หลังจากที่ผมเขียนกระทู้สรุปเนื้อเรื่องหนังไทบ้าน 3 ภาค เพื่อต้อนรับหนัง ไทบ้านxBNK48 ไปแล้ว ลิ้งค์กระทู้ พอหนังเข้าฉายผมก็รีบไปดูตั้งแต่วันแรกเลย 

ขอรีวิวคร่าวๆก่อน 

หนังสนุกใช้ได้เลย มุกอิสานก็ธรรมชาติดี(ผมคนอิสาน ฟังออก เลยเข้าถึงมุกเป็นพิเศษ) แต่ก็มีงงๆกับบทดราม่าช่วงท้ายเรื่อง เมื่อวานว่างๆเลยไปดูเก็บรายละเอียดหนังอีกรอบ รู้สึกสนุกกว่าตอนดูรอบแรก รอบ 2 นี้รู้สึกเข้าถึงหนังและการเล่าเรื่องได้ดีขึ้นเยอะเลย เข้าใจบทและตัวละครมากขึ้น วันนี้เลยอยากมาเขียนรีวิว+สรุปเนื้อเรื่องเผื่อคนที่ดูมาแล้วแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ หรือคนที่ยังไม่ได้ดูแต่อยากอ่านเนื้อเรื่องก่อนตัดสินใจไปดู (สปอยล์แน่นอน)

** วง BNK48 และ ก้องห้วยไร่ ในหนังไทบ้านนั้นอยู่ในโลกคู่ขนาน ไม่ได้อ้างอิงทุกอย่างจากโลกจริงมาทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในจักรวาลหนัง ไม่ได้เกิดขึ้นในโลกจริง

สรุปเนื้อเรื่อง(สปอยล์)

- จ๊อบซัง ผู้จัดการวง BNK48 และทีมงานกำลังเครียดกับสถานการณ์ของวงที่ย่ำแย่ เพราะทิศทางเพลงในประเทศเปลี่ยนไป คนชื่นชอบเพลงลูกทุ่งหมอลำกันมาก เพลงของวงก็ไม่มีคนสนใจ มีสิทธิ์ที่จะเจ๊ง 
- จ๊อบซังจึงเกิดไอเดียว่าให้ BNK48 ลองทำเพลงอิสาน แต่ทีมงานคัดค้านว่ามันทำไม่ได้ ผิดต่อสัญญาของทางต้นสังกัดที่ญี่ปุ่นและอาจจะโดนปรับ จ๊อบซังอยากลองเสี่ยงทำดู เพื่อความอยู่รอดของวง เค้าจึงให้โปรเจ็คนี้เป็นความลับเพื่อไม่ให้ทางต้นสังกัดรู้ว่าวงแอบทำเพลงที่ผิดสัญญากับญี่ปุ่น กะว่าจะทำเพลงไปก่อน พอปล่อยเพลงแล้วได้กระแส ค่อยขอเจรจากับต้นสังกัดอีกที
- เจ๊ก้องห้วยไร่ โปรดิวเซอร์เพลงชื่อดัง กำลังเจอปัญหาการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกว่า 4 ล้านบาท ได้รับการติดต่อจากจ๊อบซัง ขอให้เค้าช่วย BNK ทำเพลงอิสาน 
- เจ๊ก้องจึงเสนอค่าโปรดิวซ์ 3 ล้านบาท เพื่อพา BNK ไปฝึกซ้อมทำเพลงที่ศรีสะเกษและเค้าจะแต่งเพลงให้เอง



