'ส.ส.พลังประชารัฐ' ปัดเสียบบัตรแทนกัน
23 ม.ค.63 - ที่รัฐสภา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมด้วย น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในส.ส.ที่ร่วมปรากฎภาพข่าวในสื่อมวลชนว่าได้กดบัตรลงคะแทน ส.ส.คนอื่นในระหว่างที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ร่วมกันแถลงข่าว
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในวิปรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐไม่มีแนวทางให้ส.ส.กดบัตรลงคะแนนแทนกัน ถ้าใครไม่มาก็จะไม่มีการลงคะแนนแทนกัน อย่างไรก็ตาม มีปัญหาในเรื่องของสถานที่ประชุม เนื่องจากช่องลงคะแนนของพรรคมี 68 ช่องแต่พรรคมีส.ส.117 คน ในหนึ่งช่องย่อมมีการเสียบสองสามใบเป็นปกติอยู่แล้ว ส.ส.จะลงมาเสียบกันเอง แต่ภาพที่เกิดขึ้นอาจเป็นอุบัติเหตุ
"ไม่มีการเสียบแทนกัน แต่เพียงครั้งเดียว ถ้าไม่ได้เข้าไปนั่งด้วยตัวเองจะไม่มีทางรู้เลยว่าการกดมันยากจริงๆ เป็นอุบัติเหตุ ส่วนเรื่องข้อกฎหมายเป็นเรื่องของการตีความ เราไม่ได้ตัดสินว่าถูกหรือผิด ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการลงคะแนนแทนกันแต่เป็นการช่วยกันลงคะแนน" นายชัยวุฒิ กล่าว
น.ส.ภริม กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นไปในลักษณะที่เมื่อตนเองได้ลงคะแนนไปแล้ว ปรากฎว่านายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ในห้องประชุมได้นำบัตรของตัวเองมาให้ตนกดลงคะแนน เพราะไม่สามารถเข้าไปที่นั่งเพื่อกดบัตรคะแนนด้วยตัวเองได้ ซึ่งยืนยันได้ว่าการลงคะแนนได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายทวิรัฐ โดยไม่ได้ลงคะแนนไปตามเจตนารมณ์ของตนเองแต่อย่างใด
ต่อมา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวในประเด็นเดียวกันว่า ขอเรียกร้องให้ประธานสภาฯเปลี่ยนระบบการลงคะแนนด้วยการใช้บัตรมาเป็นการแสดงอัตลักษณ์ควบคู่ไปด้วย เช่น การสแกนม่านตาและลายนิ้วมือ ซึ่งคิดว่ายังน่าจะเปลี่ยนแปลงระบบได้เนื่องจากอาคารรัฐสภาแห่งใหม่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
"สภาของเรามีช่องกดบัตรจำนวนน้อยมีเพียง 300 ช่อง แต่มีส.ส.500 คน ทำให้ต้องการมีดึงบัตรออกและเสียบบัตรเข้าไปใหม่ โดยกรณีที่เจ้าตัวอยู่ในห้องแล้วให้คนอื่นเสียบแทน เช่นนี้ยอมรับได้เพราะตัวยังอยู่ แต่หากตัวไม่อยู่ย่อมผิดแน่นอน พฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นกับฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะช่องการลงคะแนนไม่พอจริงๆ" น.ส.รังสิมา กล่าว
https://www.thaipost.net/main/detail/55308
เจตนา คือ ตั้งใจ จงใจ มุ่งหมายที่จะทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามวัตถุประสงค์
เจตนาโหวตให้ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ 63 แต่เครื่องลงคะแนนไม่พอให้เสียบบัตร การเสียบบัตรคนเก่าก็ต้องกดบัตรออกมา แล้วคนต่อไปก็เสียบบัตรเข้าไปใหม่
เจตนาบริสุทธิ์ แต่โดนว่าเสียบบัตรแทนกันไปกับพวกเจตนาไม่บริสุทธิ์ไปด้วย
คราวนี้ดิฉันให้พปชร.ผ่านค่ะ แต่ต่อไปให้ระวังต้องเสียบบัตรอย่าให้เกิดผิดพลาดอีก
ส่วนส.ส.เพื่อแม้ว ที่เชี่ยวชาญการเสียบบัตรแทนกันมาก่อน ย่อมรู้ดีกว่าใคร เพราะทำผิดมาแล้วในอดีต จึงอยากให้มีการลงโทษ และพาลไปถึงนายกฯลุงตู่ จะให้ลาออกเพราะเรื่องที่มีความผิดแค่ไม่เจตนา แต่ที่ตัวเองเคยเจตนานั้นลืมไปเสียแล้ว
เขาเรียกว่า..นกกาอยากให้หงส์สีขาวสะอาดกลายเป็นสีดำเลยช่วยเอาสีมาทาให้จะได้เหมือนพวกตัว
วันนี้อากาศสดชื่นทั้งวัน มีกิจกรรมกลางแจ้งค่ะ
เลยไม่ได้เข้ามา ปล่อยให้ขอไข่รอเก้อ....
