หลายคนคงรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของภูกระดึงเป็นอย่างดี หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นผู้พิชิตภูกระดึงสักครั้ง รวมถึงเราด้วยสักครั้งนึงนะอยากไปลองดูว่าภูกระดึงจะสวยอย่างที่เค้าว่ามั้ย จะเหนื่อยขาลากอย่างที่เค้าขู่กันหรือเปล่า บอกก่อนเลยทริปนี้เป็นการเดินขึ้นเขาครั้งแรก ที่ตื่นเต้นสุดเป็นทริปที่ไปเที่ยวกับแฟนครั้งแรก ไม่รู้ตกลงกันยังไงไปภูกระดึงกันเฉย นึกว่าเป็นทริปพิสูจน์รักแท้เลยครับ 555+ ทริปนี้วางแพลนไว้ 3 วัน 2 คืน
ทริปนี้เราไปวันที่ 10-12 มกราคม 2562
รายละเอียดข้อแนะและการเตรียมตัว
1.ฟิตร่างกายสักหน่อยอาจจะลองเดินไกลๆหรือวิ่งเบาๆ
2.เตรียมเงินไปเยอะๆ555 เพราะของกินมีทุกซำ
3.ไฟฉาย เอาไว้เดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้น/ตก แต่ว่าใช้ไฟโทรศัพท์ก็ได้
4.รองเท้าผ้าใบควรเป็นคู่ที่เคยใส่บ่อยๆ และรองเท้าแตะเอาไว้ใส่พักเท้าด้านบนภูกับใส่ไปเข้าห้องน้ำ
5.ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด กิน ทาหรือสเปรย์ อันนี้สำคัญมากช่วยได้เยอะ
6.สเปรย์กันทากกันยุง
7.แนะนำถ้าไม่อยากเจอคนเยอะๆอย่าไปช่วงหยุดยาว
8.เต็นท์ยังไม่สามารถจองออนไลน์ได้จองได้เฉพาะบ้านพักกับเครื่องนอน ไม่ต้องกลัวว่าจะเต็มเพราะของร้านค้าก็มีให้เช่าราคาเท่าๆกัน
ระยะทางขึ้นเขา
**ระยะทางขึ้นเขา 9 กม. ขึ้นเขา 5.5 กม. ทางราบ 3.5 กม.**
อัตราค่าบริการ
-ค่าเข้าอุทยาน คนล่ะ 40 บาท
-ค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คืน/คน
-ราคาเต็นท์ 2-3 คน 225 บาท/คืน
-ค่าประกันคนล่ะ 10 บาท
-ค่าจ้างลูกหาบกิโลล่ะ 30 บาท
-หมอน ใบละ 10 บาท/คืน
-แผ่นรองนอน 20 บาท/คืน
-ถุงนอน 30 บาท/คืน
-ผ้าห่มใหญ่ 50 บาท/คืน เล็ก30บาท/คืน
-จักรยานล้อเล็ก 360 บาทล้อโต 410 บาท
สัญญานโทรศัพท์มีทุกเครือข่าย การชาร์ตแบตสามารถชาร์จได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเสียค่าบริการครั้งล่ะ 20 บาท
พาวเวอร์แบงค์ 40 บาท ร้านค้าชาร์จฟรี
ฤดูกาลเปิด เริ่ม1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม เริ่มขึ้น 07.00น. ไม่อนุญาติให้ขึ้นและลงหลัง 14.00 น.
➡️อยากไปดูน้ำตก ทะเลหมอก ธรรมชาติสีเขียว ไปเดือนต.ค.-พ.ย.
➡️อยากไปดูใบเมเปิ้ลแดง อากาศหนาวๆ ไปเดือน ธ.ค.-ม.ค.
➡️อยากไปดูดอกไม้ ล่าทางช้างเผือก ไปเดือน ก.พ.-พ.ค.
