ลองพิจารณาดู
วิธีที่ 1 การซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์
ได้แก่ ที่ดินเปล่า บ้าน ตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ ผมไม่แนะนำคอนโดมิเนียมเพราะได้กำไรน้อย
ที่ดิน ตึกแถว บ้าน หอพัก ถ้าเป็นมวยจะได้กำไร 2-3 เท่าบางครั้งมากกว่า 10 เท่า(1,000 %) เป็นล้านๆ ไม่ต้องเครียดหรือขาดทุนเหมือนซื้อ-ขายหุ้น FOREX(FX) ข้อมูลไม่ซับซ้อน แต่ก็ต้องมีความรู้
ผมเคยทำงานธนาคารมาก่อน คนไทยรวยเป็นเศรษฐีส่วนใหญ่มาจากที่ดินโดยไม่ต้องโกง ไม่ต้องมีความสามารถมากมาย คนรุ่นใหม่ไม่สนใจซื้อที่ดินเลย สนใจแต่หุ้น และ FX ซึ่งกำไรยาก เป็นแค่ภาพลวงตา ปธน.ทรัมป์ก็รวยจากอสังหาริมทรัพย์ ต่อไปถ้ามีเวลาผมอาจจะอบรมการลงทุนซื้อ-ขายที่ดิน
วิธีที่ 2 หุ้น อย่างที่บอกมาแล้ว คนเล่นหุ้น ถ้าวิเคราะห์ Fundamental งบการเงินจากบัญชี (งบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด ฯลฯ) ร่วมกับ Finance(การเงิน) ไม่เป็น ก็อย่าเล่นหุ้นเลย คนที่จบทาง Science(แพทย์ วิศวกรรม ฯลฯ) ก็ต้องศึกษางบการเงิน ถ้าเรียน MBA และ Economics ก็จะได้เปรียบ แต่ไม่จริงเสมอไป เพราะจำนวนมากซื้อขายหุ้นไม่เป็น
Warren Buffet เซียนหุ้นอันดับหนึ่งของโลกวิเคราะห์งบการเงินตลอดเวลา เซียนหุ้นคนหนึ่งของไทยก็ใช้งบการเงิน เขาว่า Port ใหญ่ใช้ Technical ไม่ได้ผล ผมเองก็ใช้ Fundamental เพราะมันสะท้อนถึงผลประกอบการที่แท้จริง
วิธีที่ 3 FOREX(FX) ที่คนไทยกำลังนิยมลงทุนในด้านนี้มาก บางคนคิดว่าง่าย แต่มันซับซ้อน เป็นนามธรรมมาก(Abstract)
ผู้ลงทุนหุ้นและ FX โดยเฉพาะรายใหญ่ต้องเข้าใจ Country Risk(Politics, International Relations, Military Power, Economic Theory, International Economics, International Finance. Business(Accounting, Finance, Marketing, International Business)
กองทุนต่างประเทศ(Hedge Fund) ที่มาลงทุนตามตลาดหุ้นและตลาดเงินในเอเซีย พวกนี้มีเงินทุนเป็นแสนล้านบาทต่อราย และมีหลายกองทุน พนักงานเป็นกระบี่มือหนึ่งทั้งนั้นจบป.โท ป.เอก จากต่างประเทศมีหลายร้อยคน ปัจจุบันใช้ AI Computer ในการวิเคราะห์และวางแผน เราจะสู้มันได้หรือ
ผมอยู่ธนาคารมีพนักงานเล่นหุ้นมากเป็นพันคน แต่ไม่เห็นใสักคน
ตลาดหุ้นต่างประเทศ รายย่อยจะซื้อผ่านกองทุน เพราะตนเองไม่เก่งพอ แต่รายย่อยเมืองไทยสู้ตาย ชอบเล่นหุ้นแบบการพนัน
กองทุนต่างประเทศจะซื้อหุ้นโดยเอาดอลล่าร์สหรัฐฯมาแลกเงินบาท จะต้องเสียค่าธรรมเนียมทั้งเข้าและออก เป็นต้นทุนค่าใช้จ่าย อัตราแลกเปลี่ยนเงินเปลี่ยนแปลงแทบทุกนาที จะทำให้กองทุนกำไรมากน้อยหรือขาดทุนได้
ช่วงนี้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ตามภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลจากไข้หวัดอู่ฮั่น กองทุนต่างประเทศจะต้องรีบขายหุ้นได้เงินบาทและซื้อเป็นดอลล่าร์ มิฉะนั้นจะขาดทุนกำไร ถ้าช้าจะขาดทุนจริง แนวโน้มเช่นนี้จะทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลง
วิธีการลงทุนและเก็งกำไร
วิธีที่ 1 การซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์
ได้แก่ ที่ดินเปล่า บ้าน ตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ ผมไม่แนะนำคอนโดมิเนียมเพราะได้กำไรน้อย
ที่ดิน ตึกแถว บ้าน หอพัก ถ้าเป็นมวยจะได้กำไร 2-3 เท่าบางครั้งมากกว่า 10 เท่า(1,000 %) เป็นล้านๆ ไม่ต้องเครียดหรือขาดทุนเหมือนซื้อ-ขายหุ้น FOREX(FX) ข้อมูลไม่ซับซ้อน แต่ก็ต้องมีความรู้
ผมเคยทำงานธนาคารมาก่อน คนไทยรวยเป็นเศรษฐีส่วนใหญ่มาจากที่ดินโดยไม่ต้องโกง ไม่ต้องมีความสามารถมากมาย คนรุ่นใหม่ไม่สนใจซื้อที่ดินเลย สนใจแต่หุ้น และ FX ซึ่งกำไรยาก เป็นแค่ภาพลวงตา ปธน.ทรัมป์ก็รวยจากอสังหาริมทรัพย์ ต่อไปถ้ามีเวลาผมอาจจะอบรมการลงทุนซื้อ-ขายที่ดิน
วิธีที่ 2 หุ้น อย่างที่บอกมาแล้ว คนเล่นหุ้น ถ้าวิเคราะห์ Fundamental งบการเงินจากบัญชี (งบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด ฯลฯ) ร่วมกับ Finance(การเงิน) ไม่เป็น ก็อย่าเล่นหุ้นเลย คนที่จบทาง Science(แพทย์ วิศวกรรม ฯลฯ) ก็ต้องศึกษางบการเงิน ถ้าเรียน MBA และ Economics ก็จะได้เปรียบ แต่ไม่จริงเสมอไป เพราะจำนวนมากซื้อขายหุ้นไม่เป็น
Warren Buffet เซียนหุ้นอันดับหนึ่งของโลกวิเคราะห์งบการเงินตลอดเวลา เซียนหุ้นคนหนึ่งของไทยก็ใช้งบการเงิน เขาว่า Port ใหญ่ใช้ Technical ไม่ได้ผล ผมเองก็ใช้ Fundamental เพราะมันสะท้อนถึงผลประกอบการที่แท้จริง
วิธีที่ 3 FOREX(FX) ที่คนไทยกำลังนิยมลงทุนในด้านนี้มาก บางคนคิดว่าง่าย แต่มันซับซ้อน เป็นนามธรรมมาก(Abstract)
ผู้ลงทุนหุ้นและ FX โดยเฉพาะรายใหญ่ต้องเข้าใจ Country Risk(Politics, International Relations, Military Power, Economic Theory, International Economics, International Finance. Business(Accounting, Finance, Marketing, International Business)
กองทุนต่างประเทศ(Hedge Fund) ที่มาลงทุนตามตลาดหุ้นและตลาดเงินในเอเซีย พวกนี้มีเงินทุนเป็นแสนล้านบาทต่อราย และมีหลายกองทุน พนักงานเป็นกระบี่มือหนึ่งทั้งนั้นจบป.โท ป.เอก จากต่างประเทศมีหลายร้อยคน ปัจจุบันใช้ AI Computer ในการวิเคราะห์และวางแผน เราจะสู้มันได้หรือ
ผมอยู่ธนาคารมีพนักงานเล่นหุ้นมากเป็นพันคน แต่ไม่เห็นใสักคน
ตลาดหุ้นต่างประเทศ รายย่อยจะซื้อผ่านกองทุน เพราะตนเองไม่เก่งพอ แต่รายย่อยเมืองไทยสู้ตาย ชอบเล่นหุ้นแบบการพนัน
กองทุนต่างประเทศจะซื้อหุ้นโดยเอาดอลล่าร์สหรัฐฯมาแลกเงินบาท จะต้องเสียค่าธรรมเนียมทั้งเข้าและออก เป็นต้นทุนค่าใช้จ่าย อัตราแลกเปลี่ยนเงินเปลี่ยนแปลงแทบทุกนาที จะทำให้กองทุนกำไรมากน้อยหรือขาดทุนได้
ช่วงนี้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ตามภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลจากไข้หวัดอู่ฮั่น กองทุนต่างประเทศจะต้องรีบขายหุ้นได้เงินบาทและซื้อเป็นดอลล่าร์ มิฉะนั้นจะขาดทุนกำไร ถ้าช้าจะขาดทุนจริง แนวโน้มเช่นนี้จะทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลง