ฝากติดตามพวกเราด้วยนะครับ
⁃ Facebook :
https://www.facebook.com/lifewithmuay/
- Instragram : @Lifewithmuay
⁃ Youtube :
https://www.youtube.com/lifewithmuaychannel
- Website :
https://lifewithmuay.com/
⁃ Hashtag : #ชีวิตกับหมวย #Lifewithmuay
ค่าใช้จ่าย
1. รถบัสกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 1,800 บาท/2คน
2. ค่าผ่านด่านลาว 110 บาท/2คน
3. ค่ารถตุ๊กๆ 250 บาท (ราคานี้คือเหมือนโดนหลอก)
4. ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ 1,200 บาท/4วัน
5. ค่าsimโทรศัพท์ + เติมเงิน 60,000 กีบ/2คน
6. ค่าเติมน้ำมัน 22,000 กีบ
7. ค่าที่พัก 300,000 กีบ/3คืน
8. ค่าเติมน้ำมัน(รอบ2) 20,000 กีบ
9. ค่าZipline + Tubing+kayak 430,000 กีบ/2คน
10. ค่าเข้า Blue Lagoon 20,000 กีบ/2คน
11. ค่าเข้าสะพานถ้ำจัง 20,000 กีบ/2คน
12. ค่าเติมน้ำมัน(รอบ3) 16,000 กีบ
13. ตั๋วรถบัสเวียงจันทน์-อุดร 48,000 กีบ/2คน
14. ค่าจอดรถ ประตูชัย 3,000 กีบ/คัน
15. ค่าขึ้นประตูชัย 6,000 กีบ/2คน
16. ค่าจอดรถวัดศรีเมือง 3,000 กีบ/คัน
17. ค่าแท็กซี่ 20,000 กีบ
18. ค่าผ่านด่านลาว 22,000 กีบ/2คน
19. ค่ารถตุ๊กๆ 120 บาท/คัน
20. เครื่องบิน แล้วแต่จะกดได้
รวมเป็นเงินไทย 3,480 บาท/2คน เงินกีบ 990,000 กีบ/2คน (4,455บาท)
รวมเป็นเงิน 7,935 บาท หรือคนละ 3,968 บาท (ไม่รวมกินนะจ๊ะ)
ตลอดทั้งการเดินทางของทริปนี้เราได้รับการสนับสนุนจาก Nikon Thailand ที่ให้ Nikon1 J5 มาถ่ายภาพตลอดทั้งทริปของเราครับ และก็ยังมีเลนส์อีก 3 ตัว คือ 1Nikkor VR 10-30 VR f/3.5-5.5 PD-ZOOM ซึ่งเป็นเลนส์ Kit ที่มีคู่กับกล้อง, เลนส์ซูม 1Nikkor VR 30-110mm f/3.8-5.6 และเลนส์ที่ใช้บ่อยสุดในทริปก็คือเลนส์ wide 1Nikkor VR 6.7-13mm f/3.5-5.6 ครับ อธิบายคร่าวๆพร้อมแล้วลุยกัน
Day1
ออกเดินทางกัน ...
จริงๆการเดินทางไปวังเวียงนั้นมีหลายทาง เราจะแจกแจงให้ดังนี้
1. รถไฟไปอุดร > รถบัสจากอุดรไปลงวังเวียง
2. รถบัสไปอุดร > รถบัสจากอุดรไปวังเวียง
3. รถบัสจากกรุงเทพไปเวียงจันทน์ > รถจากเวียงจันทน์ไปวังเวียง
4. เครื่องบินไปลงอุดร > รถบัสจากอุดรไปเวียงจันทน์
5. เครื่องบินไปลงเวียงจันทน์ > ต่อรถจากเวียงจันทน์ไปวังเวียง
6. รถบัสข้าวสาร-วังเวียง
7. และอื่นๆ ไม่ว่าจะลงหนองคาย หรือลงหลวงพระบาง
โดยเราจะแจกจ่ายค่ารถออกที่เราศึกษามาเป็นดังนี้ ไปเลือกกันเองนะจ๊ะ
1.รถบขส.กรุงเทพ-อุดร
VIP 650 บาท, ป.1 434บาท ออกจากกรุงเทพราวๆ 2-4 ทุ่ม ถึงอุดรเช้าตรู่
2. เครื่องบินกรุงเทพ-อุดร อยู่ที่ 600-2,500 บาท มีเวลาลงหลายรอบ ราคาขึ้นอยู่กับสกิลในการกด..
