UPDATE: ตะวันออกกลางตึงเครียด อิหร่านประกาศเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์ นักวิเคราะห์คาดราคาน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งอีก
.
อิหร่านประกาศกร้าวว่าจะไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015 อีกต่อไป พร้อมเดินหน้าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ หลังเกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน สืบเนื่องจากกรณีที่สหรัฐฯ ใช้โดรนสังหาร พลตรี กัสเซม โซเลมานี นายพลเบอร์ 2 ของอิหร่าน ใกล้กับสนามบินแบกแดดในอิรักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
.
ในแถลงการณ์ของอิหร่านระบุว่าอิหร่านจะไม่จำกัดขอบเขตการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมตามที่เคยตกลงกับชาติมหาอำนาจในปี 2015 รวมถึงไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการเก็บสะสมแร่ยูเรเนียมบริสุทธิ์ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อตอบโต้การโจมตีของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเหตุให้ พลตรี โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษกุดส์แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา
.
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระลอกล่าสุดสร้างความหวาดวิตกว่าจะนำไปสู่สงครามประจันหน้าเต็มรูปแบบระหว่างสองชาติ โดยเมื่อวานนี้มีรายงานว่าเขตสถานทูตของสหรัฐฯ ในอิรักตกเป็นเป้าหมายการโจมตี แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ขณะที่ชาวอิหร่านหลายแสนคนได้รวมตัวกันต้อนรับโซเลมานีกลับมาตุภูมิเยี่ยงวีรบุรุษ ก่อนที่รัฐจะจัดพิธีศพให้เขาอย่างสมเกียรติ
.
เหตุตึงเครียดที่เกิดขึ้นทำให้รัฐสภาอิรักลงมติเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งการให้ทหารต่างชาติเดินทางออกไปจากอิรัก เนื่องจากหวั่นเกรงว่าสถานการณ์อาจบานปลายและทำให้อิรักกลายเป็นสมรภูมิสู้รบ โดยปัจจุบันสหรัฐฯ มีทหารประจำการอยู่ในอิรักราว 5,000 คน ซึ่งเดิมมีภารกิจต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ร่วมกับพันธมิตรนานาชาติ
.
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังเกิดสงครามน้ำลายระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน โดย อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ประกาศเตือนว่าจะล้างแค้นสหรัฐฯ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่กลับว่าจะโจมตีเป้าหมายกว่า 50 จุดในอิหร่านเพื่อตอบโต้ หากอิหร่านโจมตีเพื่อล้างแค้นให้กับการเสียชีวิตของโซเลมานี
.
เหตุตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นถึง 3.6% โดยสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นจากระดับ 66.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็น 68.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันศุกร์ (3 มกราคม) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในสัปดาห์นี้
ที่มาภาพ
https://www.theguardian.com/world/2020/jan/05/oil-prices-rise-36-on-threat-of-retaliation-for-suleimani-killing
เนื่องจากการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการลำเลียงขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่คึกคักที่สุดในโลก
ที่มาภาพ
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcRLXiSgxi2KJcT1Df5J1dLrjcKE3AR9TkJpFzkX-WcEHt_hb5uv
ที่มาบทความทั้งหมด
https://thestandard.co/oil-prices-rise-on-threat-of-retaliation-for-suleimani-killing/
หมายเหตุ มีการเพิ่มภาพราคาน้ำมัน รวมถึงภาพ ช่องแคบฮอร์มุซ
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งอีก ไทยก็ควรตระหนักเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
.
อิหร่านประกาศกร้าวว่าจะไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015 อีกต่อไป พร้อมเดินหน้าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ หลังเกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน สืบเนื่องจากกรณีที่สหรัฐฯ ใช้โดรนสังหาร พลตรี กัสเซม โซเลมานี นายพลเบอร์ 2 ของอิหร่าน ใกล้กับสนามบินแบกแดดในอิรักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
.
ในแถลงการณ์ของอิหร่านระบุว่าอิหร่านจะไม่จำกัดขอบเขตการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมตามที่เคยตกลงกับชาติมหาอำนาจในปี 2015 รวมถึงไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการเก็บสะสมแร่ยูเรเนียมบริสุทธิ์ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อตอบโต้การโจมตีของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเหตุให้ พลตรี โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษกุดส์แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา
.
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระลอกล่าสุดสร้างความหวาดวิตกว่าจะนำไปสู่สงครามประจันหน้าเต็มรูปแบบระหว่างสองชาติ โดยเมื่อวานนี้มีรายงานว่าเขตสถานทูตของสหรัฐฯ ในอิรักตกเป็นเป้าหมายการโจมตี แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ขณะที่ชาวอิหร่านหลายแสนคนได้รวมตัวกันต้อนรับโซเลมานีกลับมาตุภูมิเยี่ยงวีรบุรุษ ก่อนที่รัฐจะจัดพิธีศพให้เขาอย่างสมเกียรติ
.
เหตุตึงเครียดที่เกิดขึ้นทำให้รัฐสภาอิรักลงมติเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งการให้ทหารต่างชาติเดินทางออกไปจากอิรัก เนื่องจากหวั่นเกรงว่าสถานการณ์อาจบานปลายและทำให้อิรักกลายเป็นสมรภูมิสู้รบ โดยปัจจุบันสหรัฐฯ มีทหารประจำการอยู่ในอิรักราว 5,000 คน ซึ่งเดิมมีภารกิจต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ร่วมกับพันธมิตรนานาชาติ
.
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังเกิดสงครามน้ำลายระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน โดย อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ประกาศเตือนว่าจะล้างแค้นสหรัฐฯ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่กลับว่าจะโจมตีเป้าหมายกว่า 50 จุดในอิหร่านเพื่อตอบโต้ หากอิหร่านโจมตีเพื่อล้างแค้นให้กับการเสียชีวิตของโซเลมานี
.
เหตุตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นถึง 3.6% โดยสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นจากระดับ 66.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็น 68.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันศุกร์ (3 มกราคม) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในสัปดาห์นี้
ที่มาภาพ https://www.theguardian.com/world/2020/jan/05/oil-prices-rise-36-on-threat-of-retaliation-for-suleimani-killing
เนื่องจากการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการลำเลียงขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่คึกคักที่สุดในโลก
ที่มาภาพ https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcRLXiSgxi2KJcT1Df5J1dLrjcKE3AR9TkJpFzkX-WcEHt_hb5uv
ที่มาบทความทั้งหมด https://thestandard.co/oil-prices-rise-on-threat-of-retaliation-for-suleimani-killing/
หมายเหตุ มีการเพิ่มภาพราคาน้ำมัน รวมถึงภาพ ช่องแคบฮอร์มุซ