หากคุณเป็นคนนึงที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย?
หากคุณเป็นคนนึงที่เดินทางไปในย่านชุมชนคนแออัด ที่สุ่มเสี่ยง?
หากคุณเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ที่มีครอบครัว ที่ต้องเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้?
และ…คุณอยากที่จะป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักไม่ให้ป่วย?
วันนี้ผมมี 8 เช็คลิส เนื้อหา เข้าใจง่าย 😉
“เที่ยวยังไง ไม่ให้ป่วย” เมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ ที่มีความเสี่ยง เพื่อนๆ สามารถทำตามกันได้ง่ายๆ
ตามเช็คลิสด้านล่างนี้เลยครับ
1. หมั่นล้างมือให้สะอาด
เชื้อโรคและสิ่งสกปรกมีทุกหนแห่งครับ โดยเฉพาะที่ๆ คนพลุกพล่าน เช่น สนามบิน, แหล่งท่องเที่ยว, ห้างสรรพสินค้า
และที่ ๆ แออัดอย่าง รถไฟ รถโดยสาร ดังนั้นเวลาเราเดินทางสิ่งที่จะต้องทำคือ “การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ” และถ้าให้ดีพก
“เจลล้างมือขวดเล็ก แบบไม่ใช้น้ำ” ติดตัว แค่นี้ก็เป็นเกราะป้องกันชั้นแรกให้ตัวเราครับ
สำคัญมากคือการไม่นำมือที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด มาขยี้ตา แคะจมูก หรือโดนปาก โดยเด็ดขาด
เพราะสามารถเป็นการนำพาเชื้อโรคเข้าร่างกายได้ครับ
2. ใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกประเภท
การเดินทางท่องเที่ยวทั้งในไทย และต่างประเทศตอนนี้ เราจะเผชิญ 2 สิ่งใหญ่ ๆ ด้วยกันครับ คือ
- ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีอยู่ในหลายประเทศด้วยกัน เช่น ไทย อินเดีย จีน ดังนั้น หน้ากากที่ต้องใช้ ถ้าเราเผชิญภาวะฝุ่น PM 2.5 คือ “หน้ากากอนามัย N95 หรือ หน้ากากที่เขียนว่ากรองฝุ่น PM2.5” หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปครับ หรือสั่ง online ได้ครับ
โดยตอนนี้ มี Application ในการเช็คฝุ่นได้หลายประเทศ และหลายเมืองที่เรา
ไป คือ “AirVisual Air Quality Forecast” และ “Air Quality: Real time AQI” ที่ทำให้เราสามารถรู้ค่าฝุ่นโดยเท่าไปได้ก่อน
เพื่อประเมิณสถานการณ์ก่อนไปท่องเที่ยวได้ครับ
และเรายังสามารถหาซื้อเครื่องวัดค่าฝุ่นในอากาศแบบพกพาที่ตอนนี้มีวางขายโดยทั่วไป หรือจะสั่งผ่านทาง online ก็ไม่ยาก
เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการป้องกันตัวเองครับ
- ไวรัสโคโรน่า และ แบคทีเรีย/ไวรัสต่างๆ เนื่องจากแต่ละช่วง จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสที่ต่างกันออกไป
ช่วงนี้ที่มาก็คือ ไวรัสโคโรน่า จะดีกว่าไหมถ้าเราป้องกันตัวเองตั้งแต่ต้น ก่อนที่ไวรัสจะระบาดอย่างจริงจัง?
