แชร์ประสบการณ์การออมหุ้นสิ้นสุด Q 4 - 2019 ( DCA เพิ่ม มกราคม - ธันวาคม 2562 ) และความมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยทบต้น

กระทู้นี้แชร์เพื่อเป็นตัวอย่าง แนวทาง และเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการศึกษาการลงทุน สำหรับนักลงทุนแนว DCA และเป็นกำลังใจให้นักลงทุนใหม่ๆที่เริ่มสนใจการลงทุน และเพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อการจุดประกายให้นักลงทุนหน้าใหม่ จะได้เกิดจุดเปลี่ยนแง่คิดในการลงทุน และมีมุมมองในการออมเงิ นออมหุ้น เพื่อให้ได้อิสสระภาพทางการเงินของทุกๆท่านนะครับ 

        แนวทางนี้อาจจะเหมาะสำหรับท่านที่สนใจในการลงทุนแนว DCA โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ๆนะครับ ... สำหรับเจ้าของกระทู้มิได้มุ่งหวังเพื่อการอวดภูมิ หรืออวดความเก่ง หรือความไม่เก่งแต่อย่างใด เป็นเพียงการแบ่งปันประสบการณ์การลงทุนอีกแนวหนึ่งที่น่าศึกษา และก็ให้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากประจำกับธนาคารทั่วๆไป  สำหรับท่านใดที่ไม่ชอบการลงทุนในแนว DCA นี้ หรือไม่อยากเสียเวลาในการอ่านกระทู้นี้...กรุณาข้ามกระทู้นี้ไปนะครับ 

        สำหรับการออมหุ้นในปี 2562 ก็เป็นปีที่ไม่สดใสอีกปีหนึ่ง  แต่อาจจะดีกว่าหุ้นในปี 2561  ปีนี้ดัชนีหุ้นของตลาดหุ้นไทยปิดที่  1579.84 จุด  เพิ่มขึ้น 1.02% จากปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นน้อยมาก รวมทั้งผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างอเมริการและจีนส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำลง ทำให้การส่งออกสินค้าของไทยลดลงอย่างมาก ให้บริษัทจดทะเบียนต่างๆ มีผลประกอบการที่ลดต่ำลงอย่างมาก  หุ้นโดยรวมปรับลดลงเป็นส่วนใหญ่  และกำลังซื้อของคนไทยก็ยังไม่ดี หลายๆกิจการก็ยังตกต่ำอยู่ ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวไซด์เวย์ แต่หุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีปรับลงค่อนข้างมาก  ทำให้มูลค่าหุ้นพอร์ต DCA ไตรมาสที่สุดท้าย มีกำไรลดลงมากกว่าพอร์ตในไตรมาสที่สามหลายๆตัว 

หุ้นหลักๆในพอร์ตมีแค่ 3 ตัวคือ AOT CPALL CPN โดยให้น้ำหนักการลงทุน AOT มากที่สุด รองลงมาก็ CPALL และ CPN น้อยที่สุด แต่ออมหุ้นรายเดือนทุกเดือน เพิ่งจะมาหยุดออม CPN ชั่วคราว เพราะราคาหุ้นไหลลงค่อนข้างแรงและนานหลายเดือน และในพอร์ตก็มี CPN มากพอสมควรแล้ว โยกเงินมาออม AOT แทน ส่วนหุ้นตัวอื่นๆเพิ่งออม ( BEM BTS HMPRO EA MTC ) และเป็นหุ้นเก่าที่มีในพอร์ต ปล่แยทิ้งไว้เพราะพื้นฐานยังดี แต่ราคาลดลง (IRPC SCC)

หุ้นหลักๆที่ผม DCA คือ CPALL ราคาปิดลดต่ำลงในช่วงไตรมาสที่สี่ค่อนข้างมาก ส่งผลให้กำไรจากหุ้นที่เคยเพิ่มขึ้นมาก กลับลดมีกำไรเพียงเล็กน้อยจากปีก่อน รวมทั้ง CPN ซึ่งเป็นหุ้นหลักอีกหนึ่งราคาหุ้นปรับลดลงอย่างมาก ราคาปรับลดลงมากตั้งแต่มีข่าวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปิดทางเข้าเซ็นทรัลวิลเลจ ท่าให้ราคาหุ้นสาละวันเตี้ยลงมาตลอด  ทำให้กำไรในไตรมาสนี้ปรับลดลงกว่ากำไรที่มีในเดือนกันยายน 2562  ทำให้ CPN ที่มีกำไรจากปีก่อน 293,726.33 บาท   กลับมาติดลบ -27,005.81 บาทในปีนี้ ทั้งที่พื้นฐานก็ยังดี การขยายสาขาต่างๆก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ยังดีที่มีหุ้นหลัก (หุ้นแม่) AOT ยังเติบโตได้ดี  แม้ราคาจะย่อลงมาในช่วงปลายเดือนธันวาคมนิดหน๋อย ก็ยังสามารถประคองพอร์ตให้ผลการลงทุนในปีดี้ยังเติบโตได้อยู่ กำไรในรอบปีนี้สำหรับพอร์ต DCA 3 พอร์ต กับบล. ซีไอเอ็มบี มีกำไร  377,069510.77  บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น  22.64 % เทียบจากกำไรสะสมยกมาจากปีก่อน ( ธ.ค. 2561)   และเพิ่มขึ้น 3.90 % ของเงินทุนทั้งหมดครับ 

