ปัญหาคาใจนี้ เป็นเรื่องที่ดินมรดกของแม่ ซึ่งจะต้องเกี่ยวพันมาที่เราด้วย
แนะนำตัวละคร
ฉัน : เพศหญิง อายุเกือบจะหลักสี่ โสด อาชีพครู รับผิดชอบหนี้ของพ่อแม่ โดยการผ่อนสหกรณ์ครูไปเรื่อยๆ
แม่ : อายุ 70 ปี อาชีพ ดูแลลูก ดูแลบ้าน ได้รับเงินจากลูกเดือนละประมาณ 5 6 7 พัน แล้วแต่รายรับลูก และ จากที่ดินมรดก เดือนละไม่เกิน 7 พัน บาท
*** แนะนำตัวละครหลัก 2 คน ครบแระ***
ตอนที่ 1 ปฐมบทแห่งการจ่ายภาษี
เมื่อสิบกว่าปีก่อน แม่ได้รับที่ดินมรดก เป็นที่ดินเนื้อแปลงห แต่อยู่ในพื้นที่ ที่บังเอิญราคาแพ้งแพง ใช้การประมาณราคาจากชื่อถนน ที่หน่วยงานภาครัฐกำหนด ตกตารางวาละประมาณ 56,000 บาท คิดมูลค่าแล้วประมาณ 18 ล้าน
เพิ่งจะตระหนักถึงมูลค่าทรัพย์สิน สินทรัพย์ ที่แม่มีว่ามูลค่ามากสำหรับเรา
แม่ไม่มีเงินจะลงทุนทำไร และไม่อยากทำไรเพราะอายุเยอะแล้ว ส่วนเรา สาวโสด ทำงานหัวปั่น ไม่ได้คิดจะทำอะไรกะที่ดินดังกล่าว คิดหวังแต่ว่า ผ่อนหนี้หมดจะ สร้างห้องเช่า บนที่ดินดังกล่าว
ตอนที่ 2 กฎหมายภาษี
กฎหมายกำหนดว่า ที่ดินรกร้าง ว่างเปล่า ไม่มีการใช้ประโยชน์ จะต้องจ่ายภาษี ร้อยละ 0.3 หรือ ล้านละ 3,000 บาท
แปลว่า สิงหาคมปีหน้า เราจะต้องเตรียมเงินจ่ายภาษีเป็นจำนวน 54,000 บาท
เงินจำนวนครึ่งแสน เยอะมากสำหรับเรา
ตอนที่ 3 ความเห็นลบๆๆ
กฎหมายฉบับนี้ ที่บอกว่า ลดความเหลื่อมล้ำ
แต่เรากลับคิดว่า เพิ่มความเหลื่อมล้ำเข้าไปอีก เราอาจจะคิดเองว่า มีคนจำพวกหนึ่งมีที่ดิน แต่เขาไม่ทำอะไรกับที่ดิน เพราะไม่มีทุน
กฎหมายฉบับนี้เหมือนจะบีบให้คนมีที่ไม่มีทุน ต้องขายที้ให้นายทุน ลดความเหลื่อมล้ำได้หรือไม่ มันยิ่วถ่างออกหรือเปล่าหว่า?
กฎหมายกำหนดภาษีที่อยู่อาศัย บ้านหลังที่1 หลังที่2 บ้านหลังที่2 ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะประกาศให้บ้านหลังที่2 จ่ายภาษีเป็นแบบที่อยู่อาศัยได้ แปลว่า จากที่ต้องจ่ายภาษี ล้านละ 3,000 เหลือ ล้านละ 200
ผู้ออกกฎหมายต้องรีบประชุมเพื่อเปลี่ยน เพราะอะไรคะ เพราะคนกลุ่มที่มีความสามารถมีบ้านหลังที่ 2 3.. คือคนที่เวลาพูดแล้วเสียงดังใช่หรือไม่ พูดแล้วต้องหันมาฟัง ต้องหาทางออก
ส่วน คนมีที่ ไม่มีเงิน แต่บังเอิญมีที่ อาจจะพูดจนคอแทบแตก แต่บังเอิญท่านๆไม่ได้ยิน
ตอนที่ 4 หาทางออก
เราคิดว่าปีนี้คงเสกกล้วย เสกมะนาว เปลี่ยนที่รกร้างเป็นที่ดินเกษตร ให้เสร็จภายใน 1 มกราคม 63 เป็นไปไม่ได้
ปีนี้ เราทำใจหาเงิน 54,000 ไว้พลางๆ
ปีหน้า 63 เราจะต้องจัดการเวลาตัวเองใหม่ หลังเลิกทำหน้าที่ครู อาจต้องทำหน้าที่เกษตรกรต่อ แล้วค่อยกลับบ้านซึ่งห่างออกไป 20 กม.
ทิ้งท้าย...
