แม่เราเป็นมะเร็งขั้น 4 ค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอัดอั้นมาก ไม่สามารถระบายกับใครได้ เพราะแม่เราเครียดมากและไม่อยากให้ใครรู้เลยว่าเค้าเป็นโรคนี้
ความโชคร้ายคือกว่าจะรู้ว่าเป็นก็ขั้น 4 แล้วค่ะ แต่ยังมีความโชคดีตรงที่ร่างกายแม่เราสามารถรับยาพุ่งเป้าได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ สำหรับคนที่ไม่รู้ "ยาพุ่งเป้า" คือยารักษามะเร็งแบบกินค่ะ กินวันละ 1 เม็ดเป็นประจำในเวลาเดิม ทุกวัน ห้ามขาด
ซึ่งถ้าทานยานี้ได้แปลว่าไม่ต้องรักษาแบบคีโม หรือรังสี
ยานี้มีผลข้างเคียงหลายอย่างอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มากเท่าพวกคีโม ที่จะผมร่วงหมดหัวอะไรแบบนี้ คือจะมีผมร่วงบ้าง หน้าเป็นผื่นเยอะมาก บางคนนิ้วแห้งจนลอกเป็นแดงๆ แต่ผลข้างเคียงจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ
ราคายานี้ 1 แผง 30 เม็ดอยู่ที่ประมาณ 28,xxx บาท สำหรับรพ.รัฐ (ถ้าเอาชนไปถึงแผงละ 40,000-80,000 บาท)
ตลอดเวลาที่เราพาแม่มาหาหมอ เรามีความเครียดมาก นอกจากห่วงแม่แล้ว เรายังเครียดเรื่องค่ารักษา และเครียดที่สุดคือเรื่องการจัดการ การดีลกับรพ.
มันเหนื่อยใจมากๆค่ะ มีใครเป็นแบบเราบ้าง เชื่อว่าหลายคนต้องเจอเหตุการณ์แบบเรา ทำยังไงกันคะ????
รพ.รัฐชื่อดังที่แม่เรารักษาอยู่ มีขนาดใหญ่และมีหลายตึกมาก แต่ละตึกห่างๆกันไป มีจำกัดการติดต่อในเวลา นอกเวลา
สำหรับคนไม่เคยมาหรือไม่ได้มาประจำ จะไม่รู้หรอกว่าต้องเดินไปทำอะไรตรงไหนยังไงบ้าง แต่ทำไมเรารู้สึกว่า เจ้าหน้าโรงพยาบาลส่วนใหญ่ไม่เต็มใจช่วยเหลือผู้ป่วยเลย (เรื่องหมอไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ) การไปรพ.สำหรับเราตอนนี้เป็นเรื่องหดหู่มาก วันไหนต้องพาแม่ไปเราจะรู้สึกแย่แต่เช้าเลย
เราขอยกตัวอย่างเหตุการณ์นะคะ (ขอเกริ่นก่อน แม่เราป่วยหนักเดินไม่ค่อยไหว เหนื่อยง่ายมาก เครียด มีโรคอื่นด้วย บวกกับอายุเริ่มเยอะ ฉะนั้นเรื่องรพ.เราจัดการทุกอย่าง แม่แค่เจอหมออย่างเดียวพอ)
1. ครั้งแรกที่ไป ต้องทำบัตรรพ. เราโดนเจ้าหน้าที่เหวี่ยง ทั้งที่แม่เรานอนรอผ่าตัดอยู่
- แม่เรามาด้วยรถambulanceจากอีกรพ.นึงที่เค้าcoกันเพื่อมาผ่าตัดด่วน พอมาถึงที่นี่ เค้าเข็นแม่เราเข้าไปในห้องรอผ่าตึก A แล้วบอกให้เราไปทำบัตรให้แม่ที่ตึกC พอไปถึงมี 10 กว่า counter ไม่มีคนคอยแนะนำ เราจึงอ่านป้ายเองว่าต้อง ทำอะไรบ้าง กรอกเอกสารยังไง ยื่นช่องไหน
- เห็นละ ช่องนี้เขียนว่า "ทำบัตรผู้ป่วยใหม่" เราต่อคิวประมาณ 20 นาที พอถึงคิว พูดมาคำเดียว "ไปช่องนู้นเลยค่ะ" จบ ไม่มีเหตุผลใดๆ ...อ้าววว
- ไปต่อช่องที่เค้าบอก เป็นเจ้าหน้าที่ป้า 2 คน ใช้น้ำเสียงตะหวาดและทำหน้ามุ่ยตลอดเวลา
เรา : "มาทำบัตรใหม่ให้คุณแม่ค่ะ"
ป้า : "ทำบัตรใหม่?!? ทำไมมาช่องนี้??" โวยวายอยู่แป๊บนึง เราก็ตอบคำถามไปปกติ เค้าบอก "แล้วไหนอ่ะคนไข้ มารึป่าว เดินไม่ไหวเหรอ"
เรา : "มาค่ะ แต่เดิ.....น...ไม่.."
