จริงจังเเค่ไหนกับเรื่องกิน รีวิวร้านมิชลินสตาร์สามดาวทุกร้าน ใน Hokkaido
ก่อนอื่นต้องบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่ผมตั้งใจมาเก็บร้านอาหารชื่อดังในเกาะฮอกไกโดอยู่แล้ว ทำให้ตารางเที่ยวของผมแปลกๆทำอะไรตามใจตัวเองเเบบนี้
มิชลินสตาร์(
Michelinstar)กันก่อนมันคืออะไร สำหรับท่านที่ทราบอยู่เเล้วสามารถข้ามไปได้เลยครับ มิชลินสตาร์เป็นเกณฑ์การประเมินของมิชลินไกด์ หนังสือรีวิวอาหารของบริษัทยางลือชื่อที่มีมายาวนานหลายสิบปี โดยมิชลินไกด์จะเเบ่งการให้คะเเนนเป็น
1.ไม่มีรางวัลแต่ได้ลงเล่มนะ
2.มิชลินเพลทหรือรูปจานคือร้านที่มีอาหารดีมีเเววเเต่ยังขาดอะไรบางอย่าง
3.บีบกรุมงต์หรือตุ๊กตาห่วงยางคือกลุ่มร้านอาหารอร่อยเเละราคาถูก
และสุดท้ายระดับสูงสุด
4.มิชลินสตาร์
มิชลินสตาร์ยังเเบ่งออกเป็นสามระดับ คือ 1ดาว,2ดาวและสุดท้ายระดับสูงสุด3ดาว ซึ่งในปัจจุบันมีร้านอาหารระดับ3ดาวอยู่ราว140ร้านทั่วโลก
(CR:
https://guide.michelin.com/)
โดยสำหรับมิชลินไกด์ประจำภูมิภาคฮอกไกโด นั้นจะมีการจัดอันดับทุกๆห้าปี เเทนที่การจัดอันดับทุกๆปีตามปกติ เเละในการจัดอันดับครั้งล่าสุดในปี2017นั้น มีร้านทั้งหมด
สามร้านที่ได้รางวัลMichelin star สามดาว
คือ
1.
Sushi Miyakawa ร้านเต็งจ้าซูชิที่ได้รางวัลสามดาวเลยในครั้งแรกของการลงในมิชลินไกด์
2.
Hanakoji sawada ร้านอาหาร Kappo ที่ได้รับการปรับอันดับจากสองดาว
3.
Moliere ร้านอาหารฝรั่งเศส เจ้าของมิชลินสตาร์สามดาวที่ถูกที่สุดในโลก ร้านอาหารฝรั่งเศสไฟน์ไดน์นิ่งร้านเเรกๆของเกาะฮอกไกโดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
ครั้นจะกินเเค่สามร้านเหมือนขาดอะไร หลายท่านบอกว่าในญี่ปุ่นควรเชื่อTabelogมากกว่าผมจึงใส่ร้านที่สี่และร้านสุดท้ายในทริปนี้ เข้าไปด้วย
คือร้านที่4ในทริป
Sushi ikko ร้านนี้เเม้ได้เพียงมิชลินสองดาว เเต่ได้รางวัล
Tabelog gold ซึ่งมีร้านเดียวในเกาะฮอกไกโด
Tabelog gold award นี้มีเพียงสามสิบร้านทั่วญี่ปุ่นซึ่งหากนับเเค่ร้านซูชิจะมีเพียง9ร้านเรียกได้ว่าเป็นร้านที่ดังมากๆในญี่ปุ่นถึงขนาดมีรายการทีวีมาถ่ายทำบ่อยๆ
ไม่รวมร้านอาหารยิบย่อยอื่นๆที่ไปแบบไม่จองเรียกว่ากลับมานี่อ้วนขึ้นหลายโล
ทริปนี้ผมได้เพลนทริปล่วงหน้ากว่าสามเดือนจึงทำให้เกิดรีวิวนี้ขึ้นมาได้ นอกจากเวลาความฟลุ๊คก็มีส่วน ทริคเล็กน้อยๆที่ผมมักจะใช้ในการจองร้านอาหารยากๆเหล่านี้กัน