3. รถไฟกรุงเทพ-อุดร ราคาตั้งแต่ 95 บาทถึง 1,300+ ซึ่งจะเป็นเตียงนอนหรือพัดลม ก็แล้วแต่เลือกตามสะดวก
4. รถบัสอุดร-วังเวียง 320 บาท รถออก 8.30น. ที่สถานีขนส่งอุดร
5. รถ บขส. กรุงเทพ-เวียงจันทน์ 900บาท ออก 21.00-7.30น. โดยประมาณ
6. เครื่องบินกรุงเทพ-เวียงจันทน์ อยู่ที่ราวๆ 2,000-3,000 บาทต่อคนต่อเที่ยว
7. รถบัสขึ้นที่ข้าวสาร ตรงยาวถึงวังเวียง ราคา 1,100 บาท เวลาเดินทาง 19.00-14.00น.
8. รถเวียงจันทน์-วังเวียง 40,000-70,000กีบ (คิดค่าเงินไทยด้วยการคูณ .0045)
มีหลายทางให้เลือก ซึ่ง.. ทางที่เราเลือกก็คืออออออออออออออออ....!!!!!
นั่งรถ บขส. ไปลงเวียงจันทน์-แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์ไปวังเวียง
ใช่! ถูกแล้ว เราจะแว๊นไปวังเวียง ท่ามกลางอากาศเย็น(ที่คิดเอาเอง)ของหน้าหนาวเช่นนี้
เริ่มต้นที่ขนส่งหมอชิต2 เรามาจองรถไปเวียงจันทน์กัน ค่ารถอยู่ที่คนละ 900 บาทถ้วน!
** จงจำไว้ว่าการออกนอกประเทศทุกครั้งต้องใช้ Passport ดังนั้นขณะจองตั๋วก็ต้องใช้ Passport ด้วย อย่าลืมเอาไปหละ!
จริงๆอ่านมาเค้าบอกว่า การจองตั๋วรถไปเวียงจันทน์จากกรุงเทพสามารถจองก่อนได้ ในวันที่เป็นรถของคนไทยบริการ(รถจะสลับกันวิ่งระหว่ารถของคนไทยและของคนลาว) ซึ่งเราจะรู้ได้ไงนั้น ก็ต้องไปถามเอาตรงช่องขายตั๋วเลย ถ้าเราบังเอิญจะเดินทางตรงกับวันที่รถคนลาวบริการ เราต้องจองวันต่อวันนะจ๊ะ
คุณพี่คนขายตั๋วย้ำนักย้ำหนาว่าออกตรงเวลาเป๊ะ เราเลยมารอบนรถ.. และแล้วก็ออกช้าไป 15 นาที..
รถคันนี้จะแวะให้ทานข้าวและเข้าห้องน้ำช่วงเที่ยงคืนที่นครราชสีมา และในตั๋วของเราจะมีคูปองติดมาด้วย.. เอาไปแลกข้าวได้ เย้!
รสชาติก็ เฉยๆ..
จากนั้นจึงนอนหลับยาวๆ เปิดวาร์ปมาตอนเช้าที่ด่านไทย-ลาว ชิ้ง!
Day2
ณ. ด่านลาว ทางพี่คนขับให้เราลงไปผ่านตม. แล้วพี่เค้าจะขับรถไปรอเราด้านหน้า การเดินทางจะเร็วจะช้าทั้งหมด ขึ้นอยู่ที่ตรงนี้แหละ (เพราะบางคนติดอยู่ที่ด่านนานเหมือนกัน)
เราเป็นคนไทย เราจะไม่เสียค่าออกนอกประเทศ แต่เราจะมาเสียค่าเข้าประเทศที่ลาว
ค่าเข้าประเทศคนละ 55 บาท (สำหรับในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด เวลา 06.00-08.00,16.00-22.00 จะเสียค่าล่วงเวลาเพิ่มคนละ 5 บาท)
จากนั้นรถก็จะมาปล่อยเราลงที่แถวๆตลาดเช้า ซึ่งพอตอนลงนั้นนนนนน.. ก็จะมีบรรดาตุ๊กๆเข้ามารุมทึ้งเรา.. เราเลยทำเป็นไปเดินหาข้าวกิน ฮ่าๆๆๆ
เพราะเราตั้งใจจะไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์ต่อเพื่อจะไปยังวังเวียง เราจึงหวังว่าจะได้รถในราคาถูก เดินเลือกไปเรื่อยๆ สุดท้ายเห็นว่ามันช้ามากแล้ว จึงได้เลือกไปเจ้าหนึ่ง ราคา 250 บาท ให้พาไปหาร้านเช่ารถ.. ซึ่งมารู้ทีหลังว่า แพงมากจ้า!!!