- เจ๊ก้องและน้องๆสมาชิก BNK ทั้ง 8 คนของโปรเจ็คเดินทางมาถึงหมู่บ้านโนนคูณ บ้านของเจ๊ก้องที่จะใช้เป็นที่ฝึกซ้อม โดยจ้าง จาลอด เพื่อนในหมู่บ้าน ให้มาช่วยดูแลน้องๆระหว่างที่มาอยู่ในหมู่บ้านนี้และให้ปิดเรื่องโปรเจ็คนี้เป็นความลับ
- แต่เมื่อมาถึง เจ๊ก้องกลับไม่ใส่ใจที่จะฝึกซ้อมน้องๆ เพราะเป้าหมายจริงๆของเค้าคือรีบหาเงินมาจ่ายภาษี
- เจ๊ก้องเลยหาเพลงเก่าๆที่เค้าเคยแต่งไว้สมัยเด็กๆมาใช้ ชื่อเพลง โดดดิด่ง และฝึกซ้อมน้องๆแบบลวกๆเพื่อให้รีบจำเนื้อเพลงได้และรีบไปอัดเสียงส่งจ๊อบซัง จะได้รีบรับเงินไปจ่ายภาษีให้หมด
- มืด น้องชายจาลอด ได้มาเที่ยวเล่นแถวๆที่ฝึกซ้อมและสงสัยว่าสาวๆเหล่านี้คือ BNK จึงแอบถ่ายคลิประหว่างซ้อมเพลง โดดดิด่ง เก็บไว้
- สุดท้ายเพลง โดดดิด่ง ก็ถูกทำออกมาอย่างรีบเร่งและไม่มีคุณภาพ เมื่อเจ๊ก้องเอาเพลงไปให้ทางจ๊อบซังฟังก็รับไม่ได้กับคุณภาพเพลง จึงยื่นคำขาดมาให้เจ๊ก้องพาน้องๆกลับไปฝึกและทำเพลงใหม่อีกครั้ง ให้เพลงออกมาดี ไม่งั้นจะไม่จ่ายเงินให้ครบ



- เจ๊ก้องจึงต้องพาน้องๆ BNK กลับมาฝึกที่บ้านโนนคูณอีกครั้ง
- แต่คราวนี้เจ๊ก้องและจาลอดเริ่มตั้งใจกับการทำงานและการซ้อมน้องๆมากขึ้น พาน้องๆซึมซับบรรยากาศความเป็นอิสานมากขึ้น พาไปเที่ยวทั่วศรีสะเกษ จนเจ๊ก้อง จาลอด มืด และน้องๆ BNK สนิทสนมคุ้นเคยกัน 
- ครูแก้ว แฟนจาลอด เริ่มน้อยใจที่จาลอดไม่ค่อยมีเวลาให้ แถมยังต้องไปดูแลสาวๆตั้ง 8 คน กลัวว่าจาลอดจะนอกใจ



- เจ๊ก้องเริ่มแต่งเพลงใหม่ชื่อเพลง จากใจผู้สาวคนนี้ มาให้น้องๆ BNK ฝึกซ้อมแทนเพลงโดดดิด่ง และดูเหมือนว่าน้องๆจะชอบเพลงใหม่นี้มากกว่า จึงนำมาใช้เป็นเพลงของโปรเจ็ค
- มืดที่มาช่วยจาลอดดูแล BNK ก็เกิดปิ๊งกับ โมบายล์ หนึ่งในสมาชิก BNK ที่มาทำเพลง มืดจึงสัญญากับโมบายล์ว่าจะปลูกและดูแลต้นแตงโมจนโตเพื่อเป็นของขวัญแก่โมบายล์
- ระหว่างฝึกซ้อมเพลงใหม่ น้องๆก็มีทะเลาะกับเจ๊ก้องบ้าง ท้อบ้าง แต่ก็มีจาลอดคอยช่วยเป็นเพื่อนเล่นและให้กำลังใจ จึงสนิทกันถึงขนาดแลกไลน์กันกับ เนย หัวหน้าทีม BNK



