ตอนแรกที่ได้ข่าวว่าจะมีการสร้างหนังเรื่องนี้ บอกตามตามตรงผมไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ เพราะค่อนข้างอคติกับไทบ้านอยู่พอสมควร แต่ก็ต้องพยายามเปิดใจที่จะดู เพราะเป็นงานแสดงครั้งแรกของเนย และอีกใจนึงก็อยากรู้ว่ามันจะออกมาเป็นยังไง น้องเราจะแสดงได้ดีไหม เรียกได้ว่ามีความคาดหวังอยู่ประมาณนึงในใจก่อนดูเลย
เนื้อเรื่องในช่วงต้น โปรเจคลับเพลงอิสาน
มีการจ้างก้องห้วยไร่มาเป็น PD พาสาวๆ ไปทำเพลงอิสาน และจ๊อบซังได้มอบหมายให้เนยเป็นหัวหน้าทีมสำหรับโปรเจคในครั้งนี้ แม้น้องจะเคยบอกว่าได้เล่นเป็นตัวเอง แต่ในหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นเนยในอีกเวอชั่นนึงที่ไม่ใช่เนยในแบบที่เราเคยรู้จัก อาจจะเรียกว่าเป็นการพลิกบทบาทอยู่บ้าง จากเนยที่ดูสดใสน่ารักขี้เล่น จะเป็นเนยที่เงียบขรึมกว่าปกติ แต่บทในช่วงแรกกลับไม่ได้ส่งเสริมคาแรกเตอร์การเป็นหัวหน้าทีมของเนยสักเท่าไหร่ ส่วนตัวแอบรู้สึกหงุดหงิดกับบทของเนยที่ดูโนสนโนแคร์กับความเอาแต่เล่นของลูกทีม มีแต่ซีนเงียบๆ นิ่งๆ นั่งฟังเพลงซะส่วนใหญ่ ไม่ได้ออกความเห็น หรือแสดงภาวะความเป็นผู้นำออกมาเลย ในขณะที่แก้วได้แสดงฝีมือในการมีส่วนร่วมกับการทำงานมากกว่า
เนื้อเรื่องในช่วงที่สอง โปรเจคไม่ผ่านเพราะเพลงไม่มีคุณภาพพอ
สาวๆ ต้องกลับมาใช้ชีวิตอิสานกันอีกครั้ง และเริ่มเกิดความท้อ ในเนื้อเรื่องส่วนนี้จะได้เห็นซีนที่น่าจดจำของเนย คือซีนที่เนยต้องแสดงความท้อแท้กับการทำเพลงอิสานจนร้องไห้ขี้มูกโป่ง ซึ่งมันดูแล้วก็เรียลดีจริงๆ น้ำมูก น้ำตาไหลออกมาหมดกันเลยทีเดียว แถมจ่าลอดก็ยังเอามาขยี้ซ้ำล้อเลียนเนยต่ออีก555 เอาจริงๆ ซีนนี้มันเกือบจะดีที่สุดแล้ว แต่การตัดฉากเล่าเรื่องกลับทำได้แย่ เพราะอยู่ดีๆ ก็ตัดเข้ามาเลย เหมือนอยากใส่ก็ใส่ ไม่มีการบิ๊วอะไรมาก่อนหน้าทั้งนั้น ถ้ามีการเกริ่นเนื้อเรื่องให้มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เนยมาสนใจลอด และต้องไปอยู่กับจ่าลอดตามลำพังกลางทุ่งนา มันน่าจะทำให้คนดูอินและประทับใจมากกว่านี้
เนื้อเรื่องในช่วงท้าย คลิปโปรเจคลับถูกเผยแพร่ ทำให้ต้นสังกัดสั่งห้ามจัดคอน และห้ามร้องเพลงนี้ เข้าสู่จุดพีคของหนัง
เนื้อเรื่องในช่วงนี้น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดสำหรับเนย เพราะน้องได้แสดงซีนอารมณ์เยอะมาก แม้จะแอบขัดใจกับความไม่สมเหตุสมผลหลายอย่างที่ขัดกับความเป็นจริง ในช่วงท้ายนี้แหละที่เนยดูเปล่งประกายเอามากๆ กับฉากดราม่าบนเวทีคอนเสิร์ต การแสดงทางสีหน้าและแววตาของเนยส่งพลังสะกดให้ผมลืมความไม่สมเหตุสมผลของหนังจนรู้สึกอินตามไปด้วยได้เลย เรารู้สึกเอาใจช่วยเนย และเหมือนกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของแฟนคลับที่ส่งเสียงเชียร์อยู่ในคอนเสิร์ตนั้นจริงๆ