พอร์ต DCA  ทุกวันที่ 5 ของเดือน




พอร์ต DCA  ทุกวันที่ 15 ของเดือน
 



พอร์ต DCA  ทุกวันที่ 25 ของเดือน
 



3.90 % เทียบกำไรที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน กับเงินลงทุนทั้งหมด คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ (377,510.77 หารด้วย 9,674,360.81)
 
22.64 % เทียบกำไรที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน กับกำไรรวมจากปีก่อน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ (377,510.77 หารด้วย 1,667,657.43)



หุ้นที่ DCA 3 พอร์ตมีสัดส่วนหุ้นหลักๆ และอื่นๆตามกร๊าฟท์



ส่วนพอร์ตรวมทั้งที่ออมหุ้น และซื้อลงทุนเองทุกพอร์ต ผลการลงทุนในตั้งแต่มกราคม 2562 สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2562 ผลตอบแทนจากจากกำไรหุ้นที่เพิ่มขึ้น 2.02 %  เป็นเงินปันผล 4.48 %   กำไรรวมเพิ่มขึ้น 6.50 %  เท่านั้น ซึ่งค่อนข้างต่ำ แต่ก็ดีกว่าการลงทุนในปี 2561 ซึ่งขาดทุนสูงถึง  - 15.05% 
ซึ่งในปีนี้ผมได้เน้นซื้อหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงๆด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อรับเงินปันผลให้มากขึ้น (เฉพาะพอร์ตที่ผมซื้อขายเองเท่านั้น)  ส่วนพอร์ต DCA จะเน้นหุ้นพื้นฐานดี เติบโตต่อเนือง เงินปันผลส่วนใหญ่ต่ำ ประมาณ 1.5% -2% เป็นอย่างมาก โดยจะเน้น DCA ยาวๆต่อไปเหมือนเดิมครับ

 



ความมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยทบต้น

จะเห็นได้ว่าจากตารางตัวอย่างแสดงการเพิ่มขึ้นของเงินออม และดอกเบี้ยทบต้นตามตารางตัวอย่าง ใช้เงินค้นเพียง 10,000  บาท และมีกำไรจากหุ้นและเงินปันผลรวม 13 ปี เงินต้นจาก 10,000 บาท จะเพิ่มขึ้นทบต้นทุกปี จนครบ 13 ปีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 59,742.21 บาท  ซึ่งคนทั่วไปคงคิดไม่ถึงว่า ดอกเบี้ยทบต้นจะสามารถทำให้เงินออมจะเพิ่มขึ้นได้มากมายขนาดนี้

 จึงอยากให้น้องๆ ลูกๆ หลานๆ นักลงทุนมือใหม่ ให้อดทนลงทุนในระยะยาว  ยิ่งลงทุนยิ่งนาน จะยิ่งให้ผลตอบแทนทบต้นได้มากทวีคูณยิ่งๆขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ 
      การลงทุนไม่ได้ต้องลงทุนเฉพาะหุ้นนะครับ การลงทุนกองทุนหุ้น หรือลงทุนตราสารหนี้อย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนได้ทุกๆปี  ในอัตราที่เหมาะสมไม่น้อยจนเกินไป เงินต้นก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณดังตัวอย่างครับ