การเดินทางมาภูกระดึง
มาได้หลายวิธี
1.รถส่วนตัว ที่ทำการมีที่จอดรถ มีลานกางเต็นท์
2.เหมารถตู้ กรณีมาหลายๆคนคุ้ม
3.รถทัวร์อันนี้สะดวกดี มีตั้งแต่รอบ 2ทุ่มถึง 4ทุ่มแนะนำรอบดึกสุดจะถึงเช้ามืดพอดี โดยเราจะตีตั๋วไปลงที่ผานกเค้า มีรถหลายบริษัท เช่น บขส.999 ซันบัส ภูกระดึงทัวร์ แอร์เมืองเลย ชุมแพ อันนี้ไม่แน่ใจว่าเจ้าไหนดีสุดนะ ทริปนี้เราขึ้นของซันบัสก็โอเคนะ แนะนำเป็นรถVIP24ที่นั่งจะนั่งสบายกว่า ราคา600กว่าบาท เมื่อถึงผานกเค้าแล้ว ต่อรถแดงเข้าอุทยาน
4.เครื่องบิน สามารถบินมาลงที่สนามบินเลยและสนามบินขอนแก่น แนะนำสนามบินเลยครับใกล้กว่าขามาแนะนำไฟท์เช้าสุด 9 โมงถ้าเป็นรอบเที่ยงจะไม่ทัน ถึงสนามบินเดินข้ามฝั่งจากสนามบินมารอรถอีกฝั่ง รถจะมาทุก30นาที เป็นรถทัวร์ เลย-ขอนแก่น มาลงที่เสงี่ยมฟาร์มหรือตลาดภูกระดึง แล้วต่อรถแดงเข้าอุทยาน ส่วนขากลับจองไฟท์ เย็นแนะนำเป็นรอบ 4โมงเย็นกับ6โมงเย็น แล้วลงจากภูแต่เช้าจะทันเวลาแบบไม่ต้องรีบ
การเดินทางของเราทริปนี้ขาไป
เดินทางโดยรถทัวร์ของ Sunbus รอบ 22.00 น. เป็นรถVIP24ที่นั่ง ราคา600กว่าบาท ขึ้นรถที่หมอชิต ไปลงที่ผานกเค้า สำหรับรถของsunbusโดยรวมก็โอเคนะ ที่นั่งกว้างนั่งสบาย มีจอทีวีส่วนตัว มีที่ชาร์ตแบต แอร์เย็นใช้เวลาเดิน7ชั่วโมง ถึงผานกเค้าประมาณ 05.00 น.
วันนั้นที่ไปรถไม่ได้ไปจอดที่ร้านเจ๊กิมแต่เป็นร้านค้าอยู่ไม่ไกลจากร้านเจ๊กิม น่าจะเป็นจุดจอดรถของSunbus แต่ที่นี่มีห้องน้ำสะอาดด้วย มีที่ล้างหน้าแปรงฟัน มีอาหารตามสั่งด้วยนะ มาถึงก็ทำการล้างหน้าแปรงฟัน แต่ไม่ได้อาบน้ำเพราะหนาวมาก 555+
ไม่ต้องเดินไปตรงร้านเจ๊กิมนะ เพราะมีรถแดงมาจอดรอ คนล่ะ 30 บาท/10คน ส่วนรถเจ้าอื่นน่าจะจอดตรงร้านเจ๊กิม เดินข้ามฝั่งมามีรถแดงเหมือนกัน ราคาเท่ากันคนล่ะ 30 บาท/10คน ถ้าไม่ถึงสามารถเหมาไปได้ในราคาเที่ยวล่ะ 300 บาท ส่วนขากลับคนที่ขึ้นรถทัวร์สามารถซื้อตั๋วตรงร้านเจ๊กิมได้เลย
นั่งรถแดงมาประมาณ 30 นาทีได้มั้ง ผ่านประตูเข้าอุทยานเสียคนล่ะ 40 บาท
จากนั้นก็มารอที่ทำการเปิด เวลา 07.00น. อ่อบริเวณที่ทำการมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำด้วยนะ ด้านหลังมีร้านข้าวแกง ร้านอาหารมีหลายร้าน
ใครจะเตรียมเสบียง หรือว่าลืมของใช้สามารถซื้อได้เลยของจะถูกกว่าข้างบน
ส่วนการจองเต็นท์ ก็จะมีป้ายบอกตามช่อง 1234
ช่อง1.คนที่จองผ่านระบบออนไลน์มา
ช่อง2.คนที่นำเต็นท์มาเองต้องเสียค่ากางคนล่ะ 30 บาท/คืน ส่วนคนที่เช่าเต็นท์อุทยานก็ต้องเสียเหมือนกัน เว้นแต่คนที่จองบ้านพักไม่ต้องเสีย
ช่อง 3,4. คือจองเต็นท์
