หนังเก่าเล่าใหม่ 146: Children of Men (Alfonso Cuarón, 2006)
"ความหวังของมนุษยชาติภายใต้สงครามกลางเมือง" Children of Men เล่าเรื่องราวโลกอนาคตในปี ค.ศ. 2027 ในวันที่มนุษย์ประสบปัญหาการมีบุตรเมื่อผู้หญิงไม่สามารถคลอดลูกและไม่มีเด็กเกิดขึ้นมาเป็นเวลา 18 ปี ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้ทั่วโลกเกิดความวุ่นวายและมีความเชื่อว่ามนุษย์กำลังจะถึงจุดสิ้นสุด ผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดปัญหาสงครามกลางเมือง สภาพแวดล้อม หลายประเทศล่มสลาย เกิดผู้ก่อการร้าย เหลือเพียงประเทศอังกฤษเพียงประเทศเดียวที่ยังดำรงความเป็นรัฐและกลายเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของผู้ลี้ภัยจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยความจริงจังในการดำรงอยู่ของรัฐทำให้เกิดขบวนการต่อต้านใต้ดินเพื่อทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาปฏิวัติ
ภายใต้สงครามกลางเมืองและความสิ้นหวัง ทีโอ (ไคลฟ์ โอเวน) ได้รับการติดต่อจากอดีตภรรยาจูเลียน (จูเลียน มัวร์) ให้ทีโอพาหญิงสาวแอฟริกันที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายหนีออกจากอังกฤษ แต่ระหว่างเดินทางทั้งหมดถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้ายทำให้จูเลียนเสียชีวิต ภาระดูแลหญิงสาวแอฟริกันจึงตกอยู่กับทีโอ ซึ่งทีโอได้รับรู้ว่าหญิงสาวที่ตัวเองกำลังช่วยหลบหนีนั้นกำลังตั้งท้องและใกล้กำหนดคลอดเต็มที ทำให้ชะตากรรมของมนุษย์อยู่ในมือของทีโอ แต่ฝ่ายปฏิวัติต้องการนำเด็กทารกที่กำลังจะคลอดมาเป็นโฆษณาชวนเชื่อเพื่อทำให้ประชาชนลุกขึ้นต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาล ระหว่างเดินทางไปค่ายกักกันหญิงสาวได้คลอดทารกหญิงออกมา ความหวังจึงเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงปืน
แน่นอนว่า หนังใช้โลกอนาคตเป็นฉากหลังแต่สิ่งที่ผู้กำกับ อัลฟอนโซ กัวรอน นำเสนอคือความสมจริงที่สุดและทำให้เราเข้าใกล้ตัวละครมากที่สุด หนังมีวิธีจัดวางองค์ประกอบของภาพยนตร์ที่สวยงามมาก ๆ ทำให้ความสวยงามของหนังคืองานภาพที่จัดวางพื้นที่ให้เราสังเกตตัวละครผ่านสภาพแวดล้อมและงานตัดต่อที่ทำให้เราเข้าใกล้ตัวละคร โดยเฉพาะฉาก long take ที่พาเราไปร่วมเอาชีวิตรอดฝ่าดงกระสุนพร้อมตัวละครที่น่าทึ่งมาก ๆ และด้วยงานตัดต่อที่ดีมาก ๆ ทำให้เนื้อหาของหนังยิ่งน่าสนใจว่าจะจบลงอย่างไร ตัวละครจะหนีรอดจากอันตรายไปได้อย่างไร ความสับสนวุ่นวายและภาวะสงครามอันตรายจากกระสุนปืน
อย่างไรก็ดี หนังไม่เพียงแค่มีงานถ่ายทำ งานภาพ งานตัดต่อที่น่าชื่นชมเพียงเท่านั้น เนื้อหาของหนังยังนำเสนอความหวังและศรัทธาของผู้คนในความเป็นมนุษย์ และการเกิดของมนุษย์ได้อย่างแยบยล การลืมตาตื่นของเด็กทารกในเรื่องจึงสะท้อนภาพความหวังในวันที่ไม่มีความหวัง และยังให้ภาพสะท้อนถึงความสวยงานของชีวิตโดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นเชื้อชาติอะไร การเกิดขึ้นของมนุษย์คือความมหัศจรรย์ ท้ายสุด Children of Men จัดเป็นภาพยนตร์ที่มีภาษาหนังและมีองค์ประกอบที่สวยงามผนวกด้วยบทภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามต่อการเกิดในเชิงนามธรรมและผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายของโลกมนุษย์...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/ 