ป้า : "ถ้าคนไข้มา ต้องมาทำเองค่ะ ทำให้ไม่ได้" พร้อมโยนเอกสารคืนเรา
เรา : "คือมาค่ะ แต่เดินมาทำไม่ได้ค่ะ เป็นเคสขึ้นAmbulanceย้ายมาจากโรงบาล....กำลังรอผ่าอยู่ในห้องแล้ว หมอบอกให้มาทำบัตรเดี๋ยวนี้ค่ะ บลาๆๆๆ"
ป้า : "คืออะไร ใครบอก หมออะไรบอก ผ่าอะไร ไม่ได้ๆ"
- เนี่ยค่ะ เหวี่ยงใส่เราอยู่นานมาก กว่าเราจะได้ทำ ซึ่งแม่เราก็นอนรออยู่แบบนั้น เพราะเริ่มอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีบัตร สุดท้ายไล่เราไปอีกช่องนึงอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ เราได้มีการคุยแล้วนะคะว่า ทำบัตรก่อนได้มั้ย เราต้องเตรียมจัดการอะไรบ้างรึป่าว แต่ทางหมอและเจ้าหน้าที่ตอนนั้นบอกว่าเดี๋ยวไปจัดการแบบนี้ตามที่เค้าบอกได้เลย คือย้ายไปวันนั้นแล้วเดินไปทำเลย เค้าโทรติดต่อประสานงานไว้ให้แล้ว เราจึงทำตามที่เล่ามา
2. ระบบรพ.รัฐซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกกกก และจนท.ไม่พร้อมอธิบายอะไรให้เราเข้าใจเลย
- สิ่งที่แม่เราต้องทำที่รพ. มีทั้งพบหมอมะเร็ง, x-ray, CT-scan, พบหมอที่รักษาอาการข้างเคียง, เจาะเลือด, ... วนๆกันไปปบบนี้ แต่ละอย่างที่ต้องทำ อยู่คนละที่กันหมด และต้องมาทำคนละวัน ถ้าวันเดียวกันก็จะคนละเวลากันหมดเลย เช่น
- เจาะเลือด ต้องมาก่อนพบหมอ 2 วัน ในเวลาที่กำหนดเท่านั้น
- สมมุติเจาะชั้น 10 ต้องลงมาจ่ายเงินชั้น 2 ก่อน, ก่อนจ่ายเงินรับบัตรคิว จ่ายเสร็จกลับขึ้นชั้นเดิม รับบัตรคิวอีกรอบ และรอยาวๆ
- CT-scan นัดล่วงหน้า เจอหมอตึกนี้ หมอสั่งทำ พยาบาลบอก "เอาใบไปนัดตึกนู้น แล้วกลับมารับยา-จ่ายเงินตึกเดิม" พอเดินไปถึง อ้าว!! ปิดแล้ว สรุปต้องมาวันอื่น คืออออออ แล้วทำไมพยาบาลไม่บอกเราว่าเค้าปิดแล้ว เราไม่เข้าใจทำไมเค้าสื่อสารแค่นี้ไม่ได้ เป็นอะไรที่เสียเวลา และเดินไกลมากนะคะ
- เราเคยใช้เวลา สำหรับแค่ เจาะเลือดและ X-ray ที่นัดไว้แล้ว ทั้งหมด 4 ชั่วโมงค่ะ เดินขึ้นลงหลายจุดมาก
- อันนี้พอทำใจได้บ้างแล้วนะคะ แรกๆเหนื่อยมาก เพราะไม่มีใครแจ้งว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง ขั้นตอนยังไง พอถามมักจะไม่เต็มใจตอบทุกที และอธิบายไม่เคยเคลียร์ ทำให้ต้องเสียเวลาไปกับการ รอๆๆๆ,เริ่มต่อคิวใหม่,มาผิดวัน,ผิดเวลา อะไรแบบนี้ค่ะ หลายๆครั้งเค้าชอบคิดว่า เราต้องรู้เอง ว่าต้องทำอะไรยังไง ซึ่ง....โทษนะคะ เราไม่สามารถตรัสรู้ระบบทุกอย่างของแต่ละรพ.ได้ อย่างน้อยช่วยบอกกันหน่อย
3. ล่าสุด และรู้สึกแย่ที่สุด คือการที่รพ.โทรมาเลื่อนนัดแม่เราออกไปโดยไม่สนว่าแม่เราต้องขาดยา
- โทรมาขอเลื่อนนัดแม่เราจากวันที่ 3 ม.ค. เป็นวันที่ 10 ม.ค.
