ถ้าการวิ่งไล่ลุงเป็นกีฬา อย่างที่กลุ่มวิ่งไล่ลุงและบรรดาติ่งส้ม นักการเมืองส้มเน่าที่แถมาหน้าถลอก
ทำไมต้องส่งคนมาเชิญลุงไปวิ่ง ลุงไม่ใช่นักกีฬา ที่ควรเชิญไป เพราะจะมาเชิญคนที่ไล่มาวิ่งด้วย มันไม่ใช่
เอาการเมืองมายุ่งทำไม เป็นเด็กเลี้ยงแกะจนเคยตัว พูดอะไรเชื่อถือไม่ได้
นี่แหละถึงทำอะไรผิดๆไปหมด โทษการกระทำตัวเองไปให้พอ ไม่ต้องไปโทษคนอื่นเขาแกล้ง
เขาไม่ยุ่งด้วยยังจะไปตอแย...ไปกวนความสงบของคนอื่น ไม่รู้จักกาลเทศะ ว่าเวลาไหนควรทำอะไร
ประชาชนดูเอาไว้ค่ะ พวกแก้งค์นี้มีแต่พูดปด
คนที่ชอบพูดโกหกเป็นประจำ เมื่อถึงคราวที่พูดความจริงก็จะไม่มีใครเชื่อ ซึ่งมีความหมายตรงกับสุภาษิตไทยที่ว่า
"เด็กเลี้ยงแกะ" หมายถึงคนที่พูดโกหกจนเป็นนิสัย จนไม่มีใครเชื่อถือหรือให้ความสนใจกับคำพูดนั้น ๆ ซึ่งหากเด็ก ๆ อยากให้ตัวเองเป็นคนน่าเชื่อถือก็ควรพูดแต่เรื่องจริง ไม่พูดโกหก และไม่แต่งเรื่องที่ไม่ใช่ความจริงขึ้นมาเพื่อหลอกแกล้งผู้อื่น เพราะหากพูดโกหกเป็นประจำ เมื่อถึงคราวที่เราพูดความจริงหรือต้องการความช่วยเหลือ ก็จะไม่มีใครเชื่อเรา ดังเช่นเรื่องราวในนิทานอีสปเรื่องนี้ค่ะ
👽👽มาลาริน/กลุ่มวิ่งไล่ลุงบอกว่าเป็นกีฬา..แต่มาเชิญลุงตู่ไปวิ่ง เอาการเมืองมายุ่ง จะเอาอย่างไรแน่ล่ะพวกเด็กเลี้ยงแกะ
ทำไมต้องส่งคนมาเชิญลุงไปวิ่ง ลุงไม่ใช่นักกีฬา ที่ควรเชิญไป เพราะจะมาเชิญคนที่ไล่มาวิ่งด้วย มันไม่ใช่
เอาการเมืองมายุ่งทำไม เป็นเด็กเลี้ยงแกะจนเคยตัว พูดอะไรเชื่อถือไม่ได้
นี่แหละถึงทำอะไรผิดๆไปหมด โทษการกระทำตัวเองไปให้พอ ไม่ต้องไปโทษคนอื่นเขาแกล้ง
เขาไม่ยุ่งด้วยยังจะไปตอแย...ไปกวนความสงบของคนอื่น ไม่รู้จักกาลเทศะ ว่าเวลาไหนควรทำอะไร
ประชาชนดูเอาไว้ค่ะ พวกแก้งค์นี้มีแต่พูดปด
คนที่ชอบพูดโกหกเป็นประจำ เมื่อถึงคราวที่พูดความจริงก็จะไม่มีใครเชื่อ ซึ่งมีความหมายตรงกับสุภาษิตไทยที่ว่า "เด็กเลี้ยงแกะ" หมายถึงคนที่พูดโกหกจนเป็นนิสัย จนไม่มีใครเชื่อถือหรือให้ความสนใจกับคำพูดนั้น ๆ ซึ่งหากเด็ก ๆ อยากให้ตัวเองเป็นคนน่าเชื่อถือก็ควรพูดแต่เรื่องจริง ไม่พูดโกหก และไม่แต่งเรื่องที่ไม่ใช่ความจริงขึ้นมาเพื่อหลอกแกล้งผู้อื่น เพราะหากพูดโกหกเป็นประจำ เมื่อถึงคราวที่เราพูดความจริงหรือต้องการความช่วยเหลือ ก็จะไม่มีใครเชื่อเรา ดังเช่นเรื่องราวในนิทานอีสปเรื่องนี้ค่ะ