**ข้างล่างเราจะจองเฉพาะเต็นท์และพื้นที่กางเต็นท์ส่วนเครื่องนอนไปจองด้านบน
อีกช่องนึงจะมีเสียค่าประกันด้วย อันนี้ทำก้ได้ไม่ทำก็ได้แต่แนะนำว่าทำไปเถอะแค่คนล่ะ 10 บาท แล้วถ่ายรูปใบค่าเข้าอุทยานกับใบทำประกันคู่กันไว้ด้วยนะ
ส่วนใครที่อยากจองบ้านพัก บนภูไม่ได้มีแค่เต็นท์อย่างเดียวนะ เวปจอง
http://nps.dnp.go.th/parks.php
แนะนำอีกอย่างถ้าอยากให้กระเป๋าถึงเร็วๆให้นำกระเป๋าไปชั่งน้ำหนักก่อนแล้วค่อยมาจองเต็นท์ เพราะวิธีนี้ผมลองมาแล้วกระเป๋าขึ้นไปถึงล๊อตแรกเลย ซึ่งวันที่ผมไปผมไปถึงบนภูประมาณ 13.00น. ลูกหาบแบกขึ้นมาถึงประมาณ 15.00 น. ได้นะ ซึ่งถ้ามัวแต่ต่อแถวจองเต็นท์กว่าจะไปชั่งน้ำหนักกระเป๋าอีกจะใช้เวลานาน แต่ถ้ามาหลายๆคนแบ่งคนเลยก็ได้ครับ จองเต็นท์คนนึงต่อแถวชั่งกระเป๋าคนนนึงจะไวครับ
ก่อนขึ้นจะมีค่ามัดจำขยะด้วยนะ เช่นเราถือขวดน้ำไป2ขวด ขาลงมาเราก็ต้องถือลงมา 2ขวด
ก่อนขึ้นทางด้านขวามือจะมีศาลพ่อปูภูกระดึง และพระพุทธรูป แวะไหว้ขอพรก่อนขึ้นภูให้เดินทางโดยปลอดภัย
พร้อมลุย มาฮะ จะขาลากหรือไม่ลาก 55555
การเดินขึ้นภูกระดึงไม่อนุญาติให้ขึ้นหลัง 14.00 น. นะครับเผื่อใครขับรถมาเองหรือว่านั่งเครื่องมาเผื่อเวลากันด้วยน้า
ก่อนขึ้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจบัตรเข้าอุทยาน แล้วก็ลงชื่อให้เรียบร้อยก่อนขึ้นนะ
เดินเข้าไปด้านหลังจะมีไม้เท้า ผู้พิชิต ถือไปด้วยมันช่วยเราได้นะ แต่ตอนขึ้นไม่ได้ใช้กลัวว่าจะเป็นภาระ 5555
ผมกับแฟนเดินขึ้นประมาณแปดโมงกว่าๆได้นะ บอกกันว่าค่อยๆเดินไม่ต้องรีบเหนื่อยก็พัก
เส้นทางเดินขึ้นภู อุทยานศรีฐาน->ปากกกค่า->ซำแฮก->ซำบอน->ซำกกกอก->ซำกอซาง->พร่านพรานแป->ซำกกหว้า->ซำกกไผ่->ซำกกโดน->ซำแคร่->หลังแป ระยะทางขึ้นก่อนขึ้นหลังแป 5.5 กม. หลังแป 3.5 กม.(ทางราบเดินสบาย)
เย้ ถึงแล้วซำแฮก หอบแฮกๆสมชื่อ 5555 บอกเลยว่าซำแรกห้ามรีบเดินนะ จะบอกว่าซำแรก 1 กิโล เป็นซำที่เหนื่อยสุด ทางค่อนข้างชันตลอด ก่อนขึ้นอย่าลืมพกน้ำมาสักขวดเด้อ แต่หลังซำแฮกไปแล้วเดินสบาย มีชันเป็นบางช่วง ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไรหรืออาจจะเป็นเพราะร่างกายเราน่าจะเริ่มปรับตัวได้นะ ทางช่วงแรกจะเป็นต้นไม้แห้ง ค่อนข้างร้อนนิดหน่อย
เค้าบอกว่าขึ้นมาซำนี้ต้องกินแตงโม จัดไป1เสี้ยว 10 บาท ชื่นใจมาก ต่อด้วยสปอนเซอร์อีกขวด 555+
ของขายหลักๆจะเป็นพวกเครื่องดื่ม ผลไม้ พวกแตงโม สัปประรัด น้ำมะพร้าว ผลไม้ดอง ผลไม้เปรี้ยวๆก็มี อาหารตามสั่ง โอ้ยเยอะแยะเลย
แค่มีตังไปอย่างเดียว แนะนำพกไปเยอะๆสบาย 5555 ราคาอาหารตามสั่งจะเพิ่มขึ้นตามความสูงด้วยนะ
พี่ๆลูกหาบฟิตกันมากฮะ ไปก่อนเลยพี่ ผมไม่รีบ 5555
