สวัสดีครับผ่านไปแล้วกับงานวิ่งที่ได้ยินทุกคนพูดถึงว่าถ้าได้ลองสมัครงานวิ่งแล้วรายการนี้เป็นอีกรายการนึงที่ต้องมาให้ได้ คล้ายๆของมันต้องมี
พอดีว่ารายการวิ่งรอบนี้ทางงานเปิดให้สมัครได้แบบไม่ต้องลุ้นว่าเราจะได้ไปไหม คือสมัครแบบใครสมัครก่อนได้ก่อนเลยมีโอกาสได้มาวิ่งที่ จอมบึง ราชบุรี
เดินทางจาก กทม.- ราชบุรี (จอมบึง) ไปก่อนงานวิ่ง 1 วัน ไฮไลท์ของงานคือ ผมไม่ได้จองที่พักเนื่องจากที่พักบริเวณใกล้ๆที่จัดงานนั้นเต็มตั้งแต่ปีก่อน
เพราะจำได้ว่าตอนสมัครเสร็จโทรไปจองที่พักเค้าบอกแถวนั้นเต็มหมดแล้วมีคนจองข้ามปีกันไว้เยอะมาก ( งานดีไหมดูจากจองที่พักข้ามปี หรือไม่ก็ สมัครเสร็จโทรจองกันแบบไวมาก )
เลยคุยกับเพื่อนว่ารอบนี้ลองไปนอนกางเต๊นท์ดูไหม ข้อดี ใกล้จุดปล่อยตัวมาก แล้วก็ได้ลองอะไรใหม่ๆด้วย แบบไม่ต้องรีบแหกขี้หูขี้ตาตื่นมา ขับรถไปหาที่จอดรถกว่าจะได้จอดจะไม่ทันเวลาปล่อยตัว
สรุปได้ที่กางเต๊นท์สบายแล้วล่ะ จุดกางเต๊นท์ใกล้จุดปล่อยตัวมาก ใกล้ห้องอาบน้ำด้วย... กางเสร็จเรียบร้อยได้เวลากินข้าวเย็นเตรียมสะสมพลังงานไว้ก่อน
ปล. งานนี้ไม่ได้ง่ายเมื่อเลือกจุดกางเต๊นท์ผิด เพราะใกล้ห้องอาบน้ำมากไป...งานจึงมา น้ำจากห้องน้ำไหลมาถึงเต๊นท์จนต้องย้ายเต๊นท์อีกรอบ T T
สรุปต้องย้ายเต๊นท์ใหม่มืดพอดี เต๊นท์หน้าตาไม่เหมือนตอนแรกล่ะครับ กางแค่เอานอนได้พอครับ
เพราะอากาศไม่หนาวมากเลยไม่ต้อง กางฟลายชีท ( กันน้ำค้าง ) good night เจอกันที่จุดปล่อยตัวครับ งานนี้ไม่ต้องกลัวไม่ทันเพราะถ้าจำไม่ผิดตื่นเพราะมีรถของนักวิ่งเริ่มทยอยเข้ามาที่งาน ได้ตื่นได้สบายครับ ( เอาจริงๆเหมือนนอนไม่หลับมากกว่า ตื่นเต้น...)
ห้องน้ำอาบน้ำที่น้ำไหลมาหาเต๊นท์ผม
บรรยากาศระหว่างรอปล่อยตัวเวลา ตี 4 นะครับ อากาศกำลังดี ไม่ร้อนมาก ถ้าจำไม่ผิดรายการนี้คนสมัครน่าจะ 6000 กว่าคนนะครับ
ผมไปวิ่งกับเพื่อนมั้งหมด 3 คน พอปล่อยตัวก็ตัวใครตัวมัน วิ่งไปตามที่ตัวเองไหว 10 KM แรกไม่น่าจะเป็นอะไรมากเพราะวิ่งไปกับคนอื่นเรื่อยๆ ทำให้ 10 KM แรกนั้นผ่านไปได้แบบสบายๆไม่เจ็บไม่ปวด แต่ก็ยังไม่เจอเพื่อนอีก 2 คน จนมาถึง ช่วง KM ที่ 19 ผมเองเริ่มมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกๆ นึกในใจนั่นไงมันมาแล้วเพื่อนสนิทผม...น้องตะคริว ผมรู้ว่ามาแน่ๆเลยจอดซ้ายเพราะทำการปฐมพยาบาลตัวเอง สักพัก เพื่อนก็ตามมาสะกิด ..ต้นๆๆรถเป็นอะไรเหรอ...