เพียงแค่เราใส่ “หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (surgical mask )”
สังเกตุได้โดยด้านหนึ่งเป็นสีเขียวหรือสีฟ้าครับ หน้ากากอนามัยชนิดนี้ อาจจะสามารถกันฝุ่น PM2.5 ได้มากนัก
แต่สามารถป้องกันการรับเชื้อต่างๆ จากไวรัส/แบคทีเรีย ที่มากับ ละอองน้ำมูก ละอองน้ำลาย ซึ่งละอองเหล่านี้สามารถกระจายออกมาในวงกว้าง
เวลาจาม ไอ ได้ครับ หรือเราสามารถใช้ “หน้ากากอนามัย N95” เลยจะดีที่สุดครับ เพราะกันได้ละเอียดกว่าครับ ทั้งฝุ่นและไวรัส
3. ไม่เข้าร้านอาหารที่ว่างผิดปกติ
เวลาเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ ที่เราไม่คุ้นเคย ให้สังเกตนะครับ ว่าร้านไหนที่ว่างผิดปกติ คนท้องถิ่นยังไม่เข้าเลย
ให้ตั้งสันนิษฐานเลยครับว่า ร้านนี้ผิดปกติ อาจจะมาจากหนึ่งในสาเหตุคือ ความไม่สะอาดนั่นเอง
และเหตุผลอื่นๆ อีก เช่น เรื่องของรสชาติ หรือไม่ได้เกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้นขอให้ข้ามร้านเหล่านี้ครับ
อย่าพึ่งมีอารมณ์อยากลองกันตอนนี้ เพราะถ้าป่วยแล้ว มันไม่คุ้มกันเลยครับ
4. กินอาหารสุกเท่านั้น
อาหารไม่สุก คือ อาหารที่มีโอกาสมีเชื้อโรคแปลกปลอมมาในอาหารได้ครับ โดยเฉพาะที่เราเดินทางต่างถิ่น
ขอให้เราเน้นย้ำกับพนักงาน และร้านอาหารว่า เราขออาหารที่สุกเท่านั้น เพื่อจะได้ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกายเรานะครับ
ส่วนใครที่ชื่นชอบการกินอาหารแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ หรือยำกุ้งสุก ปูม้าดอง อะไรพวกนี้
ผมแนะนำให้ทานยาถ่ายพญาธิอย่างสม่ำเสมอนะครับ ด้วยความเป็นห่วง
5. กินวิตามินเพิ่ม เวลาเดินทาง
เวลาเดินทาง เราอาจจะพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ทั้งการเดินทางด้วยเครื่องบิน และกิจกกรมที่เราต้องทำ
ยิ่งหลายคนไปกับทัวร์ด้วยแล้ว ก็ต้องตื่นเช้ามากๆ ดังนั้นสิ่งที่ช่วยได้คือการ พกวิตามินรวม (Multivitamins)
ที่จะช่วยให้บำรุงร่างกายให้สดใส กระฉับกระเฉง และมีพลัง เหมาะมากสำหรับเพื่อนๆ นักเดินทางที่กิน ผัก ผลไม้ ไม่เพียงพอครับ
ต่อด้วยวิตามินC ที่จะช่วยเพิ่มความสดใสของผิว แถมยังป้องกันไข้หวัด! อีกด้วย มาพร้อมกับลดรอยสิวอีก อะไรมันจะดีขนาดนี้ (ตัวนี้แนะนำมาก)
และสุดท้ายด้วยวิตามินที่ผสมเมลาโทนิน สำหรับการนอนหลับให้สบายก่อนนอน นั่นเองครับ เผื่อที่เราไปเที่ยวแล้วนอนไม่หลับเพราะต่างที่นั่นเอง
6. ฉีดวัคซีน ก่อนไปประเทศที่มีความเสี่ยง & เตรียมยาฉุกเฉิน
ก่อนไปประเทศไหนให้เช็คข้อมูลนะครับ ว่าประเทศนั้นเราควรฉีดวัคซีนอะไรบ้าง มีหลายๆ ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวกัน
แต่ก็ไม่ฉีดกันครับ เช่น อินเดีย และจีน ผมแนะนำให้ไปที่
“คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทางโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล”
https://www.thaitravelclinic.com/th/
ที่นี่มีข้อมูลทุกประเทศ ที่เราเดินทาง และยังแนะนำว่าเราจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง แถมราคายังเป็นมิตรมาก
