I was born with Ptosis
เรามีอาการกล้ามเนื้อของเปลือกตาอ่อนแรงตั้งแต่เกิด(ตาขวา) แล้วตาข้างนั้นปิดไม่สนิทด้วย แถมขนตาตกด้วยจ้า(เวลามองมันเหมือนมีแสงกระทบขนตาอ่ะ)
ตอนเรียนสมัยประถมเราโดนแกล้งโดนรังแกบ่อย ไม่มีเพื่อนคบ ทำให้อยู่แต่บ้านดูทีวีตั้งแต่เด็กและเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองสูงมาก และเป็นคนที่กลัวสังคมไม่กล้าสบตากับใครตั้งแต่เด็ก ในช่วงประถมเราได้แต่โฟกัสเรื่องที่เพื่อนล้อเราช่วงนั้นเรามีความรู้สึกว่าชีวิตทำไมมืดมนจัง แต่เราก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
พอขึ้นมัธยมเราได้มีโอกาสได้เรียนเอกชน จริงๆแล้วเราอยากเรียนโรงเรียนรัฐบาล(ติดท็อป10ของประเทศทุกปี) แต่เนื่องจากโรงเรียนทั้งสองโรงเรียนอยู่ไกลจากบ้านมาก แถมเราก็เด็กมากด้วยพ่อแม่อยากให้เรามีคนดูแล เลยให้เราเรียนที่เอกชนดีกว่าซึ่งมีนักเรียนประจำด้วย เราบอกตรงๆนะเราโครตคิดถึงโรงเรียนนี้มาก เป็นโรงเรียนที่ดีมากสังคมดี เพื่อนดี ครูดี ดีไปทุกอย่าง ทำให้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราไม่เคยโฟกัสเรื่องปมด่อยของตังเองเลย แต่เอาจริงเราไม่โฟกัสก็จริงนะ เวลาถ่ายรูปเราแอบไม่มั่นใจเท่าไหร่ เหมือนเวลาถ้ารูปคู่กับเพื่อนเรากลัวทำให้ภาพที่เพื่อนถ่ายไม่สวยเพราะมีคนหนังตาตก ทำให้เราไม่ชอบถ่ายรูปตั้งตอนนั้นมาไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม
ได้ผ่าตัดที่รพแห่งหนึ่งในไทย (แผนกจักษุ ไม่ใช่ศัลยกรรม)
ผ่าตัดครั้งแรกตอนป4 ดึงตาขึ้น เพราะมีปัญหาเรื่องการมองเห็น
ผ่าครั้งที่สองตอนป6 ใช้เอ็นจากต้นขาขวา และทำตาสองชั้นข้างที่ไม่เป็นอะไรด้วย
หลังจากผ่าตัดครั้งที่สอง เวลานอนเราปิดตาไม่สนิททั้งสองข้างเลย(ไม่น่าทำข้างปกติเลย555ชีวิต)
ผ่าสองครั้งหมอไม่อยากแก้ไขแล้วพอมันได้เท่านี้จริงๆ จนม6เราการมองกลับมาแย่ลง ไปหาหมอ หมอตรวจหมอบอกว่ามันกลับมาตกอีกครั้ง แต่หมอแก้ให้ไม่ได้แล้วเพราะถ้าทำอีกเปลือกจะขึ้นแต่เวลาปิดตาเปลือกตาก็จะยกสูงกว่าเดิม อาจทำให้ตาอักเสบได้ แต่หมอก็บอกว่านั้นผ่าตัดสักนิดก็ได้
ผ่าครั้งที่3(ผ่าตัดเล็ก) เพราะเราโตแล้วใช้เข็มฉ๊ดยา
หลังจากผ่าครั้งที่สาม มันดีขึ้นแต่อยู่ได้ไม่ถึง1ปี อาการก็กลับมาเหมือนเดิม
ที่ทำรพนี้เพราะเป็นรพชั้นนำในภูมิภาคและแม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้
เราอยากบอกว่าตอนนี้เรารู้สึกเฉยๆกับ ugly แต่เรารู้สึกรำคาญใจมากกว่า ตอนนี้เราอายุ20 นั้นคือเรากำลังเรียนมหาลัยนั้นเอง เรียนอยู่ปี3 เราพยายามโฟกัสเรื่องเรียน เราไม่ได้เครียดเรื่องเกรดหรอกนะ เพราะมันไม่ได้แย่หรอกแต่มันควรทำได้มากกว่านี้ แต่อุปสรรคของเราตอนนี้คือเราอ่านหนังสือได้ไม่ถึง5นาทีเราก็ปวดตามาก แล้วปวดตาไม่พอเวลาเรียนเราต้องเงยหน้าขึ้นทำให้ปวดคอปวดหนัง แต่อาการที่เป็นบ่อยสุดคือปวดหัวตาปิดข้างหนึ่งเราโครตเซ็ง ขนตาก็มาบังอีกเราเลยซื้อที่ดัดขนตา แต่เอิ่ม ไม่เวิร์คอ่ะ ตอนนี้พยายามไม่ฟุ่งซานเรื่องนี้ แต่มันจำเป็นจริงๆอ่ะ เราอยากอ่านหนังสือมากๆไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องการลงทุนอะไรต่างๆแต่มันไม่ได้อ่ะ ตอนนี้รู้สึกท้อมาก
