สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านกันอีกครั้งนะครับ พบกับผม The Heat นักตะลอนกินไม่อั้นเช่นเคย นานแล้วเหมือนกันที่ผมไม่ได้กินปิ้งย่างสไตล์เกาหลี
ดังนั้นวันนี้ผมจะมารีวิวที่ร้าน Iron Age Korean Steakhouse พิกัดร้านอยู่ที่ One Food Avenue ปากซอยสามัคคีฝั่งคลองประปาครับ
เห็นเขาว่าร้านนี้มีบรรยากาศแสงสีคล้ายกับร้านผับบาร์ ผมเองก็ไม่ค่อยได้เที่ยวร้านแนวนี้สักเท่าไหร่ ยังไงก็ขอลองมาดูสักตั้งครับ
ร้านมืดจริงๆด้วย ยังกับเข้ามาในผับเลย ในร้านมีแสดงดนตรีสดด้วย แต่เสียงไม่ดังกังวานเท่าไหร่นัก ก็ดีแล้ว จะได้กินได้สบายหูหน่อย
ทางร้านจะมี โปรบุฟเฟ่ต์อยู่ 3 เซตด้วยกัน โดยเซตที่ผมมาโดนในวันนี้เป็น เซต A ราคา 399+ ซึ่งเซตนี้จะมีทั้งเนื้อต่างๆ ซีฟู้ด และจะรวม
ของหวานกับเครื่องดื่มรีฟิลไว้แล้วด้วย ระยะเวลากินก็ 1 ชั่วโมงครึ่ง เวลามาตรฐานบุฟเฟ่ต์ไทย
น้ำจิ้มและเครื่องเคียงขนขบวนกันมาพร้อมเพรียงเลย
โฉมหน้าของดองสไตล์เกาหลี๊เกาหลีไว้กินแกล้มกับเนื้อย่าง ระหว่างรอเนื้อก็แอบชิมผักดองซะเลย
ผักกาดขาวดอง รสเปรี้ยวอมหวานแบบน้ำส้ม กรอบๆ กินแกล้มกับเนื้อเข้ากันสุดละ
ไชเท้าดอง เนื้อนิ่มๆ เปรี้ยวน้อยกว่าผักกาดหน่อยนึง
โมจิหมักซอส โมจิแท่งหนึบๆรสหวาน หอมกิมจิและงาสุดๆ
ผักกิมจิ รสชาติเหมือนกับผักขาวดอง แต่กรอบและอร่อยกลมกล่อมไม่เท่า
ซุปรสเต้าเจี้ยวผสมซุปไก่ เผ็ดอ่อนๆในคอ
มาเริ่มรีวิวเนื้อของร้านนี้กันเลย
เนื้อบริสเกต รสวัวมันเข้ม แต่ไม่หวานเลย เนื้อนุ่มเหนียวใช้ได้ ต้องคอยดูตอนย่างให้ดีๆเพราะเเล่เนื้อมาบางมาก เกรียมเอาง่ายๆ
สามชั้นซอสเผ็ด เนื้อนุ่ม หวานมันซอสหมักเข้าเนื้อ หอมพริกแต่ไม่เผ็ดเลย แต่สามชั้นของที่นี่จะแปลกหน่อยตรงที่เขาบั่งมาให้
แล้ว ซึ่งถามว่าบั่งแล้วสุกง่ายขึ้นไหม ก็เท่าเดิม คีบยากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
สามชั้นอีกแบบ คราวนี้เป็นแบบหมักกระเทียม เนื้อหวานหอม รสกระเทียมชุ่มเต็มปาก โดยเฉพาะส่วนมันนี่อร่อยเหาะ
หมูสันคอ นุ่มหนา ได้รสชาติของมันหมูอ่อนๆ โดยรวมแล้วจืดไปนิด
หมูบุลโกกิ เนื้อหอมซอส หวานนุ่มอมเผ็ดจางๆ แต่สะดุดเวลาย่างเพราะหั่นมาชิ้นเล็กยิบย่อย ย่างยากสุดๆ
หมึกหมักซอสเผ็ด หนึบนุ่มกรุบปาก ซอสมันๆอมเผ็ดผสมหวานแบบน้ำมันงา ดูยากนิดนึงเวลาย่างเพราะสีซอสกลบสีเนื้อหมึกจนแทบมองไม่ออก