      ถ้าเราอยากเกษียณและมีอิสระภาพทางการเงิน แนวทางการออมหุ้นดีๆ ที่เดิบโตต่อเนื่องอย่างมีวินัย  ต้องไม่วอกแวกว่าหุ้นจะขึ้นจะลง กำไรมายาที่เห็นในบางช่วงเวลาอาจลดลงบ้าง  พอร์ตติดลบบ้าง  เราต้องเข้าใจธรรมชาติของตลาดหุ้น เพราะตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวนเป็นเรื่องธรรมดา มีขึ้น มีลง เกือบตลอดเวลา  แต่การถือหุ้นดีๆ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจด้านต่างๆ  และจ่ายเงินปันผลทุกๆปี จ่ายเพิ่มขึ้นทุกๆปี และยังคงเติบโตได้ทุกๆปี   แต่ต้องเลือกกิจการที่มั่นคง  มีรายได้สมำเสมอ และเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทุกๆปี ผลดำเนินงานหรือรายได้ไม่ได้ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจมากนัก  ต้นทุนกิจการก็ไม่ผันผวนตามราคาตลาดโลก (น้ำมัน ปิโตรเคมี).... ราคาหุ้นก็จะเติบโตตามการเติบโตของกิจการได้อย่างแน่นอน ...เงินออมของเราก็สามารถติบโตได้ต่อเนื่องทุกๆปี และเติบโตแบบทบต้นได้อีกด้วย....

การรู้จักเลือกหุ้นที่สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องทกๆปี กำไรไม่สวิงขี้นลงมากในบางปี  กิจการควรมีกำไรเพิ่มขึ้นทุกๆปี จะเหมาะกับการออมหุ้นเพื่อการเกษียณและมีอิสสระภาพทางการเงินได้ไม่ยาก  เพียงแต่ต้องเชื่อมั่นว่าเลือกหุ้นถูกตัว และเหมาะสมในการลงทุนระยะยาว และต้องออมหุ้นต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ยิ่งทอดเวลายิ่งนาน เงินลงทุจะยิ่งเพิ่มทวีคูณได้แน่นอน ตัวอย่างหุ้นที่มองว่าเติบโตได้ต่อเนื่อง และแทบจะไม่มีคู่แข่ง รายได้สม่ำเสมอ และเพิ่มขึ้นทุกๆปี ..เช่น AOT CPALL เป็นต้น  (ไม่ได้แนะนำให้ซื้อตาม แค่เป็นตัวอย่างหุ้นที่เติบโตต่อเนื่องที่ผ่านมา) และที่สำคัญต้องพยายามหาความรู้เกียวกับหุ้น การออมหุ้นอย่างต่อเนือ่งครับ ถ้ามั่นใจว่าหุ้นที่เลือกเหมาะสมที่สุดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกกระจายลงทุนไปมากตัวจนเกินไป เพราะการกระจายมากไป อาจจะทำให้ผลตอบแทนที่ได้น้อยกว่ากานเน้นลงทุนหุ้นเด่นๆไม่กี่ตัว อีกอย่างก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินออมของแต่ละท่านจะมากน้อยแค่ไหนด้วย   แต่ก็เอาที่ลงทุนแล้วสบายใจแล้วกันครับ แต่ผมเน้น 2-3 ตัวเป็นหุ้นหลักที่ออมรายเดือนครับ
 
การลงทุน DCA ในแนวนี้ ไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงมากๆเหมือนการจับจังหวะซื้อ ๆขายๆ เป็นรอบๆ ...แต่ DCA เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนในอัตราที่สูงมากๆ หรือให้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว แบบหุ้นเก็งกำไร... แต่เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ให้ผลตอบแทนน้อยกว่า เหมาะกับคนที่มีเงินทุนน้อย เป็นเงินที่เหลือเก็บในแต่ละเดือน แต่อยากให้เงินออมทำงานแทนเรา ค่อยๆสร้างผลตอมบแทนเพิ่มขึ้นทุกๆปี ทวีเพิ่มขึ้นทั้งเงินออมที่ออมเพิ่มอย่างมีวินัยทุกๆเดือน ผลตอบแทนที่ได้จากหุ้นจะค่อยๆทบต้มเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งระยะเวลาการลงทุนยิ่งยาว ดอกเบี้ยทบต้นจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างน่าอัศจรรย์ครับ (มีตัวเลขตัวอย่างทำให้ดูการเพิ่มขึ้นของเงินออมที่ผมได้ในแต่ละปี จากผลตอบแทนรายปีเฉลี่ย... โดยสมมุติตัวเงินเพื่อให้ง่ายๆ แต่ตัวเลขจริงผมไม่มีนะครับ และอาจจะได้น้อยกว่าตัวอย่างก็ได้ครับ 