โดยรวมๆ การแสดงของเนยในหนังเรื่องนี้ น้องขึ้นกล้องมาก ภาพออกมาสวยทุกฉาก (ยกเว้นตอนร้องไห้ขี้มูกโป่ง 555) ในซีนที่ต้องดราม่าน้องเล่นได้ถึง การแสดงสีหน้าแววตาก็ทำได้ดี ส่วนตัวมองว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นโปรไฟล์ที่ดีในด้านของการแสดงสำหรับเนยในอนาคตได้เลย ในฐานะที่มีเนยเป็นคามิโอชิก็คงต้องบอกว่ารู้สึกภูมิใจในตัวหนูมากๆ
สรุป สิ่งที่ผมชอบในหนัง
- งานภาพในหนัง ภาพสวย แสงและสี องค์ประกอบต่างๆ ดีทั้งเรื่อง
- ก้องห้วยไร่ แสดงบทเจ๊ได้เก่งมากๆ จนเกือบเชื่อเลยว่าเขาเป็นกะเทยจริงๆ 555
- จ่าลอด เป็นอีกคนที่แสดงเก่งมาก แม้ในภาคนี้จะต้องมาเล่นกับสาวๆ BNK48 ฝีมือการแสดงก็ไม่ได้ตกลงเลย (เคยไปย้อนดูภาคก่อนๆ มาล่วงหน้า)
- การแสดงของเนยในช่วงท้าย
สิ่งที่ไม่ชอบ
- การเล่าเรื่องที่แย่ ตัดฉากแบบเหมือนนึกอยากใส่ก็ใส่ การขาดความนุ่มนวลในการเล่าเรื่อง
- การไทอินในหนังที่ดูชัดเจนเกินไปจนรู้สึกสะดุดกับการดู
- การยัดเยียดบทพูดใส่ปากตัวละคร คำคมในเรื่องถูกนำมาใช้บ่อยเกินไปจนรู้สึกเฝือๆ
- ฉากนกกระจอกแตกรังของสาวๆ ที่ดูน่ารำคาญไปหน่อย
คะแนนในแง่ของคอหนัง ผมให้ 5/10 มันเป็นการยากมากที่คนนอกที่ไม่เคยติดตามจะดูแล้วเข้าใจและอินไปเนื้อเรื่องได้
คะแนนในแง่ของแฟนคลับ ผมให้ 7/10 ถ้าคุณเป็นแฟนคลับ BNK หรือไทบ้าน หรือทั้งสองอย่างผมคิดว่าคุณดูเรื่องนี้แล้วน่าจะชอบเลยล่ะ แม้ว่าการกระจายบท และการเล่าเรื่องยังทำได้ไม่ดีนัก บางรีวิวก็อาจจะบอกว่าไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องของฝั่งไทบ้าน แต่ผมคิดว่าการได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาผสมผสานกันได้มาอยู่ในหนังเรื่องนี้ มันเป็นสิ่งที่แฟนหนังทั้งสองเรื่องควรต้องดูครับ
[Review] ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ ฉบับคามิโอชิเนย ใครดูแล้วมาคุยกัน (สปอยล์เนื้อหา)
เนื้อเรื่องในช่วงต้น โปรเจคลับเพลงอิสาน
มีการจ้างก้องห้วยไร่มาเป็น PD พาสาวๆ ไปทำเพลงอิสาน และจ๊อบซังได้มอบหมายให้เนยเป็นหัวหน้าทีมสำหรับโปรเจคในครั้งนี้ แม้น้องจะเคยบอกว่าได้เล่นเป็นตัวเอง แต่ในหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นเนยในอีกเวอชั่นนึงที่ไม่ใช่เนยในแบบที่เราเคยรู้จัก อาจจะเรียกว่าเป็นการพลิกบทบาทอยู่บ้าง จากเนยที่ดูสดใสน่ารักขี้เล่น จะเป็นเนยที่เงียบขรึมกว่าปกติ แต่บทในช่วงแรกกลับไม่ได้ส่งเสริมคาแรกเตอร์การเป็นหัวหน้าทีมของเนยสักเท่าไหร่ ส่วนตัวแอบรู้สึกหงุดหงิดกับบทของเนยที่ดูโนสนโนแคร์กับความเอาแต่เล่นของลูกทีม มีแต่ซีนเงียบๆ นิ่งๆ นั่งฟังเพลงซะส่วนใหญ่ ไม่ได้ออกความเห็น หรือแสดงภาวะความเป็นผู้นำออกมาเลย ในขณะที่แก้วได้แสดงฝีมือในการมีส่วนร่วมกับการทำงานมากกว่า
เนื้อเรื่องในช่วงที่สอง โปรเจคไม่ผ่านเพราะเพลงไม่มีคุณภาพพอ
