฟเฟต์:
เวลาจำกัดไว้ที่ 90 นาที
หมดเวลาก็ยังนั่งกินได้ถ้าสั่งไปก่อนหมดเวลา (ตามประสบการณ์)
กินเหลือก็จ่ายตามราคาที่ขึ้นในเมนู
ราคารวมเครื่อดื่มชาเขียวเย็น/ร้อน และรู้สึกพวกโค้กด้วยนะ
ราคาที่เห็นไม่รวม Vat (7%) และ Service Charge (10%)
เมนูบุฟเฟต์:
อันดับแรกต้องมอบให้กับ Hon Maguro Nigiri Set ซึ่งก็คือซูชิเนื้อปลา Blue Fin ทูน่า ชิ้นแรกคือเนื้อส่วนท้อง Otoro เป็นส่วนที่มีความมัน ละลายในปาก และเป็นส่วนที่คนชอบทานมากที่สุด ต้องบอกเลยว่า Otoro ร้านนี้อร่อยและสดมาก กินแล้วแทบละลายในปากเลย กลิ่นทูน่านัวๆ ในปากและมีข้าวซูชิที่ปรุงมาอย่างดี ความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูญี่ปุ่นในข้าวตัดกับความมันของปลาทำให้รสหวานของมันปลาโดดออกมาได้เต็มที่ ต่อมาในส่วนชิ้นที่สองคือเนื้อส่วนท้องที่มีมันปานกลางหรือเรียกว่า Chutoro นั่นเอง เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสมดุลระหว่างความมันและความแน่นของเนื้อปลา สุดท้ายคือเนื้อส่วนบนของปลาทูน่าที่เรียกว่า Akami ซึ่งมีความแน่นของเนื้อปลาและมีมันแทรกที่น้อยมากเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ชอบกินเนื้อ lean
อันดับที่สองต้องเจ้ามันปูญี่ปุ่นย่างไฟ (Kani Miso Yaki) ธรรมดาแล้วจะไม่ค่อยชอบจานนี้เพราะส่วนใหญ่ร้านอาหารอื่นๆ จะเอามันปูที่ไม่ค่อยสดมาใช้ เลยทำให้มีกลิ่นคาวแรงมาก แต่ต้องบอกเลยว่าต้องสั่งไอเจ้านี่มาสองสามจาน พอเค้าเสริฟมา สิ่งแรกที่ต้องทำหลังถ่ายรูปคือคนให้วัตถุดิบเข้ากันอย่างดี พอกินแล้วจะได้รสชาติความมันและกลมกล่อมของมันปู ต่อมาพอเริ่มเคี้ยวแล้วเราจะรู้สึกถึงไข่กุ้งที่รู้ได้เลยว่าเกรดดีเพราะมันมีความเด้งตอนกัดก่อนที่จะแตก (ไข่กุ้งจากบางร้านจะเป็นแนวกัดปุ๊บก็แตกไปเลยไม่เด้งทำให้ไม่มี texture หรือสัมผัสการกินที่ดีนัก) ความเค็มของไข่กุ้งตัดกับความมันของมันปูอย่างดี และยังมีต้นหอมสับมาช่วยตัดเลี่ยน นอกจากนี้ ทางร้านยังใส่เนื้อปูลงไปในปริมาณที่กำลังดีทำให้ texture ดีขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่อีกระดับ
อันดับที่สามจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ถ้าไม่ใช่ซูชิตับห่าน (Sushi Foie Gras) อันนี้ไม่น่าจะต้องพูดอะไรมาก คือตับห่านชิ้นหนากำลังดี โดนเผา (torch) ด้านนอกเล็กน้อยทำให้น้ำมันตับละลายลงไปในข้าว ด้านนอกจะเห็นว่ามีซอสที่น่าจะเป็นซอสเทริยากิที่ไม่หวานเกินไป ตอนกินก็คำละชิ้นไปเลยจะได้ให้รสชาติทุกอย่างผสมกันอย่างดี กลิ่นตับหอมมากๆ ส่วนมันตับมีความหวานกลมกล่อมนัวๆ ปาก ซึ่งความเปริ้ยวของข้าวจะเข้ามาตัดความเลี่ยนได้อย่างน่าทึ่ง
อันดับสุดท้ายได้แก่ซูชิหอยเชลล์ราดด้วยซอสมาโยเนสไข่กุ้ง ไข่ปลาแซลมอน ไข่ปลาคาเวียร์ผสมกับเห็ดทรัฟเฟิล และต้นหอมสับ (Hotate Mentai Black Truffle) เป็นไงละแค่ชื่อก็น้ำลายไหลละ ตามรูปเราจะเห็นว่าตัวหอยเชลล์จะถูกเผาเล็กน้อยเช่นกันทำให้กลิ่นของหอยเชลล์สดๆ เด่นขึ้นมาในระดับนึง พอกินทั้งคำจะได้สัมผัสนิ่มๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่สิ่งที่ทำให้จานนี้อร่อยคือกลิ่นที่มีความหอม ซึ่งมาจากหอยเชลล์ที่ถูกเผาเล็กน้อยและเห็ดทรัฟเฟิลที่ผุดขึ้นมากับรสชาติที่บอบบางของทั้งไข่ปลา มาโยเนสไข่กุ้งและหอยเชลล์
เมนูอื่นๆ และสิ่งที่ชอบ…..