เรารีบแลกเงิน และได้มาพบร้านเช่ารถร้านนี้ จึงตกลงราคากับคนขายเป็นเงินไทยวันละ 300 บาท ถ้าเป็นเงินกีบจะอยู่ที่ราคา 70,000 กีบ ซึ่งพอคำนวณดูแล้วราคาไทยจะถูกกว่านิดหน่อย เราจึงตัดสินใจเช่า 4 วัน
จากนั้นจึงออกเดินทางไปวังเวียง! แต่!! กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จึงตัดสินใจกินข้าวกันที่ร้านนี้ โดยสั่งเฝอข้าวปุ้น ปอเปี๊ยะสด และลูกชิ้นทอด
-เฝอข้าวปุ้น ลักษณะจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นขนมจีน วิธีปรุงคือบีบมะนาว ใส่พริกปรุงให้เผ็ดใส่ผักเคียงต่างๆ
-ปอเปี๊ยะสด แป้งจะคล้ายๆกับแป้งแหนมเนือง เค็มๆนิดนึง ไส้จะเป็นผัก หมู ไข่และหนังหมู กินคู่กับน้ำจิ้มถั่วลิสง
-ลูกชิ้นทอดคือ.. ลูกชิ้นทอด
มื้อนี้เสียไปร่วม 48,000 กีบ แหม่ะ! ล่ำซำจริงๆ กินข้าวมื้อเป็นหมื่นๆ
หลังจากนั้นจึงส่งหมวยไปเป็นทูตสัมพันธไมตรีหาซื้อซิม
ได้ซิมมาเล่นเน็ตได้ 2 GB ราคาต่อชิ้น 30,000 กีบ(ค่าซิม 10,000 + ค่าเน็ต 20,000)
มีเน็ตไว้เปิด Google Map แล้ว พร้อมออกเดินทางไปพบกับความเย็น ลมพัดตีหน้า บรรยากาศชิวๆ
ทริปนี้ เซลฟี่กันสนุกสนาน เพราะเจ้ากล้อง Nikon1 J5 มีหน้าจอที่พับขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ได้แบบสะดวกสุดๆ ก่อนออกเดินทาง Road Trip ก็แชะกันก่อน 1 ภาพ เอ้ายิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมม
แอ๊ะ! เดี๋วก่อน ลืมเติมน้ำมัน เราเติมไปที่ 22,000 กีบ น้ำมันชื่อ แอ็ดซั่ง น่าจะคล้ายๆเบนซินบ้านเราแหละมั้ง
ม่ะ เราพร้อมจะลุยกันมานานแล้ว ฮ่าๆ โย่ว!!
ออกเดินทางคือ.. ถนนเป็นหลุมช่วงๆแรกๆ ทำเอาเมื่อยตูด แต่พอพ้นเมืองไปได้สักพัก.. โหยยย ร้อน! ฮ่าๆๆๆๆ แต่วิวข้างๆคือ สวยดี แอบแห้งแล้งไปนิด แต่เราว่าสวยดี
คุณหมวยเจอร้านผลไม้ข้างทาง ก็ลงไปซื้อ ราคา 8,000 กีบ
เดินทางกันต่อ ก็ขับไปเรื่อยๆ
แวะพักบ้างระหว่างทางเพราะปวดตูด
แล้วขับต่อเรื่อยๆ
จนมาเจอกับ สะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง เป็นสะพานคู่ ซึ่งด้านนึงเป็นปูน ส่วนอีกด้านนึงเป็นสะพานไม้ที่เล็กกว่า พร้อมกับป้ายที่ว่า “ห้ามรถหนักผ่าน”
หมวยเห็นสะพานสวยดี น้ำใส่สีสวย หมวยก็เลยชวนเดิน..