- เมื่อฝึกซ้อมกันจนพร้อมแล้ว เจ๊ก้องก็พาน้องๆไป กทม เพื่ออัดเสียงเพลง จากใจผู้สาวคนนี้
- ก่อนกลับ กทม จาลอดและมืดก็มาร่ำลาด้วย เนยจึงสัญญากับจาลอดว่าจะส่งตั๋วคอนเสิร์ตเปิดตัวเพลงใหม่นี้มาให้จาลอดไปดูด้วยกัน
- แต่ปัญหาก็เกิด เมื่อ มืด ดันปล่อยคลิปตอนซ้อมเพลงโดดดิด่งที่เคยแอบถ่ายไว้ลงในโซเชียล ทำให้คนทั่วไปได้ฟังเพลงและด่าในคุณภาพของเพลง แถมทำให้ทางต้นสังกัดที่ญี่ปุ่นรู้ว่าวง BNK48 แอบทำเพลงที่ผิดสัญญาของค่าย
- จ๊อบซังที่โดนต้นสังกัดตำหนิมา จึงจำใจต้องระงับโปรเจ็คเพลงอิสานและยกเลิกคอนเสิร์ตเปิดตัว ไม่งั้นจะต้องจ่ายค่าปรับให้กับต้นสังกัด



- ระหว่างที่อัดเพลงกัน เจ๊ก้องก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวว่าโปรเจ็คถูกระงับ ทำให้เจ๊ก้องเสียใจที่อุตส่าห์ฝึกซ้อมน้องๆจนเก่งพอที่จะร้องเพลงอิสานแล้วแท้ๆ เจ๊ก้องจึงตัดสินใจให้น้องๆอัดเพลงกันต่อโดยไม่บอกน้องๆว่าโปรเจ็คถูกระงับ
- จาลอด เมื่อรู้ข่าวว่าน้องๆ BNK เดือดร้อน ก็ไปด่า มืด เรื่องปล่อยคลิป จนมืดเสียใจโวยวายเตะต้นกล้วยพังเป็นแถบ
- เวลาผ่านไป ตั๋วคอนเสิร์ตเปิดตัวเพลงจากใจผู้สาวคนนี้ ก็ส่งมาถึงบ้านจาลอด มืดดีใจมากที่จะได้เจอโมบายล์อีกครั้ง จึงไปเก็บลูกแตงโมที่เคยสัญญาไว้ อุ้มไป กทม เพื่อไปดูคอนเสิร์ตกับจาลอดด้วย
- แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง เมื่อเนยโทรมาบอกจาลอดว่าคอนเสิร์ตก็ถูกยกเลิกไปแล้วเพราะเพลงเผยแพร่ไม่ได้ จาลอดและมืดจึงต้องตีตั๋วกลับศรีสะเกษอย่างเศร้าสร้อย


**ขอแก้ไขเนื้อเรื่องช่วงนี้จากตอนตั้งกระทู้ตอนแรก เพราะผมไปดูหนังรอบที่ 3 มาแล้วเจอการสลับไทม์ไลน์ที่หนังต้องการเล่า**

- น้องๆ BNK กลับไปทำงานจัดรายการสดที่ Digital Live Studio ของวง ซึ่งก็แทบจะไม่มีคนดู เพราะกระแสวงนั้นตกต่ำไปมากแล้ว เพลงใหม่ก็ปล่อยไม่ได้ คอนเสิร์ตที่ขายตั๋วไปแล้วก็ต้องยกเลิก น้องๆที่กำลังจัดรายการสดของวงกันอยู่ก็ได้โทรไลน์คุยกับจาลอดแล้วคิดถึงเพลง จากใจผู้สาวคนนี้ อีกครั้ง จึงร้องเพลงนี้ออกมากลางรายการสด
- เมื่อมีคนเห็นเพลง จากใจผู้สาวคนนี้ หลุดออกมาจากรายการ ก็เกิดเป็นกระแสชื่นชมในตัวน้องๆและเพลงมากๆที่วง BNK กล้าทำเพลงอิสานและทำออกมาได้ดี จ๊อบซังรู้สึกมีความหวังว่าวงจะไปต่อได้ดีกับเพลงนี้ จึงขอลองเสี่ยงกลับมาจัดงานคอนเสิร์ตเปิดตัวเพลงต่อให้เสร็จและเอาเพลงที่เจ๊ก้องพาน้องๆอัดจนเสร็จแล้วนั้น ปล่อยลงให้คนทั่วไปได้ฟัง แล้วค่อยพยายามเจรจากับต้นสังกัด



