The Gentlemen (Guy Ritchie / 2020)
SCORE : 8/10
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเจ้าพ่อกัญชาผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งเกาะอังกฤษอย่าง มิกกี้ เพียร์ ตัดสินใจวางมือจากวงการ เขาจึงตกกลายเป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่ความขัดแย้งหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างแก๊งค์มาเฟีย องค์กรยาเสพติด สำนักข่าว และเหล่าชนชั้นสูงของอังกฤษ ที่ล้วนแต่มีเป้าหมายในการครอบครองอาณาจักรกัญชาของเขาไว้ในมือตัวเอง
.
เป็นการกลับมาของ Guy Ritchie ที่ท๊อปฟอร์มากๆ ส่วนตัวไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นแฟนหนังของเขา แต่ก็มีหนังของหลายเรื่องที่เคยดูและชอบเช่น Sherlock Holmes และ The Man from U.N.C.L.E ซึ่งหนังเรื่องนี้คือส่วนผสมจากหนังต่างๆ ที่เค้าเคยทำมา ซึ่งภาพรวมมันออกมาเวิร์คมากๆ
.
จริงๆ ตัวหนังไม่ได้มีโครงสร้างเรื่องที่ซับซ้อนอะไรเลยสักนิดเดียว แต่กลวิธีการเล่าของมันต่างหากที่น่าสนใจ พอตัวหนังมันเลือกเล่าจากมุมมองตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่ก็เป็นหนึ่งในตัวละครหลักอยู่ดี นั่นเลยทำให้ทุกตัวละครในเรื่องล้วนสำคัญและมีน้ำหนักพอๆ กัน เครือข่ายตัวละครในเรื่องนี้จึงเชื่อมโยงกันเหมือนกันเครื่องข่ายขององค์กรณ์ที่บางส่วนดูไม่เกี่ยวข้อง แต่มันก็เกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บวกกับความเป็นหนังสไตล์ gangster เลยทำให้คำว่า เครือข่าย ของโดดเด่นมากๆ
.
หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ เราค้นพบว่าคำนิยามสั้นๆ ของหนังเรื่องนี้ที่เรานึกออกในหัวคือคำว่า “เท่” มันเป็นหนังที่เท่ในทุกๆ อย่างจริงๆ นะ ทั้งความยียวนของตัวละคร, จังหวะนรก (bad joke) ที่หยิบใส่มาอย่างเหมาะเจาะ เหมาะเหม็ง และทำให้ขำลั่นมากๆ, ฉากแอคชั่นที่มาน้อยแต่ร้อยเปอร์, dialogue รวมถึงงาน production องค์ประกอบทุกอย่างทำให้หนังเรื่องนี้มันเต็มไปด้วยความเท่สุดๆ
.
สิ่งหนึ่งที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือนักแสดงของหนังเรื่องนี้ การที่ตัวหนังมี Matthew McConaughey, Charlie Hunnam, Henry Golding, Michelle Dockery, Jeremy Strong, Eddie Marsan, Colin Farrell และ Hugh Grant รวมอยู่ด้วยกัน ทำให้หนังเรื่องนี้โคตรจะมีสีสัน ทุกอย่างมันคือเคมีที่ลงตัวไปหมด มันยากมากนะในหนังสมัยนี้ ที่นักแสดงทุกคนจะมารวมกันแล้วดีขนาดนี้
.
เราชอบพาร์ทความสัมพันธ์เชิงเครือข่ายและองค์กรณ์ระหว่างตัวละครในเรื่องนี้มากๆ มันดูมีสเนห์และดึงดูดให้เราอยากรู้เรื่องราวต่างๆ ของแต่ละคน ตัวละครมันดูมีมิติที่น่าสนใจ อีกทั้งประเด็นที่พูดเรื่องอำนาจเชิงธุรกิจก็ยังทำออกมาได้เจ๋งมากๆ คือมันไม่ได้เจ๊งในแง่ที่มันว๊าวนะ มันเจ๊งในแง่ที่มันยียวนกวนบาทาแบบสุดๆ อีก
.
โดยรวม The Gentlemen คือหนังแห่งการกลับมาของ Guy Ritchie ที่หยิบเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยมีมาใส่ไว้ด้วยกัน องค์ประกอบทุกอย่างในหนังมันเลยมีสไตล์และความเป็นตัวเองสูง ซึ่งมันดีมากๆ เพราะมันเป็นความแมสและความบันเทิงที่ทุกคนสัมผัสได้ อีกทั้งเส้นเรื่องที่ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมาย เข้าใจได้แบบไม่งงแน่นอน นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด .
[SR] Movie Review : The Gentlemen - สุภาพบุรุษมาหากัญ (8/10)
SCORE : 8/10
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเจ้าพ่อกัญชาผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งเกาะอังกฤษอย่าง มิกกี้ เพียร์ ตัดสินใจวางมือจากวงการ เขาจึงตกกลายเป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่ความขัดแย้งหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างแก๊งค์มาเฟีย องค์กรยาเสพติด สำนักข่าว และเหล่าชนชั้นสูงของอังกฤษ ที่ล้วนแต่มีเป้าหมายในการครอบครองอาณาจักรกัญชาของเขาไว้ในมือตัวเอง
.
เป็นการกลับมาของ Guy Ritchie ที่ท๊อปฟอร์มากๆ ส่วนตัวไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นแฟนหนังของเขา แต่ก็มีหนังของหลายเรื่องที่เคยดูและชอบเช่น Sherlock Holmes และ The Man from U.N.C.L.E ซึ่งหนังเรื่องนี้คือส่วนผสมจากหนังต่างๆ ที่เค้าเคยทำมา ซึ่งภาพรวมมันออกมาเวิร์คมากๆ
.
จริงๆ ตัวหนังไม่ได้มีโครงสร้างเรื่องที่ซับซ้อนอะไรเลยสักนิดเดียว แต่กลวิธีการเล่าของมันต่างหากที่น่าสนใจ พอตัวหนังมันเลือกเล่าจากมุมมองตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่ก็เป็นหนึ่งในตัวละครหลักอยู่ดี นั่นเลยทำให้ทุกตัวละครในเรื่องล้วนสำคัญและมีน้ำหนักพอๆ กัน เครือข่ายตัวละครในเรื่องนี้จึงเชื่อมโยงกันเหมือนกันเครื่องข่ายขององค์กรณ์ที่บางส่วนดูไม่เกี่ยวข้อง แต่มันก็เกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บวกกับความเป็นหนังสไตล์ gangster เลยทำให้คำว่า เครือข่าย ของโดดเด่นมากๆ
.
หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ เราค้นพบว่าคำนิยามสั้นๆ ของหนังเรื่องนี้ที่เรานึกออกในหัวคือคำว่า “เท่” มันเป็นหนังที่เท่ในทุกๆ อย่างจริงๆ นะ ทั้งความยียวนของตัวละคร, จังหวะนรก (bad joke) ที่หยิบใส่มาอย่างเหมาะเจาะ เหมาะเหม็ง และทำให้ขำลั่นมากๆ, ฉากแอคชั่นที่มาน้อยแต่ร้อยเปอร์, dialogue รวมถึงงาน production องค์ประกอบทุกอย่างทำให้หนังเรื่องนี้มันเต็มไปด้วยความเท่สุดๆ
.
สิ่งหนึ่งที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือนักแสดงของหนังเรื่องนี้ การที่ตัวหนังมี Matthew McConaughey, Charlie Hunnam, Henry Golding, Michelle Dockery, Jeremy Strong, Eddie Marsan, Colin Farrell และ Hugh Grant รวมอยู่ด้วยกัน ทำให้หนังเรื่องนี้โคตรจะมีสีสัน ทุกอย่างมันคือเคมีที่ลงตัวไปหมด มันยากมากนะในหนังสมัยนี้ ที่นักแสดงทุกคนจะมารวมกันแล้วดีขนาดนี้
.
เราชอบพาร์ทความสัมพันธ์เชิงเครือข่ายและองค์กรณ์ระหว่างตัวละครในเรื่องนี้มากๆ มันดูมีสเนห์และดึงดูดให้เราอยากรู้เรื่องราวต่างๆ ของแต่ละคน ตัวละครมันดูมีมิติที่น่าสนใจ อีกทั้งประเด็นที่พูดเรื่องอำนาจเชิงธุรกิจก็ยังทำออกมาได้เจ๋งมากๆ คือมันไม่ได้เจ๊งในแง่ที่มันว๊าวนะ มันเจ๊งในแง่ที่มันยียวนกวนบาทาแบบสุดๆ อีก
.
โดยรวม The Gentlemen คือหนังแห่งการกลับมาของ Guy Ritchie ที่หยิบเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยมีมาใส่ไว้ด้วยกัน องค์ประกอบทุกอย่างในหนังมันเลยมีสไตล์และความเป็นตัวเองสูง ซึ่งมันดีมากๆ เพราะมันเป็นความแมสและความบันเทิงที่ทุกคนสัมผัสได้ อีกทั้งเส้นเรื่องที่ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมาย เข้าใจได้แบบไม่งงแน่นอน นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด .
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้