💮มาลาริน/ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน อยู่ที่เจตนาหรือไม่ค่ะ
23 ม.ค.63 - ที่รัฐสภา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมด้วย น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในส.ส.ที่ร่วมปรากฎภาพข่าวในสื่อมวลชนว่าได้กดบัตรลงคะแทน ส.ส.คนอื่นในระหว่างที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ร่วมกันแถลงข่าว
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในวิปรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐไม่มีแนวทางให้ส.ส.กดบัตรลงคะแนนแทนกัน ถ้าใครไม่มาก็จะไม่มีการลงคะแนนแทนกัน อย่างไรก็ตาม มีปัญหาในเรื่องของสถานที่ประชุม เนื่องจากช่องลงคะแนนของพรรคมี 68 ช่องแต่พรรคมีส.ส.117 คน ในหนึ่งช่องย่อมมีการเสียบสองสามใบเป็นปกติอยู่แล้ว ส.ส.จะลงมาเสียบกันเอง แต่ภาพที่เกิดขึ้นอาจเป็นอุบัติเหตุ
"ไม่มีการเสียบแทนกัน แต่เพียงครั้งเดียว ถ้าไม่ได้เข้าไปนั่งด้วยตัวเองจะไม่มีทางรู้เลยว่าการกดมันยากจริงๆ เป็นอุบัติเหตุ ส่วนเรื่องข้อกฎหมายเป็นเรื่องของการตีความ เราไม่ได้ตัดสินว่าถูกหรือผิด ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการลงคะแนนแทนกันแต่เป็นการช่วยกันลงคะแนน" นายชัยวุฒิ กล่าว
น.ส.ภริม กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นไปในลักษณะที่เมื่อตนเองได้ลงคะแนนไปแล้ว ปรากฎว่านายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ในห้องประชุมได้นำบัตรของตัวเองมาให้ตนกดลงคะแนน เพราะไม่สามารถเข้าไปที่นั่งเพื่อกดบัตรคะแนนด้วยตัวเองได้ ซึ่งยืนยันได้ว่าการลงคะแนนได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายทวิรัฐ โดยไม่ได้ลงคะแนนไปตามเจตนารมณ์ของตนเองแต่อย่างใด
ต่อมา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวในประเด็นเดียวกันว่า ขอเรียกร้องให้ประธานสภาฯเปลี่ยนระบบการลงคะแนนด้วยการใช้บัตรมาเป็นการแสดงอัตลักษณ์ควบคู่ไปด้วย เช่น การสแกนม่านตาและลายนิ้วมือ ซึ่งคิดว่ายังน่าจะเปลี่ยนแปลงระบบได้เนื่องจากอาคารรัฐสภาแห่งใหม่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
"สภาของเรามีช่องกดบัตรจำนวนน้อยมีเพียง 300 ช่อง แต่มีส.ส.500 คน ทำให้ต้องการมีดึงบัตรออกและเสียบบัตรเข้าไปใหม่ โดยกรณีที่เจ้าตัวอยู่ในห้องแล้วให้คนอื่นเสียบแทน เช่นนี้ยอมรับได้เพราะตัวยังอยู่ แต่หากตัวไม่อยู่ย่อมผิดแน่นอน พฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นกับฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะช่องการลงคะแนนไม่พอจริงๆ" น.ส.รังสิมา กล่าว
https://www.thaipost.net/main/detail/55308
เจตนา คือ ตั้งใจ จงใจ มุ่งหมายที่จะทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามวัตถุประสงค์
เจตนาโหวตให้ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ 63 แต่เครื่องลงคะแนนไม่พอให้เสียบบัตร การเสียบบัตรคนเก่าก็ต้องกดบัตรออกมา แล้วคนต่อไปก็เสียบบัตรเข้าไปใหม่
เจตนาบริสุทธิ์ แต่โดนว่าเสียบบัตรแทนกันไปกับพวกเจตนาไม่บริสุทธิ์ไปด้วย
คราวนี้ดิฉันให้พปชร.ผ่านค่ะ แต่ต่อไปให้ระวังต้องเสียบบัตรอย่าให้เกิดผิดพลาดอีก
ส่วนส.ส.เพื่อแม้ว ที่เชี่ยวชาญการเสียบบัตรแทนกันมาก่อน ย่อมรู้ดีกว่าใคร เพราะทำผิดมาแล้วในอดีต จึงอยากให้มีการลงโทษ และพาลไปถึงนายกฯลุงตู่ จะให้ลาออกเพราะเรื่องที่มีความผิดแค่ไม่เจตนา แต่ที่ตัวเองเคยเจตนานั้นลืมไปเสียแล้ว
เขาเรียกว่า..นกกาอยากให้หงส์สีขาวสะอาดกลายเป็นสีดำเลยช่วยเอาสีมาทาให้จะได้เหมือนพวกตัว
วันนี้อากาศสดชื่นทั้งวัน มีกิจกรรมกลางแจ้งค่ะ
เลยไม่ได้เข้ามา ปล่อยให้ขอไข่รอเก้อ....