เคยพูดไว้หลายครั้งแล้วว่าอนาคต เมืองมีแต่จะเติบโตขยับขยายออกไปเรื่อยๆ เพราะสิ่งก่อสร้างทุกประเภทย่อมมีค่าเสื่อมและค่าซ่อมบำรุง
และการซ่อม หรือรื้อทำของเก่า มันทั้งแพง และยุ่งยากกว่าสร้างใหม่มาก....ซึ่งหลายคนก็ไม่คิดเช่นนั้น ยังยึดติดกับภาพเดิมๆ....แต่หลงลืมไปว่า
วันเวลาเปลี่ยน วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยน สภาพแวดล้อมเปลี่ยน โจทย์เปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน....
ซึ่งการย้ายเมืองหลวง อาจไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป เพราะในหลายๆประเทศเขาก็เลือกที่จะทำกัน...ในรอบ50ปีที่ผ่านมา
และล่าสุด..ประเทศในกลุ่มอาเซียนอย่าง อินโดนีเซียก็ประกาศย้ายเมืองหลวงด้วยเหตุผลหลายประการเช่น...
1.หลีกเลี่ยงภัยพิบัติจากภูเขาไฟ
2.ภัยพิบัติจาก น้ำท่วม
ซึ่งจากการคำนวนพบว่า จาการ์ตา เป็นเมืองที่กำลังจะจมน้ำเป็นอันดับต้นๆของโลก(ส่วนไทยเห็นว่าอยู่อันดับ5) และในรอบ30ปีที่ผ่านมา จาการ์ตาจมน้ำไปแล้วถึง4ม.เลยทีเดียว
3.ความแออัด จาการ์ตา คล้ายกับกทม.ในเรื่องรถติดที่รุนแรงติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในปี2016เคยประสบปัญหารถติดบนถนนนานถึง20ชม. และมีผู้คนตายบนท้องถนนถึง18คนเลยทีเดียว
4.มลพิษทางอากาศ pm10 pm2.5 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จาการ์ต้าร์ก็เคยติดอันดับโลกในเรื่องของมลพิษทางอากาศด้วยเช่นกัน
***ภัยพิบัติจาก น้ำท่วม
ความแออัด รถติดที่รุนแรงติดอันดับต้นๆของโลก
และสำหรับประเทศไทย การย้ายเมืองหลวง ตามหน้าประวัติศาสตร์ ก็เคยถูกหยิบยกเป็นประเด็นนำเสนออยู่บ่อยครั้งเช่น...
จ.เพชรบรูณ์...ถูกนำเสนอในยุคจอมพลป. ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่2
จ.ฉะเชิงเทรา..ถูกนำเสนอในยุคชวลิต ยงใจยุทธ
จ.นครนายก....ถูกนำเสนอในยุคทักษิณ ชินวัตร
ส่วนปัญหาหลักๆในกทม.ในยุคปัจจุบัน
1.ความแออัด อสังหา ประเภทที่พักอาศัย ราคาสูงเกินกว่ากำลังซื้อของคนชั้นกลาง
2.pm.2.5เนื่องจากปริมาณการใช้รถใช้ถนนอย่างมหาศาลในเมืองหลวง...(และดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆทุกปี)
3.ปัญหารถติด(อันดับต้นๆของโลกเข่นกัน)
4.ปัญหาสิ่งแวดล้อม(น้ำท่วม)
5.โครงสร้างพื้นฐาน ที่ออกแบบไว้ทำไว้ ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตในยุคปัจจุบันแล้ว
และอีกหลายๆปัญหาที่ผู้คนชอบหยิบยกมาเป็นประเด็นพูดคุยตามกระทู้ต่างๆ
ซึ่งบางปัญหา ก็ว่ากันว่าต่อให้ใครเป็นรัฐบาลหรืออีกกี่ชาติก็ไม่มีทางแก้ได้ด้วยเช่นกัน....
เครดิต....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรือการย้ายเมืองหลวง จะเป็นทางออกในหลายๆเรื่องสำหรับประเทศไทย...
และการซ่อม หรือรื้อทำของเก่า มันทั้งแพง และยุ่งยากกว่าสร้างใหม่มาก....ซึ่งหลายคนก็ไม่คิดเช่นนั้น ยังยึดติดกับภาพเดิมๆ....แต่หลงลืมไปว่า
วันเวลาเปลี่ยน วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยน สภาพแวดล้อมเปลี่ยน โจทย์เปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน....
ซึ่งการย้ายเมืองหลวง อาจไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป เพราะในหลายๆประเทศเขาก็เลือกที่จะทำกัน...ในรอบ50ปีที่ผ่านมา
และล่าสุด..ประเทศในกลุ่มอาเซียนอย่าง อินโดนีเซียก็ประกาศย้ายเมืองหลวงด้วยเหตุผลหลายประการเช่น...
1.หลีกเลี่ยงภัยพิบัติจากภูเขาไฟ
2.ภัยพิบัติจาก น้ำท่วม
ซึ่งจากการคำนวนพบว่า จาการ์ตา เป็นเมืองที่กำลังจะจมน้ำเป็นอันดับต้นๆของโลก(ส่วนไทยเห็นว่าอยู่อันดับ5) และในรอบ30ปีที่ผ่านมา จาการ์ตาจมน้ำไปแล้วถึง4ม.เลยทีเดียว
3.ความแออัด จาการ์ตา คล้ายกับกทม.ในเรื่องรถติดที่รุนแรงติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในปี2016เคยประสบปัญหารถติดบนถนนนานถึง20ชม. และมีผู้คนตายบนท้องถนนถึง18คนเลยทีเดียว
4.มลพิษทางอากาศ pm10 pm2.5 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จาการ์ต้าร์ก็เคยติดอันดับโลกในเรื่องของมลพิษทางอากาศด้วยเช่นกัน
***ภัยพิบัติจาก น้ำท่วม
ความแออัด รถติดที่รุนแรงติดอันดับต้นๆของโลก
และสำหรับประเทศไทย การย้ายเมืองหลวง ตามหน้าประวัติศาสตร์ ก็เคยถูกหยิบยกเป็นประเด็นนำเสนออยู่บ่อยครั้งเช่น...
จ.เพชรบรูณ์...ถูกนำเสนอในยุคจอมพลป. ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่2
จ.ฉะเชิงเทรา..ถูกนำเสนอในยุคชวลิต ยงใจยุทธ
จ.นครนายก....ถูกนำเสนอในยุคทักษิณ ชินวัตร
ส่วนปัญหาหลักๆในกทม.ในยุคปัจจุบัน
1.ความแออัด อสังหา ประเภทที่พักอาศัย ราคาสูงเกินกว่ากำลังซื้อของคนชั้นกลาง
2.pm.2.5เนื่องจากปริมาณการใช้รถใช้ถนนอย่างมหาศาลในเมืองหลวง...(และดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆทุกปี)
3.ปัญหารถติด(อันดับต้นๆของโลกเข่นกัน)
4.ปัญหาสิ่งแวดล้อม(น้ำท่วม)
5.โครงสร้างพื้นฐาน ที่ออกแบบไว้ทำไว้ ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตในยุคปัจจุบันแล้ว
และอีกหลายๆปัญหาที่ผู้คนชอบหยิบยกมาเป็นประเด็นพูดคุยตามกระทู้ต่างๆ
ซึ่งบางปัญหา ก็ว่ากันว่าต่อให้ใครเป็นรัฐบาลหรืออีกกี่ชาติก็ไม่มีทางแก้ได้ด้วยเช่นกัน....
เครดิต....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้