ก่อนอื่นขอพูดเกี่ยวกับตัวเองก่อนว่า เป็นคนที่เงียบมาก เงียบแบบว่าไม่พูดกับใครเลย ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง หรือเพื่อนสนิทก็ไม่พูด อาจจะว่าเป็น “โรคกลัวการเข้าสังคม” ก็ว่าได้
แล้วหลังจากเรียนจบ ป.ตรีมา ก็เริ่มมีอาการซึมเศร้าขึ้น ไม่รู้จะทำยังไงเกี่ยวกับชีวิตตัวเองต่อดี ตอนนั้นก็รู้ตัวเองนะว่าต้องหาทางออกแล้วไม่งั้นแย่แน่นอน ก็เริ่มไปสมัครงาน ลองหางานทำ สมัครเป็นสิบที่ ไม่ได้งานเลยสักที่ ก็รู้นะว่าเป็นเพราะเราพูดไม่เก่ง เราพรีเซนต์ตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นก็พยายามพูดแล้วนะ
จนกระทั่งที่มหาลัยมีรับสมัครเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตร แล้วเราก็สมัครผ่านได้เข้าเรียน ตอนนั้นก็ตั้งใจนะ ว่าจะฝึกพูด เริ่มนับหนึ่งกับตัวเองใหม่
ตอนนั้นก็มีอาการกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ พยายามพูด พยายามเข้าสังคมให้ได้
มีอาการซึมเศร้าบ้างอย่างเช่นคิดว่าตัวเองไม่เอาไหนสมาธิสั้นอะไรพวกนี้แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
มีครั้งหนึ่งที่ต้องออกไปพรีเซนต์หน้าห้อง ตอนนั้นพูดตะกุกตะกักมาก นึกแล้วตลกดี
มาระบายเรื่องของตัวเองในปีนี้ดีกว่า เป็นอะไรที่สาหัสหนักมาก ปีเบญจเพศ อกหัก รักคุดจนต้องเข้า รพ. จิตเวช
เริ่มมาต้นปี มันดีนะ มันราบรื่นดี คิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรซะแล้ว มาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงช่วงเดือนเมษายน โดนแฟนบอกเลิก ตั้งแต่ตอนนั้นพังยับเลย อาจเป็นเพราะว่า เป็นคนที่เรารู้สึกชอบมากด้วย แล้วเราก็ทุ่มเทกับคน ๆ นี้สุดตัวเลย ก็พยายามง้อ ขอคืนดีนะครับ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้โอกาสเลย แล้วมันทำให้เราจมดิ่งหนักมาก จนเป็นโรคซึมเศร้าเลย
ตั้งแต่วันนั้นสภาพจิตใจของตัวเองแย่ลง เลยติดสินใจที่จะไปหาหมอ กินยา
เรื่องเล่าต่อจากนี้ เป็นช่วงที่ผมต้องไปฝึกงานตามที่หลักสูตรกำหนดไว้ห้าเดือน
ช่วงฝึกงานแรก ๆ ก็เป็นช่วงปรับยา ก็มีอาการผลข้างเคียงของยาที่กิน อย่างเช่น หัวใจเต้นเร็ว อาการมืน ๆ มองเห็นไม่ชัด เบลอ ๆ และอาการปวดหัวอะไรพวกนี้
พอกินไปสักระยะประมาณเดือนนึงได้ก็รู้สึกว่าอาการของตัวเองแย่ลงนะมันยังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่พยายามหาทางแก้พอยิ่งแก้มันก็ยิ่งพันเป็นปมทำให้ตัวผมจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ
อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นผลของยารึเปล่า ในหัวมันคิดถึงเรื่องนั้นตลอดเวลา คิดทั้งวัน จะทำอะไร ตั้งแต่ตื่น จนกระทั่งนอนหลับก็ยังคิด พอนอนหลับก็ฝันร้ายเกือบทุกคืน ตื่นมาร้องไห้
ผมเลือกวิธีระบายออกด้วยการทำร้ายตัวเอง ใช่ ณ ตอนนั้นมันทำให้รู้สึกดีนะ
จนสุดท้ายเป็นหนักมากช่วงนั้นมีอาการทางร่างกายคือปวดหัวหนักมากกินยาแก้ปวดก็ไม่หายพยายามนอนทั้งวันก็ไม่หายในหัวก็วนเวียนคิดแต่เริ่องนั้น
มันรู้สึกไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว เอามันออกไป จะมีวิธีไหนไหมที่ทำให้ไม่คิด จนกระทั้งมีความคิดที่อยากตาย
หลังจากทรมานกับอาการปวดหัวมาประมาณ 5 วัน ผมเลือกที่จะหยุดกินยาเอง
(มันเป็นวิธีที่ไม่ดีนะ) ที่ผมหยุดยาเอง เพราะผมสู้กับมันไม่ไหว ต้องสู้กับความคิดแย่ ๆ ใจไม่อยู่กับตัว ทั้งเรื่องการฝึกงานแต่ละวันที่เหนื่อยมาก และที่ต้องกินยาแล้วมีอาการข้างเคียงอีก
อาการปวดหัวของผมก็หายไปนะ ไม่คิดทำร้ายตัวเอง ไม่คิดตาย แต่ก็ยังคิดวนลูปหาทางแก้ไขในเรื่องนั้นอยู่ตลอด (คือจมไปกับมันตลอดเวลานะ)
ในช่วงนะหว่างนั้นก็มีคนที่คอยให้คำปรึกษานะ คอยระบาย คอยขอคำแนะนำ