สาวๆ ต้องกลับมาใช้ชีวิตอิสานกันอีกครั้ง และเริ่มเกิดความท้อ ในเนื้อเรื่องส่วนนี้จะได้เห็นซีนที่น่าจดจำของเนย คือซีนที่เนยต้องแสดงความท้อแท้กับการทำเพลงอิสานจนร้องไห้ขี้มูกโป่ง ซึ่งมันดูแล้วก็เรียลดีจริงๆ น้ำมูก น้ำตาไหลออกมาหมดกันเลยทีเดียว แถมจ่าลอดก็ยังเอามาขยี้ซ้ำล้อเลียนเนยต่ออีก555 เอาจริงๆ ซีนนี้มันเกือบจะดีที่สุดแล้ว แต่การตัดฉากเล่าเรื่องกลับทำได้แย่ เพราะอยู่ดีๆ ก็ตัดเข้ามาเลย เหมือนอยากใส่ก็ใส่ ไม่มีการบิ๊วอะไรมาก่อนหน้าทั้งนั้น ถ้ามีการเกริ่นเนื้อเรื่องให้มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เนยมาสนใจลอด และต้องไปอยู่กับจ่าลอดตามลำพังกลางทุ่งนา มันน่าจะทำให้คนดูอินและประทับใจมากกว่านี้
เนื้อเรื่องในช่วงท้าย คลิปโปรเจคลับถูกเผยแพร่ ทำให้ต้นสังกัดสั่งห้ามจัดคอน และห้ามร้องเพลงนี้ เข้าสู่จุดพีคของหนัง
เนื้อเรื่องในช่วงนี้น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดสำหรับเนย เพราะน้องได้แสดงซีนอารมณ์เยอะมาก แม้จะแอบขัดใจกับความไม่สมเหตุสมผลหลายอย่างที่ขัดกับความเป็นจริง ในช่วงท้ายนี้แหละที่เนยดูเปล่งประกายเอามากๆ กับฉากดราม่าบนเวทีคอนเสิร์ต การแสดงทางสีหน้าและแววตาของเนยส่งพลังสะกดให้ผมลืมความไม่สมเหตุสมผลของหนังจนรู้สึกอินตามไปด้วยได้เลย เรารู้สึกเอาใจช่วยเนย และเหมือนกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของแฟนคลับที่ส่งเสียงเชียร์อยู่ในคอนเสิร์ตนั้นจริงๆ
โดยรวมๆ การแสดงของเนยในหนังเรื่องนี้ น้องขึ้นกล้องมาก ภาพออกมาสวยทุกฉาก (ยกเว้นตอนร้องไห้ขี้มูกโป่ง 555) ในซีนที่ต้องดราม่าน้องเล่นได้ถึง การแสดงสีหน้าแววตาก็ทำได้ดี ส่วนตัวมองว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นโปรไฟล์ที่ดีในด้านของการแสดงสำหรับเนยในอนาคตได้เลย ในฐานะที่มีเนยเป็นคามิโอชิก็คงต้องบอกว่ารู้สึกภูมิใจในตัวหนูมากๆ
สรุป สิ่งที่ผมชอบในหนัง
- งานภาพในหนัง ภาพสวย แสงและสี องค์ประกอบต่างๆ ดีทั้งเรื่อง
- ก้องห้วยไร่ แสดงบทเจ๊ได้เก่งมากๆ จนเกือบเชื่อเลยว่าเขาเป็นกะเทยจริงๆ 555
- จ่าลอด เป็นอีกคนที่แสดงเก่งมาก แม้ในภาคนี้จะต้องมาเล่นกับสาวๆ BNK48 ฝีมือการแสดงก็ไม่ได้ตกลงเลย (เคยไปย้อนดูภาคก่อนๆ มาล่วงหน้า)
- การแสดงของเนยในช่วงท้าย
สิ่งที่ไม่ชอบ
- การเล่าเรื่องที่แย่ ตัดฉากแบบเหมือนนึกอยากใส่ก็ใส่ การขาดความนุ่มนวลในการเล่าเรื่อง
- การไทอินในหนังที่ดูชัดเจนเกินไปจนรู้สึกสะดุดกับการดู
- การยัดเยียดบทพูดใส่ปากตัวละคร คำคมในเรื่องถูกนำมาใช้บ่อยเกินไปจนรู้สึกเฝือๆ
- ฉากนกกระจอกแตกรังของสาวๆ ที่ดูน่ารำคาญไปหน่อย
คะแนนในแง่ของคอหนัง ผมให้ 5/10 มันเป็นการยากมากที่คนนอกที่ไม่เคยติดตามจะดูแล้วเข้าใจและอินไปเนื้อเรื่องได้
คะแนนในแง่ของแฟนคลับ ผมให้ 7/10 ถ้าคุณเป็นแฟนคลับ BNK หรือไทบ้าน หรือทั้งสองอย่างผมคิดว่าคุณดูเรื่องนี้แล้วน่าจะชอบเลยล่ะ แม้ว่าการกระจายบท และการเล่าเรื่องยังทำได้ไม่ดีนัก บางรีวิวก็อาจจะบอกว่าไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องของฝั่งไทบ้าน แต่ผมคิดว่าการได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาผสมผสานกันได้มาอยู่ในหนังเรื่องนี้ มันเป็นสิ่งที่แฟนหนังทั้งสองเรื่องควรต้องดูครับ