ดิฉัน เป็นผู้ประกันตนที่เลือกสิทธิ์ที่ โรงพยาลบาลแห่งหนึ่งย่านลาซาล ศรีนครินทร์ เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้โรงพยาบาลนี้ และได้ย้ายมาอยู่แถวนี้ประมาณ 8 ปี โดยปกติ จะใช้บริการในส่วนที่ใช้สวัสดิการบริษัท และบางครั้งเจ็บป่วยเล็กน้อยเช่น เป็นหวัด จะมาหาประกันสังคมบ้าง และเมื่อมาใช้บริการประกันสังคมก็จะได้รับการบริการของโรงพยาบาลที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งจะเล่าให้ฟังดังนี้
1. ประมาณปี 2561 ดิฉันมีความเครียดเรื่องงาน จึงโทรปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต ทางนั้นแนะนำให้พบแพทย์ทางด้านสุขภาพจิตด่วนที่สุด และดิฉันก็ไปหาที่แห่งนี้ เนื่องจากค้นข้อมูลดูแล้วมีโรงพยาบาลนี้มีแพทย์ด้านนี้อยู่ แต่เมื่อไปถึงได้พบคุณหมอผู้หญิง เป็นอายุรกรรมท่านหนึ่ง(โดยปกติต้องพบคุณหมอายุรกรรมก่อนแล้วหมอจะส่งต่อให้หมอเฉพาะทาง) แต่เมื่อดิฉันปรึกษาคุณหมอ คุณหมอท่านนั้นบอกว่าโรงพยาบาลนี้ไม่มีแพทย์ด้านนี้ ให้ดิฉันย้ายสิทธิไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น ดิฉันก็แย้งว่าดิฉันรักษาโรคอื่นๆ ที่โรงพยาบาลนี้ อยากรักษาที่นี่ และโรงพยาบาลนี้ก็ใกล้บ้าน หมอตอบว่า โรคอื่นๆ ที่ดิฉันรักษาก็ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่นได้ ดิฉันจึงถามว่าปกติถ้าโรงพยาบาลคุณไม่มีแพทย์ หรือรักษาไม่ได้ ทางโรงพยาบาลต้องส่งต่อไปที่อื่นไม่ใช่หรือค่ะ คุณหมอตอบว่าไม่ค่ะ ถ้าคุณจะรักษาก็ให้ย้ายโรงพยาบาลไป
2. ในวันที่ 16 ตุลาคม 2562 ดิฉันได้ไปตรวจสุขภาพประจำปี ตามแพคเกจของประกันสังคม (ยกเว้นตรวจมะเร็งปากมดลูกต้องนัดแพทย์เฉพาะทาง) โดยทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะส่งผลไปที่บ้านภายใน 2 สัปดาห์ เมื่อได้รับผลแล้วให้นำผลตรวจมาพบแพทย์อีกครั้ง และดิฉันก็ได้นำผลไปพบแพทย์เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ดิฉันได้สอบถามเกี่ยวกับค่าสายตาว่ามีความผิดปกติหรือไม่ คุณหมอตอบว่าค่าสายตาที่ส่งมาให้นั้นไม่ได้มาตรฐาน (เพราะวัดด้วยคนโดยให้เรายืนและอ่านตัวเลข) อ้างอิงไม่ได้ ให้ไปตรวจสายตาด้วยเครื่องอีกครั้ง(หมายถึงจ่ายเงินเอง)
3. และในวันที่ 6 พฤศจิกายน ดิฉันได้ขอทำการนัดสูตินารี เพื่อทำการตรวจมะเร็งปากมดลูก และได้คิวเป็นวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ดิฉันได้เข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกกับแพทย์ท่านหนึง และปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมว่าดิฉันคลำเจอก้อนแข็งๆ บริเวณท้องน้อยด้านซ้าย คุณหมอเอามือแตะๆ สองครั้งแล้วบอกเป็นเส้นเอ็น และดิฉันปรึกษาเพิ่มเติมว่ายังคลำเจอก้อนที่หน้าอกข้างซ้าย คุณหมอบอกถ้าคลำเจอก็ไปให้คุณหมอศัลยกรรมคุณหมอไม่คลำให้ คุณหมอปฏิเสธที่จะไม่ตรวจ
