เพื่อนๆ เคยมีคนใกล้ตัว
ที่มีลักษณะแบบนี้ไหมคะ


หลังแอ่น!!

ก้นงอน!!

หน้าท้องยื่น!!

แล้วเพื่อนๆเคยสงสัยไหมว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น

เราเรียกภาวะแบบนี้ว่า "ภาวะหลังแอ่น"
หรือ "กระดูกเชิงกรานคว่ำ" ค่ะ

กระดูกเชิงกรานคว่ำคืออะไร
แล้วทำไมถึงคว่ำ

ปกติแล้วนะคะ กระดูกสันหลังของคนเรา
ถ้ามองจากด้านหน้า หรือด้านหลังตรงๆ
จะเห็นเป็นแนวเส้นตรง
แต่ถ้าหากว่ามันมีการเบี่ยงเบนมาทางด้านข้าง
ไม่ว่าจะเป็นทางซ้ายหรือทางขวา
เราเรียกว่าเกิดภาวะกระดูกสันหลังคดค่ะ


แต่ถ้าเรามองจากด้านข้างมัน
จะมีส่วนโค้งส่วนเว้า ไม่ได้เป็นเส้นตรง
และที่หลังส่วนล่าง มันจะโค้งเข้าไปเป็นรูปตัวซี
ซึ่งเป็นแนวของกระดูกสันหลังตามธรรมชาติค่ะ


ทีนี้ ให้เราลอง จินตนาการว่ากระดูกเชิงกรานของเราเหมือนกับกระถางต้นไม้นะคะ
การที่กระดูกเชิงกรานคว่ำไปข้างหน้า
ก็คล้ายกับกระถางมันเทไปด้านหน้า
ทำให้ขอบกระถางด้านหน้าลดต่ำลง
ในขณะที่ด้านหลังเคลื่อนตัวสูงขึ้น
ทำให้ก้นกระถางกระดกไปข้างหลัง
ซึ่งก็คือก้นงอนนั่นเอง
เราจะเห็นว่ามีส่วนโค้งที่หลังส่วนล่าง มากขึ้น
นั่นก็คือภาวะหลังแอ่น ก้นงอน หน้าท้องยื่น




แล้วทำไมกระดูกเชิงกรานถึงคว่ำล่ะ!!
แล้วคว่ำได้ยังไง!!

ที่มันคว่ำลงมาก็เพราะว่า
กล้ามเนื้อกลุ่มที่ใช้งอสะโพกที่อยู่
บริเวณด้านหน้าของสะโพก มันเกิดความตึงตัวและหดสั้นลง
มันก็เลยไปดึงรั้งสะโพกให้คว่ำมาด้านหน้า

ถามต่อไปว่า แล้วทำไม!!
กล้ามเนื้อกลุ่มนี้มันถึงหดสั้นลงล่ะ!!

ที่มันหดสั้นลง ก็เพราะพฤติกรรมนั่งนานๆ
ไม่เฉพาะแต่นั่งทำงานในออฟฟิศ
แต่ยังรวมถึงคนที่ไม่ได้ทำงานออฟฟิศ
นั่งอยู่บ้านพักผ่อนดูทีวี  นั่งกินข้าว
หรือคนที่มีอาชีพขับรถ นั่งขับรถนานๆ
คุณผู้หญิงที่ชอบใส่รองเท้าส้นสูงๆ เป็นประจำนอกจากนี้  สรีระก็มีส่วน
คนที่อ้วนลงพุง หรือผู้หญิงตั้งครรภ์
ก็มี โอกาสที่จะเกิดภาวะหลังแอ่น
ได้มากกว่าคนปกติค่ะ


พอกระดูกเชิงกรานคว่ำ
ทำให้ก้นงอนออกไปด้านหลัง
หลังส่วนล่างส่วนล่างแอ่นมากขึ้น
ทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างตึง
และเกร็งตัวตลอดเวลา
ขณะเดียวกันกล้ามเนื้อหน้าท้องฝั่งตรงข้าม
ก็ถูกยืดออกจนอ่อนแรง
เช่นเดียวกัน
เมื่อกล้ามเนื้อด้านหน้าสะโพกหดสั้นลง
กล้ามเนื้อที่อยู่ฝั่งตรงข้าม คือกล้ามเนื้อก้นและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ก็ถูกยืดออกจนอ่อนแรง

นอกจากจะทำให้บุคลิกไม่สวยงามแล้ว
ยังส่งผลต่อสุขภาพของหลังอีกด้วย
ไม่เชื่อเพื่อนๆลองยืนทำหลังแอ่นดูสิ
แป๊บเดียว!! จะรู้สึกได้เลย
ว่ามันมีแรงไปกดที่หลังส่วนล่างของเรา
ค่อนข้างมากเลย เพราะว่ากล้ามเนื้อหลัง
มีการเกร็งตัวอยู่ตลอดเวลา
และนี่เอง!!  ที่เป็นสาเหตุ
ทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง
บางคนอาจจะปวดเข่า หรือข้อเท้าก็ได้
หากรุนแรง!!
อาจจะมีอาการปวดหลัง หรือปวดสะโพกร้าวลงขา เนื่องจาก มีแรงอัดไปที่หมอนรองกระดูก
จนเกิดหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทค่ะ


