รถคันนี้ซื้อมาให้ผู้จัดการของบริษัทใช้ ผมเองก็ไปขับบ้างบางครั้ง แต่ก่อนนี้ก็ใช้โตโยต้า แคมรี่ให้ผู้จัดการทุกคัน แต่คนนี้พิเศษเพราะอยู่มานานทำเงินให้เยอะและคิดว่าจะสร้างภาพให้เขาดูดีเวลาไปออกงานเป็นตัวแทนบริษัทอยู่ ซึ่งมันก็ได้ผลที่ดีเลย พอเก่าหน่อย เซลหลายคนเริ่มเอาไปใช้ ก็ยังเป็นประโยชน์ในการสร้างความเชื่อมันให้ลูกค้าได้อยู่หลายเจ้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะโปรเจกใหม่ ๆ ลูกค้าใหม่ ๆ ที่ไม่เคยซื้อขายดีลงานกันเลย ลูกค้าบางคนถึงกับมาคุยตรง ๆ ว่าที่เลือกบริษัทผมเพราะมั่นใจดูดีว่าจะทำให้จบงานได้
ด้วยความที่มันถูกขับแทบจะทุกงาน มันก็เลยถูกใช้งานมาก เลขไมล์มากไปด้วย สุดท้ายวันที่ขายไปก็เกือบ 8แสนโลแล้ว ไม่ได้มีรูปถ่ายตอนนั้นแต่มีก่อนหน้านั้นไว้อยู่เจ็ดแสนกว่าโล
ปัจจุบันขายให้เตนท์รถที่รู้จักกันไป เขายังเอาไปขับอยู่ ขายอยู่สองปีได้ก็ยังไม่ออก เพราะใครมาเห็นเลขไมล์ก็ตกใจไม่กล้าซื้อเลยทีเดียว 555
พิมพ์มาครึ่งหน้า ขอเข้าเรื่องตัวรถดีกว่า
นี่ไม่ใช่เบนซ์คันแรกที่บ้านผมซื้อ ในครอบครัวก็ใช้มาตั้งแต่ W124 W210 W220 W203 W221 W208 C207 แต่ก็ไม่ใช่รถผู้จัดการ เป็นรถที่ให้เตี่ยขับ น้องชายสองคน ที่มั่นใจ W204 เพราะเคยใช้ w203 C180 ไป 4 แสนกว่าโล ปัญหาไม่เยอะ และดูแล้ว เขาก็แก้ปัญหาที่เคยเจอไปแล้วในรุ่นท้าย ๆ ตัว W204 น่าจะพอทนทานให้เซลใช้ได้
แล้วมันก็เป็นอย่างที่หวังไว้ คือมันทนดีพอตัว เครื่องยนต์ เกียร์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรใหญ่โต ท่อน้ำพลาสติกแตก ข้อต่อเล็ก ๆ ค่าใช้จ่ายพันกว่าบาท ซ่อมได้สบาย บางตัวเอามาเปลี่ยนเองไม่ต้อเข้าอู่
การดูแลก็ไม่ได้พิศดารอะไร ใช้อู่บ้าน ๆ ทั่วไป ที่ไหนก็ทำได้ หาอะไหล่ไม่ยากเลย ราคาก็ไม่ได้แพงกว่า Camry Accord และเครื่องก็ไม่ได้พังเหมือนสองรุ่นนั้นด้วย Camry เคยเจอเฟืองเพลาบาลานซ์แตก เซลวิ่งไม่รู้เรื่องปล่อยจนเครื่องพัง ซ่อมไปเป็นเดือน Accord เกียร์พังตอนขึ้นเขาเรียกรถยกไปยกลงมาก็เคยแล้ว ใช้ได้ไม่ถึงครึ่งล้านโลเลย
ตัวผมมีแค่หน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายของรถในบริษัท ว่างก็เอารถไปเข้าอู่ ถ่ายของเหลว เปลี่ยนอะไหล่สึกหรอ ไม่ได้เข้าอู่หรูหราอะไร ดูรูปอู่เอาแล้วกัน ไม่ใช่ศูนย์แน่ ๆ ครับ เพราะถ้าจะคุมค่าใช้จ่ายรถยนต์ การเข้าศูนย์ไม่ใช่คำตอบ
