จัดอันดับหุ้นรับเหมาปันผลแน่น PREB ไม่เป็นรองใคร

https://www.share2trade.com/?mod=talk&file=view&id=5480

แม้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของประเทศไทยยังติดขัด แต่เชื่อว่าในที่สุดรัฐบาลจะหาทางออกจนได้โดยเร็ว ซึ่งผลดีสะท้อนตลาดทุน ซึ่งโดยปกติแล้วหุ้นประเภทรับเหมาก่อสร้างมักถูกคาดหมายว่าจะได้ประโยชน์สูงสุด
 
เป็นที่น่าสนใจว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับบริการก่อสร้างขนาดที่ไม่ใหญ่มากมักจะให้ปันผลสูง โดย บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB นับเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ ที่เป็นแชมป์ของกลุ่ม

จากข้อมูลปิดตลาดหุ้นไทยวันที่ 30 ม.ค. 2563 หุ้น PREB ครองแชมป์ร่วมกับ NWR ให้อัตราเงินปันผลตอบแทน (ยิลด์) สูงมากถึง 9.30% ขณะที่อันดับรองๆ ลงไปอยู่ในช่วง 6-8%


ผู้บริหารพร้อมปั้นธุรกิจโตไม่หยุดยั้ง จับมือพันธมิตรเสริมแกร่งในธุรกิจที่อยู่อาศัย
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ PREB เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตัดสินใจร่วมลงทุนกับกลุ่ม Enrich ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่พัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณถนนราชพฤกษ์ โดยเลือกเข้าร่วมลงทุนในโครงการ AI ซึ่งเป็นโครงการบ้านทาวน์โฮม ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ บริเวณสวนผัก โดยมีมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 46 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนการลงทุนที่ 40% ซึ่งในปัจจุบันโครงการนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 60% มียอดจองและทำสัญญาแล้วประมาณ 65%  โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบบ้านภายในปี 2563 นี้ และจะใช้เวลาในการปิดโครงการไม่เกินกลางปี 2564   
ขณะที่ก่อนหน้านี้ PREB ร่วมลงทุนโครงการ Premio Quinto คอนโดมิเนียม Low Rise สไตล์ Modern Classic มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งอยู่ติดถนนพหลโยธินใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS  สถานีเสนานิคม ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว 100% ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยียม และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะปิดโครงการได้ภายในกลางปี 2563   

โบรกฯ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 10.30 บาท ความน่าสนใจอยู่ที่การฟื้นตัว
บล. ทิสโก้ มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ปีก่อนคาดจะกลับมาเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่เป็นจุดสูงสุดใหม่ที่ 9.5 พันล้านบาท หลังประมูลงานเพิ่มได้ราว 2 พันล้านบาทในช่วงไตรมาสก่อนหน้าอีกทั้งปัจจุบันโครงการ JV คอนโดมิเนียม Premio Quinto สถานีรถไฟฟ้าเสนานิคมมีลูกค้าทยอยโอนแล้วราว 160 ยูนิต คิดเป็นราว 36% ของมูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท  ทำให้คาดจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาราว 35-40 ล้านบาท ในขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวบางแวกของ ISAMARE มูลค่า 1.1 พันล้านบาทปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านตัวอย่างตามแผน คาดรับรู้รายได้ได้ตามเป้า 240 ล้านบาท
มูลค่าเหมาะสมปี 2563 ที่ 10.30 บาท อิง P/E  ที่ 9 เท่า ราคาหุ้นมีความน่าสนใจทั้งการฟื้นตัวของผลประกอบการในไตรมาส 4 ที่กำลังจะประกาศออกมา รวมถึงของปีนี้ อีกทั้งในแง่ของเงินปันผลที่คาดจะจ่ายสูง 6-7% (คาดจ่ายอีกราว 0.36 บาท/หุ้น)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่