สมมติว่า บริษัทๆหนึ่งผลิตสินค้าออกมาวางขายโดยมีต้นทุนสินค้า 400 บาทและต้นทุนแรงงาน 300 บาท วางขายในราคา 1,000 บาท
กับอีกบริษัทที่ผลิตสินค้าออกมาวางขายโดยมีต้นทุนสินค้า 400 บาทและต้นทุนแรงงาน 600 บาท วางขายในราคา 1,300 บาท
สินค้าจากทั้งสองบริษัทเป็นสินค้าที่คล้ายกัน คุณภาพเท่ากัน แต่ต่างกันที่บริษัทแรกกดค่าแรงงานเท่าที่จะกดได้มากที่สุด กับอีกบริษัทเพิ่มค่าแรงงานให้เยอะเพราะเห็นถึงคุณค่าแรงงาน จึงทำให้ขายสินค้าในราคาต่างกัน แต่ทั้งสองบริษัทก็ได้กำไรจากสินค้าต่อชิ้นที่เท่ากัน
ที่ถามคำถามนี้เพราะเห็นคนส่วนใหญ่และคนรอบตัวชอบบ่นเรื่องค่าแรงที่น้อยแต่ค่าครองชีพกับไม่น้อยเลย ก็เลยอยากรู้ว่าสำหรับคนที่บ่นเรื่องค่าแรงและคนทั่วๆไปถ้าไปเจอสินค้าที่คล้ายๆกัน คุณภาพเท่ากัน แต่ราคาต่างกัน(รายละเอียดบอกไปแล้วที่ข้างบนว่าทำไมถึงราคาต่างกัน) จะเลือกซื้อสินค้าที่แพงกว่าหรือถูกกว่า? จะยอมจ่ายถูกกว่าเพื่อสนับสนุนบริษัทที่กดค่าแรง หรือ จะยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อสนับสนุนบริษัทที่ไม่กดค่าแรง
อยากทราบในมุมมองผู้บริโภคว่าสะดวกใจจ่ายแบบไหน
กับอีกบริษัทที่ผลิตสินค้าออกมาวางขายโดยมีต้นทุนสินค้า 400 บาทและต้นทุนแรงงาน 600 บาท วางขายในราคา 1,300 บาท
สินค้าจากทั้งสองบริษัทเป็นสินค้าที่คล้ายกัน คุณภาพเท่ากัน แต่ต่างกันที่บริษัทแรกกดค่าแรงงานเท่าที่จะกดได้มากที่สุด กับอีกบริษัทเพิ่มค่าแรงงานให้เยอะเพราะเห็นถึงคุณค่าแรงงาน จึงทำให้ขายสินค้าในราคาต่างกัน แต่ทั้งสองบริษัทก็ได้กำไรจากสินค้าต่อชิ้นที่เท่ากัน
ที่ถามคำถามนี้เพราะเห็นคนส่วนใหญ่และคนรอบตัวชอบบ่นเรื่องค่าแรงที่น้อยแต่ค่าครองชีพกับไม่น้อยเลย ก็เลยอยากรู้ว่าสำหรับคนที่บ่นเรื่องค่าแรงและคนทั่วๆไปถ้าไปเจอสินค้าที่คล้ายๆกัน คุณภาพเท่ากัน แต่ราคาต่างกัน(รายละเอียดบอกไปแล้วที่ข้างบนว่าทำไมถึงราคาต่างกัน) จะเลือกซื้อสินค้าที่แพงกว่าหรือถูกกว่า? จะยอมจ่ายถูกกว่าเพื่อสนับสนุนบริษัทที่กดค่าแรง หรือ จะยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อสนับสนุนบริษัทที่ไม่กดค่าแรง