4. วันที่4 มกราคม 2563 ดิฉันได้กลับไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และได้พบแพทย์อายุรกรรม และปรึกษาหมอเรื่องก้อนที่หน้าออก คุณหมอท่านคลำให้และบอกมีก้อนประมาณ 1 เซนติเมตร คุณหมอมีใบสั่งให้ส่งไปเมมโมแกรม เมื่อออกมาที่เคาเตอร์พยาบาล เจ้าหน้าที่ยื่นกระดาษมาให้เป็น ตามคิวอนุมัติประกันสังคม โดยแจ้งว่าจะได้ตรวจภายใน 1 เดือน และภายใน 7 วันหากทางโรงพยาบาลไม่โทรไปแจ้งคิวนัด ให้โทรมาตามเอง และเมื่อครบ 1 สัปดาห์ ดิฉันได้โทรไปเช็ค เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคิวยังไม่ออก และสัปดาห์ที2 ดิฉันโทรไป ทาเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ทางโรงพยาบาลยังไม่อนุมัติคิว ดิฉันก็ถามว่าในเมื่อคุณหมอสั่งเมมโมแกรมภายใน 1 เดือน ทำไมต้องอนุมัติอีก และถึงจะไม่อนุมัติ คิวนัดก็ต้องออกหรือเปล่า เพราะมันภายใน 1 เดือน ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าก็กรณีของคุณไม่เร่งด่วน ให้รอหากได้คิวแล้วทางโรงพยาบาลจะโทรไปแจ้งเอง
5. เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 ดิฉันได้ไปตรวจภายใน ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพราะยังคลำเจอก้อนแข็งๆ ที่หน้าท้องข้างซ้ายตลอด ผลออกมาปรากฎว่าดิฉันมีเนื้องอกในมดลูก 7 ก้อน และขนาดใหญ่ที่สุดคือ 7 ซม. และ รองลงมาคือ 5 ซม. และที่เหลือก็ขนาด 1-3 ซม. คุณหมอบอกว่าก้อนมันค่อนข้างใหญ่ อยากให้ผ่าตัดเพราะจะได้เอาชิ้นเนื้อมาตรวจ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแนะนำว่า ให้ทำเรื่องส่งตัวมาที่จุฬาได้ จะได้เสียค่าใช้จ่ายน้อย ดิฉันเลยขอเวลาคุณหมอก่อน คุณหมอเลยให้เวลา 3 เดือนเหมือนตามอาการหากตรวจคราวหน้าหรือระหว่าง 3 เดือนมีอาการผิดปกติให้ดิฉันกลับมาหาหมอทันที และดิฉันได้โทรไปแจ้งทางโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านลาซาล ศรีนครินทร์ ว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทางเราไม่ไว้ใจแพทย์ท่านนี้แล้วแล้ว เนื่องจากไปตรวจที่ รพ. จุฬาฯ ดิฉันรู้สึกได้ว่า ถึงแม้คุณหมอจะเพิ่งจบใหม่ แต่การตรวจดูใส่ใจ และละเอียดกว่า อย่างการคลำหน้าท้อง คุณหมอตอบได้ทันทีว่ามีก้อน และส่ง อัลตร้าซาวน์ทันที
จากปัญหาทั้งหมด 5 ข้อที่กล่าวมาดิฉันได้โทรแจ้งประกันสังคมที่เบอร์ 1506 เมื่อเล่าเรื่องจบ ทางประกันสังคมให้โทรไปที่ 0-2956-2490-1 เห็นว่าเป็นหน่วยการเกี่ยวกับการจัดระบบทางการแพทย์อะไรสักอย่าง และเมื่อโทรไปเบอร์ดังกล่าว ทางหน่วยงานนั้นโยนกลับมาให้ร้องเรียนที่ประกันสังคม สรุปว่าเรื่องนี้ก็ไม่ทราบใครจะรับผิดชอบดูแลกันแน่ และมีคำถามต่างๆ ในหัว
1. กรณีที่ทางโรงพยาบาลไม่มีแพทย์เฉพาะทางหรือรักษาไม่ได้ ทางโรงพยาบาลควรส่งต่อไปที่โรงพยาบาลอื่นไม่ใช่ไล่ให้ผู้ป่วยย้ายโรงพยาล
2. กรณีการตรวจค่าสายตา หากเราเสียเงินจ่ายประกันสังคมแล้วไปใช้สิทธิที่พึงได้รับ แต่การตรวจวัดจึงไม่ได้มาตรฐาน ต้องให้ไปตรวจเครื่องใหม่อีก
ครั้งเอง แล้วจะมีให้ตรวจสายตาไปทำไม แล้วทำไมทางโรงพยาบาลจึงไม่ตรวจให้ได้ตามมาตรฐาน
