'เพื่อไทย' แนะ 'นายกฯ' หยุดดันทุรังทำลายเชื่อมั่นเศรษฐกิจ
https://voicetv.co.th/read/1AZMc1-4S
 
ส.ส.พรรคเพื่อไทย ชี้ปี 2563 ไทยส่อวิกฤตเศรษฐกิจหนัก ผลพวงนักลงทุนไร้ความเชื่อมั่น ฝาก 'พล.อ.ประยุทธ์' เปิดทางให้คนที่มีความสามารถบริหาร
 
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2563 ถือว่าวิกฤติหนักมาก ประกอบกับการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าทีม และรัฐมนตรีต่างพรรคการเมืองร่วมกันบริหาร ผลที่ออกมาคือการทำงานที่ไปกันคนละทิศคนละทาง ผลงานจึงไม่สามารถจับต้องได้
 
ขณะที่ การลงทุนจากต่างชาติลดลงไป เพราะนักลงทุนมองว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพเพียงพอ ไม่มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจ และไม่มีความจริงจังและจริงใจในการแก้ปัญหาประเทศ ดังนั้นหลายบริษัททั้งในและต่างประเทศจึงชะลอการลงทุนเพื่อรอรัฐบาลใหม่ เพราะหวั่นว่าหากลงทุนในช่วงรัฐบาลนี้อาจจะไม่คุ้มค่าการลงทุน และอาจประสบปัญหาหลายด้าน
 
ดังนั้น จึงต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับความจริงว่า ตัวพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจเลย สิ่งที่ตามมาคือภาพรวมของประเทศตกต่ำลงทุกด้าน เชื่อว่า ในปีนี้จะหนักกว่าที่ผ่านมาแน่ เพราะผลกระทบจากปัจจัยภายนอกจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งการตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) ที่สหรัฐอเมริกาประกาศใช้กับประเทศไทย สงครามการค้าโลกกำลังซื้อจากต่างประเทศหดหาย รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลกระทบในทุกๆ ด้านของประเทศ
 
ดังนั้น สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ควรทำคือไม่รู้จริงก็อย่าพูด เพราะการพูดของพล.อ.ประยุทธ์เป็นการทำร้ายเศรษฐกิจประเทศ จะส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น คนเป็นผู้นำประเทศประกาศว่าเศรษฐกิจไทยแย่แล้ว นักลงทุนที่ไหนเขาจะมาลงทุน พล.อ.ประยุทธ์ต้องกลับสู่โลกความเป็นจริง ยอมรับความจริง และเปิดทางให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมบริหารประเทศ ไม่ใช่เก่งอยู่คนเดียวแบบที่เป็นอยู่
 

---

 
อนค. จัดดาวเด่นสภาฯ ซักฟอก รบ. เผย ‘บิ๊กตู่' ดักคอให้ย้อนแค่ 5 เดือน เพราะกลัวจนตัวสั่น
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1864118
 
อนค. จัดดาวเด่นสภาฯ ซักฟอก รบ. เผย ‘บิ๊กตู่’ ดักคอให้ย้อนแค่ 5 เดือน เพราะกลัวจนตัวสั่น
 
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณีการเตรียมความพร้อมของพรรคอนาคตใหม่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า 
 
ตอนนี้เรายังไม่ได้พูดคุยเรื่องการวางแผนอย่างชัดเจน เพียงแต่ปรึกษากันเรื่องประเด็นที่ควรจะนำไปอภิปราย เช่น การทำงานของกระทรวงมหาดไทย และปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ที่จะขึ้นอภิปรายหลักๆ คงเป็นดาวเด่นในสภาทั้งหลาย ประมาณ 10 คน ขั้นตอนต่อไปเราจะไปปรึกษากับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้งว่าสรุปแล้วจะมุ่งเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใครบ้าง หรือประเด็นอะไร เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน เบื้องต้นตนก็จะอภิปรายในครั้งนี้ด้วย ในประเด็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เรื่องระเบียบค่าใช้จ่าย พ.ศ.2562 ที่เอารัดเอาเปรียบท้องถิ่นโดยการคุมค่าใช้จ่าย
 
ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็ออกมาแสดงความเห็นว่า ให้อภิปรายในช่วงของรัฐบาลนี้ที่ทำงานมาได้ 5 เดือน อย่าอภิปรายเรื่องในรัฐบาลชุดก่อนที่ย้อนไปถึง 5 ที่แล้ว นายชำนาญ กล่าวว่า ตนก็อยากจะถามว่า นายกฯ คนนี้กับนายกฯ ของรัฐบาลชุดที่แล้วเป็นคนเดียวกันหรือไม่ การหลีกเลี่ยงไม่ให้อภิปรายเรื่องที่ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะรัฐมนตรีบางคนเป็นคนเดียวกับรัฐบาลชุดที่แล้ว และการทำงานก็ส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน อย่าลืมว่าในสมัยรัฐบาลของนายบรรหาร ศิลปอาชา ก็ขุดเรื่องเก่าตั้งแต่รุ่นคุณพ่อของนายบรรหารมาชำแหละด้วยซ้ำไป ส่วนคนที่เพิ่งเข้ามาทำงานในรัฐบาล ฝ่ายค้านก็คงไม่สามารถอภิปรายย้อนหลังได้
 
เมื่อถามว่า ที่รัฐมนตรีออกมาเตือนฝ่ายค้านไม่ให้อภิปรายย้อนหลังแสดงว่า รู้สึกกลัวใช่หรือไม่ รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า “กลัวสิ เพราะทุกครั้งไม่ว่าครั้งไหนที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้จะรู้ว่าจะไม่สามารถทำสำเร็จได้ แต่ว่าจะส่งผลกระทบต่อคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ บางครั้งข้อมูลบางอย่างก็ชัดเจนจนสามารถทำให้รัฐบาลล้ม ทำให้เกิดการปรับครม. หรือเกิดการหักหลังกันเอง ยิ่งในรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมืองเช่นนี้ คาดว่าคงมีการแจกกล้วยกันเยอะแน่นอน และจะเกิดการสั่นคลอนในรัฐบาลไม่มากก็น้อย”
 
ส่วนกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในวันที่ 12 มกราคมนี้ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่จะเข้าร่วมหรือไม่ นายชำนาญ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคลของส.ส. หาก ส.ส. เข้าร่วมก็คงไปในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคอนาคตใหม่