ขออนุญาติ recap ใหม่นะครับจะได้ตรงประเด็นไม่เสียเวลาอ่านมากครับ
1. รถผมใช้งานประมาณ 4 ปี ระยะทาง 120000 กว่ากิโล ซึ่งในช่วงระยะ 100000 กิโลเข้ารับบริการผ่านทางศูนย์มิตซูตลอดอันนี้ตรวจสอบศูนย์ได้
2. ระยะ 110000 กิโล ลูกปืนล้อหน้าจึงเข้ารับบริการกับ Cockpit พร้อมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ
3. ระยะ 120000 กิโล ต้องมีการเดินทางไกลรวมถึงได้ระยะการเปลี่ยนถ่ายของเหลว จึงเข้าใช้บริการกับศูนย์บริการสีเหลือง (รวดเร็ว) โดยหลังจากเปลี่ยนถ่ายออกขับออกมาใช้งานได้ประมาณ 5-6 วัน เกิดปัญหาใส่เกียร์แล้วเครื่องกระตุ๊กดับ จึงได้เข้ารับบริการที่ศูนย์มิตซู ที่จังหวัดลพบุรี ช่างแจ้งเกียร์พัง จึงเช่ารถยกกลับมาที่ศูนย์มิตซูสาขาบางปะกง เพื่อตรวจสอบพร้อมแจ้งปัญหาไปยังศูนย์บริการสีเหลือง (รวดเร็ว) ทางศูนย์รับเรื่องประสานงานโดยนัดเจ้าหน้าที่ของบริษัทน้ำมันเกียร์เข้ามาตรวจสอบพร้อมกันในวันถัดมา หลังจากตรวจสอบสิ่งที่ได้ข้อมูลจากทางศูนย์
* น้ำมันเกียร์เป็นรุ่นเทียบยี่ห้อ ALPHA's BY SUMICO CVTF ขนาด 4 ลิตร (SUMICVTF4L) ในการเปลี่ยน
ข้อมูลข้างกระป๋องผลิตภัณฑ์ MITSUBISHI DIA QUEEN CVTF FLUID-J1 และ DIA QUEEN CVTF FLUID-J4 ซึ่งตามคู่มือระบุเป็น CVTF-J4-ของแท้มิตซูบิชิ จากที่ช่างทดสอบความหนืดของน้ำมันจะมีความหนืดกว่าน้ำมันศูนย์ ซึ่งตัวเทียบสูตรของ J1 กับ J4 ไม่สามารถใช้งานรวมกันได้
* จำนวนน้ำมันในถังเกินจากที่ต้องเติม ทางศูนย์สอบถามผจก.สาขา ว่าเติมไปเท่าไหร่ คำตอบ 2.8 ลิตร แต่น้ำมันเกียร์ 4 ลิตร เหลือเพียงติดก้นกระป๋อง
ซึ่งการเติมจะต้องมีการวัดอุณหภูมิซึ่งทางผจก.สาขาไม่สามารถตอบได้
ขณะนี้ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำมันส่งตรวจผล Lab อันนี้ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าส่งตรวจสอบหาอะไร
ได้มีการติดต่อกับทางศูนย์บริการสีเหลือง(รวดเร็ว) มีการคุยกับทางผู้จัดการภาค ซึ่งแจ้งว่าต้องตรวจสอบโดยขอให้ทางศูนย์มิตซูระบุความเสียหายของเกียร์ เพื่ออ้างอิงเช่น หากน้ำมันเกียร์เติมกับรถรุ่นนี้ไม่ได้ให้ระบุให้ชัดเจนว่าใช้ไม่ได้เพื่อระงับการใช้งานทั่วประเทศ หรือหากมีการเติมน้ำมันเกียร์เกินแล้วทำให้ระบบเกียร์พังก็ให้ระบุว่าอะไรพัง อุณหภูมิที่จะทำให้ชิ้นส่วนเสียหายยังไง ซึ่งอันนี้ได้มีการคุยกับทางศูนย์มิตซูแล้วแจ้งไม่สามารถออกเอกสารได้
...........................................................................................................................