กุ้งกุลา รสหวานฉ่ำปาก กรอบสดใช้ได้
จานนี้มีชื่อว่า ไอรอนบีฟ เนื้อหมักสูตรเฉพาะของทางร้าน ซึ่งมีเนื้อที่เปื่อยนุ่ม มีเอ็นเหนียวหนึบแทรกตามเนื้อพอเคี้ยวได้ รสชาติเหมือนเนื้อย่างเนย
อกไก่กระเทียม เนื้อแน่นมาก นุ่มกำลังดี กลิ่นและรสหอมของกระเทียมเข้าเนื้อไก่สุดๆ แต่เนื้อไก่ชิ้นหนาเกิน ถ้าไม่หั่นชิ้นเล็กจริงนี่ มีจ๊ะเอ๋กับไก่เนื้อชมพู
เตาของร้านนี่ร้อนแรงมากมาย สุกโครตไว แล้วก็เปื้อนคราบโครตเร็วอีกด้วย ดีที่พนักงานมีเยอะคอยหมุนเวียนกันมาเปลี่ยนตะแกรงย่างให้บ่อยๆ
จัดว่าเด็ด
สั่งบริสเกตแบบหมักซอสบุลโกกิมาลองดู รสเหมือนบริสเกตย่างธรรมดาที่กินไปเมื่อครู่นี้ แต่ได้รสชาติหวานอมเค็มอันอ่อนละมุนของเครื่องปุรง
นับว่าโอเคเรื่องรสชาติ แต่เรื่องการย่างนั้น ลำบากไม่แพ้ หมูบุลโกกิเลย เพราะแผ่นบางจ้อยเช่นเดิม
อิ่มอร่อยกันไปอีกมื้อ
ของหวานที่สามารถสั่งได้ในโปร 399 ก็จะเป็น ไอศครีมกะทิรสหอมๆ กับพุดดิ้งรสนมเย็นๆ สำหรับสองอย่างนี้ ไอศครีมชนะใจผมมากกว่านะ
รีวิวสรุป
รสชาติอาหาร : ****1/2
เนื้อของที่นี่นุ่มหอม บวกกับซอสหวานมันเค็มช่วยชูรสชาติเนื้อย่างได้เยอะ ที่เด็ดสุดคือหมูสามชั้นย่าง ที่ปรุงรสจนแทรกเข้าเนื้อและมัน
จนอร่อยเหาะยากจะลืมเลือน เสียอย่างเดียวการเตรียมเนื้อทำออกมาได้ขาดๆเกินๆ อย่างบริสเก็ตกับหมูบุลโกดิ ที่หั่นมาบางและเล็กมาก ย่าง
ไหม้เร็ว ส่วนพวกเนื้อสัน สามชั้น เนื้อไก่ก็ชิ้นมโหฬารเกิน ย่างไปต้องคอยกะเวลาให้ดีว่าชิ้นไหนจะไหม้เกิน ชิ้นไหนจะดิบเกิน
เป็นอุปสรรคต่อการกินพอสมควรเลย
อร่อยมากสุด : หมูสามชั้นหมักกระเทียม
เนื้อนุ่ม มันฉ่ำ เครื่องปรุงก็ซึมซับเเทรกเข้าไปในเนื้อกับมันได้อย่างเต็มเปี่ยม ย่างเกรียมหน่อยๆ อร่อยเลิศจนต้องโดนซ้ำๆอย่างหยุดไม่ได้
อร่อยน้อยสุด : เนื้อบริสเก็ต
รสชาติแสนธรรมดา แถมเนื้อก็สไลด์มาบางเกินกว่าจะเอามาย่างกิน บางชิ้นผมเผลอหันไปชิมจานอื่นแป๊ปเดียวก็เกรียมหงิกไปหมดแล้ว
บรรยากาศในร้าน : ****1/2
จัดได้ว่าสวยงามตามสไตล์ของร้านอาหารเย็นแนวๆนี้นะ ถ้าพาคู่รักมากินด้วยก็จะเพิ่มบรรยากาศได้ดีเลย
การบริการ : ****
จริงอยู่ว่าร้านนี้พนักงานเสิร์ฟมีเยอะ และคอยเปลี่ยนเตาให้ตลอด แต่ไม่รู้ว่าเป็นแค่โต๊ะผมโต๊ะเดียวเปล่านะ เพราะทุกครั้งที่น้องเขามาเปลี่ยนเตา
ให้เขาจะต้องปิดเตาตลอด และหลายครั้งเลยน้องเขาลืมเปิดเตากลับให้ แล้วไม่รู้เป็นอะไร ผมเปิดด้วยมือตัวเองไฟดันไม่ติดซะงั้น ต้องลำบาก