เดิน..
แล้วก็เดิน.. เพื่อไปถ่ายรูปด้านล่างสะพาน
ซึ่งพอลงมาถึง ก็จะเป็นแบบนี้..
อ่ะ ถ่ายมั่ง
อ่ะถ่ายคู่ดีกว่า รอบนี้มีขาตั้งกล้อง..
ถ่ายจนพอใจก็กลับมาแว้นต่อ
ขาไปวังเวียง เราค่อยๆขับกันไปเรื่อยๆ เพราะด้วยชินทาง แถมถ้าอยากลงตรงไหนก็ลงได้ อยากแวะตรงไหนก็แวะได้
ขับมาสักพัก เราเห็นเนินดินลูกนึง เราก็แวะเข้าไป..
ถ่ายรูป..
แล้วก็พักดูวิวสักพัก
สักพักก็มีพระที่อยู่แถวนั้นท่านมาสูบบุหรี่มองวิว..
พักกันพอหายเหนื่อยก็ไปต่อ
สักช่วง30กิโลก่อนถึงวังเวียง จะมีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่ข้างทาง
พอดีกับช่วงที่ว่าเราไปถึงก็ตอนเย็นแล้ว แสงอาทิตย์กระทบกับน้ำสวยมากเราจึงจอดพักกันแปปนึง..
พวกเราพยายามถ่ายภาพ เพราะอยากให้ทุกคนได้เห็นแบบที่เราเห็นที่สุดเท่าที่พวกเราทำได้ครับ
มันสวยมากจริงๆ
ขับไปสักพักวังเวียงก็ใกล้เข้ามา
ช่วงนี้ต้องคอยดู Google map กันดีๆ เพราะทางเข้าจะเห็นยากหน่อย
เดียวมาเขียนต่อ รอแปบน้าาาา
[SR] [ชีวิตกับหมวย] 158 km เวียงจันทน์-วังเวียง แวํนมอไซค์ไป ดูซิ จะเจออะไรระหว่างทาง!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฝากติดตามพวกเราด้วยนะครับ
⁃ Facebook :https://www.facebook.com/lifewithmuay/
- Instragram : @Lifewithmuay
⁃ Youtube : https://www.youtube.com/lifewithmuaychannel
- Website : https://lifewithmuay.com/
⁃ Hashtag : #ชีวิตกับหมวย #Lifewithmuay
ค่าใช้จ่าย
1. รถบัสกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 1,800 บาท/2คน
2. ค่าผ่านด่านลาว 110 บาท/2คน
3. ค่ารถตุ๊กๆ 250 บาท (ราคานี้คือเหมือนโดนหลอก)
4. ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ 1,200 บาท/4วัน
5. ค่าsimโทรศัพท์ + เติมเงิน 60,000 กีบ/2คน
6. ค่าเติมน้ำมัน 22,000 กีบ
7. ค่าที่พัก 300,000 กีบ/3คืน
8. ค่าเติมน้ำมัน(รอบ2) 20,000 กีบ
9. ค่าZipline + Tubing+kayak 430,000 กีบ/2คน
10. ค่าเข้า Blue Lagoon 20,000 กีบ/2คน
11. ค่าเข้าสะพานถ้ำจัง 20,000 กีบ/2คน
12. ค่าเติมน้ำมัน(รอบ3) 16,000 กีบ
13. ตั๋วรถบัสเวียงจันทน์-อุดร 48,000 กีบ/2คน
14. ค่าจอดรถ ประตูชัย 3,000 กีบ/คัน
15. ค่าขึ้นประตูชัย 6,000 กีบ/2คน
16. ค่าจอดรถวัดศรีเมือง 3,000 กีบ/คัน
17. ค่าแท็กซี่ 20,000 กีบ
18. ค่าผ่านด่านลาว 22,000 กีบ/2คน
19. ค่ารถตุ๊กๆ 120 บาท/คัน
20. เครื่องบิน แล้วแต่จะกดได้
รวมเป็นเงินไทย 3,480 บาท/2คน เงินกีบ 990,000 กีบ/2คน (4,455บาท)
รวมเป็นเงิน 7,935 บาท หรือคนละ 3,968 บาท (ไม่รวมกินนะจ๊ะ)
ตลอดทั้งการเดินทางของทริปนี้เราได้รับการสนับสนุนจาก Nikon Thailand ที่ให้ Nikon1 J5 มาถ่ายภาพตลอดทั้งทริปของเราครับ และก็ยังมีเลนส์อีก 3 ตัว คือ 1Nikkor VR 10-30 VR f/3.5-5.5 PD-ZOOM ซึ่งเป็นเลนส์ Kit ที่มีคู่กับกล้อง, เลนส์ซูม 1Nikkor VR 30-110mm f/3.8-5.6 และเลนส์ที่ใช้บ่อยสุดในทริปก็คือเลนส์ wide 1Nikkor VR 6.7-13mm f/3.5-5.6 ครับ อธิบายคร่าวๆพร้อมแล้วลุยกัน
Day1
ออกเดินทางกัน ...