และที่มากไปกว่านั้น คืออย่าลืมเตรียมยาฉุกเฉินต่างๆ สำหรับการเดินทางครับ เช่น ยาสามัญประจำบ้าน และ ยารายบุคคล ครับ
7. ซื้อประกันเดินทาง
อย่าเสียดายเงินครับ เพราะถ้าป่วย หรือ เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ไม่คุ้มแน่นอนครับ ค่าใช้จ่ายหลักแสน หลักล้านบาท ถ้านอนโรงพยาบาลต่างประเทศ
ที่ผมเห็นตอนนี้ ประกันที่น่าซื้อที่สุดที่เราไปต้องสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน ครอบคลุมให้หมด ไม่ต้องมาเคลมทีหลัง คือ ประกันไทยวิวัฒน์ ครับ
ซื้อผ่าน online ไม่ยากเลย
(no sponsor น้า)
8. ยกเลิกการเดินทางในประเทศ ที่กำลังมีโรคระบาด
ทางที่ดีที่สุด ถ้าประเทศ หรือเมืองไหน มีการแจ้งเตือนโรคระบาด ให้เราและครอบครัวยกเลิกการเดินทางครับ อย่ากล้าท้าชนไปเที่ยว
เพราะไม่คุ้มแน่นอนครับ โดยเฉพาะตอนนี้กับเจ้าไวรัสโคโรน่า ที่กำลังระบาดอย่างนัก และมีโอกาสกลายพันธุ์สูงมากยิ่งน่ากลัวครับ
หลายคนอาจจะต้องทิ้งตั๋วบิน ทิ้ง รร. ที่จองไว้ แค่แอดบีมองว่า คุ้มค่ามากกว่า การที่จะไปเที่ยวพร้อมต้องหวาดระแวงว่าจะติดเชื้อไหม
จะมีใครมาไอใส่รึปล่าว...ไม่คุ้มเลยครับ เปลี่ยนแผลน เที่ยวใกล้บ้าน หรือหากิจกรรมอื่นๆ ทำแทนดีกว่าครับ เป็นห่วง
เพียงเท่านี้เพื่อนๆ และคนที่เพื่อนๆ รัก ก็สบายใจได้กับทุกการเดินทางแล้วครับ ✌️😁
สุดท้ายก็ขอให้ทริปเที่ยวที่กำลังจะถึง เดินทางปลอดภัย ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย มีแต่ประสบการณ์ดีๆ กลับมานะครับ
ฝากกดติดตามแฟนเพจทิปเที่ยวดีๆ ในเฟสบุ๊คด้วยนะครับ 😆
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/tipteawdd/
8 Check List เที่ยวยังไงให้ปลอดภัย ทั้งฝุ่น PM2.5 และไวรัสโคโรน่า 👍
หากคุณเป็นคนนึงที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย?
หากคุณเป็นคนนึงที่เดินทางไปในย่านชุมชนคนแออัด ที่สุ่มเสี่ยง?
หากคุณเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ที่มีครอบครัว ที่ต้องเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้?
และ…คุณอยากที่จะป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักไม่ให้ป่วย?
วันนี้ผมมี 8 เช็คลิส เนื้อหา เข้าใจง่าย 😉
“เที่ยวยังไง ไม่ให้ป่วย” เมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ ที่มีความเสี่ยง เพื่อนๆ สามารถทำตามกันได้ง่ายๆ
ตามเช็คลิสด้านล่างนี้เลยครับ
1. หมั่นล้างมือให้สะอาด
เชื้อโรคและสิ่งสกปรกมีทุกหนแห่งครับ โดยเฉพาะที่ๆ คนพลุกพล่าน เช่น สนามบิน, แหล่งท่องเที่ยว, ห้างสรรพสินค้า
และที่ ๆ แออัดอย่าง รถไฟ รถโดยสาร ดังนั้นเวลาเราเดินทางสิ่งที่จะต้องทำคือ “การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ” และถ้าให้ดีพก
“เจลล้างมือขวดเล็ก แบบไม่ใช้น้ำ” ติดตัว แค่นี้ก็เป็นเกราะป้องกันชั้นแรกให้ตัวเราครับ
สำคัญมากคือการไม่นำมือที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด มาขยี้ตา แคะจมูก หรือโดนปาก โดยเด็ดขาด