เรียกเขามาเปิดให้ทุกรอบ เจอบ่อยเข้าก็พาลหมดอารมณ์กินเอาง่ายๆเลยนะแบบนี้
ความหลากหลาย : ***
อาหารไม่ค่อยมีอะไรแปลกหูแปลกตาเท่าไหร่ ขนาดเพิ่มราคาจนเป็นเรตสูงสุดของร้านแล้วนะ
ราคา : ***1/2
ถือว่าปกติสำหรับอาหารแนวบุฟเฟ่ต์ อาจจะแพงขึ้นมานิดเพราะมีบวกค่าบริการเพิ่ม แต่ราคานี้รวมน้ำรีฟิลไปแล้ว ก็พอคบหาได้อยู่
ความคุ้มค่า : ****1/2
นี่เป็นร้านปิ้งย่างอีกร้านหนึ่งที่ผมอยากจะให้ทุกท่านได้มาลิ้มลองครับ เพราะถึงเเม้การเตรียมเนื้อสัตว์จะทำให้การย่างนั้นดูทุลักทุเลไปบ้าง
แต่รสชาติอาหารและการบริการนั้น คุ้มค่ากับความลำบากแน่นอน
ภาพรวม : ****1/2
และนั่นก็คือการรีวิวร้านอาหาร "Iron Age Korean Steak House" ครับ ท่านผู้อ่านท่านไหนมีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับร้าน รสชาติ หรือการรีวิว
ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้เหมือนเช่นเคย แล้วพบกันใหม่ในร้านต่อไปที่ผมจะไปกินแหลกกันต่อ สำหรับวันนี้ ลาไปก่อนนะครับ
[CR] BufFeast Review : ปิ้งย่างเกาหลีบรรยากาศร้านผับ "Iron Age Korean Steak House" @One Food Avenue สามัคคี
สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านกันอีกครั้งนะครับ พบกับผม The Heat นักตะลอนกินไม่อั้นเช่นเคย นานแล้วเหมือนกันที่ผมไม่ได้กินปิ้งย่างสไตล์เกาหลี
ดังนั้นวันนี้ผมจะมารีวิวที่ร้าน Iron Age Korean Steakhouse พิกัดร้านอยู่ที่ One Food Avenue ปากซอยสามัคคีฝั่งคลองประปาครับ
เห็นเขาว่าร้านนี้มีบรรยากาศแสงสีคล้ายกับร้านผับบาร์ ผมเองก็ไม่ค่อยได้เที่ยวร้านแนวนี้สักเท่าไหร่ ยังไงก็ขอลองมาดูสักตั้งครับ
ร้านมืดจริงๆด้วย ยังกับเข้ามาในผับเลย ในร้านมีแสดงดนตรีสดด้วย แต่เสียงไม่ดังกังวานเท่าไหร่นัก ก็ดีแล้ว จะได้กินได้สบายหูหน่อย
ทางร้านจะมี โปรบุฟเฟ่ต์อยู่ 3 เซตด้วยกัน โดยเซตที่ผมมาโดนในวันนี้เป็น เซต A ราคา 399+ ซึ่งเซตนี้จะมีทั้งเนื้อต่างๆ ซีฟู้ด และจะรวม
ของหวานกับเครื่องดื่มรีฟิลไว้แล้วด้วย ระยะเวลากินก็ 1 ชั่วโมงครึ่ง เวลามาตรฐานบุฟเฟ่ต์ไทย
น้ำจิ้มและเครื่องเคียงขนขบวนกันมาพร้อมเพรียงเลย
โฉมหน้าของดองสไตล์เกาหลี๊เกาหลีไว้กินแกล้มกับเนื้อย่าง ระหว่างรอเนื้อก็แอบชิมผักดองซะเลย
ผักกาดขาวดอง รสเปรี้ยวอมหวานแบบน้ำส้ม กรอบๆ กินแกล้มกับเนื้อเข้ากันสุดละ
