อิหร่าน เลิกทำตามข้อตกลงด้านนิวเคลียร์!!
6/1/2020
เอพี รายงานสถานการณ์ตึงเครียดหนักในการเผชิญหน้า ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับ อิหร่าน
จากเหตุลอบสังหารนายพลคนสำคัญที่สุดของอิหร่านที่ประเทศอิรักโดยคำสั่ง
ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.
หลังอิหร่านจัดพิธีฝังศพนายพลกอเซม สุไลมานี แล้ว คณะรัฐมนตรีอิหร่าน
ประกาศยุติการปฏิบัติตามข้อจำกัดในข้อตกลงนิวเคลียร์ทั้งหมดที่มีไว้กับชาติตะวันตก
ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ที่รัฐบาลนายบารัก โอบามาของสหรัฐเคยผลักดันไว้
และถูกยกเลิกสมัยรัฐบาลนายทรัมป์ ปี 2562 เดิมยังคงพอมีผลบังคับใช้อยู่ได้
ด้วยการประนีประนอมของชาติมหาอำนาจอื่น ทั้งยุโรป รัสเซีย และจีน
แต่หลังจากเหตุการณ์เขย่าศึกล่าสุดของสหรัฐ ทำให้อิหร่านยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดแล้ว
เป็นการถอยหลังไปจากความพยายามสร้างสันติภาพในตะวันออกกลางครั้งใหญ่
การยกเลิกดังกล่าวหมายความว่า อิหร่านจะเดินหน้าสะสมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ
ที่ทราบกันโดยทั่วไปว่านำไปเป็นเชื้อเพลิงอาวุธนิวเคลียร์ได้
นอกจากนี้ยังเพิ่มระดับเสริมสมรรถนะ
และสะสมวัตถุดิบเสริมสมรรถนะอื่นๆ รวมถึงเดินหน้าวิจัย และพัฒนาด้านนิวเคลียร์
จนเป็นที่วิตกว่า อิสราเอลอาจแทรกร่วมศึกตึงเครียดนี้ตามที่ประกาศไว้ว่า
จะไม่มีทางยอมให้อิหร่านผลิตระเบิดปรมาณูเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตาม อิหร่านแจ้งว่ายังเปิดช่องทางเจรจากับประเทศยุโรปในข้อตกลงได้ต่อไป
รวมถึงติดต่อสื่อสารกับทบวงพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
หรือไอเออีเอ หน่วยงานของสหประชาชาติ ตามที่เคยเป็นมา
ความเคลื่อนไหวของอิหร่านครั้งนี้เกิดขึ้นตอบโต้จากที่นายทรัมป์ทวีตข้อความข่มขู่ว่า
พร้อมจะโจมตีอิหร่านอย่างหนักหน่วงในทันที ตามเป้าหมาย 52 จุด
หากอิหร่านทำอันตรายต่อสหรัฐและชาวอเมริกันเพื่อล้างแค้น
ส่วนที่อิรัก สมาชิกสภาอิรักลงมติเสนอให้รัฐบาลแจ้งต่อรัฐบาลสหรัฐ ถอนทหารทั้งหมด 5,200 นาย
ในอิรักออกไป เพราะไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องอยู่อีกแล้ว หลังจากไอเอสสลายตัวไปแล้ว
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3329798
https://www.matichon.co.th/foreign/news_1867330
https://news.thaipbs.or.th/content/287659
https://www.bbc.com/thai/international-48200748
https://www.springnews.co.th/global/596735
อิหร่าน เลิกทำตามข้อตกลงด้านนิวเคลียร์!!
6/1/2020
เอพี รายงานสถานการณ์ตึงเครียดหนักในการเผชิญหน้า ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับ อิหร่าน
จากเหตุลอบสังหารนายพลคนสำคัญที่สุดของอิหร่านที่ประเทศอิรักโดยคำสั่ง
ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.
หลังอิหร่านจัดพิธีฝังศพนายพลกอเซม สุไลมานี แล้ว คณะรัฐมนตรีอิหร่าน
ประกาศยุติการปฏิบัติตามข้อจำกัดในข้อตกลงนิวเคลียร์ทั้งหมดที่มีไว้กับชาติตะวันตก
ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ที่รัฐบาลนายบารัก โอบามาของสหรัฐเคยผลักดันไว้
และถูกยกเลิกสมัยรัฐบาลนายทรัมป์ ปี 2562 เดิมยังคงพอมีผลบังคับใช้อยู่ได้
ด้วยการประนีประนอมของชาติมหาอำนาจอื่น ทั้งยุโรป รัสเซีย และจีน
แต่หลังจากเหตุการณ์เขย่าศึกล่าสุดของสหรัฐ ทำให้อิหร่านยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดแล้ว
เป็นการถอยหลังไปจากความพยายามสร้างสันติภาพในตะวันออกกลางครั้งใหญ่
การยกเลิกดังกล่าวหมายความว่า อิหร่านจะเดินหน้าสะสมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ
ที่ทราบกันโดยทั่วไปว่านำไปเป็นเชื้อเพลิงอาวุธนิวเคลียร์ได้
นอกจากนี้ยังเพิ่มระดับเสริมสมรรถนะ
และสะสมวัตถุดิบเสริมสมรรถนะอื่นๆ รวมถึงเดินหน้าวิจัย และพัฒนาด้านนิวเคลียร์
จนเป็นที่วิตกว่า อิสราเอลอาจแทรกร่วมศึกตึงเครียดนี้ตามที่ประกาศไว้ว่า
จะไม่มีทางยอมให้อิหร่านผลิตระเบิดปรมาณูเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตาม อิหร่านแจ้งว่ายังเปิดช่องทางเจรจากับประเทศยุโรปในข้อตกลงได้ต่อไป
รวมถึงติดต่อสื่อสารกับทบวงพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
หรือไอเออีเอ หน่วยงานของสหประชาชาติ ตามที่เคยเป็นมา
ความเคลื่อนไหวของอิหร่านครั้งนี้เกิดขึ้นตอบโต้จากที่นายทรัมป์ทวีตข้อความข่มขู่ว่า
พร้อมจะโจมตีอิหร่านอย่างหนักหน่วงในทันที ตามเป้าหมาย 52 จุด
หากอิหร่านทำอันตรายต่อสหรัฐและชาวอเมริกันเพื่อล้างแค้น
ส่วนที่อิรัก สมาชิกสภาอิรักลงมติเสนอให้รัฐบาลแจ้งต่อรัฐบาลสหรัฐ ถอนทหารทั้งหมด 5,200 นาย
ในอิรักออกไป เพราะไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องอยู่อีกแล้ว หลังจากไอเอสสลายตัวไปแล้ว
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3329798
https://www.matichon.co.th/foreign/news_1867330
https://news.thaipbs.or.th/content/287659
https://www.bbc.com/thai/international-48200748
https://www.springnews.co.th/global/596735