- ยาพุ่งเป้าที่แม่เราต้องกินห้ามขาด จะหมดในวันที่ 6 ม.ค. เราเองเห็นว่านัดหมอวันที่3จะสั่งยาได้พอดี เราจึงไม่ได้สั่งเผื่อไว้2แผงตั้งแต่รอบที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ (ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเราจะไม่ได้สั่งเผื่อ เพราะเราไม่ได้รวยค่ะ เราเป็นพนักงานเงินเดือนที่ต้องการดูแลรักษาแม่ให้ดีที่สุด ยาแผงละเกือบ 3 หมื่น ถ้า2แผง คือเกือบ 6 หมื่น และเตือนนั้นมี x-ray อะไรอีกประมาณ หมื่นค่ะ ให้เราสั่งเผื่อและจ่าย 7หมื่น เราไม่ไหวค่ะ หนี้บัตรเครดิตที่เรารูดตอนผ่าตัดใหญ่ยังจ่ายไม่หมดเลยด้วย ฉะนั้นเราสั่งยาได้แค่เดือนต่อเดือนตลอด แม่เราไม่มีประกันหรือสวัสดิการอะไรเลยค่ะ จ่ายเอง 100%)
- เราจึงโทรกลับไปบอกรพ.ว่าที่โทรมาเลื่อนนัด มันไม่ทันสั่งยา แม่เรายาหมดนะ ขอให้คุณหมอสั่งไว้ก่อนได้มั้ยแล้วเราเข้าไปเอา
จนท. : "ไม่ได้ครับ"
เรา : "อ้าว แล้วทำไงได้บ้างอ่ะค่ะ ทางเราไม่ได้สั่งเผื่อไว้ เพราะถ้าตามนัดเดิมมันจะสั่งแผงใหม่ได้พอดี แต่รพ.ขอเลื่อนเลยไม่ทัน คือมันเป็นยาพุ่งเป้าที่ต้องกินทุกวันขาดไม่ได้ คุณแม่เป็นมะเร็งค่ะ" อธิบายยืดยาวพร้อมบอกเลขผู้ป่วยเผื่อให้เค้าดูประวัติ
จนท. : "ต้องให้หมอสั่งวันที่10ครับ"
เรา : อธิบายใหม่อีกรอบ-_- และถามว่า "ถ้างั้นทำอะไรได้บ้างคะ ที่จะรับยามาทานได้ไม่ให้ขาด"
จนท. : "ก็ทำอะไรไม่ได้อ่ะครับ"
เรา : "ขอเบอร์ติดต่อแผนกนั้นได้มั้ยคะ"
จนท. : "ต้องลองไปเอง ไปถามดูว่าเค้าทำอะไรได้มั้ย บอกได้เท่านี้"
เรา : "งั้นเดี๋ยวลองติดต่อดู ขอเบอร์หน่อยค่ะ"
จนท. : "ต้องไปเอง เค้าไม่รับโทรศัพท์"
เฮ้ยยยยยย บางทีก็งงว่านี่คนหรือหุ่นยนตร์
อีกอย่างที่เราเครียดมากคือ ถ้าแบบนี้แปลว่าเราต้องavailableตลอดเวลาเพื่อพุ่งตัวไปรพ.เมื่อมีปัญหาเหรอคะ แล้วยังมีกำหนดการติดต่อนอกเวลาในเวลาอีก แล้วเราทำงานหาเงินไปด้วยเราจะทำยังไง บางทีเรื่องอย่างงี้เราว่ามันไม่น่ายากลำบากเกินความสามารถจนท.รพ.เลยที่จะช่วยถามหรือเช็คกันเองภายในให้ซักนิด งี้คือถ้าเราลางานแล้วพุ่งไปถามแผนกนั้น แล้วเค้าตอบเรามาง่ายๆว่า "ทำไรไม่ได้" อีก เท่ากับเราไปเก้อ เสียวันลาไปเลย