เพราะสามารถเป็นการนำพาเชื้อโรคเข้าร่างกายได้ครับ
2. ใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกประเภท
การเดินทางท่องเที่ยวทั้งในไทย และต่างประเทศตอนนี้ เราจะเผชิญ 2 สิ่งใหญ่ ๆ ด้วยกันครับ คือ
- ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีอยู่ในหลายประเทศด้วยกัน เช่น ไทย อินเดีย จีน ดังนั้น หน้ากากที่ต้องใช้ ถ้าเราเผชิญภาวะฝุ่น PM 2.5 คือ “หน้ากากอนามัย N95 หรือ หน้ากากที่เขียนว่ากรองฝุ่น PM2.5” หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปครับ หรือสั่ง online ได้ครับ
โดยตอนนี้ มี Application ในการเช็คฝุ่นได้หลายประเทศ และหลายเมืองที่เรา
ไป คือ “AirVisual Air Quality Forecast” และ “Air Quality: Real time AQI” ที่ทำให้เราสามารถรู้ค่าฝุ่นโดยเท่าไปได้ก่อน
เพื่อประเมิณสถานการณ์ก่อนไปท่องเที่ยวได้ครับ
และเรายังสามารถหาซื้อเครื่องวัดค่าฝุ่นในอากาศแบบพกพาที่ตอนนี้มีวางขายโดยทั่วไป หรือจะสั่งผ่านทาง online ก็ไม่ยาก
เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการป้องกันตัวเองครับ
- ไวรัสโคโรน่า และ แบคทีเรีย/ไวรัสต่างๆ เนื่องจากแต่ละช่วง จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสที่ต่างกันออกไป
ช่วงนี้ที่มาก็คือ ไวรัสโคโรน่า จะดีกว่าไหมถ้าเราป้องกันตัวเองตั้งแต่ต้น ก่อนที่ไวรัสจะระบาดอย่างจริงจัง?
เพียงแค่เราใส่ “หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (surgical mask )”
สังเกตุได้โดยด้านหนึ่งเป็นสีเขียวหรือสีฟ้าครับ หน้ากากอนามัยชนิดนี้ อาจจะสามารถกันฝุ่น PM2.5 ได้มากนัก
แต่สามารถป้องกันการรับเชื้อต่างๆ จากไวรัส/แบคทีเรีย ที่มากับ ละอองน้ำมูก ละอองน้ำลาย ซึ่งละอองเหล่านี้สามารถกระจายออกมาในวงกว้าง
เวลาจาม ไอ ได้ครับ หรือเราสามารถใช้ “หน้ากากอนามัย N95” เลยจะดีที่สุดครับ เพราะกันได้ละเอียดกว่าครับ ทั้งฝุ่นและไวรัส
3. ไม่เข้าร้านอาหารที่ว่างผิดปกติ
เวลาเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ ที่เราไม่คุ้นเคย ให้สังเกตนะครับ ว่าร้านไหนที่ว่างผิดปกติ คนท้องถิ่นยังไม่เข้าเลย
ให้ตั้งสันนิษฐานเลยครับว่า ร้านนี้ผิดปกติ อาจจะมาจากหนึ่งในสาเหตุคือ ความไม่สะอาดนั่นเอง
และเหตุผลอื่นๆ อีก เช่น เรื่องของรสชาติ หรือไม่ได้เกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้นขอให้ข้ามร้านเหล่านี้ครับ
อย่าพึ่งมีอารมณ์อยากลองกันตอนนี้ เพราะถ้าป่วยแล้ว มันไม่คุ้มกันเลยครับ
4. กินอาหารสุกเท่านั้น
อาหารไม่สุก คือ อาหารที่มีโอกาสมีเชื้อโรคแปลกปลอมมาในอาหารได้ครับ โดยเฉพาะที่เราเดินทางต่างถิ่น
ขอให้เราเน้นย้ำกับพนักงาน และร้านอาหารว่า เราขออาหารที่สุกเท่านั้น เพื่อจะได้ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกายเรานะครับ
ส่วนใครที่ชื่นชอบการกินอาหารแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ หรือยำกุ้งสุก ปูม้าดอง อะไรพวกนี้
ผมแนะนำให้ทานยาถ่ายพญาธิอย่างสม่ำเสมอนะครับ ด้วยความเป็นห่วง
5. กินวิตามินเพิ่ม เวลาเดินทาง