รวมแชร์และแบ่งปันประสบการณ์จริงจากการใช้บริการศูนย์บริการที่ไม่ใช่ของศูนย์รถยนต์
ยาวสักหน่อยแต่อยากให้อ่านเพื่อเป็นวิทยาทานต่อไปครับ
ผมเป็นใช้งานรถยนต์ Mitsubishi Mirage ปี 2015 CVT ตัว Top ออกรถจากศูนย์วันที่ 7 ธันวาคม 2558 โดยตลอดการใช้งาน 100,000 กิโลเมตร เข้าใช้บริการเช็คระยะกับทางศูนย์บริการ Mitsubishi มาโดยตลอด
จนประกันของรถยนต์หมด ช่วง 110,000 กิโลเมตร ผมได้นำรถยนต์เข้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกับศูนย์บริการด้านนอก Cockpit พร้อมกับเปลี่ยนลูกปืนล้อหน้าเนื่องจากลูกปืนแตกอาจจะเกิดจากการตกหลุมบ่อยเนื่องจากถนนบางนา-ตราด
อย่างทีทราบกันดีว่าเป็นเส้นทางหลักจะมีรถบรรทุกใช้งานเป็นจำนวนมากทำให้ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อไปบ้างรวมถึงผมอาจจะขับไม่ระวัง จนใช้งานมาถึงระยะ 120,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นรอบในการเปลี่ยนถ่ายระบบของเหลวของรถ
ก็จะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ เป็นต้น รวมถึงครั้งนี้ตั้งใจเปลี่ยนเพราะเราจะเดินทางไกลจากบ้านผมซึ่งอยู่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดลพบุรี ณ เขาวงพระจันทร์ ซึ่งจะมีการเปิดให้
ขึ้นนมัสการแบบ 24 ชั่วโมงโดยครั้งนี้เราใช้บริการศูนย์บริการอีกยี่ห้อกับตอนที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องระยะ 110,000 กิโลเมตร เนื่องจากความเชื่อมั่นเพราะเห็นมีศูนย์บริการทั่วประเทศ ซึ่งได้เข้ารับบริการในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา
ในครั้งนี้เราตั้งใจว่าจะเปลี่ยนถ่ายแค่ระบบของเหลวทั่วไป เจ้าหน้าที่รับรถก็แจ้งว่าต้องการให้ตรวจเช็คสภาพรถด้วยหรือไม่เราก็ตอบรับไปเพราะเราตั้งใจจะเดินทางก็อย่างจะให้การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัย ซึ่งหลังจากที่ได้ทิ้งรถไว้เราก็ได้เข้าไปใช้บริการ
ในส่วนของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ตอนนั้นกำลังกินข้างเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการก็ได้มีการติดต่อเข้ามาแจ้งว่ามีอะไรที่ต้องเปลี่ยนบ้าง ซึ่งเราได้ทำการเปลี่ยนไปก็มีโช็คคู่หน้า/หลัง ,ล้างแอร์, เปลี่ยนกรองอากาศ อื่นๆ สรุปยอด
ชำระสุทธิ 19,350 บาท หลังจากนั้นการใช้งานรถก็ปกติเพราะวันถัดมาเป็นวันหยุดไม่ได้ใช้งานรถยนต์ วันที่ 23-26 มกราคม 2563 ผมก็ขับรถไปทำงานตามปกติ ระยะทางจากบ้านคืออำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ทำงานอยู่แถวไบเทคบางนา
ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตรต่อขาเดือนนี้ผมทำงานเข้ากะ 13:30 น. เลิกงาน 22:30 น. จนมาพบอาการเครื่องเร่งแต่ไม่วิ่ง ในคืนวันที่ 26 มกราคม ตอนประมาณเที่ยงคืนเข้าเช้าวันที่ 27 มกราคม จุดที่พบปัญหาคือสี่แยกท่าสะอ้าน เลี้ยวมาทางตลาดบางปะกง
ผมจึงติดต่อไปทางอาสาท่านหนึ่งที่ค่อยช่วยเหลือรถเสียบริเวณใกล้เคียง ระหว่างรออาสามาช่วยดูให้ผมก็ทำการดับเครื่องยนต์เปิดฝากระโปรงรถ เมื่ออาสามาถึงก็ทำการดูให้เบื้องต้นพร้อมทั้งขอทำรถออกไปทดสอบวิ่ง ก็ใช้งานได้ปกติ เช้าวันที่ 27 มกราคม