**** เดียวมาต่อนะครับ ****
[CR] รีวิวชีวิตปี 2019 แรก ๆ เหมือนจะดี หลังจากนั้นพังยับหนักมาก
แล้วหลังจากเรียนจบ ป.ตรีมา ก็เริ่มมีอาการซึมเศร้าขึ้น ไม่รู้จะทำยังไงเกี่ยวกับชีวิตตัวเองต่อดี ตอนนั้นก็รู้ตัวเองนะว่าต้องหาทางออกแล้วไม่งั้นแย่แน่นอน ก็เริ่มไปสมัครงาน ลองหางานทำ สมัครเป็นสิบที่ ไม่ได้งานเลยสักที่ ก็รู้นะว่าเป็นเพราะเราพูดไม่เก่ง เราพรีเซนต์ตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นก็พยายามพูดแล้วนะ
จนกระทั่งที่มหาลัยมีรับสมัครเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตร แล้วเราก็สมัครผ่านได้เข้าเรียน ตอนนั้นก็ตั้งใจนะ ว่าจะฝึกพูด เริ่มนับหนึ่งกับตัวเองใหม่
ตอนนั้นก็มีอาการกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ พยายามพูด พยายามเข้าสังคมให้ได้
มีอาการซึมเศร้าบ้างอย่างเช่นคิดว่าตัวเองไม่เอาไหนสมาธิสั้นอะไรพวกนี้แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
มีครั้งหนึ่งที่ต้องออกไปพรีเซนต์หน้าห้อง ตอนนั้นพูดตะกุกตะกักมาก นึกแล้วตลกดี
มาระบายเรื่องของตัวเองในปีนี้ดีกว่า เป็นอะไรที่สาหัสหนักมาก ปีเบญจเพศ อกหัก รักคุดจนต้องเข้า รพ. จิตเวช
เริ่มมาต้นปี มันดีนะ มันราบรื่นดี คิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรซะแล้ว มาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงช่วงเดือนเมษายน โดนแฟนบอกเลิก ตั้งแต่ตอนนั้นพังยับเลย อาจเป็นเพราะว่า เป็นคนที่เรารู้สึกชอบมากด้วย แล้วเราก็ทุ่มเทกับคน ๆ นี้สุดตัวเลย ก็พยายามง้อ ขอคืนดีนะครับ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้โอกาสเลย แล้วมันทำให้เราจมดิ่งหนักมาก จนเป็นโรคซึมเศร้าเลย
ตั้งแต่วันนั้นสภาพจิตใจของตัวเองแย่ลง เลยติดสินใจที่จะไปหาหมอ กินยา
เรื่องเล่าต่อจากนี้ เป็นช่วงที่ผมต้องไปฝึกงานตามที่หลักสูตรกำหนดไว้ห้าเดือน
ช่วงฝึกงานแรก ๆ ก็เป็นช่วงปรับยา ก็มีอาการผลข้างเคียงของยาที่กิน อย่างเช่น หัวใจเต้นเร็ว อาการมืน ๆ มองเห็นไม่ชัด เบลอ ๆ และอาการปวดหัวอะไรพวกนี้
พอกินไปสักระยะประมาณเดือนนึงได้ก็รู้สึกว่าอาการของตัวเองแย่ลงนะมันยังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่พยายามหาทางแก้พอยิ่งแก้มันก็ยิ่งพันเป็นปมทำให้ตัวผมจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ
อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นผลของยารึเปล่า ในหัวมันคิดถึงเรื่องนั้นตลอดเวลา คิดทั้งวัน จะทำอะไร ตั้งแต่ตื่น จนกระทั่งนอนหลับก็ยังคิด พอนอนหลับก็ฝันร้ายเกือบทุกคืน ตื่นมาร้องไห้
ผมเลือกวิธีระบายออกด้วยการทำร้ายตัวเอง ใช่ ณ ตอนนั้นมันทำให้รู้สึกดีนะ
จนสุดท้ายเป็นหนักมากช่วงนั้นมีอาการทางร่างกายคือปวดหัวหนักมากกินยาแก้ปวดก็ไม่หายพยายามนอนทั้งวันก็ไม่หายในหัวก็วนเวียนคิดแต่เริ่องนั้น
มันรู้สึกไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว เอามันออกไป จะมีวิธีไหนไหมที่ทำให้ไม่คิด จนกระทั้งมีความคิดที่อยากตาย
หลังจากทรมานกับอาการปวดหัวมาประมาณ 5 วัน ผมเลือกที่จะหยุดกินยาเอง
(มันเป็นวิธีที่ไม่ดีนะ) ที่ผมหยุดยาเอง เพราะผมสู้กับมันไม่ไหว ต้องสู้กับความคิดแย่ ๆ ใจไม่อยู่กับตัว ทั้งเรื่องการฝึกงานแต่ละวันที่เหนื่อยมาก และที่ต้องกินยาแล้วมีอาการข้างเคียงอีก
อาการปวดหัวของผมก็หายไปนะ ไม่คิดทำร้ายตัวเอง ไม่คิดตาย แต่ก็ยังคิดวนลูปหาทางแก้ไขในเรื่องนั้นอยู่ตลอด (คือจมไปกับมันตลอดเวลานะ)
ในช่วงนะหว่างนั้นก็มีคนที่คอยให้คำปรึกษานะ คอยระบาย คอยขอคำแนะนำ
**** เดียวมาต่อนะครับ ****
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้