อุปกรณ์ของตัวรถที่ให้มา ไม่ได้มีออพชั่นอะไรมากมาย ผมก็ไม่ได้ซีเรียสด้วย เพราะแค่อยากได้รถให้เซลใช้ ไม่ได้ยึดติดกับของเล่น มีเซนเซอร์รอบคันที่ดูจะเป็นประโยชน์ พวกที่ฉีดไฟหน้าไม่ได้ใช้จนมันเสียก็ไม่มีใครรู้ว่าเสีย
เครื่องเสียง พอฟังได้ แต่เคยฟังของ HarmanKardon ในตัว Elegance เทียบกัน เสียงต่างกันมาก แปลกทำไมรุ่นแพงกว่าได้เครื่องเสียงแย่กว่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไร
การเก็บเสียงห้องโดยสารทำได้ดีกว่า CAMRY ACCORD วิทยุเปิดเบาก็ฟังได้ไม่ต้องเร่งลำโพงช่วยตลอดการขับขี่ เทียบกับ MINI ที่ผมได้ขับบ่อยกว่า ก็เรียกว่าเก็บเสียได้ดีกว่า และยังเก็บเสียงดีกว่า x3 อีกด้วย
น้ำหนักพวงมาลัย ค่อนไปทางหนัก แต่ก็ไม่ได้หนักแบบE90 หนักกว่า Accord สองสามเท่าตัวเลย ทำให้ขับทางยาวสบายกว่าเพราะมันนิ่งดี W204 ขับเข้าโค้งมั่นใจพวงมาลัยตึงตลอดไม่เบาแบบไม่รู้ทางว่าเลี้ยวแล้วนะ
ช่วงล่างเทียบกับ W203 ก็เรียกว่าแข็งขึ้นมาหน่อย แต่ผมใช้ MINI เป็นประจำพอมาขับคันนี้มันก็เลยนิ่มกว่าMINI แต่ไม่ได้นิ่มแบบ Camry ACV30 -40
ที่นั่งด้านหลัง ค่อนข้างคับแคบ ไม่เหมาะถ้ามีคนนั่งหน้าเลื่อนเบาะมา
อัตราเร่ง 0-100 ไม่น่าจะถึง 10 วินาที ตามที่บริษัทเคลมไว้ บนถนนก็เรียกว่าแรงเหลือใช้
อัตราสิ้นเปลือง รวม ๆ ตลอดอายุการใช้งาน 7 แสนกว่าโล ขับทุกสภาพจราจร รถติด รถโล่ง รวม ๆ ดูจากยอดใช้บัตรfleet 1.5 ล้านบาท เคยจับอัตราสิ้นเปลือง 15กม/ลิตร รถคันนี้ผมบังคับให้เติม E20 ตั้งแต่ปั๊มปตท.เปิดขาย E20 วันแรกเลย แต่ตัวรถไม่ได้บอกว่าเติมได้นะ
น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หลังออกจากศูนย์สามปีแรก มันก็จะถูกเติมด้วย PTT, SHELL กึ่งสังเคราะห์ ถ่ายทุก 7000 กิโลเมตร ให้ถ่ายบ่อยกว่าที่กำหนดเพราะแต่ละคนขับไม่ได้สนใจอะไรกับรถเลย มีประสพการณ์จาก W203 มาแล้วว่าถ้าเกินนี้เฟืองแคมจะบาง ซีลจะแข็งน้ำมันเครื่องจะรั่ว
น้ำมันเกียร์ PTT, HAVOLINE เป็นหลัก เพราะหาง่ายซื้อไว้ยกลัง ไส้กรองน้ำมันซื้อยกลังเหมือนกัน ตอนนี้กองอยู่ห้องเก็บของไม่มีรถคันไหนในบ้านและในบริษัทใช้แล้ว ซื้อเผื่อมากไปหน่อย555
ของเสียและข้อเสีย
ข้อเสียที่ไม่ถูกแก้สักที ก็คือ ล็อกคอพวงมาลัยเสีย ทำให้สตาร์ทรถไม่ได้ เปลี่ยนใหม่ก็จะเสียอีกเลยตัดสินใจ ถอดออกช่างใส่ตัวหลอกให้หรืออะไรไม่แน่ใจ ภายหลังซื้อ C207 W204 Coupe มาก็มีปัญหาแบบเดียวกันอีกก็แก้แบบนี้หมด