นั่งกินต่อได้หลังเวลาหมดและพนักงานยังเติมน้ำให้ตลอดเวลาด้วย!
ซูชิกุ้งราดด้วยไข่กุ้งและไข่ปลาคาเวียร์ (A-ka Ebi) และซูชิหอยนก (Oku Angel) ไม่มีรูปเพราะกินหมดก่อนตลอด 555
ซาชิมิเนื้อส่วนบนของปลาทูน่าและน้ำจิ้มพอนสึ (Akami Ponzu) นอกจากน้ำจิ้มพอนสึยังมีโรยงา ต้นหอม และไข่ปลาคาเวียร์อีกด้วย ความสด รสชาติดีหมด แต่แค่คิดว่าถ้าเนื้อเป็น Chutoro น่าจะอร่อยกว่ามาก
ซาชิมิเนื้อส่วนบนของปลาทูน่าและซอสหอมใหญ่ (Akami Hon Tamaneg) เมนูนี้เหมือน Akami Ponzu แต่ซอสจะคล้ายๆ มาโยเนสผสมกับมะนาวไม่ก็เลมอน
เมนูที่อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน และสิ่งที่ไม่ชอบ…..
อาหารจะออกค่อนข้างช้า สั่งไปชุดแรกกว่าจะได้ครบก็ผ่านมากว่า 45 นาที อาหารจะมาเป็นช่วงๆ ขาดตอน (คนอาจจะเยอะในวันที่ไป) เลยสั่งต่อไปอีก 2 รอบ
อาหารบางอย่างมาไม่ครบเช่น Sakura Sashimi Set ที่สั่งไปตั้งแต่รอบแรกแต่เราก็ไม่ได้ตามเองด้วยแหละ
เมนูซูชิแซลมอนแปะด้วยตับห่าน Salmon (Foie Gras Cream) รสชาติรวมแล้วเลี่ยนมาก อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน นอกจากนี้ ตับห่านในเมนูนี้ไม่เหมือนซูชิตับห่านที่กินมาตอนแรกเพราะรู้สึกแห้งมาก แซลมอนสดไม่ต้องห่วง
ไปโดนกันได้ที่ K-Village
[CR] รีวิวร้านซูชิ Sushi Oku สาขา K-Village จัดบุฟเฟ่ต์ 1499++ (1754 NET) ท้องแทบแตก!!
กฎของบุฟเฟต์:
เวลาจำกัดไว้ที่ 90 นาที
หมดเวลาก็ยังนั่งกินได้ถ้าสั่งไปก่อนหมดเวลา (ตามประสบการณ์)
กินเหลือก็จ่ายตามราคาที่ขึ้นในเมนู
ราคารวมเครื่อดื่มชาเขียวเย็น/ร้อน และรู้สึกพวกโค้กด้วยนะ
ราคาที่เห็นไม่รวม Vat (7%) และ Service Charge (10%)
เมนูบุฟเฟต์:
อันดับแรกต้องมอบให้กับ Hon Maguro Nigiri Set ซึ่งก็คือซูชิเนื้อปลา Blue Fin ทูน่า ชิ้นแรกคือเนื้อส่วนท้อง Otoro เป็นส่วนที่มีความมัน ละลายในปาก และเป็นส่วนที่คนชอบทานมากที่สุด ต้องบอกเลยว่า Otoro ร้านนี้อร่อยและสดมาก กินแล้วแทบละลายในปากเลย กลิ่นทูน่านัวๆ ในปากและมีข้าวซูชิที่ปรุงมาอย่างดี ความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูญี่ปุ่นในข้าวตัดกับความมันของปลาทำให้รสหวานของมันปลาโดดออกมาได้เต็มที่ ต่อมาในส่วนชิ้นที่สองคือเนื้อส่วนท้องที่มีมันปานกลางหรือเรียกว่า Chutoro นั่นเอง เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสมดุลระหว่างความมันและความแน่นของเนื้อปลา สุดท้ายคือเนื้อส่วนบนของปลาทูน่าที่เรียกว่า Akami ซึ่งมีความแน่นของเนื้อปลาและมีมันแทรกที่น้อยมากเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ชอบกินเนื้อ lean