ทุกครั้งที่เราสื่อสารกับรพ. เราจะใช้คำพูดที่ดี พยายามไม่บาดหมางกับใคร เพราะเราถือว่าเค้ารักษาแม่เรา เรากลัวเค้าจะดูแลแม่เราไม่ดีถ้าเค้าเคืองใจกับเรา แต่กับรพ.นี้ เราเจอการปฏิบัติแบบนี้มาตลอด อึดอัดมากค่ะ ตอนแรกเราอยู่รพ.เอกชนนะคะ แต่ค่าใช้จ่ายโรคนี้แพงมากเราจึงต้องย้ายมาเพื่อลดค่าใช้จ่าย และหลายคนแนะนำว่าที่นี่หมอเก่งเยอะ รพ.ก็ทุกคนรู้จักอยู่แล้วว่าน่าเชื่อถือ แต่กับระบบและจนท.เราท้อใจมากๆๆ
เราไม่ได้คาดหวังบริการระดับ 5 ดาวจากพนักงานนะคะ เราเข้าใจความเหนื่อยในการทำงานแบบของเค้าแหละ แต่เราคาดหวังการสื่อสารที่เข้าใจซึ่งกันและกัน และhelpfulมากกว่านี้
บางทีเราก็คิดว่า ต้องรวยใช่มั้ยถึงจะป่วยอย่างมีความสุขได้ในประเทศไทย เพราะถ้าเรามีตัง เราคงให้แม่รักษารพ.เอกชนดีๆที่เค้าทั้งรักษาและดูแลจิตใจคนไข้ด้วย หรือรักษาต่างประเทศไปเลย T_T
ขอแชร์เรื่องบ่นๆของเรา เพื่อเอาความเครียดออกจากใจเราไปบ้าง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนตั้งใจทำงานเก็บเงินและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงค่ะ
ถ้าหากใครเจอแบบเรา ฝากช่วยแนะนำและให้กำลังใจเราหน่อยค่ะT_T แค่แม่ป่วยเป็นมะเร็งขั้น4มันก็แย่มากละค่ะ แล้วการติดต่อเข้าออกรพ.ต้องมาเจออุปสรรคเรื่องน่าปวดหัวแบบนี้ ท้อและเครียดมากๆๆ จริงๆค่ะ
ถ้าคิดจะป่วย จงรวยก่อน! ถ้าไม่อยากเจอเรื่องแย่ๆจากรพ.รัฐฯ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอัดอั้นมาก ไม่สามารถระบายกับใครได้ เพราะแม่เราเครียดมากและไม่อยากให้ใครรู้เลยว่าเค้าเป็นโรคนี้
ความโชคร้ายคือกว่าจะรู้ว่าเป็นก็ขั้น 4 แล้วค่ะ แต่ยังมีความโชคดีตรงที่ร่างกายแม่เราสามารถรับยาพุ่งเป้าได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตลอดเวลาที่เราพาแม่มาหาหมอ เรามีความเครียดมาก นอกจากห่วงแม่แล้ว เรายังเครียดเรื่องค่ารักษา และเครียดที่สุดคือเรื่องการจัดการ การดีลกับรพ.