ภายในรถปัญหาปุ่มภายในลอกหมด ผมเลยใช้สติ๊กเกอร์ติดทับทำสีปุ่ม ด้อยคุณภาพมาก ๆ ทำไมไม่ทำแบบรถญี่ปุ่นสีกับปุ่มเป็นเนื้อเดียวกันนะ
เรือนไมล์เสีย ใช้ได้ประมาณ6แสนโลเสีย จอมืด ได้เซียงกงมา หาคนย้ายชิพให้ ใช้ได้เหมือนเดิม
เครื่องเสียงจอกลางดับ ก็เลยจับใส่วิทยุแอนดรอยให้มันไปง่าย ๆ เพราะคิดว่าถ้าซ่อมไปโน่นนี่เสียจะวนเวียนมาอีกวุ่นวายเปล่า
ปุ่มคันโยกCOMAND ตรงกลางคอนโซล ไม่ทำงาน ไม่ได้ซ่อม เพราะไม่มีใครใช้
กล่องเครื่องเสียตอนราว ๆ 2.5แสนโล เพิ่งหมดวารันตีเลยจำได้ดี สตาร์ทไม่ติดเหมือนกัน ส่งซ่อม6พันบาท ใช้ยันขายไม่ได้เจอปัญหาอีก
Supercharger เพิ่มทำไปตอนจะขายรถ เปลี่ยนลูกปืนใหม่มันหอน
ลูกปืนล้อหลังข้างไหนซักข้างจำไม่ได้ ล้อหน้าไม่เคยเปลี่ยนเพราะเปลี่ยนจารบีทุก2แสนโล
ลูกรอกสายพานหน้าเครื่อง มันจะร้องดัง ๆ จิ๊ด ก็ล้างเปลี่ยนจารบี
พัดลมไฟฟ้า เปลี่ยนสองครั้ง
จำได้เท่านี้นะครับ เคยเก็บบิลรวม ๆ ไว้ ค่าซ่อมบำรุ่งรวม 5แสนบาทได้ รวมยาง น้ำมันเครื่องไส้กรอง ของเหลว ผ้าเบรค อะไหล่สึกหรอและอะไหล่ไม่สึกหรอแล้ว คิดต่อกิโลเมตรก็พอๆกะแคมรี่เลยจริงๆ
สรุป
เป็นรถที่ชอบ ทนทานพอตัว เครื่องเกียร์ ไว้ใจได้ เดินทางไกลไม่ลำบาก ช่วงล่างกระด้างไปไม่ใช่รถนั่งสบายแต่เป็นรถขับสนุกสะมากกว่า
ทำให้คนในบ้านไปซื้อ W204 Coupe มาใช้เพราะคิดว่ามันจะทน 555 บอกเลยว่าพลาด เครื่องตัวใหม่ CGI Turbo มันมีอะไรให้เสียกว่าเยอะมาก ว่าง ๆ จะแวะมาเหลาให้ฟังอีกครับ
7xx,xxx km กับ BENZ C200 Kompressor Avangard 2008 W204
ด้วยความที่มันถูกขับแทบจะทุกงาน มันก็เลยถูกใช้งานมาก เลขไมล์มากไปด้วย สุดท้ายวันที่ขายไปก็เกือบ 8แสนโลแล้ว ไม่ได้มีรูปถ่ายตอนนั้นแต่มีก่อนหน้านั้นไว้อยู่เจ็ดแสนกว่าโล
ปัจจุบันขายให้เตนท์รถที่รู้จักกันไป เขายังเอาไปขับอยู่ ขายอยู่สองปีได้ก็ยังไม่ออก เพราะใครมาเห็นเลขไมล์ก็ตกใจไม่กล้าซื้อเลยทีเดียว 555
พิมพ์มาครึ่งหน้า ขอเข้าเรื่องตัวรถดีกว่า
นี่ไม่ใช่เบนซ์คันแรกที่บ้านผมซื้อ ในครอบครัวก็ใช้มาตั้งแต่ W124 W210 W220 W203 W221 W208 C207 แต่ก็ไม่ใช่รถผู้จัดการ เป็นรถที่ให้เตี่ยขับ น้องชายสองคน ที่มั่นใจ W204 เพราะเคยใช้ w203 C180 ไป 4 แสนกว่าโล ปัญหาไม่เยอะ และดูแล้ว เขาก็แก้ปัญหาที่เคยเจอไปแล้วในรุ่นท้าย ๆ ตัว W204 น่าจะพอทนทานให้เซลใช้ได้