สึสส..ไม่ใช่กุตะคริวขึ้น.. แล้วไปไหนมานึกว่ากลับตัวไปแล้ว..เพื่อนบอกกลับไรวะวิ่งไปหาห้องน้ำมาเลยเพิ่งมา 555 ผ่านไปแปปนึง ผมยืดเหยียดเรียบร้อยก็ค่อยวิ่งไปต่อ จนเพื่อนอีกคนตามมาทัน ถามเพื่อนเอ้ยยไปไหนมา เพื่อนบอกว่าผมแวะกินข้าวต้ม... ไมชิลขนาดนั้น 555 ข้าวต้มนี่ชาวบ้านแถวนั้นเค้าทำแจกให้นักวิ่งแวะกินได้เลยนะครับ นอกจากเป็นกองเชียร์แล้วยังทำอาหารให้นักวิ่งกินด้วย ในรูปนี้เป็น KM ที่ 19 ครับทางข้างหน้าอีกยาวไกลไม่ต้องรีบครับไปเรื่อยๆเอาให้จบดีกว่าเจ็บแล้วไม่จบ
สิ่งที่คิดกับความเป็นจริง.....
พอกลับตัว KM ที่ 23 ก็ต้องวางแผนให้ตัวเองเนื่องจากตะคริวยังคงมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อนเลยแนะนำให้ แวะตามจุดปฐมพยาบาล ผมเลย แวะนวดเกือบทุกจุดที่ทางทีมงานผูจัดเตรียมไว้ให้นะครับ แต่คนที่มาช่วยนวดนี่ผมต้องยอมรับเลยว่ามันช่วยผมได้มากจริงๆ ขอบคุณมากครับที่ช่วยนวดให้จนประคองตัวเองมาได้จนจบงานแต่ที่ไม่ได้ คือ กองเชียร์ระหว่างการวิ่งครับ น้องๆ เต้นกันไม่หยุด พี่ๆก็เชียร์กันไม่หยุด
น้องๆเต้นกันตั้งแต่เช้าจนถึง 10 โมงเช้านะผมว่า สุดยอดจริงๆ
ช่วงสุดท้ายของการวิ่งตลอดระยะทางก็จะมีพี่ตากล้องคอยถ่ายอยู่ตลอดทางครับ งานนี้ตากล้องเยอะมากจบงานก็เข้าไปอุดหนุนซื้อรูปตัวเองมาเก็บไว้ครับเป็นที่ระลึก
และแล้วก็มาถึงจุดหมายที่ตั้งใจเอาไว้ Finisher 42.195 KM จอมบึงมาราธอน 2020 ไอ้สามคนที่เดินกันเป็นบอยแบรนด์ตอน KM ที่ 19 มาเจอกันอีกที่ตอนวิ่งจบ
ผลการวิ่งเป็นที่น่าพอใจของตัวเองเพราะทันเวลา Cut off 7 ชม เข้าเป็นคนที่ 4735
รายการวิ่งงานนี้เป็นรายการที่ดีมากๆครับ ตลอดเส้นทาง 6 ชมที่ผมวิ่งๆ เดินๆ ได้พบเพื่อนใหม่ระหว่างวิ่งได้พูดคุยกันตอนที่เดินขาลากกันอยู่
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการให้รางวัลกับตัวเองคือ....ไปหาอะไรอร่อยๆกินก่อนเดินทางกลับ สั่งกันยับในรูปอาหารยังมาไม่ครบนะครับแต่ไม่รอแล้วกินไปรออาหารไปครับ.. ร้านอาหารชื่อ กระเพราส้มตำแซ่บเวอร์ ราชบุรี ลองไปกินดูนะครับอร่อยเด็ดทุกเมนูครับ
โดนส่วนตัวผมเริ่มวิ่งมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม ปี 2015 เป็นคนที่วิ่งได้ไม่เร็ว ก็วิ่งเท่าที่วิ่งไหวมีซ้อมบ้างขี้เกียจบ้างแต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเปลืองตังซื้ออุปกรณ์วิ่งไปเยอะมาก ... หยอกๆแต่ไม่รู้ทำไมเจ็บ 555 แต่ที่ได้ผลแน่ๆคือเราสุขถาพดีขึ้นมากครับ ยังไงก็ลองมาออกกำลังกายกันดูนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับผม ^ ^
