วิสาร อัด วิษณุ ความเชื่อถือล้มละลาย ตีความกม.ไร้หลัก ชอบชี้ช่องรอดรับใช้ผู้มีอำนาจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1898447
“วิสาร” อัด “วิษณุ” ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ ตีความกฎหมายรับใช้ผู้มีอำนาจ
วันที่ 17 มกราคม นาย
วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศชัดเจนว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ต้องเคารพรัฐธรรมนูญ แต่การกระทำของทั้งพล.อ.
ประยุทธ์และนาย
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามมาตลอด และมักหาทางออกโดยการให้องค์กรอิสระช่วยเหลือ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งมาจนถึง การให้ความเห็นทางกฎหมายของนายวิษณุ หลายครั้งที่ผ่านมาเป็นการให้ความเห็นที่ไม่สอดคล้องกับหลักของกฎหมาย มีการตีความเอื้อให้กับผู้มีอำนาจได้ประโยชน์ สมกับคำว่าเนติบริกร ที่จะให้ความทางกฎหมายเอาหลักกูเป็นที่ตั้ง ซึ่งคนในวงการกฎหมายมองว่านายวิษณุพยายามที่จะหาทางออกหรือหาช่องรอดให้กับผู้มีอำนาจ
นาย
วิสาร กล่าวต่อว่า การกระทำและการให้ความเห็นทางกฎหมายของนาย
วิษณุในปัจจุบัน จะยึดเอาเป็นหลักทางกฎหมายไม่ได้แล้ว เพราะบรรดานักวิชาการทางกฎหมายหรือคนที่รู้กฎหมายต่างมองว่า เป็นความเห็นที่ไม่มีหลักกฎหมายรองรับ เพราะเป็นการตีความเพื่อหาทางออกให้กับผู้มีอำนาจที่นายวิษณุรับใช้ นาย
วิษณุถือว่าล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ เพราะการตีความกฎหมายของนาย
วิษณุทำให้หลักกฎหมายบิดเบี้ยวไป นอกจากนี้นาย
วิษณุมีหน้าที่ปกป้องพวกพ้องหรือคนในองคาพยพของรัฐบาล หากกระทำผิดก็หาช่องทางที่จะเลี่ยงการตรวจสอบ อาทิ กรณีนางสาว
ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่มีข้อหารุกที่ป่าไม้ แต่นาย
วิษณุกลับมองว่ายังไม่ผิด แต่หากเป็นฝ่ายตรงข้ามเชื่อว่า นาย
วิษณุจะออกมาให้ความเห็นที่เป็นผลลบทันที ดังนั้นนักกฎหมายอย่างนาย
วิษณุจึงเป็นนักกฎหมายที่ไร้ความน่าเชื่อถือไปแล้วในสายตาประชาชน
สมชัยชี้ พรรคไหนจะอ้างก็ได้ ยอดเงินกู้เป็น กม.เก่า แต่ รปช.ชัดเจน ตั้งหลังมี กม.ใหม่แน่ๆ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1898265
สมชัยชี้ พรรคไหนจะอ้างก็ได้ ยอดเงินกู้ค้างจาก กม.เก่า แต่ รปช.อ้างไม่ขึ้น เพราะเกิดหลัง ตั้งตาม กม.ใหม่
วันนี้ (17 มกราคม) นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊ก ใจความว่า
“คุณลุงที่เป็น ส.ว.ท่านนึง ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับ คดีเงินกู้พรรคการเมือง โดยแยกเป็นสองกรณี
เรื่องแรก อ้างว่า ข้อมูลที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่กู้กันปรากฏในเอกสารงบการเงิน เป็นเงินกู้ค้างที่มีมาตั้งแต่ รัฐธรรมนูญฉบับก่อน ดังนั้นจึงไม่มีผลต่อการบังคับของรัฐธรรมนูญฉบับนี้