แล้วมันก็เป็นอย่างที่หวังไว้ คือมันทนดีพอตัว เครื่องยนต์ เกียร์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรใหญ่โต ท่อน้ำพลาสติกแตก ข้อต่อเล็ก ๆ ค่าใช้จ่ายพันกว่าบาท ซ่อมได้สบาย บางตัวเอามาเปลี่ยนเองไม่ต้อเข้าอู่
การดูแลก็ไม่ได้พิศดารอะไร ใช้อู่บ้าน ๆ ทั่วไป ที่ไหนก็ทำได้ หาอะไหล่ไม่ยากเลย ราคาก็ไม่ได้แพงกว่า Camry Accord และเครื่องก็ไม่ได้พังเหมือนสองรุ่นนั้นด้วย Camry เคยเจอเฟืองเพลาบาลานซ์แตก เซลวิ่งไม่รู้เรื่องปล่อยจนเครื่องพัง ซ่อมไปเป็นเดือน Accord เกียร์พังตอนขึ้นเขาเรียกรถยกไปยกลงมาก็เคยแล้ว ใช้ได้ไม่ถึงครึ่งล้านโลเลย
ตัวผมมีแค่หน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายของรถในบริษัท ว่างก็เอารถไปเข้าอู่ ถ่ายของเหลว เปลี่ยนอะไหล่สึกหรอ ไม่ได้เข้าอู่หรูหราอะไร ดูรูปอู่เอาแล้วกัน ไม่ใช่ศูนย์แน่ ๆ ครับ เพราะถ้าจะคุมค่าใช้จ่ายรถยนต์ การเข้าศูนย์ไม่ใช่คำตอบ
อุปกรณ์ของตัวรถที่ให้มา ไม่ได้มีออพชั่นอะไรมากมาย ผมก็ไม่ได้ซีเรียสด้วย เพราะแค่อยากได้รถให้เซลใช้ ไม่ได้ยึดติดกับของเล่น มีเซนเซอร์รอบคันที่ดูจะเป็นประโยชน์ พวกที่ฉีดไฟหน้าไม่ได้ใช้จนมันเสียก็ไม่มีใครรู้ว่าเสีย
เครื่องเสียง พอฟังได้ แต่เคยฟังของ HarmanKardon ในตัว Elegance เทียบกัน เสียงต่างกันมาก แปลกทำไมรุ่นแพงกว่าได้เครื่องเสียงแย่กว่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไร
การเก็บเสียงห้องโดยสารทำได้ดีกว่า CAMRY ACCORD วิทยุเปิดเบาก็ฟังได้ไม่ต้องเร่งลำโพงช่วยตลอดการขับขี่ เทียบกับ MINI ที่ผมได้ขับบ่อยกว่า ก็เรียกว่าเก็บเสียได้ดีกว่า และยังเก็บเสียงดีกว่า x3 อีกด้วย
น้ำหนักพวงมาลัย ค่อนไปทางหนัก แต่ก็ไม่ได้หนักแบบE90 หนักกว่า Accord สองสามเท่าตัวเลย ทำให้ขับทางยาวสบายกว่าเพราะมันนิ่งดี W204 ขับเข้าโค้งมั่นใจพวงมาลัยตึงตลอดไม่เบาแบบไม่รู้ทางว่าเลี้ยวแล้วนะ
ช่วงล่างเทียบกับ W203 ก็เรียกว่าแข็งขึ้นมาหน่อย แต่ผมใช้ MINI เป็นประจำพอมาขับคันนี้มันก็เลยนิ่มกว่าMINI แต่ไม่ได้นิ่มแบบ Camry ACV30 -40
ที่นั่งด้านหลัง ค่อนข้างคับแคบ ไม่เหมาะถ้ามีคนนั่งหน้าเลื่อนเบาะมา
อัตราเร่ง 0-100 ไม่น่าจะถึง 10 วินาที ตามที่บริษัทเคลมไว้ บนถนนก็เรียกว่าแรงเหลือใช้
อัตราสิ้นเปลือง รวม ๆ ตลอดอายุการใช้งาน 7 แสนกว่าโล ขับทุกสภาพจราจร รถติด รถโล่ง รวม ๆ ดูจากยอดใช้บัตรfleet 1.5 ล้านบาท เคยจับอัตราสิ้นเปลือง 15กม/ลิตร รถคันนี้ผมบังคับให้เติม E20 ตั้งแต่ปั๊มปตท.เปิดขาย E20 วันแรกเลย แต่ตัวรถไม่ได้บอกว่าเติมได้นะ