ผมจึงนำรถเข้าศูนย์บริการกับทาง Mitsubishi ในพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์ที่ผมออกรถนั้นเอง ทางช่างก็ตรวจสอบเบื้องต้น พร้อมทั้งนำรถออกไปทดลองวิ่งก็ปกติขั้นตอนนี้ผมนั่งไปกับทางช่างของศูนย์ด้วย หลังจากนั้น ทางช่างก็ทำการรีเซตผ่านทางคอมพิวเตอร์
ให้ผ่านมีอะไร errer ในวันเดียวกัน ผมก็ออกเดินทางเพื่อจะไปจังหวัดลพบุรีตามที่ตั้งใจไว้ นัดเพื่อนไว้ที่โรบินสัน ลาดกระบัง จนเวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษก็ออกเดินทางจากลาดกระบังไปที่จังหวัดลพบุรี ถึงเขาวงพระจันทร์ช่วงประมาณ ตี 1 ผมและเพื่อน
ก็เริ่มเดินขึ้นเขาและกลับลงมาประมาณตี 5 ของเช้าวันอังคารที่ 28 มกราคม ก็ออกเดินทางเพื่อกลับบ้านจนมาถึงจุดเกิดเหตุช่วงสามแยกดงจำปา รถเกิดอาการกระตุ๊กและดับ จึงลองสตาร์ทใหม่อีกครั้งเมื่อเข้าเกียร์รถมีอาการเหมือนเดิม ดีที่ตอนนั้นเป็นไฟแดง
ซึ่งรถที่ตามหลังมาเป็นรถบัสขนาดใหญ่ รวมถึง สิบล้อ ผมซึ่งค่อยๆพยายามนำรถเข้าจอดที่ปลอดภัยซึ่งมีปั้มปตท. อยู่ไม่ห่างมากก็จอดรถ และหาข้อมูลศูนย์ช่วยเหลือของทาง Mitsubishi รวมถึงค้นหาศูนย์บริการใกล้เคียง ซึ่งเป็นความโชคดีของผม
ที่ศูนย์บริการอยู่ห่างออกไปแค่ 150 เมตรจากทางปั้มที่ผมจอดรถอยู่แต่ศูนย์จะเปิดให้บริการในเวลาประมาณ 8.30 น. ผมก็พยายามนำรถไปจนถึงศูนย์บริการซึ่งทางศูนย์ก็แจ้งว่าช้าหน่อยนะ เพราะว่ามีลูกค้าที่นัดหมายเป็นจำนวนมาก ผมก็นั่งรถจนช่วงประมาณ
11.30 น. ทางผู้จัดการศูนย์ก็ให้พนักงานมาเชิญผมไปดูรถพร้อมพูดคุยว่าเกียร์เสียหาย ต้องการที่จะให้ทางศูนย์ส่งซ่อมหรือจะทำยังไงดี ผมจึงบอกทางผู้จัดการว่าขอทำรถกลับมาศูนย์ใกล้บ้านที่ผมออกรถก่อนทางผู้จัดการท่านก็น่ารักช่วยประสานงาน
รถยกสไลด์ให้ซึ่งเป็นรถด้านนอก โดยมีค่าใช้จ่าย 5,500 บาทจากศูนย์ลพบุรีกลับมาที่ศูนย์บางปะกง โดยผมได้มีการติดต่อกลับมาทางศูนย์บริการที่เข้าทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องโดยทางเจ้าหน้าที่ก็รับเรืองประสานงานและจำติดต่อกลับมาทางผมอีกครั้ง
ผมออกเดินทางจากจังหวัดลพบุรีซึ่งเพื่อนผมต้องลงในตัวเมืองสระบุรีเพื่อต่อรถบขส.จากขนส่งสระบุรี มายังหมอชิต และต่อรถกับบ้านเองที่เขตลาดกระบังเพราะเส้นทางกลับของผมจะขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ไม่สามารถส่งเพื่อนได้ เมื่อมาถึงศูนย์ที่บางปะกงก็
นำรถเข้าฝาก ก่อนหน้านั้นทางศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ติดต่อแจ้งว่าประสานงานไปยังเจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ซึ่งจะขอเข้าพูดคุยพร้อมขอเก็บตัวอย่างน้ำมันเกียร์เข้าตรวจสอบกับทาง Lab โดยนัดกันในวันถัดมาคือวันที่ 29 มกราคม
โดยหลังจากที่เข้าตรวจสอบทางศูนย์ได้มีการดึงน้ำมันจากเหล็กวัดพบว่าน้ำมันเกียร์มีลักษณะสีดำ จึงนำรถขึ้นอุปกรณ์ยกรถพร้อมพูดคุยกันโดยมีผมเจ้าของรถ ผู้จัดการศูนย์/ช่างของทางศูนย์ ผู้จัดการศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และ