จริงๆการเดินทางไปวังเวียงนั้นมีหลายทาง เราจะแจกแจงให้ดังนี้
1. รถไฟไปอุดร > รถบัสจากอุดรไปลงวังเวียง
2. รถบัสไปอุดร > รถบัสจากอุดรไปวังเวียง
3. รถบัสจากกรุงเทพไปเวียงจันทน์ > รถจากเวียงจันทน์ไปวังเวียง
4. เครื่องบินไปลงอุดร > รถบัสจากอุดรไปเวียงจันทน์
5. เครื่องบินไปลงเวียงจันทน์ > ต่อรถจากเวียงจันทน์ไปวังเวียง
6. รถบัสข้าวสาร-วังเวียง
7. และอื่นๆ ไม่ว่าจะลงหนองคาย หรือลงหลวงพระบาง
โดยเราจะแจกจ่ายค่ารถออกที่เราศึกษามาเป็นดังนี้ ไปเลือกกันเองนะจ๊ะ
1.รถบขส.กรุงเทพ-อุดร
VIP 650 บาท, ป.1 434บาท ออกจากกรุงเทพราวๆ 2-4 ทุ่ม ถึงอุดรเช้าตรู่
2. เครื่องบินกรุงเทพ-อุดร อยู่ที่ 600-2,500 บาท มีเวลาลงหลายรอบ ราคาขึ้นอยู่กับสกิลในการกด..
3. รถไฟกรุงเทพ-อุดร ราคาตั้งแต่ 95 บาทถึง 1,300+ ซึ่งจะเป็นเตียงนอนหรือพัดลม ก็แล้วแต่เลือกตามสะดวก
4. รถบัสอุดร-วังเวียง 320 บาท รถออก 8.30น. ที่สถานีขนส่งอุดร
5. รถ บขส. กรุงเทพ-เวียงจันทน์ 900บาท ออก 21.00-7.30น. โดยประมาณ
6. เครื่องบินกรุงเทพ-เวียงจันทน์ อยู่ที่ราวๆ 2,000-3,000 บาทต่อคนต่อเที่ยว
7. รถบัสขึ้นที่ข้าวสาร ตรงยาวถึงวังเวียง ราคา 1,100 บาท เวลาเดินทาง 19.00-14.00น.
8. รถเวียงจันทน์-วังเวียง 40,000-70,000กีบ (คิดค่าเงินไทยด้วยการคูณ .0045)
มีหลายทางให้เลือก ซึ่ง.. ทางที่เราเลือกก็คืออออออออออออออออ....!!!!!
นั่งรถ บขส. ไปลงเวียงจันทน์-แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์ไปวังเวียง
ใช่! ถูกแล้ว เราจะแว๊นไปวังเวียง ท่ามกลางอากาศเย็น(ที่คิดเอาเอง)ของหน้าหนาวเช่นนี้
เริ่มต้นที่ขนส่งหมอชิต2 เรามาจองรถไปเวียงจันทน์กัน ค่ารถอยู่ที่คนละ 900 บาทถ้วน!