พักเหนื่อยสักพัก เดินต่อฮะซำบอน ทางไม่ชันมากแล้ว เดินชิลหน่อย 5555
ระหว่างทางเราก็จะเจอต้นไม้ใหญ่ จะร้อนอยู่ซำแรกๆ ซำหลังๆมีร่มทางไม่ชันเดินสบายๆ ระหว่างเดินก็ถามคนข้างๆด้วยนะว่าไหวหรือเปล่า อิอิ ไม่ต้องรีบเดินขึ้นหรอกเชื่อผม เก็บแรงไว้เดินเที่ยวข้างบน ^^ หลายคนกังวลว่า ถ้าปวดฉี่ ปวดขี้จะทำยังไงไม่ต้องกลัวครับเพราะว่าทุกซำมีห้องน้ำให้เราเข้า
ทางร่มแล้ว อากาศไม่ร้อนมาก
พี่ลูกหาบแข็งแกร่งมาก อย่างพี่คนนี้แบก80กิโล เราเดินขึ้นตัวเปล่ายังเหนื่อยเลย 555
เมื่อผ่านซำต่างๆมาแล้ว จนมาถึงบันไดลิง เป็นสัญญานบอกว่า เราใกล้จะถึงหลังแปแล้วเว้ย เป็นความรู้สึกแบบดีใจมาก แต่กว่าจะถึงก็ขึ้นบันไดเอาแย่เหมือนกัน 555 จะมีช่วงสุดท้ายชันมากเกือบ 90 องศา คือตัวเองเดินตัวเปล่าขึ้นก็ว่ายากแล้ว นึกถึงลูกหาบแบกขึ้นบันไดนี่อื้อหือ ยอมเลย
ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วหลังแป สุดยอดบอกตัวเอง 5555 เป็นความรู้ที่โคตรดีใจเลยตอนนั้น ถามว่าเหนื่อยไหมก็เหนื่อยนะ แต่ก็ไม่ได้เหนื่อยมากเท่าไร
แต่ถึงป้ายนี้ไม่ใช่ว่าถึงที่กางเต็นท์แล้วนะ ยังจ้า ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 3.5 กม.แต่เป็นทางเรียบแล้ว โอ้ยสบายมากขอบอก
ตรงที่ทำการ จะมีเมเปิ้ลต้นนึง สวยมาก สวยเด่นอยู่ต้นเดียว เดินขึ้นมาถึงจะเห็นพอดี เด่นเป็นสง่าอยู่ต้นเดียวเลย ตอนไปแดงเต็มต้นพอดี
กำลังเริ่มร่วง แวะถ่ายรูปสักหน่อย แลนางจะชอบมากด้วย กดไปสิบกว่าภาพเฉพาะมุมต้นเมเปิ้ล 5555
สวยเลย ชอบๆ จริงๆแต่ละปีใบเมเปิ้ลจะแดงช่วงปลายธันวาคม-ต้นมกราคม ยังไงติดตามที่เพจอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เพราะจนท.จะมีการอัพเดพตลอดครับ
ไปต่อฮะ ทางราบเรียบ ชิลๆไปเด้
จะมีต้นสนต้นนึงเป็นไฮไลท์ขึ้นอยู่กลางทาง ใครมาก็ต้องถ่ายภาพกับต้นนี้ แต่มันก็เด่นจริงนะ ขึ้นอยู่กลางทางเลย จะมี2 ที่
ขึ้นเดี่ยวๆต้นนึง กับที่อีกนึงจะขึ้นคู่กัน
ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมงเต็มๆ จากด้านล่าง เดินขึ้นมาแบบไม่รีบ พักทุกซำ 5555
ขึ้นมาก็จัดการเอาใบจองเต็นท์จากด้านล่างมายื่น เลือกเต็นท์ โดยจนท.จะยืดบัตรปชช.ไว้วันกลับค่อยมารับคืน
เช้าอุปกรณ์ เครื่องนอน
-หมอน ใบละ 10 บาท/คืน
-แผ่นรองนอน 20 บาท/คืน
-ถุงนอน 30 บาท/คืน
-ผ้าห่มใหญ่ 50 บาท/คืน เล็ก30บาท/คืน
ตรงนี้ที่ทำการสามารถฝากชาร์ตแบตได้ เสียบริการ
-โทรศัพท์ครั้งล่ะ 20 บาท
-กล้อง 20 บาท
-พาวเวอร์แบงค์ 40
-แต่แนะนำชาร์ตที่ร้านค้าฟรี
