สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆ ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 61 เดือนธันวาคน ดองไว้1ปีกว่าๆ พึ่งมานึกเขียน
ในทริปนี้จะพาไป จิบเบียร์ตลอดทริป พายคายัค เล่น Zipline เดินเที่ยวเมืองวังเวียง  4 วัน 3 คืน ด้วยงบคนละ 6000 บาท 
แบบดื่มเบียร์แทนน้ำเปล่า ป่ะเราไปเป็น ท้าวถนัดดื่ม ที่ สปป.ลาวกันเถอะ แรกเริ่มเรามีชาวคณะร่วม ทริป 10 คน พอใกล้วันไปก็โดนเทจ้า เหลือ 6 คน 
ไม่เป็นไร มีเท่าไหร่ก็ไปเท่านั้น วันแรกเรานัดกันที่สบานบิน ดอนเมือง เพื่อไปยัง สนบ.อุดรธานี โดยทริปนี้เรา ได้จอง ตั๋วโปรหางแดงกันได้ ในราคาถูกกว่ารถทัวร์เสียอีก ได้มาในราคา ไป-กลับ คนละ 840 บาท ถูกจริงๆอ่าดิ๊ 5555555 ไปต่อกันเถอะ

ขอตัดภาพมาที่ สนบ.อุดรธานีเลยแล้วกันนะครับ จริงๆคือลืมถ่าย 555555

พอลงรถเสร็จแล้ว เดินออกมานิดนึง ก็จะเจอรถที่จะพาเราไปยัง ด่านพรมแดนจังหวัดหนองคาย ชื่อ บริษัท ลิมูซีน  เซอร์วิส ราคา มาตราฐานต่อรองไม่ได้นะจ๊ะ อยู่ที่ 200 บาท ต่อคน หน้าตารถก็คือรถตู้ที่อยู่ ข้างหลังป้ายนั่นแหละครับ ไม่ใช่รถ ลิมูซีนอะไรหรอกครับ 5555 ชื่อเขาเฉยๆ ป่ะขึ้นรถเถอะ


ถึงแล้วด่านพรมแดนหนองคาย

แวะเติมพลังกันหน้าด่านพรมแดนก่อน 

หน้าตาผู้ร่วมชะตากรรม งาน Hang Over  ทริปนี้ มาถึงก็ให้เดินไปขึ้นรถ ข้ามแดนไปยังฝั่งสปป.ลาวกันเลย

หน้าตารถที่พาเราข้ามแดน ก็จะประมาณนี้ครับ ราคา 15 บาท  


ข้านสะพานมิตรภาพแล้วว 

บรรยากาศ ภายในรถครับ 


เข้าแสตมป์ พาสปอทเดินตามๆกันไป ขึ้นตอนนี้เค้าไม่ให้ถ่ายรูปมานะครับ พอออกจากตม. มาก็มาแลกเงินให้เรียบร้อยเปลี่ยนเงินหลักพันเป็นหลักล้านนับกันสนุกสนาน 

ค่าเงินลาว มีสูตรคิดหลายอย่าง 1 บาท ประมาณ 250 กีบ หรือ 10000 กีบ เท่ากับ 40 บาท  แลกเงินอะไรเสร็จก็มาขึ้นรถที่มีป้ายเขียนว่าไป ตลาดเช้า 

บรรยากาศภายในรถเป็นรถปรับอากาศ เปิดเพลงอิสานบ้านเรา ค่ารถอยู่ที่ 8000 กีบ ก็ประมาณ 20-30 บาท 


ถึงแล้วตลาดเช้าเราก็พากัน ซื้อซิมเน็ตที่นี่ได้เลย ได้ราคาประมาณ 150 บาท ใช้ได้ 5 วัน ทางร้านจะจัดแจงใส่ซิมให้เสร็จ
ราคานี่ต่อรองกันได้เลยนะต่อรองง่ายที่นี่ฟังภาษไทยได้ทุกคำพูด 5555 ที่เค้าดูทีวีดิจิตอลช่องบ้านเรานะ ไม่ต้องห่วงเรื่องสื่อสารเลยครับ 


