๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ผลการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นเชิงปริมาณ สไตล์ lifelong investor ปี 2562

ยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้ม


ข้อมูลในเขิงปริมาณ  รวบรวมได้ผลตามนี้ครับ


๑ มีเพียงหุ้น 3 ตัวในพอร์ตหลัก  ที่ราคาปิดวันทำการสุดท้ายปี 2562 สูงกว่าปี 2561





2  หุ้น 3 ตัวในพอร์ตที่เพิ่มขึ้น  ช่วยให้มูลค่าพอร์ตเพิ่มขึ้น ประมาณ 4 .6 แสนบาท


แต่หุ้นที่เหลือในพอร์ต  ทำให้เงินมายาในพอร์ตลดลงประมาณ 6 ล้านกว่า
(มีการเติมเงินที่ได้จากเทนเดอร์ออฟเฟอร์ pb เข้าพอร์ต 1.4 ล้านบาท)

เงินจริงจากเงินปันผลและเครติดภาษี ที่ได้จากบริษัทจดทะเบียน  ไม่สามารถหักกลบเงินมายาที่หายไป 


ยอมรับว่า เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้แต่ในช่วงซับไพรม์ 

ซึ่งเมื่อบวกเงินปันผลรวมรับกับเครดิตภาษีกลับเข้าไปแล้ว  มูลค่าพอร์ตไม่ได้ลดลง Facepalm


3  ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น 

ก. ไม่ได้ถือหรือซื้อขายหุ้นที่ขึ้นมาเป็นกระแสหลักของเกมล่าส่วนเกินทุนในปี 2562 
ซึ่งได้แก่หุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานหลัก
และถือหุ้นที่เจ้ามือรายใหญ่ของตลาดหุ้นในขณะนี้ ไม่ยอมเล่น  (เจ้ามือรายใหญ่ก็คือกองทุนรวมไทย)

ข. ไม่ขายทำกำไร  เมื่อผลประกอบการที่บริษัทประกาศออกมาเริ่มลดลงต่อเนื่อง
ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อว่า ซื้อไว้ตอน พีอีถูก พีบีวีถูก ยีลด์ปันผลดี  Facepalm


ค. จากหุ้นทั้งหมดในพอร์ต   ไม่มีตัวไหนขึ้นลงสวนผลประกอบการ

ตัวที่ขึ้น  ผลประกอบการก็ดีขึ้น   ตัวที่ลง ล้วนแต่มีผลประกอบการแย่ลง 





4  เป้าหมายและวิธีการที่คิดว่าจะทำในปี 2563  


ก. เป้าหมาย   

อยากให้หุ้น 3 ตัวที่ขึ้นมาในปี 2562   ยอมให้ลงกลับไปที่เดิม

แต่ขอให้

หุ้นที่เหลือทั้งหมดในพอร์ต  กลับขึ้นไปที่เดิมตอนสิ้นปี 2561  ฮ่าฮ่าฮ่า  

เงินปันผลรับรวม  ต้องได้ไม่น้อยกว่า หนึ่งล้านบาท  

ข.วิธีการ


ขายเล่นรอบให้มากขึ้น 
ด้วยการชอร์ตอะเกนส์พอร์ตเพื่อเพิ่มจำนวนหุ้นโดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนเงิน
หรือขายเปลี่ยนหุ้น  แบบเปรียบเทียบ  พีอี  พีบีวี และยีลด์ปันผล

จะว่าไปแล้วก็น่าตกใจ 
ปีที่แล้วขายหุ้นไปซัก 10 ตัว มีแค่ตัวเดียวที่สวนราคาขึ้นมามากกว่าที่ขายไป 
ถ้าปีนี้  ได้แบบนี้อีก  น่าจะได้จำนวนหุ้นเพิ่ม  โดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนเงิน 


5  ความผิดพลาดที่แท้จริงคืออะไรแน่


คิดย้อนหลังดูแล้ว 
มันคือการขยับมาตรฐานแต้มต่อราคาหุ้น ที่เราเคยใช้มาก่อน  ลงมาต่ำกว่ามาตรฐานเดิม
เพราะว่า  ไม่มีหุ้นตัวไหน ลงไปถึงมาตรฐานที่เคยใช้ได้ผล

ที่เละเทะที่สุดเลยกลายเป็น   การใช้แต้มต่อ ด้านราคาไอพีโอเป็นหลัก  โดยไม่ได้คิดไปถึงปัจจัยด้านอื่นๆ

ผลของการใช้แต้มต่อแค่เรื่องราคาหุ้นไอพีโอ   
ซื้อไปสามตัว  ขาดทุนหมด ทั้ง 3 ตัว  ตัวที่หนักสุดขาดทุนประมาณ 40 %

ส่วนแต้มต่อราคาหุ้นที่ซื้อ  เมื่อเทียบกับ พีอี พีบีวีและยีลด์ปันผล  ขาดทุนมากที่สุดประมาณ บวกลบ 10 % เท่านั้น

การขยับลดแต้มต่อลงแบบนี้  นึกไปถึงเรื่อง die hard 2  

ผู้ก่อการร้ายที่ควบคุมสนามบินไว้   ขยับระดับพื้นสนาม ให้ต่ำลงไปอีก 200 ฟุตจากความเป็นจริง
ทำให้นักบินที่กำลังจะเอาเครื่องลง  นึกว่าระดับพื้นดินยังอยู่ต่ำกว่าเครื่องบิน 200 ฟุต
กว่าจะรู้ความจริงจากสายตาตัวเอง  เครื่องบินก็กระแทกพื้นอย่างเต็มแรงจนระเบิดเป็นจุลไปแล้ว อมยิ้ม06

ในหนัง  ผู้ก่อการร้าย  เป็นคนขยับเป้าลงไป

แต่ในพอร์ตของตัวเอง  ผมเป็นคนขยับเป้าแต้มต่อลงไปเอง อมยิ้ม16
เพราะราคาหุ้นดันลงไม่ถึงแต้มต่อที่ต้องการ 


สรุปแล้ว 
ถ้าวัดในเชิงปริมาณ  การเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นปี 2562  ล้มเหลวอย่างมากๆ 

แต่ถ้าเอามาวัดในเชิงคุณภาพ  
ก็ยังถือว่า   สอบผ่านอย่างเฉียดฉิว


ขอโพสต์ต่ออีกระทู้  หลังจากหาข้อมูลแบบเข้าข้างตัวเองไม่มากก่อนครับ  อมยิ้ม01


ทำใจได้แบบนี้  ยอมรับความจริงแบบนี้  ก็ให้ผลดีกับสุขภาพจิตได้มาก 


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


don't look so sad    I know it's over


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่