เช่าเครื่องนอนเสร็จก็นอนรอกระเป๋า เตรียมตัวอาบน้ำไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก กระเป๋ามาถึงประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆได้
ขึ้นมาเป็นล๊อตแรกเลย บางคนล๊อตหลังๆนี่ถึงมืดก็มี
[CR] รีวิวภูกระดึง 3 วัน 2 คืน แบบละเอียด
หลายคนคงรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของภูกระดึงเป็นอย่างดี หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นผู้พิชิตภูกระดึงสักครั้ง รวมถึงเราด้วยสักครั้งนึงนะอยากไปลองดูว่าภูกระดึงจะสวยอย่างที่เค้าว่ามั้ย จะเหนื่อยขาลากอย่างที่เค้าขู่กันหรือเปล่า บอกก่อนเลยทริปนี้เป็นการเดินขึ้นเขาครั้งแรก ที่ตื่นเต้นสุดเป็นทริปที่ไปเที่ยวกับแฟนครั้งแรก ไม่รู้ตกลงกันยังไงไปภูกระดึงกันเฉย นึกว่าเป็นทริปพิสูจน์รักแท้เลยครับ 555+ ทริปนี้วางแพลนไว้ 3 วัน 2 คืน
ทริปนี้เราไปวันที่ 10-12 มกราคม 2562
รายละเอียดข้อแนะและการเตรียมตัว
1.ฟิตร่างกายสักหน่อยอาจจะลองเดินไกลๆหรือวิ่งเบาๆ
2.เตรียมเงินไปเยอะๆ555 เพราะของกินมีทุกซำ
3.ไฟฉาย เอาไว้เดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้น/ตก แต่ว่าใช้ไฟโทรศัพท์ก็ได้
4.รองเท้าผ้าใบควรเป็นคู่ที่เคยใส่บ่อยๆ และรองเท้าแตะเอาไว้ใส่พักเท้าด้านบนภูกับใส่ไปเข้าห้องน้ำ
5.ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด กิน ทาหรือสเปรย์ อันนี้สำคัญมากช่วยได้เยอะ
6.สเปรย์กันทากกันยุง
7.แนะนำถ้าไม่อยากเจอคนเยอะๆอย่าไปช่วงหยุดยาว
8.เต็นท์ยังไม่สามารถจองออนไลน์ได้จองได้เฉพาะบ้านพักกับเครื่องนอน ไม่ต้องกลัวว่าจะเต็มเพราะของร้านค้าก็มีให้เช่าราคาเท่าๆกัน
ระยะทางขึ้นเขา
**ระยะทางขึ้นเขา 9 กม. ขึ้นเขา 5.5 กม. ทางราบ 3.5 กม.**
อัตราค่าบริการ
-ค่าเข้าอุทยาน คนล่ะ 40 บาท
-ค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คืน/คน
-ราคาเต็นท์ 2-3 คน 225 บาท/คืน
-ค่าประกันคนล่ะ 10 บาท
-ค่าจ้างลูกหาบกิโลล่ะ 30 บาท
-หมอน ใบละ 10 บาท/คืน
-แผ่นรองนอน 20 บาท/คืน
-ถุงนอน 30 บาท/คืน
-ผ้าห่มใหญ่ 50 บาท/คืน เล็ก30บาท/คืน
-จักรยานล้อเล็ก 360 บาทล้อโต 410 บาท
สัญญานโทรศัพท์มีทุกเครือข่าย การชาร์ตแบตสามารถชาร์จได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเสียค่าบริการครั้งล่ะ 20 บาท
พาวเวอร์แบงค์ 40 บาท ร้านค้าชาร์จฟรี
ฤดูกาลเปิด เริ่ม1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม เริ่มขึ้น 07.00น. ไม่อนุญาติให้ขึ้นและลงหลัง 14.00 น.
➡️อยากไปดูน้ำตก ทะเลหมอก ธรรมชาติสีเขียว ไปเดือนต.ค.-พ.ย.
➡️อยากไปดูใบเมเปิ้ลแดง อากาศหนาวๆ ไปเดือน ธ.ค.-ม.ค.
➡️อยากไปดูดอกไม้ ล่าทางช้างเผือก ไปเดือน ก.พ.-พ.ค.