อันดับที่สองต้องเจ้ามันปูญี่ปุ่นย่างไฟ (Kani Miso Yaki) ธรรมดาแล้วจะไม่ค่อยชอบจานนี้เพราะส่วนใหญ่ร้านอาหารอื่นๆ จะเอามันปูที่ไม่ค่อยสดมาใช้ เลยทำให้มีกลิ่นคาวแรงมาก แต่ต้องบอกเลยว่าต้องสั่งไอเจ้านี่มาสองสามจาน พอเค้าเสริฟมา สิ่งแรกที่ต้องทำหลังถ่ายรูปคือคนให้วัตถุดิบเข้ากันอย่างดี พอกินแล้วจะได้รสชาติความมันและกลมกล่อมของมันปู ต่อมาพอเริ่มเคี้ยวแล้วเราจะรู้สึกถึงไข่กุ้งที่รู้ได้เลยว่าเกรดดีเพราะมันมีความเด้งตอนกัดก่อนที่จะแตก (ไข่กุ้งจากบางร้านจะเป็นแนวกัดปุ๊บก็แตกไปเลยไม่เด้งทำให้ไม่มี texture หรือสัมผัสการกินที่ดีนัก) ความเค็มของไข่กุ้งตัดกับความมันของมันปูอย่างดี และยังมีต้นหอมสับมาช่วยตัดเลี่ยน นอกจากนี้ ทางร้านยังใส่เนื้อปูลงไปในปริมาณที่กำลังดีทำให้ texture ดีขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่อีกระดับ
อันดับที่สามจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ถ้าไม่ใช่ซูชิตับห่าน (Sushi Foie Gras) อันนี้ไม่น่าจะต้องพูดอะไรมาก คือตับห่านชิ้นหนากำลังดี โดนเผา (torch) ด้านนอกเล็กน้อยทำให้น้ำมันตับละลายลงไปในข้าว ด้านนอกจะเห็นว่ามีซอสที่น่าจะเป็นซอสเทริยากิที่ไม่หวานเกินไป ตอนกินก็คำละชิ้นไปเลยจะได้ให้รสชาติทุกอย่างผสมกันอย่างดี กลิ่นตับหอมมากๆ ส่วนมันตับมีความหวานกลมกล่อมนัวๆ ปาก ซึ่งความเปริ้ยวของข้าวจะเข้ามาตัดความเลี่ยนได้อย่างน่าทึ่ง
อันดับสุดท้ายได้แก่ซูชิหอยเชลล์ราดด้วยซอสมาโยเนสไข่กุ้ง ไข่ปลาแซลมอน ไข่ปลาคาเวียร์ผสมกับเห็ดทรัฟเฟิล และต้นหอมสับ (Hotate Mentai Black Truffle) เป็นไงละแค่ชื่อก็น้ำลายไหลละ ตามรูปเราจะเห็นว่าตัวหอยเชลล์จะถูกเผาเล็กน้อยเช่นกันทำให้กลิ่นของหอยเชลล์สดๆ เด่นขึ้นมาในระดับนึง พอกินทั้งคำจะได้สัมผัสนิ่มๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่สิ่งที่ทำให้จานนี้อร่อยคือกลิ่นที่มีความหอม ซึ่งมาจากหอยเชลล์ที่ถูกเผาเล็กน้อยและเห็ดทรัฟเฟิลที่ผุดขึ้นมากับรสชาติที่บอบบางของทั้งไข่ปลา มาโยเนสไข่กุ้งและหอยเชลล์
เมนูอื่นๆ และสิ่งที่ชอบ…..
นั่งกินต่อได้หลังเวลาหมดและพนักงานยังเติมน้ำให้ตลอดเวลาด้วย!
ซูชิกุ้งราดด้วยไข่กุ้งและไข่ปลาคาเวียร์ (A-ka Ebi) และซูชิหอยนก (Oku Angel) ไม่มีรูปเพราะกินหมดก่อนตลอด 555
ซาชิมิเนื้อส่วนบนของปลาทูน่าและน้ำจิ้มพอนสึ (Akami Ponzu) นอกจากน้ำจิ้มพอนสึยังมีโรยงา ต้นหอม และไข่ปลาคาเวียร์อีกด้วย ความสด รสชาติดีหมด แต่แค่คิดว่าถ้าเนื้อเป็น Chutoro น่าจะอร่อยกว่ามาก
ซาชิมิเนื้อส่วนบนของปลาทูน่าและซอสหอมใหญ่ (Akami Hon Tamaneg) เมนูนี้เหมือน Akami Ponzu แต่ซอสจะคล้ายๆ มาโยเนสผสมกับมะนาวไม่ก็เลมอน
เมนูที่อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน และสิ่งที่ไม่ชอบ…..
อาหารจะออกค่อนข้างช้า สั่งไปชุดแรกกว่าจะได้ครบก็ผ่านมากว่า 45 นาที อาหารจะมาเป็นช่วงๆ ขาดตอน (คนอาจจะเยอะในวันที่ไป) เลยสั่งต่อไปอีก 2 รอบ
อาหารบางอย่างมาไม่ครบเช่น Sakura Sashimi Set ที่สั่งไปตั้งแต่รอบแรกแต่เราก็ไม่ได้ตามเองด้วยแหละ
เมนูซูชิแซลมอนแปะด้วยตับห่าน Salmon (Foie Gras Cream) รสชาติรวมแล้วเลี่ยนมาก อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน นอกจากนี้ ตับห่านในเมนูนี้ไม่เหมือนซูชิตับห่านที่กินมาตอนแรกเพราะรู้สึกแห้งมาก แซลมอนสดไม่ต้องห่วง
ไปโดนกันได้ที่ K-Village
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้