ขอต้อนรับผู้อ่านทุกคนเข้าสู่กระทู้ของเรานะ ก่อนอื่นเลย เรื่องในวันนี้ที่เราจะเอามาพูดถึงกัน มันเกี่ยวกับการหางานอีกเช่นเคย เเต่ครั้งนี้เราจะอธิบายเกี่ยวกับการใช้จุดเเข็งที่เรามีมาใช้กับการหางานค่ะ

ซึ่งก่อนหน้านี้ เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการหางานของเด็กจบใหม่ที่ไม่ตรงสายเอาไว้เเล้ว ถ้าใครยังไม่เคยอ่าน ลองเข้าไปอ่านกันดูก่อนได้นะ(เดี๋ยวเเปะลิงค์เอาไว้ข้างล่างให้นะคะ) เพื่อที่จะได้เข้าใจมากขึ้นกับเรื่องที่เราจะพูดต่อไปนี้

เราคิดว่าตอนนี้หลายคนเริ่มมองหางานกันบ้างเเล้ว หลังจากที่จบกันมาไม่กี่เดือนสำหรับเด็กจบใหม่(ยังใช้คำนี้ได้อยู๋ หนูยังจบไม่ถึงปี 555) บางคนเพิ่งเริ่มโปรยเรซูเม่ ไปบ้างเเล้ว หรือบางคนโปรยเรซูเม่ไปนานเเล้ว เเต่ยังไม่ถูกบริษัทเรียกตัวสักที

จะบอกว่าเข้าใจนะ ด้วยความที่เราเพิ่งจบมาใหม่ มันเป็นธรรมดาที่เราจะมีความใจร้อนในการที่อยากจะทำงาน มันมีไฟที่จะได้ใช้ชีวิตในเเบบที่เราต้องการ ในการทำงานที่อยากจะทำ อยากได้เงินเป็นของตัวเองโดยที่ไม่ต้องขอพ่อเเม่

เเต่สงสัยไหมว่า ทั้งที่เราโปรยเรซูเม่ไปเเล้ว ทำไมถึงยังไม่มีบริษัทเรียกไปสัมภาษณ์หรือสำหรับคนที่คิดว่า ถ้าโปรยเรซูเม่เเล้วจะได้งานทำเลยหรือเปล่า?
ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามาก(ในความระทมทุกข์ของเราๆTT) ที่เราจะยังไม่ได้งานที่เราสมัครไป มันเป็นเพราะปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจในบ้านเรา อย่างที่รู้ๆกัน มันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

ส่วนมากไม่ค่อยรับคนเพิ่ม มีเเต่จะเอาคนออกอย่างเดียว เพราะเศรษฐกิจมันค่อนข้างเเย่ หรือบางทีอาจเป็นที่สกิลเราไม่ถึง ทักษะเราไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด เป็นต้น ขนาดคนจบมาทำงานตรงสาย ยังหางานยากเลย เเล้วจะนับอะไรกับคนที่จบมาไม่ตรงสายล่ะ ถูกไหม?

บอกเลยว่านั่นหางานยากกว่า จะบอกว่ายากก็ยาก จะบอกว่าง่ายก็ง่าย มันเป็นอารมณ์ที่เเบบว่า “เห้ยย เราจะทำงานนี้ได้เปล่าว่ะ” หรือ “งานนี้จะเหมาะกับเราจริงๆหรอ?” อะไรเเบบนั้นอ่ะ เถียงกับตัวเองบ่อยมาก(ที่จริงก็เหมือนเราคุยอยู่คนเดียวนั่นเเหละ 555)

เเต่!!! เพื่อนๆอย่าเพิ่งท้อกันไปเลย เพราะว่าเราจะมาเสนอวิธีที่จะทำให้เพื่อนๆรู้สึกหมดข้อสงสัยในตัวเองว่าเราจะทำงานนี้ได้จริงๆไหม เราจะมีทักษะหรือคุณสมบัติพอหรือเปล่า หรือเป็นที่ต้องการของตลาดไหม?

อย่างที่เราบอกไป ในบทความที่เราเคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องทักษะกับคุณสมบัติของคนทำงาน หรือเด็กจบใหม่ที่ควรมีไปเเล้ว วันนี้เราจะเพิ่มไปอีกเรื่อง
นั่นก็คือ การสร้างจุดเเข็งของตัวเอง

ทำไมเราถึงต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็น?เเละมันมีความสำคัญอย่างไร? นั่นก็เพราะว่า การที่เรารู้ว่าตัวเองนั้น มีจุดเเข็งในเรื่องของอะไร ตรงไหน มันจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้เรามากขึ้น เพื่อที่เราจะได้กลบในเรื่องของจุดอ่อนเราลงไปด้วย เเละเราก็จะสามารถเอาจุดเเข็งตรงนั้นไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ในการหางานได้เร็วขึ้น

การสร้างจุดเเข็งนั้นทำได้ไม่ยากอย่างที่เราคิด เเต่ก่อนที่เราจะสร้างมัน เราต้องหาให้เจอก่อน ถึงจะสร้างขึ้นมาได้ ขอเเค่เพื่อนๆมีความตั้งใจที่จะทำมันก็พอนะคะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยเถอะ โยสสส!! (เม้าท์มาเยอะเเหละ เข้าสาระสักที 😂)

การหาจุดเเข็งของตัวเอง

1. อยากให้เพื่อนๆลองคิดดูว่า ตัวเองเป็นคนเเบบไหน มีลักษณะยังไง อย่างเช่น เป็นคนชอบใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์หรือชอบใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือเป็นคนชอบความเสี่ยง ชอบเรื่องตื่นเต้นตลอดเวลา หรือเป็นคนชอบอิสระ หรือว่ารักกฎเกณฑ์ หรืออาจจะเป็นคนชอบเรียนรู้ตลอดเวลา

(ถ้านึกไม่ออกจริงๆเเนะนำให้เพื่อนๆลองไปทำเกี่ยวกับเเบบทดสอบวัดบุคลิกภาพ เราไม่เเน่ใจว่ามีเว็บไหนที่ทำได้ไหมหรือต้องเสียเงินหรือเปล่า เเต่ของเรา เราซื้อหนังสือมา เเล้วในหนังสือมีลิงค์เเบบทดสอบบุคลิกภาพให้ ชื่อหนังสือ: Strengths Finder 2.0 โดย Gallup เขียน Tom Rath ราคา 450 บาท ขายตามร้านหนังสือ)

2. หลังจากนั้นพอเรารู้เเล้วว่า เราเป็นคนเเบบไหน มีบุคลิกยังไง ให้เพื่อนๆลองเขียนใส่กระดาษออกมา เเล้วเเยกเป็นข้อๆเลยค่ะ

3. พอมาถึงขั้นนี้ ให้เพื่อนลองคิดว่าอะไรที่เป็นจุดเเข็งของเรา จะกี่ข้อก็ได้ เขียนออกมาให้หมด เเต่ต้องเป็นจุดเเข็งที่สุดเลยนะคะ อย่างเช่น บางคนอาจจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นว่าตัวเองเป็นคนที่เก่งในด้านการสื่อสาร เพราะฉะนั้นจุดเเข็งของคนๆนั้นก็คือเรื่องของการพูด เป็นพูดเก่ง เป็นต้น

4. เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์เเล้วในการหาจุดเเข็งของตัวเอง

การใช้จุดเเข็งกับการหางานของเรา

มาถึงหัวข้อนี้เพื่อนๆอาจจะเริ่มมองเห็นภาพเเล้วว่า ทำไมเราถึงอยากเเนะนำเรื่องจุดเเข็งของตัวเอง เพราะว่า หลายๆคนอาจจะไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย ว่าจะสามารถทำสิ่งนั้นๆได้จริงหรือเปล่า เเล้วอีกอย่างมันก็มีผลต่อการสมัครงานของเราด้วยนะ