- พอถึงวันงานคอนเสิร์ต จ๊อบซังก็ได้รับข่าวร้ายอีกครั้ง เพราะต้นสังกัดรับไม่ได้ที่ BNK ทำเพลงของตัวเองแล้วยังเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้ฟังโดยยังไม่ได้รับอนุมัติจากต้นสังกัดก่อน ต้นสังกัดจึงสั่งให้ถอดเพลง จากใจผู้สาวคนนี้ ออกจากระบบที่เผยแพร่ไปแล้วทั้งหมด และสั่งห้ามน้องๆร้องเพลงนี้บนเวทีคอนเสิร์ต
- เจ๊ก้อง จาลอดและมืด ก็มาเชียร์น้องๆอยู่ข้างเวทีด้วย
- น้องๆเดินขึ้นบนเวทีคอนเสิร์ตด้วยความรู้สึกสึกผิดต่อแฟนๆและกล่าวขอโทษที่ไม่สามารถร้องเพลงใหม่ให้ฟังได้
- แฟนคลับที่เคยฟังเพลงนี้ไปแล้วเลยร่วมกันร้องเพลงนี้ขึ้นมาแทนน้องๆ จนน้องๆซึ้งใจมากและร้องเพลง จากใจผู้สาวคนนี้ ออกมาให้ทุกคนได้ฟัง
- จ๊อบซังที่ยืนดูอยู่ข้างเวทีก็ได้แต่ทำใจ และเตรียมรอรับผลการลงโทษค่าปรับจากต้นสังกัด
- น้องๆที่ร้องเพลงจบแล้ว ก็มายืนรวมตัวกอดคอร้องไห้กันบนเวที เพราะรู้ถึงผลกระทบที่วงจะได้รับจากการที่ตัวเองร้องเพลงออกไป
- และหนังก็จบลงไปพร้อมๆกับเสียงเชียร์ BNK ของแฟนๆในงานคอนเสิร์ต...



**ส่วนเสริมจากการไปดูรอบที่ 3 ผมแยกเนื้อเรื่องช่วงงานแต่งงานมาไว้ในส่วนนี้แทน ซึ่งฉากเหล่านี้มันถูกใส่เข้าไปในหนังฉากต่อจากที่น้องๆจัดรายการสด ซึ่งจริงๆแล้วฉากส่วนนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นฉากในอนาคตหลังจากหนังจบที่บนเวทีไปแล้ว
 
- น้องๆ BNK กลุ่มนี้หลังจากแกรดออกจากวง ก็แยกย้ายกันไปทำงานต่างๆ เนยก็ไปท่องเที่ยว ไข่มุกก็ไปทำร้านขนม แก้วก็ไปสอนเปียโนให้เด็กๆ น้ำใสไปเก็บชาบนดอย โมบาย น้ำหนึ่ง ปูเป้ ตาหวาน ไม่ทราบว่าทำอะไร
- วันหนึ่งน้องๆได้วิดีโอคอลแบบกลุ่มหากัน แล้วไข่มุกก็บอกข่าวกับเพื่อนๆว่าจ๊อบซังกำลังจะแต่งงาน น้องๆก็ตื่นเต้นและนัดกันมางานแต่งงาน
- จ๊อบซังจัดงานแต่งงานเล็กๆ มีเหล่าน้องๆ BNK หลายคนมาร่วมงาน เจ๊ก้องและครอบครัวจาลอดก็ได้มาเป็นแขกในงานด้วย ช่วงโยนช่อดอกไม้ ครูแก้วก็ยังรับช่อดอกไม้ไว้ได้ ทำเอาจาลอดเริ่มกังวลว่าตัวเองจะต้องแต่งงานเป็นคู่ถัดไป(คิดว่าน่าจะปูทางไปสู่หนังในจักรวาลไทบ้านเรื่องต่อไป)