 หัวใจของการลงทุนแนว DCA ที่สำคัญต้องเข้าใจว่า ...เป้าหมายผลตอบแทนในการลงทุนของเราตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน?..การลงทุนแนว DCA คงจะให้ผลตอบแทนได้ไม่สูงมากมายนักในแต่ละปี  น่าจะให้ผลตอบแทนได้ประมาณ 8-9 % ต่อปีเป็นอย่างน้อย และอย่างมากไม่เกิน 20 % ต่อปี บวกกับความมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยทบต้น จะทำให้พอร์ตเติบโตเป็นทวีคูณขึ้นทุกๆปี อีกแรงหนึ่ง ยิ่งเราทยอยเอาเงินเติมเข้าพอร์ตเรื่อยๆ เดือนละเล็ก เดือนละน้อยยิ่งทำให้พอร์ตเติบโตขึ้นทุกๆปี ...การลงทุนทบต้นไปเรื่อยๆ  สิบปี  ยี่สิบปี ก็อาจจะมีอิสระถาพทางการเงินได้ครับ...สำคัญอย่าแขว อย่าท้อ อย่าโลภ ต้องอดทน หุ้นขึ้นก็ออม หุ้นลงก็ออม ให้มองการเกษียณในอนาคตก็พอ  อย่าไปสนใจว่า คนอื่นใครจะได้ผลตอบแทนต่อปีมากน้อยแค่ไหน เพราะความสามารถ ความรู้ต่างกัน หากเลือกการลงทุนแนว DCA ก็ต้องยึดมั่นในแนวทางนี้ไปเรื่อยๆอย่างเชื่อมั่นครับ

ช่วงที่ตลาดหุ้นหุ้นขึ้นมามาก บางคนก็กลัวว่า การ DCA หุ้นช่วงนี้แพงไปมั้ย? 

 1 จะไม่เหมาะสมกับการ DCA มั้ย?...
2 กลัว ซื้อแพง ได้หุ้นน้อย หยุด DCA ไปก่อนดีมั้ย ?
3 บางคนก็มีประยุกต์กร็าฟท์เอาใช้มาหาจังหวะเก็บหุ้น DCA ได้ราคาที่ถูกๆ

สำหรับความเห็นส่วนตัวของผม..ช่วงที่หุ้นตกลงมาเยอะๆ ผมกลับทยอยซื้อเพิ่มเรื่อยๆครับ ถือว่าเป็นโอกาสซื้อหุ้นถูกๆมากกว่าครับ 
.ผมคิดว่าแนว DCA ต้องสะสมต่อเนื่อง ไม่สนใจราคาหุ้นจะขึ้นมามากน้อยแค่ไหน? (หลักการ DCA มองอนาคตของหุ้นที่จะเติบโตในอนาคตมากกว่า หาจังหวะช่วงเวลาซื้อหุ้นถูก) คนที่เงินออมน้อย รอจังหวะเก็บหุ้นช่วงเหมาะๆ อาจจะเข้าออกผิดจังหวะ อาจเสียโอกาสให้เงินทำงาน  และหุ้นก็ไม่มีอะไรแน่นอน จะขึ้นก็ขึ้น จะลงก็ลง....สำหรับผมๆก็ DCA ทุกเดือน ไม่สนใจว่าหุ้นที่ DCA ราคาจะขึ้นมาเยอะแล้วยัง เพราะขึ้นมาเยอะ ราคาหุ้นในพอร์ตที่ได้ DCA ไว้ก็มีกำไรเพิ่ม และเป็นหุ้นจำนวนมากกว่าที่จะ DCA รายเดือน ถ้าหุ้นลง เราก็ได้จำนวนหุ้นเพิ่ม ถือไปอีกปีสองปีก็กำไรก็เพิ่มขึ้น  แค่รอให้หุ้นเติบโตไปตามพื้นฐานของกิจการเท่านั้น อย่าเสียความเชื่อมั่นและกำลังใจเมื่อหุ้นตก  แล้วเกิดความกลัวหุ้นตกต่อไปอีก ตัดสินรีบขายล้างพอร์ต หรือสต๊อปลอส  การอดทนค่อยๆออมเงิน ออมหุ้นอย่างมีวินัย อดทน และการออมที่สามารถหาผลตอบแทนได้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี เงินออมก็จะค่อยๆเพิ่มทวีขึ้น และหากสามารถออมเพิ่มได้ต่อเนื่องทุกๆเดือน ทุกๆปี ไม่ถอนเงินออกมาใช้ ดอกเบี้ยหรือเงินปันผลจะช่วยทบต้น เพิ่มทวีคูณเงินออมให้สูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ !!!! 


ยิ่งหากออมตั้งแต่อายุน้อยๆ จะสามารถมีอิสสระภาพทางการเงินเร็ว และง่ายยิ่งขึ้นครับ ออมก่อนรวยกว่า แ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่