เรื่องที่สอง พรรคอื่นที่เขาปรากฏยอดเงินกู้ ก็เพราะเขาเอาไปใช้ในเหตุที่จำเป็น เช่นการบริหารสำนักงาน ไม่เหมือนกับ พรรค อนค. ที่มีลักษณะไม่ใช่เงินกู้แท้แต่เป็นนิติกรรมอำพราง
ผมว่า เรื่องแรก คงเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะไปตรวจล่ะครับ ว่าพรรคไหนเงินกู้เก่า พรรคไหนเงินกู้ใหม่ โดยดูยอดเงินที่ปรากฏต่อเนื่องในงบการเงินก่อนหน้าปี 2560 ผมเองก็คงไม่มีเวลาไปตรวจเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ พรรคอีกลุงนึง ที่ชื่อ รวมพลังประชาชาติไทย ที่มียอดเงินกู้ 5 ล้าน เป็นเงินกู้ตาม กม.ใหม่แน่นอน เพราะเพิ่งตั้งพรรคหลัง กม.ใหม่
ส่วนเรื่องที่สอง ว่าการกู้เงินของ อนค.เป็นการทำนิติกรรมอำพราง อันนี้ อาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้จินตนาการ หรือพยานหลักฐานในเชิง “เชื่อได้ว่า” พรรคนี้ กู้เงินเป็นนิติกรรมอำพราง ส่วนพรรคนั้นเขากู้จริงๆ เหมือนกับ บางคนจินตนาการ หรือ “เชื่อได้ว่า” ส.ว.บางคนนิยม [เผล่ะจัง] รับใช้ทหารจนได้ดิบได้ดี
ว่าแต่ว่า การชี้แจงทั้งสองเรื่อง น่าจะเป็นหน้าที่ของ กกต. ในการชี้แจงนะ ส.ว.น่าจะทำหน้าที่อย่างอื่น
แม้ท่านเสรีพิศุทธ์ จะเสนอให้ผมเป็น กมธ.วิสามัญแก้รัฐธรรมนูญในโควต้าเสรีรวมไทย แต่ผมพูดภาษาชาวบ้านแบบท่านไม่เป็น ขออภัยด้วย
https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/posts/2580584011990986
JJNY : 4in1 วิสารอัดวิษณุ/สมชัยชี้อ้างยอดกู้กม.เก่า แต่รปช.หลังกม.ใหม่/วีระจ่อตามคดีปารีณา/หนี้ครัวเรือน63พุ่งเกิน80%
https://www.matichon.co.th/politics/news_1898447
“วิสาร” อัด “วิษณุ” ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ ตีความกฎหมายรับใช้ผู้มีอำนาจ
วันที่ 17 มกราคม นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศชัดเจนว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ต้องเคารพรัฐธรรมนูญ แต่การกระทำของทั้งพล.อ.ประยุทธ์และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามมาตลอด และมักหาทางออกโดยการให้องค์กรอิสระช่วยเหลือ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งมาจนถึง การให้ความเห็นทางกฎหมายของนายวิษณุ หลายครั้งที่ผ่านมาเป็นการให้ความเห็นที่ไม่สอดคล้องกับหลักของกฎหมาย มีการตีความเอื้อให้กับผู้มีอำนาจได้ประโยชน์ สมกับคำว่าเนติบริกร ที่จะให้ความทางกฎหมายเอาหลักกูเป็นที่ตั้ง ซึ่งคนในวงการกฎหมายมองว่านายวิษณุพยายามที่จะหาทางออกหรือหาช่องรอดให้กับผู้มีอำนาจ