การเดินทางมาภูกระดึง
มาได้หลายวิธี
1.รถส่วนตัว ที่ทำการมีที่จอดรถ มีลานกางเต็นท์
2.เหมารถตู้ กรณีมาหลายๆคนคุ้ม
3.รถทัวร์อันนี้สะดวกดี มีตั้งแต่รอบ 2ทุ่มถึง 4ทุ่มแนะนำรอบดึกสุดจะถึงเช้ามืดพอดี โดยเราจะตีตั๋วไปลงที่ผานกเค้า มีรถหลายบริษัท เช่น บขส.999 ซันบัส ภูกระดึงทัวร์ แอร์เมืองเลย ชุมแพ อันนี้ไม่แน่ใจว่าเจ้าไหนดีสุดนะ ทริปนี้เราขึ้นของซันบัสก็โอเคนะ แนะนำเป็นรถVIP24ที่นั่งจะนั่งสบายกว่า ราคา600กว่าบาท เมื่อถึงผานกเค้าแล้ว ต่อรถแดงเข้าอุทยาน
4.เครื่องบิน สามารถบินมาลงที่สนามบินเลยและสนามบินขอนแก่น แนะนำสนามบินเลยครับใกล้กว่าขามาแนะนำไฟท์เช้าสุด 9 โมงถ้าเป็นรอบเที่ยงจะไม่ทัน ถึงสนามบินเดินข้ามฝั่งจากสนามบินมารอรถอีกฝั่ง รถจะมาทุก30นาที เป็นรถทัวร์ เลย-ขอนแก่น มาลงที่เสงี่ยมฟาร์มหรือตลาดภูกระดึง แล้วต่อรถแดงเข้าอุทยาน ส่วนขากลับจองไฟท์ เย็นแนะนำเป็นรอบ 4โมงเย็นกับ6โมงเย็น แล้วลงจากภูแต่เช้าจะทันเวลาแบบไม่ต้องรีบ
การเดินทางของเราทริปนี้ขาไป
เดินทางโดยรถทัวร์ของ Sunbus รอบ 22.00 น. เป็นรถVIP24ที่นั่ง ราคา600กว่าบาท ขึ้นรถที่หมอชิต ไปลงที่ผานกเค้า สำหรับรถของsunbusโดยรวมก็โอเคนะ ที่นั่งกว้างนั่งสบาย มีจอทีวีส่วนตัว มีที่ชาร์ตแบต แอร์เย็นใช้เวลาเดิน7ชั่วโมง ถึงผานกเค้าประมาณ 05.00 น.
วันนั้นที่ไปรถไม่ได้ไปจอดที่ร้านเจ๊กิมแต่เป็นร้านค้าอยู่ไม่ไกลจากร้านเจ๊กิม น่าจะเป็นจุดจอดรถของSunbus แต่ที่นี่มีห้องน้ำสะอาดด้วย มีที่ล้างหน้าแปรงฟัน มีอาหารตามสั่งด้วยนะ มาถึงก็ทำการล้างหน้าแปรงฟัน แต่ไม่ได้อาบน้ำเพราะหนาวมาก 555+
ไม่ต้องเดินไปตรงร้านเจ๊กิมนะ เพราะมีรถแดงมาจอดรอ คนล่ะ 30 บาท/10คน ส่วนรถเจ้าอื่นน่าจะจอดตรงร้านเจ๊กิม เดินข้ามฝั่งมามีรถแดงเหมือนกัน ราคาเท่ากันคนล่ะ 30 บาท/10คน ถ้าไม่ถึงสามารถเหมาไปได้ในราคาเที่ยวล่ะ 300 บาท ส่วนขากลับคนที่ขึ้นรถทัวร์สามารถซื้อตั๋วตรงร้านเจ๊กิมได้เลย
นั่งรถแดงมาประมาณ 30 นาทีได้มั้ง ผ่านประตูเข้าอุทยานเสียคนล่ะ 40 บาท
จากนั้นก็มารอที่ทำการเปิด เวลา 07.00น. อ่อบริเวณที่ทำการมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำด้วยนะ ด้านหลังมีร้านข้าวแกง ร้านอาหารมีหลายร้าน
ใครจะเตรียมเสบียง หรือว่าลืมของใช้สามารถซื้อได้เลยของจะถูกกว่าข้างบน
ส่วนการจองเต็นท์ ก็จะมีป้ายบอกตามช่อง 1234
ช่อง1.คนที่จองผ่านระบบออนไลน์มา
ช่อง2.คนที่นำเต็นท์มาเองต้องเสียค่ากางคนล่ะ 30 บาท/คืน ส่วนคนที่เช่าเต็นท์อุทยานก็ต้องเสียเหมือนกัน เว้นแต่คนที่จองบ้านพักไม่ต้องเสีย
ช่อง 3,4. คือจองเต็นท์