3.กรณีการทำงานของสูตินารีแพทย์ดิฉันรู้สึกได้ว่าแพทย์ทำงานไม่เต็มที่ ตรวจแบบขอไปที ไม่มีจรรยาบรรณของความเป็นแพทย์ ขนาดดิฉัน
ไม่ได้เป็นหมอยังคลำแล้วรู้สึกได้ว่ามันผิดปกติ คุณหมอซึงเป็นคุณหมอเฉพาะทางเป็นไปไม่ได้จะไม่รู้ว่ามันผิดปกติ เมื่อเทียบอายุกับคุณหมอที่
รพ.จุฬาฯ แล้ว ดิฉันเชื่อว่าทางคุณหมอท่านนี้จะมีความชำนาญกว่า เพราะเห็นทางโรงพยาบาลเอาคุณหมอท่านนี้ขึ้นบอร์ดทาง Website ของ
โรงพยาบาลด้วย และโดยสิทธิของผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจอย่างชัดเจนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ
เพื่อให้ผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน แต่ดิฉันไม่ได้รับการดูแล
ที่เพียงพอ แต่ดิฉันไม่ได้รูสึกได้รับสิทธิ์ข้อนี้เลย
4. กรณีคิวนัดเมมโมแกรม ในเมื่อคุณหมอสั่งแสดงว่ามันมีอาการผิดปกติ เพราะดิฉันได้เช็คกับเพื่อนที่เป็นมะเร็งเต้านม และเพื่อนคลำให้เบื้องต้น
เพื่อนบอกว่าขนาดใกล้เคียงกับเพื่อนที่คลำเจอ ให้รีบไปตรวจด่วนเลย แต่เหตุใดทางโรงพยาบาลจึงบอกว่ากรณีของดิฉันไม่เร่งด่วน ทั้งๆ ที่
ยังไม่ได้ตรวจเมมโมแกรม และการที่บอกให้เราโทรไปตามภายใน 7 วัน ไม่มีทางโรงพยาบาลโทรมา และเราโทรไปทุกอาทิตย์ก็ไม่มีคำตอบให้
และเราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโทรตาม และทางผู้ป่วยบางท่านก็ต้องวางแผนการการหยุดงาน หรืออาจจะมีนัดหมายอื่นๆ หากต้องนัดหมอ
จะทำอย่างไร จนวันนี้ดิฉันยังไม่ได้รับการโทรกลับจากทางโรงพบาล
5. กรณีที่ทางโรงพยาบาลแห่งนี้ ทำการตรวจไม่เต็มที่ดูแลสิทธิผู้ป่วยไม่เต็มกำลัง ดิฉันสามารถขอใบส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้หรือไม่
เจอก้อนเนื้องอกในมดลูก 7 เซนติเมตร แต่โรงพยาบาลประกันสังคมบอกเป็นเส้นเอ็น
1. ประมาณปี 2561 ดิฉันมีความเครียดเรื่องงาน จึงโทรปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต ทางนั้นแนะนำให้พบแพทย์ทางด้านสุขภาพจิตด่วนที่สุด และดิฉันก็ไปหาที่แห่งนี้ เนื่องจากค้นข้อมูลดูแล้วมีโรงพยาบาลนี้มีแพทย์ด้านนี้อยู่ แต่เมื่อไปถึงได้พบคุณหมอผู้หญิง เป็นอายุรกรรมท่านหนึ่ง(โดยปกติต้องพบคุณหมอายุรกรรมก่อนแล้วหมอจะส่งต่อให้หมอเฉพาะทาง) แต่เมื่อดิฉันปรึกษาคุณหมอ คุณหมอท่านนั้นบอกว่าโรงพยาบาลนี้ไม่มีแพทย์ด้านนี้ ให้ดิฉันย้ายสิทธิไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น ดิฉันก็แย้งว่าดิฉันรักษาโรคอื่นๆ ที่โรงพยาบาลนี้ อยากรักษาที่นี่ และโรงพยาบาลนี้ก็ใกล้บ้าน หมอตอบว่า โรคอื่นๆ ที่ดิฉันรักษาก็ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่นได้ ดิฉันจึงถามว่าปกติถ้าโรงพยาบาลคุณไม่มีแพทย์ หรือรักษาไม่ได้ ทางโรงพยาบาลต้องส่งต่อไปที่อื่นไม่ใช่หรือค่ะ คุณหมอตอบว่าไม่ค่ะ ถ้าคุณจะรักษาก็ให้ย้ายโรงพยาบาลไป