ไชเท้าดอง เนื้อนิ่มๆ เปรี้ยวน้อยกว่าผักกาดหน่อยนึง
โมจิหมักซอส โมจิแท่งหนึบๆรสหวาน หอมกิมจิและงาสุดๆ
ผักกิมจิ รสชาติเหมือนกับผักขาวดอง แต่กรอบและอร่อยกลมกล่อมไม่เท่า
ซุปรสเต้าเจี้ยวผสมซุปไก่ เผ็ดอ่อนๆในคอ
มาเริ่มรีวิวเนื้อของร้านนี้กันเลย
เนื้อบริสเกต รสวัวมันเข้ม แต่ไม่หวานเลย เนื้อนุ่มเหนียวใช้ได้ ต้องคอยดูตอนย่างให้ดีๆเพราะเเล่เนื้อมาบางมาก เกรียมเอาง่ายๆ
สามชั้นซอสเผ็ด เนื้อนุ่ม หวานมันซอสหมักเข้าเนื้อ หอมพริกแต่ไม่เผ็ดเลย แต่สามชั้นของที่นี่จะแปลกหน่อยตรงที่เขาบั่งมาให้
แล้ว ซึ่งถามว่าบั่งแล้วสุกง่ายขึ้นไหม ก็เท่าเดิม คีบยากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
สามชั้นอีกแบบ คราวนี้เป็นแบบหมักกระเทียม เนื้อหวานหอม รสกระเทียมชุ่มเต็มปาก โดยเฉพาะส่วนมันนี่อร่อยเหาะ
หมูสันคอ นุ่มหนา ได้รสชาติของมันหมูอ่อนๆ โดยรวมแล้วจืดไปนิด
หมูบุลโกกิ เนื้อหอมซอส หวานนุ่มอมเผ็ดจางๆ แต่สะดุดเวลาย่างเพราะหั่นมาชิ้นเล็กยิบย่อย ย่างยากสุดๆ
หมึกหมักซอสเผ็ด หนึบนุ่มกรุบปาก ซอสมันๆอมเผ็ดผสมหวานแบบน้ำมันงา ดูยากนิดนึงเวลาย่างเพราะสีซอสกลบสีเนื้อหมึกจนแทบมองไม่ออก
กุ้งกุลา รสหวานฉ่ำปาก กรอบสดใช้ได้
จานนี้มีชื่อว่า ไอรอนบีฟ เนื้อหมักสูตรเฉพาะของทางร้าน ซึ่งมีเนื้อที่เปื่อยนุ่ม มีเอ็นเหนียวหนึบแทรกตามเนื้อพอเคี้ยวได้ รสชาติเหมือนเนื้อย่างเนย
อกไก่กระเทียม เนื้อแน่นมาก นุ่มกำลังดี กลิ่นและรสหอมของกระเทียมเข้าเนื้อไก่สุดๆ แต่เนื้อไก่ชิ้นหนาเกิน ถ้าไม่หั่นชิ้นเล็กจริงนี่ มีจ๊ะเอ๋กับไก่เนื้อชมพู
เตาของร้านนี่ร้อนแรงมากมาย สุกโครตไว แล้วก็เปื้อนคราบโครตเร็วอีกด้วย ดีที่พนักงานมีเยอะคอยหมุนเวียนกันมาเปลี่ยนตะแกรงย่างให้บ่อยๆ
จัดว่าเด็ด
สั่งบริสเกตแบบหมักซอสบุลโกกิมาลองดู รสเหมือนบริสเกตย่างธรรมดาที่กินไปเมื่อครู่นี้ แต่ได้รสชาติหวานอมเค็มอันอ่อนละมุนของเครื่องปุรง
นับว่าโอเคเรื่องรสชาติ แต่เรื่องการย่างนั้น ลำบากไม่แพ้ หมูบุลโกกิเลย เพราะแผ่นบางจ้อยเช่นเดิม
อิ่มอร่อยกันไปอีกมื้อ
ของหวานที่สามารถสั่งได้ในโปร 399 ก็จะเป็น ไอศครีมกะทิรสหอมๆ กับพุดดิ้งรสนมเย็นๆ สำหรับสองอย่างนี้ ไอศครีมชนะใจผมมากกว่านะ
รีวิวสรุป
รสชาติอาหาร : ****1/2
เนื้อของที่นี่นุ่มหอม บวกกับซอสหวานมันเค็มช่วยชูรสชาติเนื้อย่างได้เยอะ ที่เด็ดสุดคือหมูสามชั้นย่าง ที่ปรุงรสจนแทรกเข้าเนื้อและมัน