เจ้าหน้าที่ของน้ำมันเกียร์ ทางศูนย์ได้ขอดูกระป๋องของน้ำมันเกียร์เพื่อตรวจสอบโค๊ดของผลิตภัณฑ์ระบุโค๊ดน้ำมันใช้งานได้ทั้ง J1 และ J4 ซึ่งทดลองนำน้ำมันมาหยดพบว่ามีความเหนียวกว่าของศูนย์บริการ หลังจากนั้นทางศูนย์ได้ทำการเปิด
ถังน้ำมันเกียร์ออกมาพบว่านำมันเกียร์มากกว่าปกติโดยได้นำขวดน้ำขนาด 1.45 ลิตรมาทดลองตวงได้ทั้งสิ้น 2 ขวดครึ่งซึ่งก็น่าจะประมาณเกือบ 3 ลิตรครึ่ง ก่อนที่จะมีการเปิดทางศูนย์ได้สอบถามทางผู้จัดการสาขาแจ้งเติมไป 2.8 ลิตร
ทางศูนย์จึงแจ้งว่าการเติมน้ำมันเกียร์มากเกินไปอาจส่งผลให้ระบบเกียร์เสียหายได้ ทางผู้จัดการสาขาแจ้งว่าการเติมน้ำมันเกินจากที่ทางศูนย์ก็เคยมีการเติมเกินไปไม่พบว่าระบบเกียร์ของลูกค้าเสียหาย รวมระยะเวลาหลังจากเปลี่ยนถ่านน้ำมันเกียร์มาจน
ถึงนะวันที่พบปัญหาก็ประมาณ 5-6 วันระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร โดยในเอกสารหลังใบเสร็จระบุมีการรับประกันระยะทาง 5,000 กิโลเมตรหรือ 30 วันหรืออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน หลังจากที่มีการแจ้งกันไปทางผู้จัดการสาขาได้มีการติดต่อ
เข้ามาเพื่อแจ้งว่าทางศูนย์ยินดีที่จะช่วยชำระ 50/50 คือออกคนละครี่ง ทางผมจึงแจ้งกลับทางผู้จัดการสาขาว่าในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมควรจะเป็นผู้ที่แบกภาระดังกล่าวหรือไม่ ผู้จัดการจึงรับเรื่องแจ้งไปยังส่วนของทางผู้จัดการเขตก็ได้มีการติดต่อกลับมา
จากทางผู้จัดการเขต แจ้งว่าการเติมน้ำมันเกินไม่มีผลกับการทำให้เกียร์เกิดความเสียหายได้เพราะเติมให้ลูกค้าไปไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งครั้งนี้ทางผู้จัดการเขตแจ้งว่าในอำนาจการตัดสินใจของเค้ามีอำนาจดูแลผมได้ไม่เกิน 20,000 บาท
หากมากกว่านั้นต้องขอปรึกษากับทางหัวหน้าก่อน หลังจากนั้นผู้จัดการสาขาได้ติดต่อกลับมาหาผมอีกครั้งแจ้งว่าทางศูนย์ยินดีดูแลแต่ขอนำรถผมไปซ่อมที่อยู่ด้านนอกผมจึงสอบถามกลับว่าชุดอุปกรณ์อะไหล่เป็นของที่ไหน อันนี้ผมในฐานะผู้ใช้งาน
ที่เคยเชื่อถือ เริ่มมีความไม่มั่นใจและไม่เชื่อมั่นในการให้บริการของทางศูนย์ดังกล่าว ซึ่งผมยังไม่ได้ตอบตกลงใดๆ หลังจากนั้นผมได้ติดต่ไปที่ Call Center เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้จัดการสาขา/เขต/ภาค เพราะหลังจากที่คุยกับผู้จัดการเขตแล้ว
ผมขอคุยกับทางผู้จัดการภาคหรือผู้มีอำนาจตัดสินใจได้ ซึ่งทางผู้จัดการเขตแจ้งกับทางผมว่าผู้จัดการภาคมอบหมายให้สามารถตัดสินใจได้เลย ผมจึงได้ข้อมูลจากทาง Call Center เป็น e-mail :: customerservice@X-....com
จึงได้เขียน mail หนึ่งฉบับเพื่อทำเรื่องเป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการของทางศูนย์บริการดังกล่าวรวมถึงผู้จัดการเขตและภาค ในวันที่ 31 มกราคม ช่วงเที่ยงคืน และได้รับเมล์ตอบกลับมาในวันที่ 31 มกราคม ประมาณ 10 โมง เพื่อขอข้อมูลจากทางผมไป
และได้รับการติดต่อจากทางผู้จัดการภาคในเวลา 17.57 น. ซึ่งตอนแรกผมจะไม่คุย แต่ประโยคแรกที่ผมรับสายทางผู้จัดการภาคได้มีการแนะนำตัว + กล่าวขอโทษผม ซึ่งจากวันที่เกิดเหตุคือเช้าวันอังคารจนถึงวันศุกร์เกือบ 6 โมงเย็นผมพึ่งได้ยินคำขอโทษ