เราจะเห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น
เกิดจาก ความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อ
ดังนั้น  เจ้าของกระทู้จึงอยากจะมาแนะนำ
วิธีการฝึกโยคะ ที่จะเข้ามาช่วยปรับคืนความสมดุลให้กับกล้ามเนื้อเหล่านี้

ด้วยการแก้ปัญหาที่ 2 ส่วน ก็คือ


1 ฝึกยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่มันเตึงตัว
ได้แก่ กล้ามเนื้อกลุ่มงอสะโพก และ กล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง

2 ฝึกเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ
ที่อ่อนแรง ได้แก่ กล้ามเนื้อหน้าท้อง
กล้ามเนื้อสะโพก และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง

มีทั้งหมด 6 ท่าด้วยกันค่ะ
ก่อนฝึกเตรียมอุปกรณ์ช่วยฝึก
อาจจะเป็นบล็อกโยคะ 1 ก้อน
ถ้าไม่มีอาจจะใช้หมอนสี่เหลี่ยมของคุณย่าหรือคุณยายก็ได้ค่ะ
หรือจะเป็นหมอนอะไรก็ได้ที่แน่นๆ
หรือผ้าห่มพับก็ได้ค่ะ
ถ้าเตรียมพร้อมแล้ว
เราก็ไปเริ่มกันเล้ยย!!








อย่าลืมฝึกบ่อยๆนะคะ
อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ถึง 5 ครั้งค่ะ
ยิ่งฝึกบ่อยก็ยิ่งเห็นผลเร็ว
เมื่อกล้ามเนื้อกลับคืนสู่ความสมดุล
ตำแหน่งของกระดูกเชิงกรานก็จะค่อยๆ
กลับคืนเข้ามาสู่ตำแหน่งปกติค่ะ

นอกจากนี้ ควรจะระมัดระวัง
ในเรื่องของการใช้ท่าทาง
ไม่ยืนแอ่นพุงไปด้านหน้า
เพราะว่าการยืนแอ่นพุงจะทำให้ก้นงอนและสะโพกคว่ำไปด้านหน้า ทำให้เกิดหลังแอ่น
เราควรจะแขม่วท้องเข้ามาเล็กน้อยค่ะ
(แขม่วเล็กน้อยเท่านั้นนะคะ)เพราะการแขม่วท้องที่ถูกวิธี จะทำให้กล้ามเนื้อก้นที่ใช้ในการยืน
และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง หดตัวทำงาน
พร้อมกัน ซึ่งมันจะช่วยไปประคองข้อเข่าของเราให้ปลอดภัยจากแรงที่มากระทำ
ทำให้ไม่เกิดเข่าเสื่อมได้ง่ายค่ะ

นอกจากนี้นะคะ คุณผู้หญิงควรจะหลีกเลี่ยง
การใส่รองเท้าส้นสูงมากๆ เพราะการใส่รองเท้าส้นสูง ก็เหมือนกับเราต้องเขย่งส้นเท้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้กล้ามเนื้อน่องต้องทำงานหนักตลอดเวลา และร่างกายจะพยายาม ทรงตัว
เพื่อไม่ให้เราคะมำไปด้านหน้า
ด้วยการเอนตัวมาด้านหลัง
จึงทำให้เกิดภาวะหลังแอ่นได้ง่าย
เราจะเห็นว่า นางแบบที่ชอบใส่รองเท้าส้นสูงๆ
ที่เรามองดูว่าสวย สง่า บุคลิกดี ก้นงอน เซ็กซี่
จะมีภาวะหลังแอ่นแทบทั้งนั้น
แต่เราไม่รู้หรอกว่า  พวกเธอเหล่านั้น
จะมีปัญหาปวดหลังหรือเปล่า !!

นอกจากนี้ควรจะลดน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพราะว่า การที่อ้วนลงพุงทำให้
น้ำหนักถ่วงมาที่ด้านหน้า ทำให้เชิงกรานคว่ำ
แล้วก็หลังแอ่นค่ะ

แต่ในกรณีคุณแม่ตั้งครรภ์ยังไม่ต้องฝึกนะคะ
ถ้าจะฝึก ควรอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด
ของผู้เชี่ยวชาญค่ะ

ขอให้เพื่อนๆพี่น้องทุกคนมีสุขภาพกายใจ
แข็งแรงสมบูรณ์นะคะ

นมัสเตค่ะ🙏😊

รับชมวิธีฝึกอย่างละเอียดได้ที่👇