ส่วนตัวคิดว่า ที่ไม่เป็นธรรมก็คือ

ที่รกร้างที่ภาษีแพงมาก คนจะซื้อที่มาได้ก็ต้องทำงานหาเงิน เงินที่ได้มาก็ต้องเสียภาษีแล้ว สะสมสร้างตัวจนมีเงินถึงซื้อที่มาได้ คนชั้นกลางซื้อมาเพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลาน หรือตัวเองจะไปอยู่ยามแก่ การจะสร้างบ้านไว้เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยก็ไม่เหมาะ เพราะอีก10ปีบ้านก็กลายเป็นซากบ้าน และ ค่าสร้างก็ไม่ได้ถูกๆ ระดับชนชั้นกลาง ก็ไม่ได้มีที่เยอะนักหรอก คนในกรุงเทพ อย่างเก่งก็ 1-2แปลง รวมๆ ก็ไม่เกินไร่ แต่ไม่เกินไร่ มันดันมาอยู่ในเมืองไง ราคามันก็โดดไป 10-50 ล้าน เจอภาษีที่รกร้างเข้าไป รายได้ที่มีก็ไม่พอจ่ายหรอก เถมปรับขึ้นทุก3ปี มันก็คือการบีบให้ขายที่อย่างหนึ่ง

หรือ อาจจะเป็นคนต่างจังหวัด มีที่ 10-20ไร่ เป็นที่เปล่า ก็เก็บไว้ให้ลูกหลาน หรือตัวเองยามแก่ แต่ต่างจังหวัดก็ไร่ละไม่เท่าไหร่ รวมๆ ก็แค่ 10-50 ล้าน เหมือนคนในกรุงเทพ

ซึ่ง เขามีไว้เพื่อเป็นทรัพย์สิน สะสมความมั่งคั่ง แต่กลับต้องมาโดนภาษีรีดไถ โดยเฉพาะดินรกร้างเนี่ยแหละ เลยต้องมาขายให้นายทุน หรือ คนรวยมากๆ มันเป็นเครื่องมือเพื่อทำให้คนมีที่ ต้องคายออกถูกๆ เพื่อให้คนรวยมากซื้อได้ง่ายๆ

แล้วเมื่อถึงเวลา พอระบบภาษีเปลี่ยน คนรวยก็มีที่เต็มไปหมด คนเคยมีที่ก็ไม่มีแล้ว

ส่วนภาษีที่อยู่อาศัยน่ะ 0.02% ล้านละ 2ร้อย ไม่ได้สะเทือนอะไรหรอกครับ 50 ล้าน ก็แค่ 10000 ยังถูกกว่าค่าส่วนกลางบ้านเล็กๆไม่ถึงร้อยตารางวา

ภาษีที่มันหนัก สำหรับชนชั้นกลางน่ะคือ ภาษีที่ดินรกร้าง มันเป็นการรีดให้คนชั้นกลางไม่มีที่สะสมสินทรัพย์ และต้องคายที่ให้นายทุน เพราะคนชั้นกลางไม่มีปัญญา และไม่มีทุน ไม่มีเวลา หรือบุคล มากพอที่จะเปลี่ยนที่รกร้างให้กลายเป็นที่เกษตร เพราะมันไม่คุ้มค่า ก็ที่มันมีนิดเดียว

ทั้งนี้ ผมไม่ได้พาดพิงไปถึง เรื่องมรดกนะ การได้มรดกแล้วต้องเสียภาษีมรดกตามกฎหมาย ในส่วนที่เกิน 100 ล้าน ก็ถือว่ารับได้