จากทางศูนย์บริการ ซึ่งเราก็ได้มีการสนทนากันสักประมาณ 30 นาที โดยทางผู้จัดการเขตแจ้งว่ายินดีจะดูแลรับผิดชอบแต่จำต้องมีข้อมูลยืนยันจากเหตุการณ์ว่าเกิดจากผลิตภัณฑ์น้ำมันเกียร์หรือเป็นการเติมน้ำมันเกียร์เกินทำให้ชุดเกียร์เสียหาย
โดยเป็นการขอผ่าเกียร์เพื่อพิสูจน์ ผมเล่าข้ามไปนิดครับช่วงเช้าของวันศุกร์ก่อนที่จะได้คุยกับทางผู้จัดการเขต ได้มีโอกาสเข้าพูดคุยกับทางช่างเทคนิคของทาง Mitsubishi เพราะว่าท่านได้เข้ามาตรวจสอบรถอีกคันซึ่งมีปัญหา พอดูรถของผม
ก็ได้สอบถามท่านแจ้งว่า 1. น้ำมันเกียร์ที่เป็น J1/J4 ที่เป็นลักษณะของการ Mix รวมกันไม่สามารถใช้งานได้รวมถึงได้มีการเ
เปลี่ยนนำมันเกียร์ใช้งาน 6 วันเกียร์พังทำไงดีครับ
1. รถผมใช้งานประมาณ 4 ปี ระยะทาง 120000 กว่ากิโล ซึ่งในช่วงระยะ 100000 กิโลเข้ารับบริการผ่านทางศูนย์มิตซูตลอดอันนี้ตรวจสอบศูนย์ได้
2. ระยะ 110000 กิโล ลูกปืนล้อหน้าจึงเข้ารับบริการกับ Cockpit พร้อมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ
3. ระยะ 120000 กิโล ต้องมีการเดินทางไกลรวมถึงได้ระยะการเปลี่ยนถ่ายของเหลว จึงเข้าใช้บริการกับศูนย์บริการสีเหลือง (รวดเร็ว) โดยหลังจากเปลี่ยนถ่ายออกขับออกมาใช้งานได้ประมาณ 5-6 วัน เกิดปัญหาใส่เกียร์แล้วเครื่องกระตุ๊กดับ จึงได้เข้ารับบริการที่ศูนย์มิตซู ที่จังหวัดลพบุรี ช่างแจ้งเกียร์พัง จึงเช่ารถยกกลับมาที่ศูนย์มิตซูสาขาบางปะกง เพื่อตรวจสอบพร้อมแจ้งปัญหาไปยังศูนย์บริการสีเหลือง (รวดเร็ว) ทางศูนย์รับเรื่องประสานงานโดยนัดเจ้าหน้าที่ของบริษัทน้ำมันเกียร์เข้ามาตรวจสอบพร้อมกันในวันถัดมา หลังจากตรวจสอบสิ่งที่ได้ข้อมูลจากทางศูนย์
* น้ำมันเกียร์เป็นรุ่นเทียบยี่ห้อ ALPHA's BY SUMICO CVTF ขนาด 4 ลิตร (SUMICVTF4L) ในการเปลี่ยน
ข้อมูลข้างกระป๋องผลิตภัณฑ์ MITSUBISHI DIA QUEEN CVTF FLUID-J1 และ DIA QUEEN CVTF FLUID-J4 ซึ่งตามคู่มือระบุเป็น CVTF-J4-ของแท้มิตซูบิชิ จากที่ช่างทดสอบความหนืดของน้ำมันจะมีความหนืดกว่าน้ำมันศูนย์ ซึ่งตัวเทียบสูตรของ J1 กับ J4 ไม่สามารถใช้งานรวมกันได้
* จำนวนน้ำมันในถังเกินจากที่ต้องเติม ทางศูนย์สอบถามผจก.สาขา ว่าเติมไปเท่าไหร่ คำตอบ 2.8 ลิตร แต่น้ำมันเกียร์ 4 ลิตร เหลือเพียงติดก้นกระป๋อง
ซึ่งการเติมจะต้องมีการวัดอุณหภูมิซึ่งทางผจก.สาขาไม่สามารถตอบได้
ขณะนี้ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำมันส่งตรวจผล Lab อันนี้ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าส่งตรวจสอบหาอะไร
ได้มีการติดต่อกับทางศูนย์บริการสีเหลือง(รวดเร็ว) มีการคุยกับทางผู้จัดการภาค ซึ่งแจ้งว่าต้องตรวจสอบโดยขอให้ทางศูนย์มิตซูระบุความเสียหายของเกียร์ เพื่ออ้างอิงเช่น หากน้ำมันเกียร์เติมกับรถรุ่นนี้ไม่ได้ให้ระบุให้ชัดเจนว่าใช้ไม่ได้เพื่อระงับการใช้งานทั่วประเทศ หรือหากมีการเติมน้ำมันเกียร์เกินแล้วทำให้ระบบเกียร์พังก็ให้ระบุว่าอะไรพัง อุณหภูมิที่จะทำให้ชิ้นส่วนเสียหายยังไง ซึ่งอันนี้ได้มีการคุยกับทางศูนย์มิตซูแล้วแจ้งไม่สามารถออกเอกสารได้
...........................................................................................................................
