เลอเปอเฮอ ยอดเลโจ๊ะ จ.แม่ฮองสอน 10 - 12 ม.ค. 63 หารเฉลี่ย

[CR] เลอเปอเฮอ ยอดเลโจ๊ะ จ.แม่ฮองสอน 10 - 12 ม.ค. 63 หารเฉลี่ย

กระทู้รีวิว

เดินป่า เที่ยวภูเขา จังหวัดแม่ฮ่องสอน Trekking Backpack

สวัสดีครับกับการไปเที่ยวแบบหารเฉลี่ยครั้งที่ 6 ของผมกับสมาชิก 10 คน ในคืนแรกนอนที่เทือกเขาเลอเปอเฮอ (แปลว่า หม้อข้าวนึ่ง เป็นภาษาเรียกของกะเหรี่ยง ปาเกอะญอ ภาษาไทยเรียกดอยสะเงาะหรือดอยลับแล) และนอนยอดเลโจ๊ะ คืนที่ 2 ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ แนวเทือกเขาเลอเปอเฮอมีเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดหัวไก่หรือดอยปุยหลวง (สูงที่สุด 1,722 ม.) ยอดเลโจ๊ะ 1,603 ม. ดอยหมากพริก และอีกหลายยอดที่ยังไม่มีชื่อ (ถ้าอยากให้ยอดนั้นเป็นชื่อของเรา ไม่รู้ว่าต้องไปนอนม้วยที่ยอดนั้นหรือเปล่า 555) ค่าใช้จ่ายคนละ 3,100.- บาท ออกเดินทางโดยรถตู้จาก กทม. เวลา 20.00

11.30 มาถึงแม่ฮ่องสอน (แวะไปรับคุณหมอที่เชียงใหม่ก่อนแล้วค่อยมาที่แม่ฮ่องสอนเส้น อ.ปาย โค้งเป็นร้อยๆ เมารถตลอดทาง -*- ) และแวะกินข้าวเที่ยง เปลี่ยนรถเพื่อขึ้นดอยที่หน่วยพิทักษ์อช.สร.3

13.00 เริ่มออกเดินทางขึ้นไปที่ รร.บ้านหัวน้ำแม่ฮ่องสอน ต.ห้วยปูลิง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

ระยะทางประมาณ 15 กม. (เดาล้วนๆ) ตอนนี้สภาพแย่มาก ลงรถมาช่วยกันเข็นขึ้นเนิน 3 เนิน บวกกับเมารถสภาพแย่สุดๆ

เวลา 14.30 มาถึงหมู่บ้านหัวน้ำแม่ฮ่องสอน

มีร้านค้าเล็กๆ ในหมู่บ้าน เผื่อใครลืมซื้ออะไร หรืออยากซื้อน้ำซื้อขนมเพิ่มก่อนขึ้น (แต่จริงๆ ผมว่าตอนขาลงมาร้านค้าจะมีประโยชน์มากๆ เพราะหิวและเหนื่อย โค้กซักป๋องคือสวรรค์เลย 555)

น้องๆ ใน รร. วิ่งมาถ่ายรูปด้วยคิดว่าพี่ๆ เอาขนมมาแจกเพราะพรุ่งนี้เป็นวันเด็กเห็นกระเป๋าใหญ่ๆ ที่ไหนได้พี่มาแย่งขนมน้องเอาไปกินบนเขา 555

เริ่มเดิน เวลา 15.00 จากข้าง รร.บ้านต้นน้ำแม่ฮ่องสอนทางเดินขึ้นเขาเรื่อยๆ ถือว่าชันมาก โหดเอาเรื่องแต่พวกเรามีหมอมาด้วยใครป่วยเดะให้หมอดูแล แต่หมอบ่นไม่ไหวตั้งเเต่เนินแรกละ จะรอดกันไหม๊เนี่ย

16.30 มาได้ครึ่งทาง มุมแวะพักประจำของ หน.ทีม นั่งนอนบนพื้นราบไม่ได้ 555

17.40 เดินมาถึงจุดตั้งแคมป์ เลอเปอเฮอ ใช้เวลา 2.40 ชม. ระยะทางน่าจะประมาณ 5 กม.

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยของการไปทริปแต่ละครั้งต้องทำพิธีกรรม เพื่อบรรยากาศที่ปลอดโปร่งไม่มีแม้กระทั่งน้ำค้าง (ตั้งแต่ซื้อเต็นท์มายังไม่เคยโดนฝนเลย ที่เต็นท์เปียกๆ ก็มีแค่เพื่อนร่วมทริปลุกมาฉี่ตอนดึกมองไม่เห็นเต็นท์ตู -*-)

ตั้งแคมป์เสร็จก็ช่วยกันทำกับข้าวกับปลาควบคุมการผลิตโดยเชฟภาพ

ไข่เจียวฝีมือหมอ

หมอโสดจีบได้ ทอดไข่เป็น

เมนูข้าวแลง มื้อแรกมีแกงเขียวหวาน ปลาสลิดทอด ไข่เจียว น้ำพริกปลาร้าผัด น้ำพริกปลาร้าสด

ของหวานเป็นถั่วเขียวต้มน้ำตาล และข้าวโพดคั่ว ส่วนที่จุดพักแรมคืนแรกมีสัญญาณเน็ตอ่อนๆ ของ DTAC (ไม่น่าเชื่อ) และมีน้ำธรรมชาติ พี่ๆลูกหาบไปเอามาให้เห็นว่าห่างจากจุดกางเต็นท์ 500 ม.

กินเสร็จ นั่งคุยกันซักพักก็แยกย้ายกันเข้าไปนอน

05.30 เตรียมอุปกรณ์ต้มน้ำร้อน กาแฟ โอวัลติน ขนมปัง ไปกินระหว่างรอดูพระอาทิตย์ขึ้น

มารวมตัวบนเนินโขดหิน รอถ่ายแสงแรกของวัน

ทิศใต้มองเห็นยอดดอยปุยหลวงไกลๆ

ถ่ายรูปเสร็จกลับมาทำมื้อเช้า ทุกเมนูควบคุมคุณภาพด้วยเชฟภาพคือเก่า

คุณหมอทอดกุนเชียง

มื้อเช้าเป็นผัดผักหมูกรอบ ยำปลากระป๋อง กุนเชียงทอด น้ำพริกปลาร้า

กินข้าวเสร็จเก็บข้าวของ วันนี้เดินขึ้นยอดเลโจ๊ะ เริ่มเดิน 10.00

เป็นทางลาดชันลงบางจุดเกิน 45 องศา กลิ้งลงม้วนหน้าลงไปกันแทบทุกคน

เดินมาได้ซัก 2 กม. ลงมาพักที่ลำธารกลางหุบเขา (ระยะทางนี่เดาๆ เลย)

12.00 พักกินข้าวกลางวัน เกิบแรงเดินขึ้นยอด

มื้อกลางวันเป็น ผัดผักหมูกรอบ พริกแกงหมู ปลาหวานทอด ปลาหมึกทอด น้ำพริกปลาร้า จากจุดนี้ไปจะไม่มีน้ำต้องเติมน้ำไปเผื่อๆ ไปเพื่อใช้ถึงวันลงพรุ่งนี้ คนละ 3 ลิตร

ระยะทางน่าจะ 3 กม. โคตรชันนนน

เริ่มเดินตอน 13.30

บางช่วงชัน 60-70 องศา

วิวระหว่างทางก็สวยดี แต่ไม่ค่อยมีอารมณ์จะชื่นชมเท่าไหร่ เหนื่อย + ร้อน

ทางเดินจากช่วงน้ำตกขึ้นมาที่ยอดเลโจ๊ะ ทางอันตรายมากๆ ลื่นตกไปนี่ไม่น่าจะรอดทั้งชันและพื้นที่ให้เหยียบน้อย

15.50 เดินมาเหลืออีก 300-400 ม. ถึงยอดเลโจ๊ะมองลงกลับไปขึ้นมากันได้ยังไง พี่คนนึงบอกว่า มาครั้งนี้ เราไม่ได้มาพิชิตยอดเขาอะไร เราแค่มาเอาชีวิตรอดกลับไปให้ได้ กว่าจะถึงงง กลับไปเห็นหน้าพ่อแม่ได้ก้ดีใจละ 555

เนินสุดท้ายแล้ววว

16.30 มาถึงบนยอดเลโจ๊ะ กางเต็นท์ได้ประมาณ 7 หลัง

แล้วกางเต็นเสร็จก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปกัน มุมทิศใต้มองเห็นยอดดอยปุยหลวง

มุมทิศตะวันออก

ถ่ายรูปเสร็จก็มาเตรียมมื้อเย็นกันต่อ

เมนูมื้อเย็นมี แกงส้มชะอมผักรวม ไข่เจียวชะอม ซี่โครงหมูส้ม ปลาหมึกทอด น้ำพริก กินเสร็จก็คุยกันนิดหน่อยเล่าประสบการณ์ความยากของแต่ละดอยที่เคยๆ เดินกันมา แล้วก็แยกย้ายเข้านอน