**ข้างล่างเราจะจองเฉพาะเต็นท์และพื้นที่กางเต็นท์ส่วนเครื่องนอนไปจองด้านบน
อีกช่องนึงจะมีเสียค่าประกันด้วย อันนี้ทำก้ได้ไม่ทำก็ได้แต่แนะนำว่าทำไปเถอะแค่คนล่ะ 10 บาท แล้วถ่ายรูปใบค่าเข้าอุทยานกับใบทำประกันคู่กันไว้ด้วยนะ
ส่วนใครที่อยากจองบ้านพัก บนภูไม่ได้มีแค่เต็นท์อย่างเดียวนะ เวปจองhttp://nps.dnp.go.th/parks.php
แนะนำอีกอย่างถ้าอยากให้กระเป๋าถึงเร็วๆให้นำกระเป๋าไปชั่งน้ำหนักก่อนแล้วค่อยมาจองเต็นท์ เพราะวิธีนี้ผมลองมาแล้วกระเป๋าขึ้นไปถึงล๊อตแรกเลย ซึ่งวันที่ผมไปผมไปถึงบนภูประมาณ 13.00น. ลูกหาบแบกขึ้นมาถึงประมาณ 15.00 น. ได้นะ ซึ่งถ้ามัวแต่ต่อแถวจองเต็นท์กว่าจะไปชั่งน้ำหนักกระเป๋าอีกจะใช้เวลานาน แต่ถ้ามาหลายๆคนแบ่งคนเลยก็ได้ครับ จองเต็นท์คนนึงต่อแถวชั่งกระเป๋าคนนนึงจะไวครับ
ก่อนขึ้นจะมีค่ามัดจำขยะด้วยนะ เช่นเราถือขวดน้ำไป2ขวด ขาลงมาเราก็ต้องถือลงมา 2ขวด
ก่อนขึ้นทางด้านขวามือจะมีศาลพ่อปูภูกระดึง และพระพุทธรูป แวะไหว้ขอพรก่อนขึ้นภูให้เดินทางโดยปลอดภัย
พร้อมลุย มาฮะ จะขาลากหรือไม่ลาก 55555
การเดินขึ้นภูกระดึงไม่อนุญาติให้ขึ้นหลัง 14.00 น. นะครับเผื่อใครขับรถมาเองหรือว่านั่งเครื่องมาเผื่อเวลากันด้วยน้า
ก่อนขึ้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจบัตรเข้าอุทยาน แล้วก็ลงชื่อให้เรียบร้อยก่อนขึ้นนะ
เดินเข้าไปด้านหลังจะมีไม้เท้า ผู้พิชิต ถือไปด้วยมันช่วยเราได้นะ แต่ตอนขึ้นไม่ได้ใช้กลัวว่าจะเป็นภาระ 5555
ผมกับแฟนเดินขึ้นประมาณแปดโมงกว่าๆได้นะ บอกกันว่าค่อยๆเดินไม่ต้องรีบเหนื่อยก็พัก
เส้นทางเดินขึ้นภู อุทยานศรีฐาน->ปากกกค่า->ซำแฮก->ซำบอน->ซำกกกอก->ซำกอซาง->พร่านพรานแป->ซำกกหว้า->ซำกกไผ่->ซำกกโดน->ซำแคร่->หลังแป ระยะทางขึ้นก่อนขึ้นหลังแป 5.5 กม. หลังแป 3.5 กม.(ทางราบเดินสบาย)
เย้ ถึงแล้วซำแฮก หอบแฮกๆสมชื่อ 5555 บอกเลยว่าซำแรกห้ามรีบเดินนะ จะบอกว่าซำแรก 1 กิโล เป็นซำที่เหนื่อยสุด ทางค่อนข้างชันตลอด ก่อนขึ้นอย่าลืมพกน้ำมาสักขวดเด้อ แต่หลังซำแฮกไปแล้วเดินสบาย มีชันเป็นบางช่วง ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไรหรืออาจจะเป็นเพราะร่างกายเราน่าจะเริ่มปรับตัวได้นะ ทางช่วงแรกจะเป็นต้นไม้แห้ง ค่อนข้างร้อนนิดหน่อย
เค้าบอกว่าขึ้นมาซำนี้ต้องกินแตงโม จัดไป1เสี้ยว 10 บาท ชื่นใจมาก ต่อด้วยสปอนเซอร์อีกขวด 555+
ของขายหลักๆจะเป็นพวกเครื่องดื่ม ผลไม้ พวกแตงโม สัปประรัด น้ำมะพร้าว ผลไม้ดอง ผลไม้เปรี้ยวๆก็มี อาหารตามสั่ง โอ้ยเยอะแยะเลย
แค่มีตังไปอย่างเดียว แนะนำพกไปเยอะๆสบาย 5555 ราคาอาหารตามสั่งจะเพิ่มขึ้นตามความสูงด้วยนะ
พี่ๆลูกหาบฟิตกันมากฮะ ไปก่อนเลยพี่ ผมไม่รีบ 5555
พักเหนื่อยสักพัก เดินต่อฮะซำบอน ทางไม่ชันมากแล้ว เดินชิลหน่อย 5555