** จงจำไว้ว่าการออกนอกประเทศทุกครั้งต้องใช้ Passport ดังนั้นขณะจองตั๋วก็ต้องใช้ Passport ด้วย อย่าลืมเอาไปหละ!
จริงๆอ่านมาเค้าบอกว่า การจองตั๋วรถไปเวียงจันทน์จากกรุงเทพสามารถจองก่อนได้ ในวันที่เป็นรถของคนไทยบริการ(รถจะสลับกันวิ่งระหว่ารถของคนไทยและของคนลาว) ซึ่งเราจะรู้ได้ไงนั้น ก็ต้องไปถามเอาตรงช่องขายตั๋วเลย ถ้าเราบังเอิญจะเดินทางตรงกับวันที่รถคนลาวบริการ เราต้องจองวันต่อวันนะจ๊ะ
คุณพี่คนขายตั๋วย้ำนักย้ำหนาว่าออกตรงเวลาเป๊ะ เราเลยมารอบนรถ.. และแล้วก็ออกช้าไป 15 นาที..
รถคันนี้จะแวะให้ทานข้าวและเข้าห้องน้ำช่วงเที่ยงคืนที่นครราชสีมา และในตั๋วของเราจะมีคูปองติดมาด้วย.. เอาไปแลกข้าวได้ เย้!
รสชาติก็ เฉยๆ..
จากนั้นจึงนอนหลับยาวๆ เปิดวาร์ปมาตอนเช้าที่ด่านไทย-ลาว ชิ้ง!
Day2
ณ. ด่านลาว ทางพี่คนขับให้เราลงไปผ่านตม. แล้วพี่เค้าจะขับรถไปรอเราด้านหน้า การเดินทางจะเร็วจะช้าทั้งหมด ขึ้นอยู่ที่ตรงนี้แหละ (เพราะบางคนติดอยู่ที่ด่านนานเหมือนกัน)
เราเป็นคนไทย เราจะไม่เสียค่าออกนอกประเทศ แต่เราจะมาเสียค่าเข้าประเทศที่ลาว
ค่าเข้าประเทศคนละ 55 บาท (สำหรับในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด เวลา 06.00-08.00,16.00-22.00 จะเสียค่าล่วงเวลาเพิ่มคนละ 5 บาท)
จากนั้นรถก็จะมาปล่อยเราลงที่แถวๆตลาดเช้า ซึ่งพอตอนลงนั้นนนนนน.. ก็จะมีบรรดาตุ๊กๆเข้ามารุมทึ้งเรา.. เราเลยทำเป็นไปเดินหาข้าวกิน ฮ่าๆๆๆ
เพราะเราตั้งใจจะไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์ต่อเพื่อจะไปยังวังเวียง เราจึงหวังว่าจะได้รถในราคาถูก เดินเลือกไปเรื่อยๆ สุดท้ายเห็นว่ามันช้ามากแล้ว จึงได้เลือกไปเจ้าหนึ่ง ราคา 250 บาท ให้พาไปหาร้านเช่ารถ.. ซึ่งมารู้ทีหลังว่า แพงมากจ้า!!!
เรารีบแลกเงิน และได้มาพบร้านเช่ารถร้านนี้ จึงตกลงราคากับคนขายเป็นเงินไทยวันละ 300 บาท ถ้าเป็นเงินกีบจะอยู่ที่ราคา 70,000 กีบ ซึ่งพอคำนวณดูแล้วราคาไทยจะถูกกว่านิดหน่อย เราจึงตัดสินใจเช่า 4 วัน
จากนั้นจึงออกเดินทางไปวังเวียง! แต่!! กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จึงตัดสินใจกินข้าวกันที่ร้านนี้ โดยสั่งเฝอข้าวปุ้น ปอเปี๊ยะสด และลูกชิ้นทอด
-เฝอข้าวปุ้น ลักษณะจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นขนมจีน วิธีปรุงคือบีบมะนาว ใส่พริกปรุงให้เผ็ดใส่ผักเคียงต่างๆ
-ปอเปี๊ยะสด แป้งจะคล้ายๆกับแป้งแหนมเนือง เค็มๆนิดนึง ไส้จะเป็นผัก หมู ไข่และหนังหมู กินคู่กับน้ำจิ้มถั่วลิสง