ที่นี่ก็จะมีรถ สามล้อสกายแล็ป มาถามตลอดว่าจะไปไหน ซึ่งใครมีความสามารถ ในการต่อราคาก็จัดเลยครับ ซึ่งเรามีจุดหมายคือ ขนส่งสายเหนือ
พวกเราได้มาในราคาเป็นเงินไทย ประมาณ 240 บาท หาร 6คน ก็ตกคนละแค่ 40 บาท ลุยดิรออะไร คุณลุงก็พาขับวนชมเมืองเล่นนิดหน่อย 


นึกว่า แฟมิลี่ มาร์ท ป่าวร้านอะไหล่ยนต์ 

นั่งมาประมาณ 20 นาทีก็มาถึงแล้ววว ขนส่งสายเหนือ ใครจะต่อรถไป วังเวียง หลวงพระบาง จีน ต้องมาที่นี่นะ มันมีรถไปยันประเทศจีนเลย

แวะเติมสเบียงอะไรก็มา ซื้อตั๋วรถตู้เพื่อที่จะพาเราไป วังเวียงกัน ในราคา 50000 กีบ หรือ 200 บาท หน้าตารถจะประมาณนี้ แต่เราขึ้นอีกคันนะ 

นี่ๆคันนี้ รถของเรา 

ระหว่างรอคนขับจัดแจงสัมภาระ และที่นั่ง พวกเราได้นั่งหลังสุด  พึ่งรู้ว่าหลังรถตู้กับทางลูกรังนี่มัน แย่พอตัวเลย 55555

และแล้วระหว่างเรารอเวลารถออก ก็มีพระเอก สุดหล่อโผล่มา ทุกคนร้องหูยยยย แล้วมองไปทางเดียวกัน ...............

ใครว่ะ  God Father ที่ไหนมา 


ให้ดูว่าทุกคนตื่นเต้น จริงๆ ขนาดหลวงพี่ ยังลงจากรถมาถ่ายรูปคู่ 

เมื่อเวลาได้ประมาณ 16.30 น.รถก็ออกเดินทางพาเราบุกตะลุยทางลูกรัง ไปยัง วังเวียงดินแดนสวยงาม อีก 160 กิโลเมตร ระหว่างทางมืดมากไม่ได้ถ่ายภาพมาเลยครับ และแล้ว.....ระหว่างทาง ก็มีเสียงประหลาด ครื้ดดดดด หันไปดู อ่อ ล้ออะไหล่รถที่เรานั่งหลุดไปแล้ว มีฮากว่านี้อีกไหม 555555555 ลุงโชว์เฟอร์ ก็เดินมาขำ กลิ้งล้ออะไหล่มาใส่คืน แบบใจเย็น  หมดเวลาไปร่วมครึ่ง ชม. ก็เดินทางต่อ  มีแวะจุดพักรถตาม ปั้มอยู่ 2 จุด มีเบียร์ขายให้เติมพลัง แต่อย่ากินบนรถเลนเชื่อเถอะ ดูชิลจริง แต่เวลาปวดฉี่มาเขาไม่จอดให้นะ ก็นั่งอั้นฉี่กันไป ใช้เวลาไปกว่า 4 ชม.กว่าก็มาถึงแล้ว 20.40 น.
  
รีบเปิด google map  แล้วเดินเท้าไปหาที่พักที่เราทำการจองไว้ผ่านทาง Agoda มีนามว่า ChillLao Hostel ซึ่งได้มาในราคา 380 รวมภาษีแล้ว นอนได้ 2คน พร้อมอาหารเช้า เรานอนที่ 3คืนติดเลย เพราะเรามันพวกกิจกรรมเยอะไม่ค่อยได้อยู่ห้องหรอก หน้าตาที่พักจะประมาณนี้ครับ 

มีสระว่ายน้ำ โต๊ะพูล โต๊ะฟุตบอลโลก เล่นฟรี ครับ 

 
หลังจากเช็คอิน เก็บของเสร็จเราก็เริ่มเดินตัวเบาไปหาของกินกัน ตลาดคนเดิน วังเวียงกันครับ ติ่มซำร้านนี้อร่อยมากครับ อยู่ในซอย Sakura Bar

ถาพถ่ายกลางคืนนี่มันช่าง เบลอๆเหมือนสติพวกเราจริงๆ ขอภัยด้วยครับ 

เดินผ่านตู้นี้ แหม่ รออะไร .............
  