จนอร่อยเหาะยากจะลืมเลือน เสียอย่างเดียวการเตรียมเนื้อทำออกมาได้ขาดๆเกินๆ อย่างบริสเก็ตกับหมูบุลโกดิ ที่หั่นมาบางและเล็กมาก ย่าง
ไหม้เร็ว ส่วนพวกเนื้อสัน สามชั้น เนื้อไก่ก็ชิ้นมโหฬารเกิน ย่างไปต้องคอยกะเวลาให้ดีว่าชิ้นไหนจะไหม้เกิน ชิ้นไหนจะดิบเกิน
เป็นอุปสรรคต่อการกินพอสมควรเลย
อร่อยมากสุด : หมูสามชั้นหมักกระเทียม
เนื้อนุ่ม มันฉ่ำ เครื่องปรุงก็ซึมซับเเทรกเข้าไปในเนื้อกับมันได้อย่างเต็มเปี่ยม ย่างเกรียมหน่อยๆ อร่อยเลิศจนต้องโดนซ้ำๆอย่างหยุดไม่ได้
อร่อยน้อยสุด : เนื้อบริสเก็ต
รสชาติแสนธรรมดา แถมเนื้อก็สไลด์มาบางเกินกว่าจะเอามาย่างกิน บางชิ้นผมเผลอหันไปชิมจานอื่นแป๊ปเดียวก็เกรียมหงิกไปหมดแล้ว
บรรยากาศในร้าน : ****1/2
จัดได้ว่าสวยงามตามสไตล์ของร้านอาหารเย็นแนวๆนี้นะ ถ้าพาคู่รักมากินด้วยก็จะเพิ่มบรรยากาศได้ดีเลย
การบริการ : ****
จริงอยู่ว่าร้านนี้พนักงานเสิร์ฟมีเยอะ และคอยเปลี่ยนเตาให้ตลอด แต่ไม่รู้ว่าเป็นแค่โต๊ะผมโต๊ะเดียวเปล่านะ เพราะทุกครั้งที่น้องเขามาเปลี่ยนเตา
ให้เขาจะต้องปิดเตาตลอด และหลายครั้งเลยน้องเขาลืมเปิดเตากลับให้ แล้วไม่รู้เป็นอะไร ผมเปิดด้วยมือตัวเองไฟดันไม่ติดซะงั้น ต้องลำบาก
เรียกเขามาเปิดให้ทุกรอบ เจอบ่อยเข้าก็พาลหมดอารมณ์กินเอาง่ายๆเลยนะแบบนี้
ความหลากหลาย : ***
อาหารไม่ค่อยมีอะไรแปลกหูแปลกตาเท่าไหร่ ขนาดเพิ่มราคาจนเป็นเรตสูงสุดของร้านแล้วนะ
ราคา : ***1/2
ถือว่าปกติสำหรับอาหารแนวบุฟเฟ่ต์ อาจจะแพงขึ้นมานิดเพราะมีบวกค่าบริการเพิ่ม แต่ราคานี้รวมน้ำรีฟิลไปแล้ว ก็พอคบหาได้อยู่
ความคุ้มค่า : ****1/2
นี่เป็นร้านปิ้งย่างอีกร้านหนึ่งที่ผมอยากจะให้ทุกท่านได้มาลิ้มลองครับ เพราะถึงเเม้การเตรียมเนื้อสัตว์จะทำให้การย่างนั้นดูทุลักทุเลไปบ้าง
แต่รสชาติอาหารและการบริการนั้น คุ้มค่ากับความลำบากแน่นอน
ภาพรวม : ****1/2
และนั่นก็คือการรีวิวร้านอาหาร "Iron Age Korean Steak House" ครับ ท่านผู้อ่านท่านไหนมีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับร้าน รสชาติ หรือการรีวิว
ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้เหมือนเช่นเคย แล้วพบกันใหม่ในร้านต่อไปที่ผมจะไปกินแหลกกันต่อ สำหรับวันนี้ ลาไปก่อนนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น