เราต้องปรับความคิดเห็นต่อกฎหมายฉบับนี้ว่า เป็นกฎหมายที่ดี ช่วยรัฐ ช่วยเก็บภาษี ลดความเหลื่อมล้ำำ เมืองนอก ต่างประเทศเขามีกฎหมายฉบับนี้ใช้มานานแระ
แนะนำเราหน่อย ทำเกษตรอะไรดี บนเนื้อ 3 งาน
แนะนำทางออกที่ไม่ต้องเสียเงินครึ่งแสน
ใครมีคำแนะนำอะไร เราพร้อมรับฟัง
ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะไว้ล่วงหน้านะค่ะ
ที่ดินรกร้าง ต้องเสียภาษีจริงๆใช่ไหม
แนะนำตัวละคร
ฉัน : เพศหญิง อายุเกือบจะหลักสี่ โสด อาชีพครู รับผิดชอบหนี้ของพ่อแม่ โดยการผ่อนสหกรณ์ครูไปเรื่อยๆ
แม่ : อายุ 70 ปี อาชีพ ดูแลลูก ดูแลบ้าน ได้รับเงินจากลูกเดือนละประมาณ 5 6 7 พัน แล้วแต่รายรับลูก และ จากที่ดินมรดก เดือนละไม่เกิน 7 พัน บาท
*** แนะนำตัวละครหลัก 2 คน ครบแระ***
ตอนที่ 1 ปฐมบทแห่งการจ่ายภาษี
เมื่อสิบกว่าปีก่อน แม่ได้รับที่ดินมรดก เป็นที่ดินเนื้อแปลงห แต่อยู่ในพื้นที่ ที่บังเอิญราคาแพ้งแพง ใช้การประมาณราคาจากชื่อถนน ที่หน่วยงานภาครัฐกำหนด ตกตารางวาละประมาณ 56,000 บาท คิดมูลค่าแล้วประมาณ 18 ล้าน
เพิ่งจะตระหนักถึงมูลค่าทรัพย์สิน สินทรัพย์ ที่แม่มีว่ามูลค่ามากสำหรับเรา
แม่ไม่มีเงินจะลงทุนทำไร และไม่อยากทำไรเพราะอายุเยอะแล้ว ส่วนเรา สาวโสด ทำงานหัวปั่น ไม่ได้คิดจะทำอะไรกะที่ดินดังกล่าว คิดหวังแต่ว่า ผ่อนหนี้หมดจะ สร้างห้องเช่า บนที่ดินดังกล่าว
ตอนที่ 2 กฎหมายภาษี
กฎหมายกำหนดว่า ที่ดินรกร้าง ว่างเปล่า ไม่มีการใช้ประโยชน์ จะต้องจ่ายภาษี ร้อยละ 0.3 หรือ ล้านละ 3,000 บาท
แปลว่า สิงหาคมปีหน้า เราจะต้องเตรียมเงินจ่ายภาษีเป็นจำนวน 54,000 บาท
เงินจำนวนครึ่งแสน เยอะมากสำหรับเรา
ตอนที่ 3 ความเห็นลบๆๆ
กฎหมายฉบับนี้ ที่บอกว่า ลดความเหลื่อมล้ำ
แต่เรากลับคิดว่า เพิ่มความเหลื่อมล้ำเข้าไปอีก เราอาจจะคิดเองว่า มีคนจำพวกหนึ่งมีที่ดิน แต่เขาไม่ทำอะไรกับที่ดิน เพราะไม่มีทุน
กฎหมายฉบับนี้เหมือนจะบีบให้คนมีที่ไม่มีทุน ต้องขายที้ให้นายทุน ลดความเหลื่อมล้ำได้หรือไม่ มันยิ่วถ่างออกหรือเปล่าหว่า?
กฎหมายกำหนดภาษีที่อยู่อาศัย บ้านหลังที่1 หลังที่2 บ้านหลังที่2 ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะประกาศให้บ้านหลังที่2 จ่ายภาษีเป็นแบบที่อยู่อาศัยได้ แปลว่า จากที่ต้องจ่ายภาษี ล้านละ 3,000 เหลือ ล้านละ 200
ผู้ออกกฎหมายต้องรีบประชุมเพื่อเปลี่ยน เพราะอะไรคะ เพราะคนกลุ่มที่มีความสามารถมีบ้านหลังที่ 2 3.. คือคนที่เวลาพูดแล้วเสียงดังใช่หรือไม่ พูดแล้วต้องหันมาฟัง ต้องหาทางออก
ส่วน คนมีที่ ไม่มีเงิน แต่บังเอิญมีที่ อาจจะพูดจนคอแทบแตก แต่บังเอิญท่านๆไม่ได้ยิน
ตอนที่ 4 หาทางออก
เราคิดว่าปีนี้คงเสกกล้วย เสกมะนาว เปลี่ยนที่รกร้างเป็นที่ดินเกษตร ให้เสร็จภายใน 1 มกราคม 63 เป็นไปไม่ได้
ปีนี้ เราทำใจหาเงิน 54,000 ไว้พลางๆ
ปีหน้า 63 เราจะต้องจัดการเวลาตัวเองใหม่ หลังเลิกทำหน้าที่ครู อาจต้องทำหน้าที่เกษตรกรต่อ แล้วค่อยกลับบ้านซึ่งห่างออกไป 20 กม.
ทิ้งท้าย...
เราต้องปรับความคิดเห็นต่อกฎหมายฉบับนี้ว่า เป็นกฎหมายที่ดี ช่วยรัฐ ช่วยเก็บภาษี ลดความเหลื่อมล้ำำ เมืองนอก ต่างประเทศเขามีกฎหมายฉบับนี้ใช้มานานแระ
แนะนำเราหน่อย ทำเกษตรอะไรดี บนเนื้อ 3 งาน
แนะนำทางออกที่ไม่ต้องเสียเงินครึ่งแสน
ใครมีคำแนะนำอะไร เราพร้อมรับฟัง
ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะไว้ล่วงหน้านะค่ะ