ระหว่างทางเราก็จะเจอต้นไม้ใหญ่ จะร้อนอยู่ซำแรกๆ ซำหลังๆมีร่มทางไม่ชันเดินสบายๆ ระหว่างเดินก็ถามคนข้างๆด้วยนะว่าไหวหรือเปล่า อิอิ ไม่ต้องรีบเดินขึ้นหรอกเชื่อผม เก็บแรงไว้เดินเที่ยวข้างบน ^^ หลายคนกังวลว่า ถ้าปวดฉี่ ปวดขี้จะทำยังไงไม่ต้องกลัวครับเพราะว่าทุกซำมีห้องน้ำให้เราเข้า
ทางร่มแล้ว อากาศไม่ร้อนมาก
พี่ลูกหาบแข็งแกร่งมาก อย่างพี่คนนี้แบก80กิโล เราเดินขึ้นตัวเปล่ายังเหนื่อยเลย 555
เมื่อผ่านซำต่างๆมาแล้ว จนมาถึงบันไดลิง เป็นสัญญานบอกว่า เราใกล้จะถึงหลังแปแล้วเว้ย เป็นความรู้สึกแบบดีใจมาก แต่กว่าจะถึงก็ขึ้นบันไดเอาแย่เหมือนกัน 555 จะมีช่วงสุดท้ายชันมากเกือบ 90 องศา คือตัวเองเดินตัวเปล่าขึ้นก็ว่ายากแล้ว นึกถึงลูกหาบแบกขึ้นบันไดนี่อื้อหือ ยอมเลย
ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วหลังแป สุดยอดบอกตัวเอง 5555 เป็นความรู้ที่โคตรดีใจเลยตอนนั้น ถามว่าเหนื่อยไหมก็เหนื่อยนะ แต่ก็ไม่ได้เหนื่อยมากเท่าไร
แต่ถึงป้ายนี้ไม่ใช่ว่าถึงที่กางเต็นท์แล้วนะ ยังจ้า ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 3.5 กม.แต่เป็นทางเรียบแล้ว โอ้ยสบายมากขอบอก
ตรงที่ทำการ จะมีเมเปิ้ลต้นนึง สวยมาก สวยเด่นอยู่ต้นเดียว เดินขึ้นมาถึงจะเห็นพอดี เด่นเป็นสง่าอยู่ต้นเดียวเลย ตอนไปแดงเต็มต้นพอดี
กำลังเริ่มร่วง แวะถ่ายรูปสักหน่อย แลนางจะชอบมากด้วย กดไปสิบกว่าภาพเฉพาะมุมต้นเมเปิ้ล 5555
สวยเลย ชอบๆ จริงๆแต่ละปีใบเมเปิ้ลจะแดงช่วงปลายธันวาคม-ต้นมกราคม ยังไงติดตามที่เพจอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เพราะจนท.จะมีการอัพเดพตลอดครับ
ไปต่อฮะ ทางราบเรียบ ชิลๆไปเด้
จะมีต้นสนต้นนึงเป็นไฮไลท์ขึ้นอยู่กลางทาง ใครมาก็ต้องถ่ายภาพกับต้นนี้ แต่มันก็เด่นจริงนะ ขึ้นอยู่กลางทางเลย จะมี2 ที่
ขึ้นเดี่ยวๆต้นนึง กับที่อีกนึงจะขึ้นคู่กัน
ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมงเต็มๆ จากด้านล่าง เดินขึ้นมาแบบไม่รีบ พักทุกซำ 5555
ขึ้นมาก็จัดการเอาใบจองเต็นท์จากด้านล่างมายื่น เลือกเต็นท์ โดยจนท.จะยืดบัตรปชช.ไว้วันกลับค่อยมารับคืน
เช้าอุปกรณ์ เครื่องนอน
-หมอน ใบละ 10 บาท/คืน
-แผ่นรองนอน 20 บาท/คืน
-ถุงนอน 30 บาท/คืน
-ผ้าห่มใหญ่ 50 บาท/คืน เล็ก30บาท/คืน
ตรงนี้ที่ทำการสามารถฝากชาร์ตแบตได้ เสียบริการ
-โทรศัพท์ครั้งล่ะ 20 บาท
-กล้อง 20 บาท
-พาวเวอร์แบงค์ 40
-แต่แนะนำชาร์ตที่ร้านค้าฟรี
เช่าเครื่องนอนเสร็จก็นอนรอกระเป๋า เตรียมตัวอาบน้ำไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก กระเป๋ามาถึงประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆได้
ขึ้นมาเป็นล๊อตแรกเลย บางคนล๊อตหลังๆนี่ถึงมืดก็มี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น