หนังเก่าเล่าใหม่ 146: Children of Men (Alfonso Cuarón, 2006) รีวิวโดย MDC
"ความหวังของมนุษยชาติภายใต้สงครามกลางเมือง" Children of Men เล่าเรื่องราวโลกอนาคตในปี ค.ศ. 2027 ในวันที่มนุษย์ประสบปัญหาการมีบุตรเมื่อผู้หญิงไม่สามารถคลอดลูกและไม่มีเด็กเกิดขึ้นมาเป็นเวลา 18 ปี ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้ทั่วโลกเกิดความวุ่นวายและมีความเชื่อว่ามนุษย์กำลังจะถึงจุดสิ้นสุด ผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดปัญหาสงครามกลางเมือง สภาพแวดล้อม หลายประเทศล่มสลาย เกิดผู้ก่อการร้าย เหลือเพียงประเทศอังกฤษเพียงประเทศเดียวที่ยังดำรงความเป็นรัฐและกลายเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของผู้ลี้ภัยจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยความจริงจังในการดำรงอยู่ของรัฐทำให้เกิดขบวนการต่อต้านใต้ดินเพื่อทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาปฏิวัติ
ภายใต้สงครามกลางเมืองและความสิ้นหวัง ทีโอ (ไคลฟ์ โอเวน) ได้รับการติดต่อจากอดีตภรรยาจูเลียน (จูเลียน มัวร์) ให้ทีโอพาหญิงสาวแอฟริกันที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายหนีออกจากอังกฤษ แต่ระหว่างเดินทางทั้งหมดถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้ายทำให้จูเลียนเสียชีวิต ภาระดูแลหญิงสาวแอฟริกันจึงตกอยู่กับทีโอ ซึ่งทีโอได้รับรู้ว่าหญิงสาวที่ตัวเองกำลังช่วยหลบหนีนั้นกำลังตั้งท้องและใกล้กำหนดคลอดเต็มที ทำให้ชะตากรรมของมนุษย์อยู่ในมือของทีโอ แต่ฝ่ายปฏิวัติต้องการนำเด็กทารกที่กำลังจะคลอดมาเป็นโฆษณาชวนเชื่อเพื่อทำให้ประชาชนลุกขึ้นต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาล ระหว่างเดินทางไปค่ายกักกันหญิงสาวได้คลอดทารกหญิงออกมา ความหวังจึงเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงปืน
แน่นอนว่า หนังใช้โลกอนาคตเป็นฉากหลังแต่สิ่งที่ผู้กำกับ อัลฟอนโซ กัวรอน นำเสนอคือความสมจริงที่สุดและทำให้เราเข้าใกล้ตัวละครมากที่สุด หนังมีวิธีจัดวางองค์ประกอบของภาพยนตร์ที่สวยงามมาก ๆ ทำให้ความสวยงามของหนังคืองานภาพที่จัดวางพื้นที่ให้เราสังเกตตัวละครผ่านสภาพแวดล้อมและงานตัดต่อที่ทำให้เราเข้าใกล้ตัวละคร โดยเฉพาะฉาก long take ที่พาเราไปร่วมเอาชีวิตรอดฝ่าดงกระสุนพร้อมตัวละครที่น่าทึ่งมาก ๆ และด้วยงานตัดต่อที่ดีมาก ๆ ทำให้เนื้อหาของหนังยิ่งน่าสนใจว่าจะจบลงอย่างไร ตัวละครจะหนีรอดจากอันตรายไปได้อย่างไร ความสับสนวุ่นวายและภาวะสงครามอันตรายจากกระสุนปืน
อย่างไรก็ดี หนังไม่เพียงแค่มีงานถ่ายทำ งานภาพ งานตัดต่อที่น่าชื่นชมเพียงเท่านั้น เนื้อหาของหนังยังนำเสนอความหวังและศรัทธาของผู้คนในความเป็นมนุษย์ และการเกิดของมนุษย์ได้อย่างแยบยล การลืมตาตื่นของเด็กทารกในเรื่องจึงสะท้อนภาพความหวังในวันที่ไม่มีความหวัง และยังให้ภาพสะท้อนถึงความสวยงานของชีวิตโดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นเชื้อชาติอะไร การเกิดขึ้นของมนุษย์คือความมหัศจรรย์ ท้ายสุด Children of Men จัดเป็นภาพยนตร์ที่มีภาษาหนังและมีองค์ประกอบที่สวยงามผนวกด้วยบทภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามต่อการเกิดในเชิงนามธรรมและผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายของโลกมนุษย์...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/