รวมแชร์และแบ่งปันประสบการณ์จริงจากการใช้บริการศูนย์บริการที่ไม่ใช่ของศูนย์รถยนต์
ยาวสักหน่อยแต่อยากให้อ่านเพื่อเป็นวิทยาทานต่อไปครับ
ผมเป็นใช้งานรถยนต์ Mitsubishi Mirage ปี 2015 CVT ตัว Top ออกรถจากศูนย์วันที่ 7 ธันวาคม 2558 โดยตลอดการใช้งาน 100,000 กิโลเมตร เข้าใช้บริการเช็คระยะกับทางศูนย์บริการ Mitsubishi มาโดยตลอด
จนประกันของรถยนต์หมด ช่วง 110,000 กิโลเมตร ผมได้นำรถยนต์เข้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกับศูนย์บริการด้านนอก Cockpit พร้อมกับเปลี่ยนลูกปืนล้อหน้าเนื่องจากลูกปืนแตกอาจจะเกิดจากการตกหลุมบ่อยเนื่องจากถนนบางนา-ตราด
อย่างทีทราบกันดีว่าเป็นเส้นทางหลักจะมีรถบรรทุกใช้งานเป็นจำนวนมากทำให้ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อไปบ้างรวมถึงผมอาจจะขับไม่ระวัง จนใช้งานมาถึงระยะ 120,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นรอบในการเปลี่ยนถ่ายระบบของเหลวของรถ
ก็จะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ เป็นต้น รวมถึงครั้งนี้ตั้งใจเปลี่ยนเพราะเราจะเดินทางไกลจากบ้านผมซึ่งอยู่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดลพบุรี ณ เขาวงพระจันทร์ ซึ่งจะมีการเปิดให้
ขึ้นนมัสการแบบ 24 ชั่วโมงโดยครั้งนี้เราใช้บริการศูนย์บริการอีกยี่ห้อกับตอนที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องระยะ 110,000 กิโลเมตร เนื่องจากความเชื่อมั่นเพราะเห็นมีศูนย์บริการทั่วประเทศ ซึ่งได้เข้ารับบริการในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา
ในครั้งนี้เราตั้งใจว่าจะเปลี่ยนถ่ายแค่ระบบของเหลวทั่วไป เจ้าหน้าที่รับรถก็แจ้งว่าต้องการให้ตรวจเช็คสภาพรถด้วยหรือไม่เราก็ตอบรับไปเพราะเราตั้งใจจะเดินทางก็อย่างจะให้การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัย ซึ่งหลังจากที่ได้ทิ้งรถไว้เราก็ได้เข้าไปใช้บริการ
ในส่วนของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ตอนนั้นกำลังกินข้างเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการก็ได้มีการติดต่อเข้ามาแจ้งว่ามีอะไรที่ต้องเปลี่ยนบ้าง ซึ่งเราได้ทำการเปลี่ยนไปก็มีโช็คคู่หน้า/หลัง ,ล้างแอร์, เปลี่ยนกรองอากาศ อื่นๆ สรุปยอด
ชำระสุทธิ 19,350 บาท หลังจากนั้นการใช้งานรถก็ปกติเพราะวันถัดมาเป็นวันหยุดไม่ได้ใช้งานรถยนต์ วันที่ 23-26 มกราคม 2563 ผมก็ขับรถไปทำงานตามปกติ ระยะทางจากบ้านคืออำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ทำงานอยู่แถวไบเทคบางนา
ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตรต่อขาเดือนนี้ผมทำงานเข้ากะ 13:30 น. เลิกงาน 22:30 น. จนมาพบอาการเครื่องเร่งแต่ไม่วิ่ง ในคืนวันที่ 26 มกราคม ตอนประมาณเที่ยงคืนเข้าเช้าวันที่ 27 มกราคม จุดที่พบปัญหาคือสี่แยกท่าสะอ้าน เลี้ยวมาทางตลาดบางปะกง
ผมจึงติดต่อไปทางอาสาท่านหนึ่งที่ค่อยช่วยเหลือรถเสียบริเวณใกล้เคียง ระหว่างรออาสามาช่วยดูให้ผมก็ทำการดับเครื่องยนต์เปิดฝากระโปรงรถ เมื่ออาสามาถึงก็ทำการดูให้เบื้องต้นพร้อมทั้งขอทำรถออกไปทดสอบวิ่ง ก็ใช้งานได้ปกติ เช้าวันที่ 27 มกราคม
ผมจึงนำรถเข้าศูนย์บริการกับทาง Mitsubishi ในพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์ที่ผมออกรถนั้นเอง ทางช่างก็ตรวจสอบเบื้องต้น พร้อมทั้งนำรถออกไปทดลองวิ่งก็ปกติขั้นตอนนี้ผมนั่งไปกับทางช่างของศูนย์ด้วย หลังจากนั้น ทางช่างก็ทำการรีเซตผ่านทางคอมพิวเตอร์
