มีวิธีรับมืออย่างไร? กับปัญหาที่พ่อและแม่ หย่าร้างต่างคนก็มีคนใหม่

สวัสดีค่ะ อยากปรึกษาและก็อยากระบายความรู้สึกตอนนี้ คือพ่อกับแม่หนูแยกทางกันตั้งแต่หนูและพี่ชายยังเล็กๆ อยู่ ตลอดเวลาที่เติบโต หนูรับรู้ที่พ่อและแม่ ต่างมีพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงมาโดยตลอด ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุนี้หรือป่าวที่สะสมเป็นแผลในใจจนทุกวันนี้ เหตุการณ์ที่หนูจำได้และเจ็บปวดมาตลอดคือแม่มีแฟนใหม่ ตอนนั้นหนูอยู่สัก ม.1 รับไม่ได้เลย นอนร้องไห้ตลอด เจอหน้าแม่ก็เดินหนี ไม่พูดจาด้วยนานมาก จนถึงน้าได้แต่งงานแล้วน้ายายไปอยู่ต่างจังหวัด เลยทำให้หนูต้องย้ายมาอยู่กับยายก็พอให้ทำใจได้ เพราะยายสอนตลอดว่าแม่ยังไงก็คือแม่ หนูก็ไม่คิดโกรธอะไรแล้ว ตัดภาพมาตอนหนูเรียน ม.3 พ่อติดต่อแม่มาให้ไปจดทะเบียนหย่า ตอนนั้นก็คิดทำใจไว้แล้วเพราะพ่อแม่แยกทางกันนานแล้ว ต่างฝ่ายต่างมีหนี้สิน แต่ในวันนั้นทุกอย่างพ่อเป็นคนกรอกเอกสาร คือยกให้หนูกับพี่ชายอยู่ในความรับผิดชอบของแม่ ส่วนค่าเลี้ยงดูต่อเดือนไม่มีสักบาท (พึ่งมารู้ทีหลังตอนแม่เล่าให้ฟัง) ภาพความจำที่หนูพยายามอยู่ใกล้พ่อและแม่มากที่สุด กลับเป็นภาพที่แม่ดึงหนูออกจากพ่อ ในใจหนูเสียใจมากแต่ไม่มีน้ำตาสักหยด ตัดมาล่าสุดตอนนี้เรียนอนู่ปี.1 แล้ว พึ่งมารู้ความจริงจากยายคือพ่อแต่งงานใหม่ ตลอดระยะเวลาที่พ่อแต่งงานหนูติดต่อกับพ่อตลอดแต่ไม่รู้เรื่องนี้เลย การที่พึ่งได้รู้ความตริงมันทำให้ตอนนี้หนูเสียใจมาก ไม่รู้เสียใจเพราะพ่อไม่บอก เสียใจที่กลัวพ่อไม่รัก มันหลายความรู้สึกมากถึงแม้ คนที่พ่อแต่งงานใหม่ด้วยเจาช่วยพ่อเรื่องหนี้สินของพ่อในส่วนนี้หนูก็ขอบคุณ แต่ในส่วนความรู้สึกมันไม่สามารถที่จะอธิบายว่าจะยินดีกับพ่อหรือเสียใจ ทุกๆเหตุการณ์ที่ทั้งพ่อและแม่ ตัดสินใจในเหตุผลของท่าน หนูไม่รู้นะว่าพ่อกับแม่จะคิดถึงจิตใจของหนูยังไง แต่หนูก็ยังรักท่านเหมือนเดิม และก็เสียใจเหมือนเดิม ทุกๆคนที่มีปัญหาพ่อแม่แยกทางกัน รับมือกับเรื่องแบบนี่อย่างไร นอกจากทำใจกับให้เวลาสมานแผลในใจนี้ไป 
#เพิ่มเติม หนูกลัวเป็นโรคซึมเศร้าเพราะทุกครั้งที่หนูคิดเรื่องนี้ทำให้จิตใจหนูอ่อนแอมาก กลายเป็นคนที่หงุดหงิดอารมณ์ร้อนง่าย และจะร้องไห้ง่ายมากที่มีคนถามหรือพูดถึงพ่อแม่ ไม่ชอบเข้าสังคมหรือที่ๆคนแออัด หลีกเลี่ยงการเจอสังคมที่มาเป็นครอบครัว และมักไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำ 
ขอบคุณทุกคำแนะนำนะคะ หนูอาจไม่ได้เจาะลึกทุกรายละเอียดที่หนูเจอมา พ่อเลี้ยงทำร้ายทุบตีแม่บ้าง แม่เลี้ยงห้ามให้พ่อโอนเงินให้เราหรือติดต่อเรา (ทุกครั้งที่โอนจะเป็นชื่อเพื่อนพ่อที่ทำงานด้วยกัน หรือเบอร์โทรบริษัทที่โทรหาหนูแทน)
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เข้ามารับฟังและให้กำลังใจ จขกท ค่ะ