2. ในวันที่ 16 ตุลาคม 2562 ดิฉันได้ไปตรวจสุขภาพประจำปี ตามแพคเกจของประกันสังคม (ยกเว้นตรวจมะเร็งปากมดลูกต้องนัดแพทย์เฉพาะทาง) โดยทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะส่งผลไปที่บ้านภายใน 2 สัปดาห์ เมื่อได้รับผลแล้วให้นำผลตรวจมาพบแพทย์อีกครั้ง และดิฉันก็ได้นำผลไปพบแพทย์เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ดิฉันได้สอบถามเกี่ยวกับค่าสายตาว่ามีความผิดปกติหรือไม่ คุณหมอตอบว่าค่าสายตาที่ส่งมาให้นั้นไม่ได้มาตรฐาน (เพราะวัดด้วยคนโดยให้เรายืนและอ่านตัวเลข) อ้างอิงไม่ได้ ให้ไปตรวจสายตาด้วยเครื่องอีกครั้ง(หมายถึงจ่ายเงินเอง)
3. และในวันที่ 6 พฤศจิกายน ดิฉันได้ขอทำการนัดสูตินารี เพื่อทำการตรวจมะเร็งปากมดลูก และได้คิวเป็นวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ดิฉันได้เข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกกับแพทย์ท่านหนึง และปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมว่าดิฉันคลำเจอก้อนแข็งๆ บริเวณท้องน้อยด้านซ้าย คุณหมอเอามือแตะๆ สองครั้งแล้วบอกเป็นเส้นเอ็น และดิฉันปรึกษาเพิ่มเติมว่ายังคลำเจอก้อนที่หน้าอกข้างซ้าย คุณหมอบอกถ้าคลำเจอก็ไปให้คุณหมอศัลยกรรมคุณหมอไม่คลำให้ คุณหมอปฏิเสธที่จะไม่ตรวจ
4. วันที่4 มกราคม 2563 ดิฉันได้กลับไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และได้พบแพทย์อายุรกรรม และปรึกษาหมอเรื่องก้อนที่หน้าออก คุณหมอท่านคลำให้และบอกมีก้อนประมาณ 1 เซนติเมตร คุณหมอมีใบสั่งให้ส่งไปเมมโมแกรม เมื่อออกมาที่เคาเตอร์พยาบาล เจ้าหน้าที่ยื่นกระดาษมาให้เป็น ตามคิวอนุมัติประกันสังคม โดยแจ้งว่าจะได้ตรวจภายใน 1 เดือน และภายใน 7 วันหากทางโรงพยาบาลไม่โทรไปแจ้งคิวนัด ให้โทรมาตามเอง และเมื่อครบ 1 สัปดาห์ ดิฉันได้โทรไปเช็ค เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคิวยังไม่ออก และสัปดาห์ที2 ดิฉันโทรไป ทาเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ทางโรงพยาบาลยังไม่อนุมัติคิว ดิฉันก็ถามว่าในเมื่อคุณหมอสั่งเมมโมแกรมภายใน 1 เดือน ทำไมต้องอนุมัติอีก และถึงจะไม่อนุมัติ คิวนัดก็ต้องออกหรือเปล่า เพราะมันภายใน 1 เดือน ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าก็กรณีของคุณไม่เร่งด่วน ให้รอหากได้คิวแล้วทางโรงพยาบาลจะโทรไปแจ้งเอง
5. เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 ดิฉันได้ไปตรวจภายใน ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพราะยังคลำเจอก้อนแข็งๆ ที่หน้าท้องข้างซ้ายตลอด ผลออกมาปรากฎว่าดิฉันมีเนื้องอกในมดลูก 7 ก้อน และขนาดใหญ่ที่สุดคือ 7 ซม. และ รองลงมาคือ 5 ซม. และที่เหลือก็ขนาด 1-3 ซม. คุณหมอบอกว่าก้อนมันค่อนข้างใหญ่ อยากให้ผ่าตัดเพราะจะได้เอาชิ้นเนื้อมาตรวจ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแนะนำว่า ให้ทำเรื่องส่งตัวมาที่จุฬาได้ จะได้เสียค่าใช้จ่ายน้อย ดิฉันเลยขอเวลาคุณหมอก่อน คุณหมอเลยให้เวลา 3 เดือนเหมือนตามอาการหากตรวจคราวหน้าหรือระหว่าง 3 เดือนมีอาการผิดปกติให้ดิฉันกลับมาหาหมอทันที และดิฉันได้โทรไปแจ้งทางโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านลาซาล ศรีนครินทร์ ว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทางเราไม่ไว้ใจแพทย์ท่านนี้แล้วแล้ว เนื่องจากไปตรวจที่ รพ. จุฬาฯ ดิฉันรู้สึกได้ว่า ถึงแม้คุณหมอจะเพิ่งจบใหม่ แต่การตรวจดูใส่ใจ และละเอียดกว่า อย่างการคลำหน้าท้อง คุณหมอตอบได้ทันทีว่ามีก้อน และส่ง อัลตร้าซาวน์ทันที
