สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
จากที่เคยใช้ ทั้ง 2 แบบ
มาแล้ว ได้ข้อสรุป(บางอย่าง)
ดังนี้ครับ ไม่ได้มาบอกให้
เชื่อทั้งหมด เพราะบาง
อย่าง ยังไม่แน่ใจครับ!!
และเคยใช้แต่รุ่นเก่าๆ
เมื่อราวปี 2525 จึงขอ
เอาเท่าที่นึกได้ เพราะ
แบบ "ฝาหน้า" พังไปแล้ว
ตอนน้ำท่วม!! เช่น
ฝาหน้า
ข้อดี
1. ผ้าไม่พันกัน/พันกันน้อยกว่า
ถ้าผ้าเยอะก็ไม่ควร!!
2. ผ้าสะอาดกว่า เพราะ
มี แผ่นตีผ้าเป็นระยะๆ
ทำให้มีแรงตี/ขยี้ ที่
รุนแรงกว่า /ทั่วถึงกับ
เสื้อผ้าทุกๆชิ้นได้ดีกว่า
จึงสะอาดกว่า (แต่ ถลอก
มากกว่าด้วย)
3. ถ้าแยกผ้าขาว/ผ้าสี
ผ้าขาว ไม่ค่อยหมอง
(แต่ "ผ้าสี" มักจะ "หมอง"
เร็วไปด้วย) ผ้าสีจึง
ไม่ควรซักด้วย "น้ำร้อน)
4. มีความหมักหมมน้อย
เพราะมีระบบ ซักด้วย
"น้ำร้อน" ด้วย
5. ผ้าหอมกว่า โดยเฉพาะ
ถ้าซักด้วยน้ำร้อน
6. ปั่นหมาดได้ "แห้งกว่า"
7. เปลืองน้ำน้อยกว่า
8. รุ่นเก่าๆ ทน/ถึก ไม่เสียง่ายๆ
(แต่มีคนกล่าวถึงรุ่นใหม่
ว่า "เสียง่าย" )
ข้อเสีย
1. บางแบรนด์ ระบบน้ำ
มักมีปัญหา "ตัน" เพราะ
แผ่นกรองน้ำ จนทำให้
น้ำไหลอ่อน จนบางครั้ง
ไม่มีแรงฉีดทั้ง "ผงซักผ้า/
น้ำยาปรับผ้านุ่ม" พอบ่อยเข้า
ท่อฉีดน้ำพลอยตันไปด้วย
ซ่อมบำรุงยาก เพราะถาด
ที่มีทางเดินน้ำเส้นเล็กๆ รวม
อยู่ด้วยนั้น อยู่ลึกเกินกว่า
ที่ user จะถอดออกมา DIY
เองได้สะดวก เพราะมี สปริง
ใหญ่ ที่ดึงถังซัก กั้นไว้แน่น
ถ้าจะถอดออกมา คุณต้อง
แทบจะรื้อออกมาทั้งเครื่อง!!
หลายครั้งจึงกลายเป็น "ซัก
น้ำเปล่า" อย่างเดียว!!
กว่าจะรู้ ก็ซักครบ "โปรแกรม"
แล้ว!! ควรเช็คทุกๆครั้ง อาจจะ
ดีขึ้น แต่ไม่เคยใช้ แบรนด์อื่น
ใครอยากรู้ ถามไปหลังไมค์ครับ!!
2. เติมผ้า ระหว่างซัก ไม่ได้
เพราะจะมีระบบ "ล็อคประตู
อัตโนมัติ" เมื่อเดินเครื่อง!!
3. ถอดล้างถังไม่ได้แบบ DIY
แม้แต่ช่างเฉพาะ ยังไม่อยาก
ล้าง!! เพราะต้องรื้อเครื่อง
เกือบๆ 100%
4. ซ่อมยาก/ซ่อมแพง!. เพราะ
ส่วนใหญ่ หลักๆ มีเสียเป็น
ส่วนที่ช่างจะรู้เท่านั้น เช่น
"มอเตอร์/แผงวงจร/โปรแกรม ฯลฯ"
(ที่ไม่ค่อยเสียง่ายๆ แต่อาจจะ
เสียเพราะ "เหรียญ/สิ่งสกปรก"
/ระดับน้ำ ฯลฯ เท่านั้น )แต่ช่าง
มักจะต้องการเพิ่มค่าซ่อม จึง
บวกค่าอะไหล่ (ที่ไม่เสีย)เข้า
ไปด้วย (เจอมาแล้ว!!!)
5. เมื่อมี "เหรียญ" หลุดเข้าไป
ในท่อ drain น้ำออก มักจะ
มีอาการคล้ายๆ เครื่องเสีย
เพราะเครื่องจะไม่ทำงาน
โดยอัตโนมัติ นั่นเอง
6. ราคาตัวเครื่อง ค่อนข้าง
แพง เมื่อเทียบกับ "ฝาบน"
7. ใช้เวลาซักมากกว่า
8. ผ้าสึกหรอมาก เช่นกัน
เนื่องจาก "ระบบการปั่น
เร็ว และมีเครื่อง "ตี" ผ้า
ที่เร็ว/รุนแรงกว่า แต่ผ้า
ไม่ค่อยพันกันเท่า ฝาบน
ผ้าที่ "ถลอก" เกิดขึ้นตาม
ตย.เช่น
ถ้ากลับตะเข็บ กางเกง
"ลิ้นกระเป๋า" มักจะเปื่อยยุ่ย
เร็วมากกว่า/ถลอกมากกว่า
จึงควรนำผ้า/เสื้อ/กางเกง
ใส่ "ถุงตาข่ายที่ใช้สำหรับ
ซักผ้าโดยเฉพาะด้วยก็ดี
9. "ผ้าสี" มักจะ "หมอง" เร็วกว่า
ยิ่งถ้าซักด้วยน้ำร้อน จึง
ควรใช้ "น้ำเย็น" กับ "ผ้าสี"
จะเหมาะสมกว่า!!
10. มีการ complain ใน pantip
หลายกระทู้ว่า ในแบรนด็
ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ถึก/ทน นั้น
รุ่นหลังๆ กลับ "เสียง่าย"!!
ก็ไม่แน่ใจว่า "เท็จ/จริง"
แค่ไหน/อย่างไร แน่!!
บลาๆๆ
ฝาบน
ข้อดี
1. เติมผ้าระหว่างซักได้
แน่บางแบรนด์มีระบบ
"ล็อค" เมื่อเลยเวลาให้เติม!
2. ราคาไม่แพง (ถูกลงเรื่อยๆ)
3. ถอดล้างถังซักเองแบบ DIY ได้
4. มักจะมีขนาดใหญ่ ทำให้
ซักผ้านวมใหญ่ๆได้ และ
ซักผ้าจำนวนมากกว่า ใน
ถังซักที่มีขนาดเท่าๆกัน
5. ใช้เวลาซักน้อยกว่า..
ข้อเสีย
1. ผ้ามักจะพันกัน มากเพราะ
ผ้านอนก้นถัง (ตามแรงโน้มถ่วง)
ขณะซักตลอดเวลา ทำให้หลายๆ
ครั้ง เกิด "แรงดึง" เนื้อผ้า ขาด/ยืด
แต่ผ้าก็ไม่ค่อยถลอก เท่า "ฝาหน้า"
แต่เคยพบว่า ถ้าเสื้อผ้าเก่า มักจะ
ถูกดึงจน ด้ายตาม "ตะเข็บ" ขาด!?
2. ผ้าชำรุด/โทรม เร็วเช่นกัน
จนบางครั้ง "ผ้าขาด"
เป็นรูๆ โดยไม่รู้สาเหตุ
(แม้ว่าจะถลอกน้อยกว่าก็ตาม)
3. ซักผ้าขาว ความขาวมักจะ
หมองลงๆ เพราะถังมีความ
"หมักหมม" ความสกปรกไว้
ตกค้าง มากกว่า
4. ซักด้วยน้ำร้อนไม่ได้
แต่เพิ่งรู้จากบางท่านว่า
ปัจจุบัน มีซักด้วยน้ำร้อน
ได้แล้ว ควรตรวจสอบอีกที
อภิปราย/สรุป
(ตาม คหสต. เท่านั้น!!)
1. "ฝาหน้า แม้ว่าจะซักได้
สะอาดกว่า แต่ก็อาจจะ
แลกมาด้วย "การสึกหรอ"
ของเสื้อผ้าที่มากกว่า "ฝาบน"
ฝาบน ก็ทำให้
ผ้าพันกัน/ดึงกัน ถ้าเป็น
เสื้อผ้าเก่า มักจะขาด
ตามรอย "ตะเข็บ" ได้
เช่นกัน!! ดังนั้นวิธีการซัก
ด้วยเครื่องทั้ง 2 ประเภท
จึงควรใส่เสื้อผ้าเนื้อดีๆ
ไว้ในถุงตาข่าย จะป้องกันได้บ้าง
2. ไม่ควรใส่เสื้อผ้า มากเกินไป
ในการซักด้วย เครื่อง "ฝาหน้า"
เพราะจะทำให้มี พท. การ
"ตีเสื้อผ้า" (ขยี้ผ้า) ไม่ทั่วถึง
3. ไม่ควรซัก "ผ้าสี" ด้วยน้ำร้อน
4. การซักผ้าด้วยเครื่อง อาจจะ
ช่วยให้ลด "ความเหน็ดเหนื่อย"
ได้ดี แต่เสื้อผ้า อาจจะไม่สะอาด
เท่ากับการซักผ้า ด้วยมือ
ทางแก้อีกทางหนึ่ง ก็ควร
แยกเสื้อผ้าที่มีรอยเปื้อน
มากๆ นำมาซักด้วยมือก่อน
แล้วจึงใส่ในเครื่อง ในโหมด
ปั่นหมาด!! ในขั้นตอนสุดท้าย
เหมือนให้เครื่องช่วยให้ เสื้อผ้า
แห้งเร็วกว่า การบิดผ้าด้วยมือ!!
(ขออภัย!! ที่เนื้อหาบางช่วง
อาจจะกล่าวซ้ำๆ เนื่องจาก
มาต่อเติมภายหลังนั่นเอง)
มาแล้ว ได้ข้อสรุป(บางอย่าง)
ดังนี้ครับ ไม่ได้มาบอกให้
เชื่อทั้งหมด เพราะบาง
อย่าง ยังไม่แน่ใจครับ!!
และเคยใช้แต่รุ่นเก่าๆ
เมื่อราวปี 2525 จึงขอ
เอาเท่าที่นึกได้ เพราะ
แบบ "ฝาหน้า" พังไปแล้ว
ตอนน้ำท่วม!! เช่น
ฝาหน้า
ข้อดี
1. ผ้าไม่พันกัน/พันกันน้อยกว่า
ถ้าผ้าเยอะก็ไม่ควร!!
2. ผ้าสะอาดกว่า เพราะ
มี แผ่นตีผ้าเป็นระยะๆ
ทำให้มีแรงตี/ขยี้ ที่
รุนแรงกว่า /ทั่วถึงกับ
เสื้อผ้าทุกๆชิ้นได้ดีกว่า
จึงสะอาดกว่า (แต่ ถลอก
มากกว่าด้วย)
3. ถ้าแยกผ้าขาว/ผ้าสี
ผ้าขาว ไม่ค่อยหมอง
(แต่ "ผ้าสี" มักจะ "หมอง"
เร็วไปด้วย) ผ้าสีจึง
ไม่ควรซักด้วย "น้ำร้อน)
4. มีความหมักหมมน้อย
เพราะมีระบบ ซักด้วย
"น้ำร้อน" ด้วย
5. ผ้าหอมกว่า โดยเฉพาะ
ถ้าซักด้วยน้ำร้อน
6. ปั่นหมาดได้ "แห้งกว่า"
7. เปลืองน้ำน้อยกว่า
8. รุ่นเก่าๆ ทน/ถึก ไม่เสียง่ายๆ
(แต่มีคนกล่าวถึงรุ่นใหม่
ว่า "เสียง่าย" )
ข้อเสีย
1. บางแบรนด์ ระบบน้ำ
มักมีปัญหา "ตัน" เพราะ
แผ่นกรองน้ำ จนทำให้
น้ำไหลอ่อน จนบางครั้ง
ไม่มีแรงฉีดทั้ง "ผงซักผ้า/
น้ำยาปรับผ้านุ่ม" พอบ่อยเข้า
ท่อฉีดน้ำพลอยตันไปด้วย
ซ่อมบำรุงยาก เพราะถาด
ที่มีทางเดินน้ำเส้นเล็กๆ รวม
อยู่ด้วยนั้น อยู่ลึกเกินกว่า
ที่ user จะถอดออกมา DIY
เองได้สะดวก เพราะมี สปริง
ใหญ่ ที่ดึงถังซัก กั้นไว้แน่น
ถ้าจะถอดออกมา คุณต้อง
แทบจะรื้อออกมาทั้งเครื่อง!!
หลายครั้งจึงกลายเป็น "ซัก
น้ำเปล่า" อย่างเดียว!!
กว่าจะรู้ ก็ซักครบ "โปรแกรม"
แล้ว!! ควรเช็คทุกๆครั้ง อาจจะ
ดีขึ้น แต่ไม่เคยใช้ แบรนด์อื่น
ใครอยากรู้ ถามไปหลังไมค์ครับ!!
2. เติมผ้า ระหว่างซัก ไม่ได้
เพราะจะมีระบบ "ล็อคประตู
อัตโนมัติ" เมื่อเดินเครื่อง!!
3. ถอดล้างถังไม่ได้แบบ DIY
แม้แต่ช่างเฉพาะ ยังไม่อยาก
ล้าง!! เพราะต้องรื้อเครื่อง
เกือบๆ 100%
4. ซ่อมยาก/ซ่อมแพง!. เพราะ
ส่วนใหญ่ หลักๆ มีเสียเป็น
ส่วนที่ช่างจะรู้เท่านั้น เช่น
"มอเตอร์/แผงวงจร/โปรแกรม ฯลฯ"
(ที่ไม่ค่อยเสียง่ายๆ แต่อาจจะ
เสียเพราะ "เหรียญ/สิ่งสกปรก"
/ระดับน้ำ ฯลฯ เท่านั้น )แต่ช่าง
มักจะต้องการเพิ่มค่าซ่อม จึง
บวกค่าอะไหล่ (ที่ไม่เสีย)เข้า
ไปด้วย (เจอมาแล้ว!!!)
5. เมื่อมี "เหรียญ" หลุดเข้าไป
ในท่อ drain น้ำออก มักจะ
มีอาการคล้ายๆ เครื่องเสีย
เพราะเครื่องจะไม่ทำงาน
โดยอัตโนมัติ นั่นเอง
6. ราคาตัวเครื่อง ค่อนข้าง
แพง เมื่อเทียบกับ "ฝาบน"
7. ใช้เวลาซักมากกว่า
8. ผ้าสึกหรอมาก เช่นกัน
เนื่องจาก "ระบบการปั่น
เร็ว และมีเครื่อง "ตี" ผ้า
ที่เร็ว/รุนแรงกว่า แต่ผ้า
ไม่ค่อยพันกันเท่า ฝาบน
ผ้าที่ "ถลอก" เกิดขึ้นตาม
ตย.เช่น
ถ้ากลับตะเข็บ กางเกง
"ลิ้นกระเป๋า" มักจะเปื่อยยุ่ย
เร็วมากกว่า/ถลอกมากกว่า
จึงควรนำผ้า/เสื้อ/กางเกง
ใส่ "ถุงตาข่ายที่ใช้สำหรับ
ซักผ้าโดยเฉพาะด้วยก็ดี
9. "ผ้าสี" มักจะ "หมอง" เร็วกว่า
ยิ่งถ้าซักด้วยน้ำร้อน จึง
ควรใช้ "น้ำเย็น" กับ "ผ้าสี"
จะเหมาะสมกว่า!!
10. มีการ complain ใน pantip
หลายกระทู้ว่า ในแบรนด็
ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ถึก/ทน นั้น
รุ่นหลังๆ กลับ "เสียง่าย"!!
ก็ไม่แน่ใจว่า "เท็จ/จริง"
แค่ไหน/อย่างไร แน่!!
บลาๆๆ
ฝาบน
ข้อดี
1. เติมผ้าระหว่างซักได้
แน่บางแบรนด์มีระบบ
"ล็อค" เมื่อเลยเวลาให้เติม!
2. ราคาไม่แพง (ถูกลงเรื่อยๆ)
3. ถอดล้างถังซักเองแบบ DIY ได้
4. มักจะมีขนาดใหญ่ ทำให้
ซักผ้านวมใหญ่ๆได้ และ
ซักผ้าจำนวนมากกว่า ใน
ถังซักที่มีขนาดเท่าๆกัน
5. ใช้เวลาซักน้อยกว่า..
ข้อเสีย
1. ผ้ามักจะพันกัน มากเพราะ
ผ้านอนก้นถัง (ตามแรงโน้มถ่วง)
ขณะซักตลอดเวลา ทำให้หลายๆ
ครั้ง เกิด "แรงดึง" เนื้อผ้า ขาด/ยืด
แต่ผ้าก็ไม่ค่อยถลอก เท่า "ฝาหน้า"
แต่เคยพบว่า ถ้าเสื้อผ้าเก่า มักจะ
ถูกดึงจน ด้ายตาม "ตะเข็บ" ขาด!?
2. ผ้าชำรุด/โทรม เร็วเช่นกัน
จนบางครั้ง "ผ้าขาด"
เป็นรูๆ โดยไม่รู้สาเหตุ
(แม้ว่าจะถลอกน้อยกว่าก็ตาม)
3. ซักผ้าขาว ความขาวมักจะ
หมองลงๆ เพราะถังมีความ
"หมักหมม" ความสกปรกไว้
ตกค้าง มากกว่า
4. ซักด้วยน้ำร้อนไม่ได้
แต่เพิ่งรู้จากบางท่านว่า
ปัจจุบัน มีซักด้วยน้ำร้อน
ได้แล้ว ควรตรวจสอบอีกที
อภิปราย/สรุป
(ตาม คหสต. เท่านั้น!!)
1. "ฝาหน้า แม้ว่าจะซักได้
สะอาดกว่า แต่ก็อาจจะ
แลกมาด้วย "การสึกหรอ"
ของเสื้อผ้าที่มากกว่า "ฝาบน"
ฝาบน ก็ทำให้
ผ้าพันกัน/ดึงกัน ถ้าเป็น
เสื้อผ้าเก่า มักจะขาด
ตามรอย "ตะเข็บ" ได้
เช่นกัน!! ดังนั้นวิธีการซัก
ด้วยเครื่องทั้ง 2 ประเภท
จึงควรใส่เสื้อผ้าเนื้อดีๆ
ไว้ในถุงตาข่าย จะป้องกันได้บ้าง
2. ไม่ควรใส่เสื้อผ้า มากเกินไป
ในการซักด้วย เครื่อง "ฝาหน้า"
เพราะจะทำให้มี พท. การ
"ตีเสื้อผ้า" (ขยี้ผ้า) ไม่ทั่วถึง
3. ไม่ควรซัก "ผ้าสี" ด้วยน้ำร้อน
4. การซักผ้าด้วยเครื่อง อาจจะ
ช่วยให้ลด "ความเหน็ดเหนื่อย"
ได้ดี แต่เสื้อผ้า อาจจะไม่สะอาด
เท่ากับการซักผ้า ด้วยมือ
ทางแก้อีกทางหนึ่ง ก็ควร
แยกเสื้อผ้าที่มีรอยเปื้อน
มากๆ นำมาซักด้วยมือก่อน
แล้วจึงใส่ในเครื่อง ในโหมด
ปั่นหมาด!! ในขั้นตอนสุดท้าย
เหมือนให้เครื่องช่วยให้ เสื้อผ้า
แห้งเร็วกว่า การบิดผ้าด้วยมือ!!
(ขออภัย!! ที่เนื้อหาบางช่วง
อาจจะกล่าวซ้ำๆ เนื่องจาก
มาต่อเติมภายหลังนั่นเอง)
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเครื่องซักผ้าฝาหน้าถึงซักสะอาดกว่าคะ
แต่ในความรู้สึกจขกท. รู้สึกว่าการซักฝาหน้า ผ้ามันไม่ค่อยโดนน้ำ เหมือนฝาบนที่เวลาซักแล้วผ้าจะแช่อยู่ในน้ำผงซักฟอก เลยรู้สึกว่าผ้าสะอาดกว่า
รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