1.ความตั้งใจ เนื่องจากการเป็นคนต่างชาติทำให้เรามีโอกาสการเบี้ยวหรือยกเลิกจองสูง ทำให้ทางร้านมักจะเลือกคนท้องถิ่นที่มีโอกาสยกเลิกจองได้น้อยกว่า ถ้าเราเเสดงสิ่งนี้ให้ร้านรับรู้มักจะเพิ่มโอกาสในการจองได้ครับ
2.เวลาที่ยืดหยุน ร้านอาหารพวกนี้อย่างที่ทราบกัน การจองโต๊ะได้นั้นยากเอามากๆ เวลาที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้เราได้โต๊ะง่ายมากขึ้น เช่นเราให้ตารางวันที่เราว่างไปเลย หรือการรับประทานในวันที่ร้านอาหารไม่ยุ่งมากอย่างศุกร์เสาร์
3.เพลนทริปล่วงหน้าเป็นเวลานาน คนปกติมักจะจองร้านอาหาร(ในระดับนี้)กันล่วงหน้าหนึ่งเดือน หากเราเริ่มจองกันยิ่งเร็ว โอกาสในการได้โต๊ะหรือได้วันเวลาที่ต้องการจะยิ่งมีมากครับ
4.คอนเน็คชั่น แปลกเเต่จริงคอนเน็คชั่นมีส่วนมากๆครับในร้านที่รับเฉพาะลูกค้าประจำ อย่างตอนSushi saitoเปิดใหม่ๆที่ฮ่องกง มันขึ้นชื่อทันทีว่าเป็นร้านอาหารที่จองยากมากที่สุดในเกาะฮ่องกงซึ่งปฏิเสธการจองของคนส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ ผมจึงต้องใช้วิธีการพิเศษอย่างการส่งอีเมลล์ขอให้ผู้จัดการร้านอาหารมิชลินสตาร์สามดาวอีกเเห่งหนึ่งในเกาะฮ่องกงช่วยรีเฟอร์ให้จึงได้ที่นั่งมา
5. เรียงลำดับความสำคัญ อย่างทริปนี้ผมมีสี่ร้านข้างต้นเป็นตัวเลือกเเรก ผมจะไล่จองจากร้านที่จองยากก่อนเช่น Miyakwa หรือ Ikko เเล้วค่อยจองร้านที่จองง่ายอย่าง Moliere เเละ Hanakoji sawada เพื่อที่เราจะได้มีตารางเวลาที่กว้างขึ้นให้กับร้านยากๆก่อน ในกรณีที่ไม่ได้เราค่อยใช้เพลนสำรองอย่าง Tempura araki หรือ Sushisai wakachi ที่ความจริงร้านนี้ก็จองยากไม่เเพ้ Ikko หรือ Miyakawa
ซึ่งบางที่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกัน อย่างsushi miyakwaที่รับจอง1เดือนล่วงหน้า เเม้จะให้ตารางเวลาที่ยืดหยุ่นมากๆเเล้วเเต่ก็เรียกว่าผมเกือบอดกิน ร้านดันเต็มหมดเเล้วเจ้ากรรมดันมาว่างเเค่วันที่ผมมีไปออนเซนเสียอีก ผมจึงไร้ทางเลือกต้องนั่งรถตามคณะไปออนเซนเพื่อร้านนี้ทีเดียว
ในทริปนี้ผมใช้บริการสายการบิน EVA air รูทSapporoเป็นรูทเก็บไมล์ที่คุ้มมากๆ เพราะมีราคาเเค่สามถึงสี่หมื่นกว่าบาทในชั้นบิสเนสคลาสเเต่ได้ไมล์ถึงเก้าพันไมล์ ด้วยตั๋วบิสเนสคลาสโปรโมชั่นของ Eva และ Asiana อยู่บ่อยครั้ง
ตารางท่องเที่ยว ทริปนี้ผมเดินทางต้นเดือน ธค โดยมีเวลาที่ Hokkaido ทั้งหมด 8 วัน ตอนช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงพีคของฮอกไกโดราคาโรงเเรมไม่เเพงมาก เเต่มีความน่าสนใจมากๆเพราะบางมุมของเกาะเรายังเห็นใบไม้สีเเดงเเต่บางมุมเราจะเห็นหิมะเเล้ว
(Shirahige fall ,Biei)