ให้ผ่านมีอะไร errer ในวันเดียวกัน ผมก็ออกเดินทางเพื่อจะไปจังหวัดลพบุรีตามที่ตั้งใจไว้ นัดเพื่อนไว้ที่โรบินสัน ลาดกระบัง จนเวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษก็ออกเดินทางจากลาดกระบังไปที่จังหวัดลพบุรี ถึงเขาวงพระจันทร์ช่วงประมาณ ตี 1 ผมและเพื่อน
ก็เริ่มเดินขึ้นเขาและกลับลงมาประมาณตี 5 ของเช้าวันอังคารที่ 28 มกราคม ก็ออกเดินทางเพื่อกลับบ้านจนมาถึงจุดเกิดเหตุช่วงสามแยกดงจำปา รถเกิดอาการกระตุ๊กและดับ จึงลองสตาร์ทใหม่อีกครั้งเมื่อเข้าเกียร์รถมีอาการเหมือนเดิม ดีที่ตอนนั้นเป็นไฟแดง
ซึ่งรถที่ตามหลังมาเป็นรถบัสขนาดใหญ่ รวมถึง สิบล้อ ผมซึ่งค่อยๆพยายามนำรถเข้าจอดที่ปลอดภัยซึ่งมีปั้มปตท. อยู่ไม่ห่างมากก็จอดรถ และหาข้อมูลศูนย์ช่วยเหลือของทาง Mitsubishi รวมถึงค้นหาศูนย์บริการใกล้เคียง ซึ่งเป็นความโชคดีของผม
ที่ศูนย์บริการอยู่ห่างออกไปแค่ 150 เมตรจากทางปั้มที่ผมจอดรถอยู่แต่ศูนย์จะเปิดให้บริการในเวลาประมาณ 8.30 น. ผมก็พยายามนำรถไปจนถึงศูนย์บริการซึ่งทางศูนย์ก็แจ้งว่าช้าหน่อยนะ เพราะว่ามีลูกค้าที่นัดหมายเป็นจำนวนมาก ผมก็นั่งรถจนช่วงประมาณ
11.30 น. ทางผู้จัดการศูนย์ก็ให้พนักงานมาเชิญผมไปดูรถพร้อมพูดคุยว่าเกียร์เสียหาย ต้องการที่จะให้ทางศูนย์ส่งซ่อมหรือจะทำยังไงดี ผมจึงบอกทางผู้จัดการว่าขอทำรถกลับมาศูนย์ใกล้บ้านที่ผมออกรถก่อนทางผู้จัดการท่านก็น่ารักช่วยประสานงาน
รถยกสไลด์ให้ซึ่งเป็นรถด้านนอก โดยมีค่าใช้จ่าย 5,500 บาทจากศูนย์ลพบุรีกลับมาที่ศูนย์บางปะกง โดยผมได้มีการติดต่อกลับมาทางศูนย์บริการที่เข้าทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องโดยทางเจ้าหน้าที่ก็รับเรืองประสานงานและจำติดต่อกลับมาทางผมอีกครั้ง
ผมออกเดินทางจากจังหวัดลพบุรีซึ่งเพื่อนผมต้องลงในตัวเมืองสระบุรีเพื่อต่อรถบขส.จากขนส่งสระบุรี มายังหมอชิต และต่อรถกับบ้านเองที่เขตลาดกระบังเพราะเส้นทางกลับของผมจะขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ไม่สามารถส่งเพื่อนได้ เมื่อมาถึงศูนย์ที่บางปะกงก็
นำรถเข้าฝาก ก่อนหน้านั้นทางศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ติดต่อแจ้งว่าประสานงานไปยังเจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ซึ่งจะขอเข้าพูดคุยพร้อมขอเก็บตัวอย่างน้ำมันเกียร์เข้าตรวจสอบกับทาง Lab โดยนัดกันในวันถัดมาคือวันที่ 29 มกราคม
โดยหลังจากที่เข้าตรวจสอบทางศูนย์ได้มีการดึงน้ำมันจากเหล็กวัดพบว่าน้ำมันเกียร์มีลักษณะสีดำ จึงนำรถขึ้นอุปกรณ์ยกรถพร้อมพูดคุยกันโดยมีผมเจ้าของรถ ผู้จัดการศูนย์/ช่างของทางศูนย์ ผู้จัดการศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และ
เจ้าหน้าที่ของน้ำมันเกียร์ ทางศูนย์ได้ขอดูกระป๋องของน้ำมันเกียร์เพื่อตรวจสอบโค๊ดของผลิตภัณฑ์ระบุโค๊ดน้ำมันใช้งานได้ทั้ง J1 และ J4 ซึ่งทดลองนำน้ำมันมาหยดพบว่ามีความเหนียวกว่าของศูนย์บริการ หลังจากนั้นทางศูนย์ได้ทำการเปิด
ถังน้ำมันเกียร์ออกมาพบว่านำมันเกียร์มากกว่าปกติโดยได้นำขวดน้ำขนาด 1.45 ลิตรมาทดลองตวงได้ทั้งสิ้น 2 ขวดครึ่งซึ่งก็น่าจะประมาณเกือบ 3 ลิตรครึ่ง ก่อนที่จะมีการเปิดทางศูนย์ได้สอบถามทางผู้จัดการสาขาแจ้งเติมไป 2.8 ลิตร