และแล้วววก็ไหลรั่ว มาร้านมหาชนแห่งเมืองวังเวียงจนได้ Sakura Bar ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงกันเถอะ ที่นี่เหมือน ศูนย์รวมทุกชนชาติมาปาร์ตี้กันแบบ สุดเหวี่ยง
ร้านที่ดังที่สุด แต่ราคาเบียร์ขวดใหญ่ อยู่ที่ 20000 กีบ หรือ 80 บาท กินร้านลาบบ้านเราบางร้านยังเกินเลยครับ ภาพแทบไม่ได้ถ่ายมาเลย เพราะ จขกท. เห็นปาร์ตี้ไม่ได้เลยครับเลยยืมๆ ชาวคณะในทริปภาพกันมา หลังจากนี้ภาพก็ตัดไปตอนเช้าอีกวัน ไม่รู้ไปเลิกกันตอนไหน

 อาหารเช้าของทางโฮสเทล จะมีให้เลือกมาเสริมได้อีก คนละ 1 เมนู ประมาณ ไข่ดาว2ฟอง / ไข่เจียว ออมเล็ท ประมาณนั้นครับ 

กินเสร็จเราก็รีบเช่ารถมอไซค์ ของทางที่พักได้มาในราคา 250 บาททั้งวันครับ น้ำมันแล้วแต่ดวงครับ จะจั่วได้คันไหน ถ้าไม่มีก็ไปเติมที่ปั้มได้อยู่ไม่ไกลครับ แนะนำให้เติมให้เต็มไปเลย เผื่อหลงทางจะหาปั้มยากครับ ได้รถแล้วก็รีบปิดไปยังทางขึ้น  ผาเงิน กันโดยด่วนเพราะกลัวจะร้อน 

พอเดินมาจอทางขึ้นก็สร่างเบาๆ ไม่ว่ามันจะชัน เมาก็เมาค้าง เดินไปแบบโซเซ กันไป 

ยิ่งเดินก็รู้สึกว่า..............เมื่อคืนกรูไม่น่าจัดหนักแต่วันแรกเลย 

เดินไปบ่นไป

ผ่านไปเกือบชม.และแล้วเราก็มาถึงง..... จุดชมวิวผาเงิน หายเหนื่อยเลยครับ แต่ยังเมาค้างอยู่ไม่เป็น ซึมซับบรรยากาศก่อง ค่อยลงไปถอน

หายใจสะดวกมากๆๆ อากาศดีสุดๆ 

มีศาลาน้อยๆไว้ให้นั่งพักชมวิว ซุ้มร้านค้าเล็กๆ ข้างบนด้วยนะครับงงเลย ขนขึ้นมาขายได้ไงว่ะ เด่วมีคำตอบให้ครับ ส่วนมากเป็นน้ำดื่มกับเกลือแร่ครับ 

พอขึ้นมานี่ไม่อยากลงเลย 

มีกาแฟซักถ้วยคงดีน่าดู 



เพลินเพลินได้ประมาณ 40 นาที ก็ป่ะแดดไล่เรามาแล้วลงกันเถอะ ระหว่างทางลงก็มาเจอะพี่คนนี้ครับ  นี่คือลูกหาบที่ รับจ้างขนของขึ้นไปขายครับ 
แหม่ ลุงทร้านค้า ตอนไปซื้อน้ำแก แกบอกแกขนขึ้นมาเอง เราก็ว่าลุงแข็งแรงดีจัง ความจริงมาเฉลยให้แล้ว 55555555 

พอลงมาถึงด้านล่างก็แวะกินกาแฟกันโน่นนี่นั่น ที่นี่มี อเมซอล ด้วยนะ แต่ไม่ได้ถ่ายมาเลย ใครกังวลรสชาดกาแฟท้องถิ่นก็ไปจัดอเมซอลเอาง่ายดี 
ส่วนจขกท. ดื่มเบียร์ต่อตามปณิธานที่ตั่งใจไว้ 5555 เราแว๊นแวะมากินข้าวกันที่ ริมแม่น้ำซอง เติมพลังงานก่อนจะไปเล่นน้ำ บลูลากูล 3 กันวันนี้
 
อิ่มแล้วก็แว๊น กันต่อไปเลย  หน้าตายานพานะเราก็ มอไซค์บ้านๆ ทั่วไปนี่แหละครับ ขับง่ายทั้ง ชายหญิง 

วิวระหว่างทางดีมากกก

ร้านขายยา

คลองที่ใสแค่ไหนก็ดูเอาครับ 

ขับต่อไปเรื่อยๆ