[CR] บอสพาชิม: ตะลอนร้านเด็ดSapporo ตะลุยเก็บดาวมิชลินHokkaido
ก่อนอื่นต้องบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่ผมตั้งใจมาเก็บร้านอาหารชื่อดังในเกาะฮอกไกโดอยู่แล้ว ทำให้ตารางเที่ยวของผมแปลกๆทำอะไรตามใจตัวเองเเบบนี้
มิชลินสตาร์(Michelinstar)กันก่อนมันคืออะไร สำหรับท่านที่ทราบอยู่เเล้วสามารถข้ามไปได้เลยครับ มิชลินสตาร์เป็นเกณฑ์การประเมินของมิชลินไกด์ หนังสือรีวิวอาหารของบริษัทยางลือชื่อที่มีมายาวนานหลายสิบปี โดยมิชลินไกด์จะเเบ่งการให้คะเเนนเป็น
1.ไม่มีรางวัลแต่ได้ลงเล่มนะ
2.มิชลินเพลทหรือรูปจานคือร้านที่มีอาหารดีมีเเววเเต่ยังขาดอะไรบางอย่าง
3.บีบกรุมงต์หรือตุ๊กตาห่วงยางคือกลุ่มร้านอาหารอร่อยเเละราคาถูก
และสุดท้ายระดับสูงสุด
4.มิชลินสตาร์
มิชลินสตาร์ยังเเบ่งออกเป็นสามระดับ คือ 1ดาว,2ดาวและสุดท้ายระดับสูงสุด3ดาว ซึ่งในปัจจุบันมีร้านอาหารระดับ3ดาวอยู่ราว140ร้านทั่วโลก
(CR:https://guide.michelin.com/)
โดยสำหรับมิชลินไกด์ประจำภูมิภาคฮอกไกโด นั้นจะมีการจัดอันดับทุกๆห้าปี เเทนที่การจัดอันดับทุกๆปีตามปกติ เเละในการจัดอันดับครั้งล่าสุดในปี2017นั้น มีร้านทั้งหมดสามร้านที่ได้รางวัลMichelin star สามดาว
คือ
1.Sushi Miyakawa ร้านเต็งจ้าซูชิที่ได้รางวัลสามดาวเลยในครั้งแรกของการลงในมิชลินไกด์
2.Hanakoji sawada ร้านอาหาร Kappo ที่ได้รับการปรับอันดับจากสองดาว
3.Moliere ร้านอาหารฝรั่งเศส เจ้าของมิชลินสตาร์สามดาวที่ถูกที่สุดในโลก ร้านอาหารฝรั่งเศสไฟน์ไดน์นิ่งร้านเเรกๆของเกาะฮอกไกโดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
ครั้นจะกินเเค่สามร้านเหมือนขาดอะไร หลายท่านบอกว่าในญี่ปุ่นควรเชื่อTabelogมากกว่าผมจึงใส่ร้านที่สี่และร้านสุดท้ายในทริปนี้ เข้าไปด้วย
คือร้านที่4ในทริป Sushi ikko ร้านนี้เเม้ได้เพียงมิชลินสองดาว เเต่ได้รางวัลTabelog gold ซึ่งมีร้านเดียวในเกาะฮอกไกโด
Tabelog gold award นี้มีเพียงสามสิบร้านทั่วญี่ปุ่นซึ่งหากนับเเค่ร้านซูชิจะมีเพียง9ร้านเรียกได้ว่าเป็นร้านที่ดังมากๆในญี่ปุ่นถึงขนาดมีรายการทีวีมาถ่ายทำบ่อยๆ
ไม่รวมร้านอาหารยิบย่อยอื่นๆที่ไปแบบไม่จองเรียกว่ากลับมานี่อ้วนขึ้นหลายโล
ทริปนี้ผมได้เพลนทริปล่วงหน้ากว่าสามเดือนจึงทำให้เกิดรีวิวนี้ขึ้นมาได้ นอกจากเวลาความฟลุ๊คก็มีส่วน ทริคเล็กน้อยๆที่ผมมักจะใช้ในการจองร้านอาหารยากๆเหล่านี้กัน
1.ความตั้งใจ เนื่องจากการเป็นคนต่างชาติทำให้เรามีโอกาสการเบี้ยวหรือยกเลิกจองสูง ทำให้ทางร้านมักจะเลือกคนท้องถิ่นที่มีโอกาสยกเลิกจองได้น้อยกว่า ถ้าเราเเสดงสิ่งนี้ให้ร้านรับรู้มักจะเพิ่มโอกาสในการจองได้ครับ