มันเหนื่อยใจมากๆค่ะ มีใครเป็นแบบเราบ้าง เชื่อว่าหลายคนต้องเจอเหตุการณ์แบบเรา ทำยังไงกันคะ????
รพ.รัฐชื่อดังที่แม่เรารักษาอยู่ มีขนาดใหญ่และมีหลายตึกมาก แต่ละตึกห่างๆกันไป มีจำกัดการติดต่อในเวลา นอกเวลา
สำหรับคนไม่เคยมาหรือไม่ได้มาประจำ จะไม่รู้หรอกว่าต้องเดินไปทำอะไรตรงไหนยังไงบ้าง แต่ทำไมเรารู้สึกว่า เจ้าหน้าโรงพยาบาลส่วนใหญ่ไม่เต็มใจช่วยเหลือผู้ป่วยเลย (เรื่องหมอไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ) การไปรพ.สำหรับเราตอนนี้เป็นเรื่องหดหู่มาก วันไหนต้องพาแม่ไปเราจะรู้สึกแย่แต่เช้าเลย
เราขอยกตัวอย่างเหตุการณ์นะคะ (ขอเกริ่นก่อน แม่เราป่วยหนักเดินไม่ค่อยไหว เหนื่อยง่ายมาก เครียด มีโรคอื่นด้วย บวกกับอายุเริ่มเยอะ ฉะนั้นเรื่องรพ.เราจัดการทุกอย่าง แม่แค่เจอหมออย่างเดียวพอ)
1. ครั้งแรกที่ไป ต้องทำบัตรรพ. เราโดนเจ้าหน้าที่เหวี่ยง ทั้งที่แม่เรานอนรอผ่าตัดอยู่
- แม่เรามาด้วยรถambulanceจากอีกรพ.นึงที่เค้าcoกันเพื่อมาผ่าตัดด่วน พอมาถึงที่นี่ เค้าเข็นแม่เราเข้าไปในห้องรอผ่าตึก A แล้วบอกให้เราไปทำบัตรให้แม่ที่ตึกC พอไปถึงมี 10 กว่า counter ไม่มีคนคอยแนะนำ เราจึงอ่านป้ายเองว่าต้อง ทำอะไรบ้าง กรอกเอกสารยังไง ยื่นช่องไหน
- เห็นละ ช่องนี้เขียนว่า "ทำบัตรผู้ป่วยใหม่" เราต่อคิวประมาณ 20 นาที พอถึงคิว พูดมาคำเดียว "ไปช่องนู้นเลยค่ะ" จบ ไม่มีเหตุผลใดๆ ...อ้าววว
- ไปต่อช่องที่เค้าบอก เป็นเจ้าหน้าที่ป้า 2 คน ใช้น้ำเสียงตะหวาดและทำหน้ามุ่ยตลอดเวลา
เรา : "มาทำบัตรใหม่ให้คุณแม่ค่ะ"
ป้า : "ทำบัตรใหม่?!? ทำไมมาช่องนี้??" โวยวายอยู่แป๊บนึง เราก็ตอบคำถามไปปกติ เค้าบอก "แล้วไหนอ่ะคนไข้ มารึป่าว เดินไม่ไหวเหรอ"
เรา : "มาค่ะ แต่เดิ.....น...ไม่.."