นายวิสาร กล่าวต่อว่า การกระทำและการให้ความเห็นทางกฎหมายของนายวิษณุในปัจจุบัน จะยึดเอาเป็นหลักทางกฎหมายไม่ได้แล้ว เพราะบรรดานักวิชาการทางกฎหมายหรือคนที่รู้กฎหมายต่างมองว่า เป็นความเห็นที่ไม่มีหลักกฎหมายรองรับ เพราะเป็นการตีความเพื่อหาทางออกให้กับผู้มีอำนาจที่นายวิษณุรับใช้ นายวิษณุถือว่าล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ เพราะการตีความกฎหมายของนายวิษณุทำให้หลักกฎหมายบิดเบี้ยวไป นอกจากนี้นายวิษณุมีหน้าที่ปกป้องพวกพ้องหรือคนในองคาพยพของรัฐบาล หากกระทำผิดก็หาช่องทางที่จะเลี่ยงการตรวจสอบ อาทิ กรณีนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่มีข้อหารุกที่ป่าไม้ แต่นายวิษณุกลับมองว่ายังไม่ผิด แต่หากเป็นฝ่ายตรงข้ามเชื่อว่า นายวิษณุจะออกมาให้ความเห็นที่เป็นผลลบทันที ดังนั้นนักกฎหมายอย่างนายวิษณุจึงเป็นนักกฎหมายที่ไร้ความน่าเชื่อถือไปแล้วในสายตาประชาชน
สมชัยชี้ พรรคไหนจะอ้างก็ได้ ยอดเงินกู้เป็น กม.เก่า แต่ รปช.ชัดเจน ตั้งหลังมี กม.ใหม่แน่ๆ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1898265
สมชัยชี้ พรรคไหนจะอ้างก็ได้ ยอดเงินกู้ค้างจาก กม.เก่า แต่ รปช.อ้างไม่ขึ้น เพราะเกิดหลัง ตั้งตาม กม.ใหม่
วันนี้ (17 มกราคม) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊ก ใจความว่า
“คุณลุงที่เป็น ส.ว.ท่านนึง ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับ คดีเงินกู้พรรคการเมือง โดยแยกเป็นสองกรณี
เรื่องแรก อ้างว่า ข้อมูลที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่กู้กันปรากฏในเอกสารงบการเงิน เป็นเงินกู้ค้างที่มีมาตั้งแต่ รัฐธรรมนูญฉบับก่อน ดังนั้นจึงไม่มีผลต่อการบังคับของรัฐธรรมนูญฉบับนี้
เรื่องที่สอง พรรคอื่นที่เขาปรากฏยอดเงินกู้ ก็เพราะเขาเอาไปใช้ในเหตุที่จำเป็น เช่นการบริหารสำนักงาน ไม่เหมือนกับ พรรค อนค. ที่มีลักษณะไม่ใช่เงินกู้แท้แต่เป็นนิติกรรมอำพราง
ผมว่า เรื่องแรก คงเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะไปตรวจล่ะครับ ว่าพรรคไหนเงินกู้เก่า พรรคไหนเงินกู้ใหม่ โดยดูยอดเงินที่ปรากฏต่อเนื่องในงบการเงินก่อนหน้าปี 2560 ผมเองก็คงไม่มีเวลาไปตรวจเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ พรรคอีกลุงนึง ที่ชื่อ รวมพลังประชาชาติไทย ที่มียอดเงินกู้ 5 ล้าน เป็นเงินกู้ตาม กม.ใหม่แน่นอน เพราะเพิ่งตั้งพรรคหลัง กม.ใหม่
ส่วนเรื่องที่สอง ว่าการกู้เงินของ อนค.เป็นการทำนิติกรรมอำพราง อันนี้ อาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้จินตนาการ หรือพยานหลักฐานในเชิง “เชื่อได้ว่า” พรรคนี้ กู้เงินเป็นนิติกรรมอำพราง ส่วนพรรคนั้นเขากู้จริงๆ เหมือนกับ บางคนจินตนาการ หรือ “เชื่อได้ว่า” ส.ว.บางคนนิยม [เผล่ะจัง] รับใช้ทหารจนได้ดิบได้ดี
ว่าแต่ว่า การชี้แจงทั้งสองเรื่อง น่าจะเป็นหน้าที่ของ กกต. ในการชี้แจงนะ ส.ว.น่าจะทำหน้าที่อย่างอื่น
แม้ท่านเสรีพิศุทธ์ จะเสนอให้ผมเป็น กมธ.วิสามัญแก้รัฐธรรมนูญในโควต้าเสรีรวมไทย แต่ผมพูดภาษาชาวบ้านแบบท่านไม่เป็น ขออภัยด้วย
https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/posts/2580584011990986