[ เพลง จากใจผู้สาวคนนี้ เพลงที่เป็นแกนหลักของเรื่อง ]



รีวิวสรุปอีกครั้ง

ส่วนตัวจากที่ดูมา 2 รอบ ทำให้เข้าใจในสิ่งที่หนังต้องการสื่อ และรู้สึกสนใจวง BNK48 ที่อยู่ในจักรวาลไทบ้าน อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับวงหลังจากตอนจบ ซึ่งถ้าให้เดา ผมคิดว่าวงน่าจะต้องปิดตัวไป เพราะโดนค่าปรับจากต้นสังกัด น้องๆในวงก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป ซึ่งก็ค่อนข้างเศร้าๆดีนะ จากหนังที่ดูจะเป็นหนังตลกๆอบอุ่น แต่ตอนจบกลับดราม่าและตัวละครไม่มีโอกาสได้แก้ตัว ทำได้แค่รอรับผลจากสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

ซึ่งมันก็ทำให้หนังสนุกไปอีกแบบดี น้องๆ BNK ทั้ง 8 คนที่แสดง ก็เน้นความเป็นกลุ่มเด็กสาวที่มาฝึกร้องเพลงมากกว่าจะเน้นหนักเป็นรายคน จะมีก็แต่เนยที่เป็นหัวหน้าทีม และแก้วที่เป็นคนช่วยเจ๊ก้องแต่งเพลง ที่อาจจะได้เนื้อหามากกว่าคนอื่นหน่อยๆ ตัวละครที่ MVP สำหรับผมคือเจ๊ก้อง แสดงได้ดี น่ารัก และช่วยพาหนังไปจนจบได้ด้วยความสนุก นักแสดงทีมไทบ้านก็ทำได้ดีแสดงธรรมชาติกันมาก น้องๆ BNK บางคนก็แสดงได้ดี แต่บางคนก็ยังดูมีแอบแสดงแข็งอยู่บ้าง ฝั่ง BNK ชอบการแสดงของแก้ว ดูเข้ากับหนังพอดี ไม่ขาดไม่เกิน แม้หนังจะยังเล่าเรื่องได้แปลกๆไปในช่วงท้าย แต่ช่วงองค์ 1 องค์ 2 นี่ทำได้สนุกและอบอุ่นดีมากเลย

สรุปโดยรวมคือชอบหนังเรื่องนี้นะ และเชียร์คนที่สนใจให้ไปลองดูกัน

วิเคราะห์นิดนึง

รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ทาง ผกก และ BNK อยากที่จะเล่าให้คนดูเห็นว่าทำไมวงถึงไม่สามารถทำเพลงออริจินอลของตัวเองมาเป็นเพลงหลักซะที และเล่าถึงความพยายามเอาตัวรอดของวงจากทิศทางเพลงในประเทศที่เปลี่ยนไป โดยที่ตัวหลักของเรื่องคือ เจ๊ก้อง จาลอด จ๊อบซัง อาจจะดูเหมือนว่าต้นสังกัดญี่ปุ่นเป็นตัวร้ายนิดนึงที่คอยสกัดเส้นทางที่วง BNK จะไปรอดในวงการเพลง(ในจักรวาลหนัง) แต่ตามจริงมันก็คือเรื่องของสัญญาทางธุรกิจนั่นแหละ

เป็นโปรเจ็คที่ วิน-วิน ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งทีมไทบ้านที่ดึงให้แฟนคลับคนเมืองได้มารู้จักกับจักรวาลหนังไทบ้าน ฝั่ง BNK ก็ได้แฟนคลับไทบ้านมารู้จักวงเพิ่มขึ้น