ป้า : "ถ้าคนไข้มา ต้องมาทำเองค่ะ ทำให้ไม่ได้" พร้อมโยนเอกสารคืนเรา
เรา : "คือมาค่ะ แต่เดินมาทำไม่ได้ค่ะ เป็นเคสขึ้นAmbulanceย้ายมาจากโรงบาล....กำลังรอผ่าอยู่ในห้องแล้ว หมอบอกให้มาทำบัตรเดี๋ยวนี้ค่ะ บลาๆๆๆ"
ป้า : "คืออะไร ใครบอก หมออะไรบอก ผ่าอะไร ไม่ได้ๆ"
- เนี่ยค่ะ เหวี่ยงใส่เราอยู่นานมาก กว่าเราจะได้ทำ ซึ่งแม่เราก็นอนรออยู่แบบนั้น เพราะเริ่มอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีบัตร สุดท้ายไล่เราไปอีกช่องนึงอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ระบบรพ.รัฐซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกกกก และจนท.ไม่พร้อมอธิบายอะไรให้เราเข้าใจเลย
- สิ่งที่แม่เราต้องทำที่รพ. มีทั้งพบหมอมะเร็ง, x-ray, CT-scan, พบหมอที่รักษาอาการข้างเคียง, เจาะเลือด, ... วนๆกันไปปบบนี้ แต่ละอย่างที่ต้องทำ อยู่คนละที่กันหมด และต้องมาทำคนละวัน ถ้าวันเดียวกันก็จะคนละเวลากันหมดเลย เช่น
- เจาะเลือด ต้องมาก่อนพบหมอ 2 วัน ในเวลาที่กำหนดเท่านั้น
- สมมุติเจาะชั้น 10 ต้องลงมาจ่ายเงินชั้น 2 ก่อน, ก่อนจ่ายเงินรับบัตรคิว จ่ายเสร็จกลับขึ้นชั้นเดิม รับบัตรคิวอีกรอบ และรอยาวๆ
- CT-scan นัดล่วงหน้า เจอหมอตึกนี้ หมอสั่งทำ พยาบาลบอก "เอาใบไปนัดตึกนู้น แล้วกลับมารับยา-จ่ายเงินตึกเดิม" พอเดินไปถึง อ้าว!! ปิดแล้ว สรุปต้องมาวันอื่น คืออออออ แล้วทำไมพยาบาลไม่บอกเราว่าเค้าปิดแล้ว เราไม่เข้าใจทำไมเค้าสื่อสารแค่นี้ไม่ได้ เป็นอะไรที่เสียเวลา และเดินไกลมากนะคะ
- เราเคยใช้เวลา สำหรับแค่ เจาะเลือดและ X-ray ที่นัดไว้แล้ว ทั้งหมด 4 ชั่วโมงค่ะ เดินขึ้นลงหลายจุดมาก
- อันนี้พอทำใจได้บ้างแล้วนะคะ แรกๆเหนื่อยมาก เพราะไม่มีใครแจ้งว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง ขั้นตอนยังไง พอถามมักจะไม่เต็มใจตอบทุกที และอธิบายไม่เคยเคลียร์ ทำให้ต้องเสียเวลาไปกับการ รอๆๆๆ,เริ่มต่อคิวใหม่,มาผิดวัน,ผิดเวลา อะไรแบบนี้ค่ะ หลายๆครั้งเค้าชอบคิดว่า เราต้องรู้เอง ว่าต้องทำอะไรยังไง ซึ่ง....โทษนะคะ เราไม่สามารถตรัสรู้ระบบทุกอย่างของแต่ละรพ.ได้ อย่างน้อยช่วยบอกกันหน่อย
3. ล่าสุด และรู้สึกแย่ที่สุด คือการที่รพ.โทรมาเลื่อนนัดแม่เราออกไปโดยไม่สนว่าแม่เราต้องขาดยา
- โทรมาขอเลื่อนนัดแม่เราจากวันที่ 3 ม.ค. เป็นวันที่ 10 ม.ค.