2.เวลาที่ยืดหยุน ร้านอาหารพวกนี้อย่างที่ทราบกัน การจองโต๊ะได้นั้นยากเอามากๆ เวลาที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้เราได้โต๊ะง่ายมากขึ้น เช่นเราให้ตารางวันที่เราว่างไปเลย หรือการรับประทานในวันที่ร้านอาหารไม่ยุ่งมากอย่างศุกร์เสาร์
3.เพลนทริปล่วงหน้าเป็นเวลานาน คนปกติมักจะจองร้านอาหาร(ในระดับนี้)กันล่วงหน้าหนึ่งเดือน หากเราเริ่มจองกันยิ่งเร็ว โอกาสในการได้โต๊ะหรือได้วันเวลาที่ต้องการจะยิ่งมีมากครับ
4.คอนเน็คชั่น แปลกเเต่จริงคอนเน็คชั่นมีส่วนมากๆครับในร้านที่รับเฉพาะลูกค้าประจำ อย่างตอนSushi saitoเปิดใหม่ๆที่ฮ่องกง มันขึ้นชื่อทันทีว่าเป็นร้านอาหารที่จองยากมากที่สุดในเกาะฮ่องกงซึ่งปฏิเสธการจองของคนส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ ผมจึงต้องใช้วิธีการพิเศษอย่างการส่งอีเมลล์ขอให้ผู้จัดการร้านอาหารมิชลินสตาร์สามดาวอีกเเห่งหนึ่งในเกาะฮ่องกงช่วยรีเฟอร์ให้จึงได้ที่นั่งมา
5. เรียงลำดับความสำคัญ อย่างทริปนี้ผมมีสี่ร้านข้างต้นเป็นตัวเลือกเเรก ผมจะไล่จองจากร้านที่จองยากก่อนเช่น Miyakwa หรือ Ikko เเล้วค่อยจองร้านที่จองง่ายอย่าง Moliere เเละ Hanakoji sawada เพื่อที่เราจะได้มีตารางเวลาที่กว้างขึ้นให้กับร้านยากๆก่อน ในกรณีที่ไม่ได้เราค่อยใช้เพลนสำรองอย่าง Tempura araki หรือ Sushisai wakachi ที่ความจริงร้านนี้ก็จองยากไม่เเพ้ Ikko หรือ Miyakawa
ซึ่งบางที่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกัน อย่างsushi miyakwaที่รับจอง1เดือนล่วงหน้า เเม้จะให้ตารางเวลาที่ยืดหยุ่นมากๆเเล้วเเต่ก็เรียกว่าผมเกือบอดกิน ร้านดันเต็มหมดเเล้วเจ้ากรรมดันมาว่างเเค่วันที่ผมมีไปออนเซนเสียอีก ผมจึงไร้ทางเลือกต้องนั่งรถตามคณะไปออนเซนเพื่อร้านนี้ทีเดียว
ในทริปนี้ผมใช้บริการสายการบิน EVA air รูทSapporoเป็นรูทเก็บไมล์ที่คุ้มมากๆ เพราะมีราคาเเค่สามถึงสี่หมื่นกว่าบาทในชั้นบิสเนสคลาสเเต่ได้ไมล์ถึงเก้าพันไมล์ ด้วยตั๋วบิสเนสคลาสโปรโมชั่นของ Eva และ Asiana อยู่บ่อยครั้ง
ตารางท่องเที่ยว ทริปนี้ผมเดินทางต้นเดือน ธค โดยมีเวลาที่ Hokkaido ทั้งหมด 8 วัน ตอนช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงพีคของฮอกไกโดราคาโรงเเรมไม่เเพงมาก เเต่มีความน่าสนใจมากๆเพราะบางมุมของเกาะเรายังเห็นใบไม้สีเเดงเเต่บางมุมเราจะเห็นหิมะเเล้ว
(Shirahige fall ,Biei)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้