เวลาเดินทาง เราอาจจะพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ทั้งการเดินทางด้วยเครื่องบิน และกิจกกรมที่เราต้องทำ
ยิ่งหลายคนไปกับทัวร์ด้วยแล้ว ก็ต้องตื่นเช้ามากๆ ดังนั้นสิ่งที่ช่วยได้คือการ พกวิตามินรวม (Multivitamins)
ที่จะช่วยให้บำรุงร่างกายให้สดใส กระฉับกระเฉง และมีพลัง เหมาะมากสำหรับเพื่อนๆ นักเดินทางที่กิน ผัก ผลไม้ ไม่เพียงพอครับ
ต่อด้วยวิตามินC ที่จะช่วยเพิ่มความสดใสของผิว แถมยังป้องกันไข้หวัด! อีกด้วย มาพร้อมกับลดรอยสิวอีก อะไรมันจะดีขนาดนี้ (ตัวนี้แนะนำมาก)
และสุดท้ายด้วยวิตามินที่ผสมเมลาโทนิน สำหรับการนอนหลับให้สบายก่อนนอน นั่นเองครับ เผื่อที่เราไปเที่ยวแล้วนอนไม่หลับเพราะต่างที่นั่นเอง
6. ฉีดวัคซีน ก่อนไปประเทศที่มีความเสี่ยง & เตรียมยาฉุกเฉิน
ก่อนไปประเทศไหนให้เช็คข้อมูลนะครับ ว่าประเทศนั้นเราควรฉีดวัคซีนอะไรบ้าง มีหลายๆ ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวกัน
แต่ก็ไม่ฉีดกันครับ เช่น อินเดีย และจีน ผมแนะนำให้ไปที่
“คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทางโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล”
https://www.thaitravelclinic.com/th/
ที่นี่มีข้อมูลทุกประเทศ ที่เราเดินทาง และยังแนะนำว่าเราจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง แถมราคายังเป็นมิตรมาก
และที่มากไปกว่านั้น คืออย่าลืมเตรียมยาฉุกเฉินต่างๆ สำหรับการเดินทางครับ เช่น ยาสามัญประจำบ้าน และ ยารายบุคคล ครับ
7. ซื้อประกันเดินทาง
อย่าเสียดายเงินครับ เพราะถ้าป่วย หรือ เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ไม่คุ้มแน่นอนครับ ค่าใช้จ่ายหลักแสน หลักล้านบาท ถ้านอนโรงพยาบาลต่างประเทศ
ที่ผมเห็นตอนนี้ ประกันที่น่าซื้อที่สุดที่เราไปต้องสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน ครอบคลุมให้หมด ไม่ต้องมาเคลมทีหลัง คือ ประกันไทยวิวัฒน์ ครับ
ซื้อผ่าน online ไม่ยากเลย
(no sponsor น้า)
8. ยกเลิกการเดินทางในประเทศ ที่กำลังมีโรคระบาด
ทางที่ดีที่สุด ถ้าประเทศ หรือเมืองไหน มีการแจ้งเตือนโรคระบาด ให้เราและครอบครัวยกเลิกการเดินทางครับ อย่ากล้าท้าชนไปเที่ยว
เพราะไม่คุ้มแน่นอนครับ โดยเฉพาะตอนนี้กับเจ้าไวรัสโคโรน่า ที่กำลังระบาดอย่างนัก และมีโอกาสกลายพันธุ์สูงมากยิ่งน่ากลัวครับ
หลายคนอาจจะต้องทิ้งตั๋วบิน ทิ้ง รร. ที่จองไว้ แค่แอดบีมองว่า คุ้มค่ามากกว่า การที่จะไปเที่ยวพร้อมต้องหวาดระแวงว่าจะติดเชื้อไหม
จะมีใครมาไอใส่รึปล่าว...ไม่คุ้มเลยครับ เปลี่ยนแผลน เที่ยวใกล้บ้าน หรือหากิจกรรมอื่นๆ ทำแทนดีกว่าครับ เป็นห่วง
เพียงเท่านี้เพื่อนๆ และคนที่เพื่อนๆ รัก ก็สบายใจได้กับทุกการเดินทางแล้วครับ ✌️😁
สุดท้ายก็ขอให้ทริปเที่ยวที่กำลังจะถึง เดินทางปลอดภัย ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย มีแต่ประสบการณ์ดีๆ กลับมานะครับ
ฝากกดติดตามแฟนเพจทิปเที่ยวดีๆ ในเฟสบุ๊คด้วยนะครับ 😆
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้