อารมณ์และความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ น่าจะมีส่วนทำให้น้อง จขกท มีอาการอย่างที่กล้าวถึงตอนท้าย อยู่ปีหนึ่งแล้ว ไปหาคุณหมอเองได้ หาเวลาไปนะคะ อย่างน้อยจะได้บอกเล่าความในใจให้คุณหมอรับฟังด้วย ซึ่งคุณหมออาจมีคำแนะนำที่มีประโยชน์ให้

เห็นใจ จขกท ค่ะ เพราะมันเหมือนมีคนมาแบ่งส่วนความรักของพ่อแม่ไปอีกหลายคน แต่หากพอทำใจมองในแง่ดีได้ อยากชวนน้องให้คิดอีกมุมหนึ่งค่ะ ว่าความจริงนั้น ความรักมีไม่จำกัด ไม่ว่าจะมีคนมาแบ่งเอาไปอีกกี่คน รักจากพ่อแม่ ยังเท่าเดิม สิ่งที่เป็นรูปธรรมกว่านั้น ที่อาจทำให้รู้สึกถูกแย่งหรือแบ่งความรักไป อาจคือเวลาและโอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกัน ย้ำอีกครั้งนะคะ ว่าพ่อแม่ไม่ได้รักน้องน้อยกว่าเดิม การแยกทางกันนั้น ท่านคงมีเหตุผลของท่าน แต่แม้กระนั้น น้องก็ยังมีบุญอยู่มากที่มีญาติผู้ใหญ่เลี้ยงดูมาจนทุกวันนี้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ทุกชีวิตมีโจทย์แตกต่างกันไป เชื่อไกมคะ ว่ามีหลายครอบครัวที่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าแต่ปราศจากความสุข หากพ่อแม่ของน้องไม่แยกกัน ครอบครัวของน้องก็อาจเป็นเช่นนั้นก็เป็นได้ คิดเสียว่า โจทย์ของชีวิตของตนเป็นแบบนี้ และไม่ว่าจะแบบไหน ทุกชีวิตก็ล้วนแต่มีสุขและทุกข์ปะปน ไม่มีหรอกนะคะ ที่การหย่าร้างของพ่อแม่ จะทำให้เกิดทุกข์อย่างเดียว เขียนมาทั้งหมดนี้ เพื่อหวังให้น้องอ่านเรื่องครอบครัวของตนใหม่ ด้วยการมองเห็นที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์กว่าเดิม ว่ารักของพ่อแม่ไม่น้อยลง อาจยากหน่อย แต่หากพอทำได้ น้องจะดำเนินชีวิตต่อไปได้ราบรื่น และมีความสุขขึ้น ชีวิตปัจจุบัน ต้องใช้แรงกายแรงใจมาก หากต้องแบกเรื่องนี้ไปสักครึ่ง เหลือใช้แค่ครึ่ง มันน่าจะทำให้ให้หน้าที่ของน้อง ในตอนนี้ นั่นคือการเรียน และการเล่นสนุกสมวัย ทำได้ไม่เต็มที่

ใกล้ปีใหม่แล้ว ความรู้สึกมากมายที่อยู่ในใจนั้น ขอให้มันจบไปกับปีเก่านี้ เริ่มปีใหม่ให้สดใส ด้วยการไปหาจิตแพทย์ อย่างน้อยเพื่อให้คุณหมอวินิจฉัยว่าป่วยหรือไม่ และจะช่วยเหลืออะไรน้องได้บ้าง

ชีวิตคนเรามีทุกข์สุขปะปน ยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จะพบว่าเป็นเรื่องปกติที่แทบทุกคนที่อยู่บนโลกและรอบตัวเรานี้ เราทุกคนมีบาดแผลคนละนิดละหน่อย และหรือบางคนอาจมาก แต่ทุกคนก็ดำรงชีวิตได้ ไม่มีหรอกนะคะ ชีวิตที่มีแต่ความสุข ความบันเทิงและเพลิดเพลิน เชื่อว่าน้อง จขกท ก็จะสามารถดำรงชีวิตตนเองได้เหมือนกับทุก ๆ คน

เอาใจช่วยให้สามารถปล่อยวางเรื่องครอบครัวลงได้ แม้อย่างน้อย ทีละน้อย เพื่อที่จะมีชีวิตที่มีความสุขและสดใสสมวัยขึ้นค่ะ มอบรัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่