น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หลังออกจากศูนย์สามปีแรก มันก็จะถูกเติมด้วย PTT, SHELL กึ่งสังเคราะห์ ถ่ายทุก 7000 กิโลเมตร ให้ถ่ายบ่อยกว่าที่กำหนดเพราะแต่ละคนขับไม่ได้สนใจอะไรกับรถเลย มีประสพการณ์จาก W203 มาแล้วว่าถ้าเกินนี้เฟืองแคมจะบาง ซีลจะแข็งน้ำมันเครื่องจะรั่ว
น้ำมันเกียร์ PTT, HAVOLINE เป็นหลัก เพราะหาง่ายซื้อไว้ยกลัง ไส้กรองน้ำมันซื้อยกลังเหมือนกัน ตอนนี้กองอยู่ห้องเก็บของไม่มีรถคันไหนในบ้านและในบริษัทใช้แล้ว ซื้อเผื่อมากไปหน่อย555
ของเสียและข้อเสีย
ข้อเสียที่ไม่ถูกแก้สักที ก็คือ ล็อกคอพวงมาลัยเสีย ทำให้สตาร์ทรถไม่ได้ เปลี่ยนใหม่ก็จะเสียอีกเลยตัดสินใจ ถอดออกช่างใส่ตัวหลอกให้หรืออะไรไม่แน่ใจ ภายหลังซื้อ C207 W204 Coupe มาก็มีปัญหาแบบเดียวกันอีกก็แก้แบบนี้หมด
ภายในรถปัญหาปุ่มภายในลอกหมด ผมเลยใช้สติ๊กเกอร์ติดทับทำสีปุ่ม ด้อยคุณภาพมาก ๆ ทำไมไม่ทำแบบรถญี่ปุ่นสีกับปุ่มเป็นเนื้อเดียวกันนะ
เรือนไมล์เสีย ใช้ได้ประมาณ6แสนโลเสีย จอมืด ได้เซียงกงมา หาคนย้ายชิพให้ ใช้ได้เหมือนเดิม
เครื่องเสียงจอกลางดับ ก็เลยจับใส่วิทยุแอนดรอยให้มันไปง่าย ๆ เพราะคิดว่าถ้าซ่อมไปโน่นนี่เสียจะวนเวียนมาอีกวุ่นวายเปล่า
ปุ่มคันโยกCOMAND ตรงกลางคอนโซล ไม่ทำงาน ไม่ได้ซ่อม เพราะไม่มีใครใช้
กล่องเครื่องเสียตอนราว ๆ 2.5แสนโล เพิ่งหมดวารันตีเลยจำได้ดี สตาร์ทไม่ติดเหมือนกัน ส่งซ่อม6พันบาท ใช้ยันขายไม่ได้เจอปัญหาอีก
Supercharger เพิ่มทำไปตอนจะขายรถ เปลี่ยนลูกปืนใหม่มันหอน
ลูกปืนล้อหลังข้างไหนซักข้างจำไม่ได้ ล้อหน้าไม่เคยเปลี่ยนเพราะเปลี่ยนจารบีทุก2แสนโล
ลูกรอกสายพานหน้าเครื่อง มันจะร้องดัง ๆ จิ๊ด ก็ล้างเปลี่ยนจารบี
พัดลมไฟฟ้า เปลี่ยนสองครั้ง
จำได้เท่านี้นะครับ เคยเก็บบิลรวม ๆ ไว้ ค่าซ่อมบำรุ่งรวม 5แสนบาทได้ รวมยาง น้ำมันเครื่องไส้กรอง ของเหลว ผ้าเบรค อะไหล่สึกหรอและอะไหล่ไม่สึกหรอแล้ว คิดต่อกิโลเมตรก็พอๆกะแคมรี่เลยจริงๆ
สรุป
เป็นรถที่ชอบ ทนทานพอตัว เครื่องเกียร์ ไว้ใจได้ เดินทางไกลไม่ลำบาก ช่วงล่างกระด้างไปไม่ใช่รถนั่งสบายแต่เป็นรถขับสนุกสะมากกว่า
ทำให้คนในบ้านไปซื้อ W204 Coupe มาใช้เพราะคิดว่ามันจะทน 555 บอกเลยว่าพลาด เครื่องตัวใหม่ CGI Turbo มันมีอะไรให้เสียกว่าเยอะมาก ว่าง ๆ จะแวะมาเหลาให้ฟังอีกครับ