อีกไม่กี่วันก็จะก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ นอกจากทุกคนจะได้พักผ่อนในวันหยุดยาวกันอย่างเต็มที่ บ้างก็ใช้วันหยุดออกไปปาร์ตี้สังสรรค์ หรือดื่มด่ำสัมผัสธรรมชาติในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ชาวไทยพุทธยังคงนิยมกันมาก ก็คือ "สวดมนต์ข้ามปี-ไหว้พระ" ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่สงบ เป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว
         ในโอกาสพิเศษนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานไฟพระฤกษ์สำหรับจุดในพิธีสวดมนต์ข้ามปีให้แก่กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อมอบต่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าคณะจังหวัดได้อัญเชิญไปในการประกอบพิธียังวัด 77 จังหวัดและสถานที่จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี โดยพิธีสวดมนต์ข้ามปีจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2562 จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 1 มกราคม 2563 ประกอบด้วยกิจกรรมแสดงธรรม สวดมนต์ พิธีถวายพระพรชัยมงคล และเมื่อถึงเวลาข้ามปีใหม่ พระสงฆ์จะประกอบพิธีเจริญพุทธมนต์และสวดบทชัยมงคลคาถา วัดทั่วประเทศลั่นฆ้องชัยจำนวน 9 ครั้ง

         นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกคน ร่วมสวดมนต์ข้ามปี ณ บริเวณท้องสนามหลวง หรือวัดใกล้บ้าน และสถานที่จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีทั่วประทศ เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ รวมทั้งเป็นการสวดมนต์ให้ประเทศไทย และเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวให้มีความสุข
         สำหรับวันที่ 30 ธันวาคมนี้ เวลา 15.30 น. จะมีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ขึ้นประดิษฐานบนมณฑป บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อให้ชาวไทย และต่างชาติได้กราบสักการะ

         ส่วน กรมการศาสนา ได้จัดกิจกรรมไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาลในกรุงเทพฯ ได้แก่ 1.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 2. วัดอรุณราชวราราม 3. วัดราชโอรสาราม 4. วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม 5. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม 6. วัดบวรนิเวศวิหาร 7. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 8. วัดสุทัศนเทพวราราม 9. วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก 10.วัดวชิรธรรมสาธิต
         โดย 10 วัดนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสไหว้พระ ปฏิบัติธรรมเพื่อความเป็นสิริมงคล อย่างไรก็ตาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางมาไหว้พระ ทาง ขสมก.จัดบริการรถฟรี ในวันที่ 28 ธันวาคม2562 ถึง 1 มกราคม 2563

         ด้านกรมศิลปากร ได้จัดกิจกรรมสักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้าพระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “พิพิธทศปฏิมาอารยศิลป์” โดยมีพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เป็นประธาน พร้อมอัญเชิญพระพุทธปฏิมาโบราณอีก 9 องค์ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มาประดิษฐานให้ประชาชนสักการะ ประกอบด้วย พระพุทธสิหิงค์ ศิลปะสุโขทัย-ล้านนา ปลายพุทธศตวรรษที่ 20-21 พระพุทธรูปประทานอภัย ศิลปะอินเดีย แบบคันธาระ พุทธศตวรรษที่ 6- 9 พระอมิตาภพุทธเจ้า (พระอมิดะเนียวไร) ศิลปะญี่ปุ่น สมัยคามากุระ พ.ศ.1728 -1879 พระพุทธรูปสมาธิ ศิลปะลังกา สมัยโปลนนารุวะ พุทธศตวรรษที่ 18-20 พระพุทธศากยมุนี (เซ็กเกียมอนี้ฮุด) ศิลปะจีน สมัยราชวงศ์หมิง พ.ศ.1911 - 2187
         พระพุทธรูปทรงเครื่องมารวิชัย ศิลปะพม่า สมัยนยองยาน พุทธศตวรรษที่ 22 - 23 พระพุทธรูปมารวิชัย ศิลปะลาว พุทธศตวรรษที่ 22 - 23 พระพุทธศากยมุนี ศิลปะเวียดนามเหนือ สมัยราชวงศ์หลีตอนปลาย พุทธศตวรรษที่ 20 - 24 พระพุทธรูปมารวิชัย ศิลปะพม่า สมัยมัณฑะเลย์ ต้นพุทธศตวรรษที่ 25 และพระพุทธรูปทรงเครื่องมารวิชัย ศิลปะช่างเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา กลางพุทธศตวรรษที่ 25 ผู้สนใจเข้าสักการะได้ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2562 – 5 มกราคม 2563 เวลา 09.00 - 16.00 น.ทุกวัน