จากปัญหาทั้งหมด 5 ข้อที่กล่าวมาดิฉันได้โทรแจ้งประกันสังคมที่เบอร์ 1506 เมื่อเล่าเรื่องจบ ทางประกันสังคมให้โทรไปที่ 0-2956-2490-1 เห็นว่าเป็นหน่วยการเกี่ยวกับการจัดระบบทางการแพทย์อะไรสักอย่าง และเมื่อโทรไปเบอร์ดังกล่าว ทางหน่วยงานนั้นโยนกลับมาให้ร้องเรียนที่ประกันสังคม สรุปว่าเรื่องนี้ก็ไม่ทราบใครจะรับผิดชอบดูแลกันแน่ และมีคำถามต่างๆ ในหัว
1. กรณีที่ทางโรงพยาบาลไม่มีแพทย์เฉพาะทางหรือรักษาไม่ได้ ทางโรงพยาบาลควรส่งต่อไปที่โรงพยาบาลอื่นไม่ใช่ไล่ให้ผู้ป่วยย้ายโรงพยาล
2. กรณีการตรวจค่าสายตา หากเราเสียเงินจ่ายประกันสังคมแล้วไปใช้สิทธิที่พึงได้รับ แต่การตรวจวัดจึงไม่ได้มาตรฐาน ต้องให้ไปตรวจเครื่องใหม่อีก
ครั้งเอง แล้วจะมีให้ตรวจสายตาไปทำไม แล้วทำไมทางโรงพยาบาลจึงไม่ตรวจให้ได้ตามมาตรฐาน
3.กรณีการทำงานของสูตินารีแพทย์ดิฉันรู้สึกได้ว่าแพทย์ทำงานไม่เต็มที่ ตรวจแบบขอไปที ไม่มีจรรยาบรรณของความเป็นแพทย์ ขนาดดิฉัน
ไม่ได้เป็นหมอยังคลำแล้วรู้สึกได้ว่ามันผิดปกติ คุณหมอซึงเป็นคุณหมอเฉพาะทางเป็นไปไม่ได้จะไม่รู้ว่ามันผิดปกติ เมื่อเทียบอายุกับคุณหมอที่
รพ.จุฬาฯ แล้ว ดิฉันเชื่อว่าทางคุณหมอท่านนี้จะมีความชำนาญกว่า เพราะเห็นทางโรงพยาบาลเอาคุณหมอท่านนี้ขึ้นบอร์ดทาง Website ของ
โรงพยาบาลด้วย และโดยสิทธิของผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจอย่างชัดเจนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ
เพื่อให้ผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน แต่ดิฉันไม่ได้รับการดูแล
ที่เพียงพอ แต่ดิฉันไม่ได้รูสึกได้รับสิทธิ์ข้อนี้เลย
4. กรณีคิวนัดเมมโมแกรม ในเมื่อคุณหมอสั่งแสดงว่ามันมีอาการผิดปกติ เพราะดิฉันได้เช็คกับเพื่อนที่เป็นมะเร็งเต้านม และเพื่อนคลำให้เบื้องต้น
เพื่อนบอกว่าขนาดใกล้เคียงกับเพื่อนที่คลำเจอ ให้รีบไปตรวจด่วนเลย แต่เหตุใดทางโรงพยาบาลจึงบอกว่ากรณีของดิฉันไม่เร่งด่วน ทั้งๆ ที่
ยังไม่ได้ตรวจเมมโมแกรม และการที่บอกให้เราโทรไปตามภายใน 7 วัน ไม่มีทางโรงพยาบาลโทรมา และเราโทรไปทุกอาทิตย์ก็ไม่มีคำตอบให้
และเราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโทรตาม และทางผู้ป่วยบางท่านก็ต้องวางแผนการการหยุดงาน หรืออาจจะมีนัดหมายอื่นๆ หากต้องนัดหมอ
จะทำอย่างไร จนวันนี้ดิฉันยังไม่ได้รับการโทรกลับจากทางโรงพบาล
5. กรณีที่ทางโรงพยาบาลแห่งนี้ ทำการตรวจไม่เต็มที่ดูแลสิทธิผู้ป่วยไม่เต็มกำลัง ดิฉันสามารถขอใบส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้หรือไม่