จอมบึงมาราธอน2020กับการนอนเต๊นท์แล้วตื่นมาวิ่งกับฟลูมาราธอนอีกครั้ง
พอดีว่ารายการวิ่งรอบนี้ทางงานเปิดให้สมัครได้แบบไม่ต้องลุ้นว่าเราจะได้ไปไหม คือสมัครแบบใครสมัครก่อนได้ก่อนเลยมีโอกาสได้มาวิ่งที่ จอมบึง ราชบุรี
เดินทางจาก กทม.- ราชบุรี (จอมบึง) ไปก่อนงานวิ่ง 1 วัน ไฮไลท์ของงานคือ ผมไม่ได้จองที่พักเนื่องจากที่พักบริเวณใกล้ๆที่จัดงานนั้นเต็มตั้งแต่ปีก่อน
เพราะจำได้ว่าตอนสมัครเสร็จโทรไปจองที่พักเค้าบอกแถวนั้นเต็มหมดแล้วมีคนจองข้ามปีกันไว้เยอะมาก ( งานดีไหมดูจากจองที่พักข้ามปี หรือไม่ก็ สมัครเสร็จโทรจองกันแบบไวมาก )
เลยคุยกับเพื่อนว่ารอบนี้ลองไปนอนกางเต๊นท์ดูไหม ข้อดี ใกล้จุดปล่อยตัวมาก แล้วก็ได้ลองอะไรใหม่ๆด้วย แบบไม่ต้องรีบแหกขี้หูขี้ตาตื่นมา ขับรถไปหาที่จอดรถกว่าจะได้จอดจะไม่ทันเวลาปล่อยตัว
สรุปได้ที่กางเต๊นท์สบายแล้วล่ะ จุดกางเต๊นท์ใกล้จุดปล่อยตัวมาก ใกล้ห้องอาบน้ำด้วย... กางเสร็จเรียบร้อยได้เวลากินข้าวเย็นเตรียมสะสมพลังงานไว้ก่อน
ปล. งานนี้ไม่ได้ง่ายเมื่อเลือกจุดกางเต๊นท์ผิด เพราะใกล้ห้องอาบน้ำมากไป...งานจึงมา น้ำจากห้องน้ำไหลมาถึงเต๊นท์จนต้องย้ายเต๊นท์อีกรอบ T T
สรุปต้องย้ายเต๊นท์ใหม่มืดพอดี เต๊นท์หน้าตาไม่เหมือนตอนแรกล่ะครับ กางแค่เอานอนได้พอครับ
เพราะอากาศไม่หนาวมากเลยไม่ต้อง กางฟลายชีท ( กันน้ำค้าง ) good night เจอกันที่จุดปล่อยตัวครับ งานนี้ไม่ต้องกลัวไม่ทันเพราะถ้าจำไม่ผิดตื่นเพราะมีรถของนักวิ่งเริ่มทยอยเข้ามาที่งาน ได้ตื่นได้สบายครับ ( เอาจริงๆเหมือนนอนไม่หลับมากกว่า ตื่นเต้น...)
ห้องน้ำอาบน้ำที่น้ำไหลมาหาเต๊นท์ผม
บรรยากาศระหว่างรอปล่อยตัวเวลา ตี 4 นะครับ อากาศกำลังดี ไม่ร้อนมาก ถ้าจำไม่ผิดรายการนี้คนสมัครน่าจะ 6000 กว่าคนนะครับ
ผมไปวิ่งกับเพื่อนมั้งหมด 3 คน พอปล่อยตัวก็ตัวใครตัวมัน วิ่งไปตามที่ตัวเองไหว 10 KM แรกไม่น่าจะเป็นอะไรมากเพราะวิ่งไปกับคนอื่นเรื่อยๆ ทำให้ 10 KM แรกนั้นผ่านไปได้แบบสบายๆไม่เจ็บไม่ปวด แต่ก็ยังไม่เจอเพื่อนอีก 2 คน จนมาถึง ช่วง KM ที่ 19 ผมเองเริ่มมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกๆ นึกในใจนั่นไงมันมาแล้วเพื่อนสนิทผม...น้องตะคริว ผมรู้ว่ามาแน่ๆเลยจอดซ้ายเพราะทำการปฐมพยาบาลตัวเอง สักพัก เพื่อนก็ตามมาสะกิด ..ต้นๆๆรถเป็นอะไรเหรอ...
สึสส..ไม่ใช่กุตะคริวขึ้น.. แล้วไปไหนมานึกว่ากลับตัวไปแล้ว..เพื่อนบอกกลับไรวะวิ่งไปหาห้องน้ำมาเลยเพิ่งมา 555 ผ่านไปแปปนึง ผมยืดเหยียดเรียบร้อยก็ค่อยวิ่งไปต่อ จนเพื่อนอีกคนตามมาทัน ถามเพื่อนเอ้ยยไปไหนมา เพื่อนบอกว่าผมแวะกินข้าวต้ม... ไมชิลขนาดนั้น 555 ข้าวต้มนี่ชาวบ้านแถวนั้นเค้าทำแจกให้นักวิ่งแวะกินได้เลยนะครับ นอกจากเป็นกองเชียร์แล้วยังทำอาหารให้นักวิ่งกินด้วย ในรูปนี้เป็น KM ที่ 19 ครับทางข้างหน้าอีกยาวไกลไม่ต้องรีบครับไปเรื่อยๆเอาให้จบดีกว่าเจ็บแล้วไม่จบ
สิ่งที่คิดกับความเป็นจริง.....
พอกลับตัว KM ที่ 23 ก็ต้องวางแผนให้ตัวเองเนื่องจากตะคริวยังคงมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อนเลยแนะนำให้ แวะตามจุดปฐมพยาบาล ผมเลย แวะนวดเกือบทุกจุดที่ทางทีมงานผูจัดเตรียมไว้ให้นะครับ แต่คนที่มาช่วยนวดนี่ผมต้องยอมรับเลยว่ามันช่วยผมได้มากจริงๆ ขอบคุณมากครับที่ช่วยนวดให้จนประคองตัวเองมาได้จนจบงานแต่ที่ไม่ได้ คือ กองเชียร์ระหว่างการวิ่งครับ น้องๆ เต้นกันไม่หยุด พี่ๆก็เชียร์กันไม่หยุด
น้องๆเต้นกันตั้งแต่เช้าจนถึง 10 โมงเช้านะผมว่า สุดยอดจริงๆ
ช่วงสุดท้ายของการวิ่งตลอดระยะทางก็จะมีพี่ตากล้องคอยถ่ายอยู่ตลอดทางครับ งานนี้ตากล้องเยอะมากจบงานก็เข้าไปอุดหนุนซื้อรูปตัวเองมาเก็บไว้ครับเป็นที่ระลึก
และแล้วก็มาถึงจุดหมายที่ตั้งใจเอาไว้ Finisher 42.195 KM จอมบึงมาราธอน 2020 ไอ้สามคนที่เดินกันเป็นบอยแบรนด์ตอน KM ที่ 19 มาเจอกันอีกที่ตอนวิ่งจบ
ผลการวิ่งเป็นที่น่าพอใจของตัวเองเพราะทันเวลา Cut off 7 ชม เข้าเป็นคนที่ 4735
รายการวิ่งงานนี้เป็นรายการที่ดีมากๆครับ ตลอดเส้นทาง 6 ชมที่ผมวิ่งๆ เดินๆ ได้พบเพื่อนใหม่ระหว่างวิ่งได้พูดคุยกันตอนที่เดินขาลากกันอยู่
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการให้รางวัลกับตัวเองคือ....ไปหาอะไรอร่อยๆกินก่อนเดินทางกลับ สั่งกันยับในรูปอาหารยังมาไม่ครบนะครับแต่ไม่รอแล้วกินไปรออาหารไปครับ.. ร้านอาหารชื่อ กระเพราส้มตำแซ่บเวอร์ ราชบุรี ลองไปกินดูนะครับอร่อยเด็ดทุกเมนูครับ
โดนส่วนตัวผมเริ่มวิ่งมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม ปี 2015 เป็นคนที่วิ่งได้ไม่เร็ว ก็วิ่งเท่าที่วิ่งไหวมีซ้อมบ้างขี้เกียจบ้างแต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเปลืองตังซื้ออุปกรณ์วิ่งไปเยอะมาก ... หยอกๆแต่ไม่รู้ทำไมเจ็บ 555 แต่ที่ได้ผลแน่ๆคือเราสุขถาพดีขึ้นมากครับ ยังไงก็ลองมาออกกำลังกายกันดูนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับผม ^ ^