เพื่อที่เราจะได้มองหางานให้เหมาะกับตัวเรา เเละสิ่งที่เราทำได้ นั่นก็คือ การใช้จุดเเข็งของเราให้ตรงต่องานที่เราจะทำ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีนะคะ
ถ้าเราหมั่นสร้างจุดเเข็งของเราขึ้นมาเรื่อยๆ มันจะทำให้เรามีเรื่องที่เราสามารถทำได้เยอะเเยะมากมาย ไม่ใช่เเค่กับเรื่องงาน เเต่ยังเป็นเรื่องอื่นๆที่สามารถทำได้เเทบจะทุกอย่าง เเต่ก่อนที่เราจะทำได้ทุกอย่างนั้น เราก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลานะคะ

เมื่อเราหาจุดเเข็งของตัวเองเจอเเล้ว ให้เพื่อนๆลองกลับไปดูงานที่ตัวเองจะไปสมัครนะคะ เเล้วลองลิสต์รายชื่องานที่ตัวเองอยากทำดู เอาเเค่อยากทำก่อนนะคะ ไม่ต้องสนใจเรื่องที่จะทำได้หรือไม่ได้นะ

จากนั้นให้ลองดูงานที่คิดว่า งานประเภทนี้เนี่ยเเหละ ที่เหมาะกับจุดเเข็งของเรา เหมาะกับคนเเบบเราเเละเราสามารถทำงานออกมาได้เต็มที่
เมื่อเพื่อนๆทำได้เเล้ว หาตัวเองเจอเเล้ว ก็เดินหน้าโปรยเรซูเม่ได้เล้ยยยยยย!!😄

เราหวังว่าบทความในเรื่องนี้จะช่วยใครหลายๆคนได้ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบใหม่ที่ตรงสายหรือไม่ตรงสาย หรือคนที่กำลังเปลี่ยนงานใหม่ คนที่กำลังตัดสินใจเรื่องงาน หรือหลงทางอยู่ ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี?

ตอนเเรกเราก็เป็นเเบบนี้ค่ะ เราไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง หรือจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี พอมาเปิดเว็บสมัครงาน รู้สึกว่าเราจะทำได้หรอ เรามีจุดเด่นในเรื่องอะไรที่จะเหมาะกับงานนั้นๆ บอกตรงๆว่าเราคิดไม่ออกเลยค่ะ มันดูตันไปหมด 

เเล้วยิ่งเราจบไม่ตรงสาย เราเเทบจะไม่มีสกิลด้านอื่นๆเลย นอกจากที่ เราเรียนมาเราท้อมากในช่วงเเรก เเต่เราไม่อยากถอย เราอยากลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง  โดยที่ไม่ต้องพึ่งใคร 

เราอยากดูเเลคนสำคัญของเราให้ดี มันเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องไปต่อเท่านั้น เพราะการสมัครงานนั้น มันเเค่ก้าวเเรกที่เราเพิ่งเริ่มเดิน ก้าวต่อไปคือเรื่องของการทำงาน มันจะมีอะไรรอเราอีกเยอะ ไม่ใช่เเค่งาน เเต่เป็นทั้งชีวิตของเรา

เราเชื่อว่าทุกคนทำได้ เเละเราก็อยากให้ทุกคนลองคิดเเบบนี้ดูว่า “ฉันทำได้เเน่นอน” ขนาดเราไม่มีสกิลด้านอื่นเลย เราเเทบต้องไปฝึกงานใหม่ทั้งหมด เรายังทำได้เลย เเต่ก็ต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะเช่นกัน เเล้วถ้าคนที่มีสกิลด้านอื่นพร้อมมาบ้างเเล้ว เราเชื่อว่าทำได้เเน่นอนค่ะ

---

เพราะฉะนั้น ขอให้เพื่อนๆทุกคน สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ 
เเล้วเราจะมาเล่าเรื่องต่อไปให้หลังจากที่เราได้งานทำเเล้วมันจะเป็นยังไง จะดีไหมหรือจะเเย่ลง. ซียูจ้าาาา