ทางศูนย์จึงแจ้งว่าการเติมน้ำมันเกียร์มากเกินไปอาจส่งผลให้ระบบเกียร์เสียหายได้ ทางผู้จัดการสาขาแจ้งว่าการเติมน้ำมันเกินจากที่ทางศูนย์ก็เคยมีการเติมเกินไปไม่พบว่าระบบเกียร์ของลูกค้าเสียหาย รวมระยะเวลาหลังจากเปลี่ยนถ่านน้ำมันเกียร์มาจน
ถึงนะวันที่พบปัญหาก็ประมาณ 5-6 วันระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร โดยในเอกสารหลังใบเสร็จระบุมีการรับประกันระยะทาง 5,000 กิโลเมตรหรือ 30 วันหรืออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน หลังจากที่มีการแจ้งกันไปทางผู้จัดการสาขาได้มีการติดต่อ
เข้ามาเพื่อแจ้งว่าทางศูนย์ยินดีที่จะช่วยชำระ 50/50 คือออกคนละครี่ง ทางผมจึงแจ้งกลับทางผู้จัดการสาขาว่าในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมควรจะเป็นผู้ที่แบกภาระดังกล่าวหรือไม่ ผู้จัดการจึงรับเรื่องแจ้งไปยังส่วนของทางผู้จัดการเขตก็ได้มีการติดต่อกลับมา
จากทางผู้จัดการเขต แจ้งว่าการเติมน้ำมันเกินไม่มีผลกับการทำให้เกียร์เกิดความเสียหายได้เพราะเติมให้ลูกค้าไปไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งครั้งนี้ทางผู้จัดการเขตแจ้งว่าในอำนาจการตัดสินใจของเค้ามีอำนาจดูแลผมได้ไม่เกิน 20,000 บาท
หากมากกว่านั้นต้องขอปรึกษากับทางหัวหน้าก่อน หลังจากนั้นผู้จัดการสาขาได้ติดต่อกลับมาหาผมอีกครั้งแจ้งว่าทางศูนย์ยินดีดูแลแต่ขอนำรถผมไปซ่อมที่อยู่ด้านนอกผมจึงสอบถามกลับว่าชุดอุปกรณ์อะไหล่เป็นของที่ไหน อันนี้ผมในฐานะผู้ใช้งาน
ที่เคยเชื่อถือ เริ่มมีความไม่มั่นใจและไม่เชื่อมั่นในการให้บริการของทางศูนย์ดังกล่าว ซึ่งผมยังไม่ได้ตอบตกลงใดๆ หลังจากนั้นผมได้ติดต่ไปที่ Call Center เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้จัดการสาขา/เขต/ภาค เพราะหลังจากที่คุยกับผู้จัดการเขตแล้ว
ผมขอคุยกับทางผู้จัดการภาคหรือผู้มีอำนาจตัดสินใจได้ ซึ่งทางผู้จัดการเขตแจ้งกับทางผมว่าผู้จัดการภาคมอบหมายให้สามารถตัดสินใจได้เลย ผมจึงได้ข้อมูลจากทาง Call Center เป็น e-mail :: customerservice@X-....com
จึงได้เขียน mail หนึ่งฉบับเพื่อทำเรื่องเป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการของทางศูนย์บริการดังกล่าวรวมถึงผู้จัดการเขตและภาค ในวันที่ 31 มกราคม ช่วงเที่ยงคืน และได้รับเมล์ตอบกลับมาในวันที่ 31 มกราคม ประมาณ 10 โมง เพื่อขอข้อมูลจากทางผมไป
และได้รับการติดต่อจากทางผู้จัดการภาคในเวลา 17.57 น. ซึ่งตอนแรกผมจะไม่คุย แต่ประโยคแรกที่ผมรับสายทางผู้จัดการภาคได้มีการแนะนำตัว + กล่าวขอโทษผม ซึ่งจากวันที่เกิดเหตุคือเช้าวันอังคารจนถึงวันศุกร์เกือบ 6 โมงเย็นผมพึ่งได้ยินคำขอโทษ
จากทางศูนย์บริการ ซึ่งเราก็ได้มีการสนทนากันสักประมาณ 30 นาที โดยทางผู้จัดการเขตแจ้งว่ายินดีจะดูแลรับผิดชอบแต่จำต้องมีข้อมูลยืนยันจากเหตุการณ์ว่าเกิดจากผลิตภัณฑ์น้ำมันเกียร์หรือเป็นการเติมน้ำมันเกียร์เกินทำให้ชุดเกียร์เสียหาย
โดยเป็นการขอผ่าเกียร์เพื่อพิสูจน์ ผมเล่าข้ามไปนิดครับช่วงเช้าของวันศุกร์ก่อนที่จะได้คุยกับทางผู้จัดการเขต ได้มีโอกาสเข้าพูดคุยกับทางช่างเทคนิคของทาง Mitsubishi เพราะว่าท่านได้เข้ามาตรวจสอบรถอีกคันซึ่งมีปัญหา พอดูรถของผม
ก็ได้สอบถามท่านแจ้งว่า 1. น้ำมันเกียร์ที่เป็น J1/J4 ที่เป็นลักษณะของการ Mix รวมกันไม่สามารถใช้งานได้รวมถึงได้มีการเ