- ยาพุ่งเป้าที่แม่เราต้องกินห้ามขาด จะหมดในวันที่ 6 ม.ค. เราเองเห็นว่านัดหมอวันที่3จะสั่งยาได้พอดี เราจึงไม่ได้สั่งเผื่อไว้2แผงตั้งแต่รอบที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เราจึงโทรกลับไปบอกรพ.ว่าที่โทรมาเลื่อนนัด มันไม่ทันสั่งยา แม่เรายาหมดนะ ขอให้คุณหมอสั่งไว้ก่อนได้มั้ยแล้วเราเข้าไปเอา
จนท. : "ไม่ได้ครับ"
เรา : "อ้าว แล้วทำไงได้บ้างอ่ะค่ะ ทางเราไม่ได้สั่งเผื่อไว้ เพราะถ้าตามนัดเดิมมันจะสั่งแผงใหม่ได้พอดี แต่รพ.ขอเลื่อนเลยไม่ทัน คือมันเป็นยาพุ่งเป้าที่ต้องกินทุกวันขาดไม่ได้ คุณแม่เป็นมะเร็งค่ะ" อธิบายยืดยาวพร้อมบอกเลขผู้ป่วยเผื่อให้เค้าดูประวัติ
จนท. : "ต้องให้หมอสั่งวันที่10ครับ"
เรา : อธิบายใหม่อีกรอบ-_- และถามว่า "ถ้างั้นทำอะไรได้บ้างคะ ที่จะรับยามาทานได้ไม่ให้ขาด"
จนท. : "ก็ทำอะไรไม่ได้อ่ะครับ"
เรา : "ขอเบอร์ติดต่อแผนกนั้นได้มั้ยคะ"
จนท. : "ต้องลองไปเอง ไปถามดูว่าเค้าทำอะไรได้มั้ย บอกได้เท่านี้"
เรา : "งั้นเดี๋ยวลองติดต่อดู ขอเบอร์หน่อยค่ะ"
จนท. : "ต้องไปเอง เค้าไม่รับโทรศัพท์"
เฮ้ยยยยยย บางทีก็งงว่านี่คนหรือหุ่นยนตร์
อีกอย่างที่เราเครียดมากคือ ถ้าแบบนี้แปลว่าเราต้องavailableตลอดเวลาเพื่อพุ่งตัวไปรพ.เมื่อมีปัญหาเหรอคะ แล้วยังมีกำหนดการติดต่อนอกเวลาในเวลาอีก แล้วเราทำงานหาเงินไปด้วยเราจะทำยังไง บางทีเรื่องอย่างงี้เราว่ามันไม่น่ายากลำบากเกินความสามารถจนท.รพ.เลยที่จะช่วยถามหรือเช็คกันเองภายในให้ซักนิด งี้คือถ้าเราลางานแล้วพุ่งไปถามแผนกนั้น แล้วเค้าตอบเรามาง่ายๆว่า "ทำไรไม่ได้" อีก เท่ากับเราไปเก้อ เสียวันลาไปเลย
ทุกครั้งที่เราสื่อสารกับรพ. เราจะใช้คำพูดที่ดี พยายามไม่บาดหมางกับใคร เพราะเราถือว่าเค้ารักษาแม่เรา เรากลัวเค้าจะดูแลแม่เราไม่ดีถ้าเค้าเคืองใจกับเรา แต่กับรพ.นี้ เราเจอการปฏิบัติแบบนี้มาตลอด อึดอัดมากค่ะ ตอนแรกเราอยู่รพ.เอกชนนะคะ แต่ค่าใช้จ่ายโรคนี้แพงมากเราจึงต้องย้ายมาเพื่อลดค่าใช้จ่าย และหลายคนแนะนำว่าที่นี่หมอเก่งเยอะ รพ.ก็ทุกคนรู้จักอยู่แล้วว่าน่าเชื่อถือ แต่กับระบบและจนท.เราท้อใจมากๆๆ
เราไม่ได้คาดหวังบริการระดับ 5 ดาวจากพนักงานนะคะ เราเข้าใจความเหนื่อยในการทำงานแบบของเค้าแหละ แต่เราคาดหวังการสื่อสารที่เข้าใจซึ่งกันและกัน และhelpfulมากกว่านี้
บางทีเราก็คิดว่า ต้องรวยใช่มั้ยถึงจะป่วยอย่างมีความสุขได้ในประเทศไทย เพราะถ้าเรามีตัง เราคงให้แม่รักษารพ.เอกชนดีๆที่เค้าทั้งรักษาและดูแลจิตใจคนไข้ด้วย หรือรักษาต่างประเทศไปเลย T_T
ขอแชร์เรื่องบ่นๆของเรา เพื่อเอาความเครียดออกจากใจเราไปบ้าง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนตั้งใจทำงานเก็บเงินและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงค่ะ
ถ้าหากใครเจอแบบเรา ฝากช่วยแนะนำและให้กำลังใจเราหน่อยค่ะT_T แค่แม่ป่วยเป็นมะเร็งขั้น4มันก็แย่มากละค่ะ แล้วการติดต่อเข้าออกรพ.ต้องมาเจออุปสรรคเรื่องน่าปวดหัวแบบนี้ ท้อและเครียดมากๆๆ จริงๆค่ะ