-ลูกชิ้นทอดคือ.. ลูกชิ้นทอด
มื้อนี้เสียไปร่วม 48,000 กีบ แหม่ะ! ล่ำซำจริงๆ กินข้าวมื้อเป็นหมื่นๆ
หลังจากนั้นจึงส่งหมวยไปเป็นทูตสัมพันธไมตรีหาซื้อซิม
ได้ซิมมาเล่นเน็ตได้ 2 GB ราคาต่อชิ้น 30,000 กีบ(ค่าซิม 10,000 + ค่าเน็ต 20,000)
มีเน็ตไว้เปิด Google Map แล้ว พร้อมออกเดินทางไปพบกับความเย็น ลมพัดตีหน้า บรรยากาศชิวๆ
ทริปนี้ เซลฟี่กันสนุกสนาน เพราะเจ้ากล้อง Nikon1 J5 มีหน้าจอที่พับขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ได้แบบสะดวกสุดๆ ก่อนออกเดินทาง Road Trip ก็แชะกันก่อน 1 ภาพ เอ้ายิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมม
แอ๊ะ! เดี๋วก่อน ลืมเติมน้ำมัน เราเติมไปที่ 22,000 กีบ น้ำมันชื่อ แอ็ดซั่ง น่าจะคล้ายๆเบนซินบ้านเราแหละมั้ง
ม่ะ เราพร้อมจะลุยกันมานานแล้ว ฮ่าๆ โย่ว!!
ออกเดินทางคือ.. ถนนเป็นหลุมช่วงๆแรกๆ ทำเอาเมื่อยตูด แต่พอพ้นเมืองไปได้สักพัก.. โหยยย ร้อน! ฮ่าๆๆๆๆ แต่วิวข้างๆคือ สวยดี แอบแห้งแล้งไปนิด แต่เราว่าสวยดี
คุณหมวยเจอร้านผลไม้ข้างทาง ก็ลงไปซื้อ ราคา 8,000 กีบ
เดินทางกันต่อ ก็ขับไปเรื่อยๆ
แวะพักบ้างระหว่างทางเพราะปวดตูด
แล้วขับต่อเรื่อยๆ
จนมาเจอกับ สะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง เป็นสะพานคู่ ซึ่งด้านนึงเป็นปูน ส่วนอีกด้านนึงเป็นสะพานไม้ที่เล็กกว่า พร้อมกับป้ายที่ว่า “ห้ามรถหนักผ่าน”
หมวยเห็นสะพานสวยดี น้ำใส่สีสวย หมวยก็เลยชวนเดิน..
เดิน..
แล้วก็เดิน.. เพื่อไปถ่ายรูปด้านล่างสะพาน
ซึ่งพอลงมาถึง ก็จะเป็นแบบนี้..
อ่ะ ถ่ายมั่ง
อ่ะถ่ายคู่ดีกว่า รอบนี้มีขาตั้งกล้อง..
ถ่ายจนพอใจก็กลับมาแว้นต่อ
ขาไปวังเวียง เราค่อยๆขับกันไปเรื่อยๆ เพราะด้วยชินทาง แถมถ้าอยากลงตรงไหนก็ลงได้ อยากแวะตรงไหนก็แวะได้
ขับมาสักพัก เราเห็นเนินดินลูกนึง เราก็แวะเข้าไป..
ถ่ายรูป..
แล้วก็พักดูวิวสักพัก
สักพักก็มีพระที่อยู่แถวนั้นท่านมาสูบบุหรี่มองวิว..
พักกันพอหายเหนื่อยก็ไปต่อ
สักช่วง30กิโลก่อนถึงวังเวียง จะมีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่ข้างทาง
พอดีกับช่วงที่ว่าเราไปถึงก็ตอนเย็นแล้ว แสงอาทิตย์กระทบกับน้ำสวยมากเราจึงจอดพักกันแปปนึง..
พวกเราพยายามถ่ายภาพ เพราะอยากให้ทุกคนได้เห็นแบบที่เราเห็นที่สุดเท่าที่พวกเราทำได้ครับ
มันสวยมากจริงๆ
ขับไปสักพักวังเวียงก็ใกล้เข้ามา
ช่วงนี้ต้องคอยดู Google map กันดีๆ เพราะทางเข้าจะเห็นยากหน่อย
เดียวมาเขียนต่อ รอแปบน้าาาา
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น