แต่เราอยากขอบคุณพ่อแม่เรามากเรารู้ว่าท่านเสียใจ และสงสารเราที่เป็นแบบนี้ แต่ท่านพยายามทำทุกวิถีทางหาทางรักษาให้เราดีขึ้นถ้าท่านจะไปเรียนแพทย์เพื่อรักษาเราท่านก็คงทำไปแล้ว แต่เราตอบแทนท่านโดยการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีอาจจะไม่ดีที่สุด และทำตัวร่าเริงเวลาอยู่กับท่าน เราเห็นแววตาที่มีความสุขเราโครตมีความสุขเลยอ่ะ
เราอาจจะพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกไม่เข้าใจแต่ตอนนี้ปวดตามากเราคงไม่อ่านที่พิมพ์ แต่ก็ขอบคุณที่มาอ่านมารับฟังเรานะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้ามีปาฏิหาริย์ก็คงดี
หนังตาตก อยากอ่านหนังสือมากกว่านี้
เรามีอาการกล้ามเนื้อของเปลือกตาอ่อนแรงตั้งแต่เกิด(ตาขวา) แล้วตาข้างนั้นปิดไม่สนิทด้วย แถมขนตาตกด้วยจ้า(เวลามองมันเหมือนมีแสงกระทบขนตาอ่ะ)
ตอนเรียนสมัยประถมเราโดนแกล้งโดนรังแกบ่อย ไม่มีเพื่อนคบ ทำให้อยู่แต่บ้านดูทีวีตั้งแต่เด็กและเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองสูงมาก และเป็นคนที่กลัวสังคมไม่กล้าสบตากับใครตั้งแต่เด็ก ในช่วงประถมเราได้แต่โฟกัสเรื่องที่เพื่อนล้อเราช่วงนั้นเรามีความรู้สึกว่าชีวิตทำไมมืดมนจัง แต่เราก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
พอขึ้นมัธยมเราได้มีโอกาสได้เรียนเอกชน จริงๆแล้วเราอยากเรียนโรงเรียนรัฐบาล(ติดท็อป10ของประเทศทุกปี) แต่เนื่องจากโรงเรียนทั้งสองโรงเรียนอยู่ไกลจากบ้านมาก แถมเราก็เด็กมากด้วยพ่อแม่อยากให้เรามีคนดูแล เลยให้เราเรียนที่เอกชนดีกว่าซึ่งมีนักเรียนประจำด้วย เราบอกตรงๆนะเราโครตคิดถึงโรงเรียนนี้มาก เป็นโรงเรียนที่ดีมากสังคมดี เพื่อนดี ครูดี ดีไปทุกอย่าง ทำให้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราไม่เคยโฟกัสเรื่องปมด่อยของตังเองเลย แต่เอาจริงเราไม่โฟกัสก็จริงนะ เวลาถ่ายรูปเราแอบไม่มั่นใจเท่าไหร่ เหมือนเวลาถ้ารูปคู่กับเพื่อนเรากลัวทำให้ภาพที่เพื่อนถ่ายไม่สวยเพราะมีคนหนังตาตก ทำให้เราไม่ชอบถ่ายรูปตั้งตอนนั้นมาไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม
ได้ผ่าตัดที่รพแห่งหนึ่งในไทย (แผนกจักษุ ไม่ใช่ศัลยกรรม)
ผ่าตัดครั้งแรกตอนป4 ดึงตาขึ้น เพราะมีปัญหาเรื่องการมองเห็น
ผ่าครั้งที่สองตอนป6 ใช้เอ็นจากต้นขาขวา และทำตาสองชั้นข้างที่ไม่เป็นอะไรด้วย
หลังจากผ่าตัดครั้งที่สอง เวลานอนเราปิดตาไม่สนิททั้งสองข้างเลย(ไม่น่าทำข้างปกติเลย555ชีวิต)
ผ่าสองครั้งหมอไม่อยากแก้ไขแล้วพอมันได้เท่านี้จริงๆ จนม6เราการมองกลับมาแย่ลง ไปหาหมอ หมอตรวจหมอบอกว่ามันกลับมาตกอีกครั้ง แต่หมอแก้ให้ไม่ได้แล้วเพราะถ้าทำอีกเปลือกจะขึ้นแต่เวลาปิดตาเปลือกตาก็จะยกสูงกว่าเดิม อาจทำให้ตาอักเสบได้ แต่หมอก็บอกว่านั้นผ่าตัดสักนิดก็ได้
ผ่าครั้งที่3(ผ่าตัดเล็ก) เพราะเราโตแล้วใช้เข็มฉ๊ดยา
หลังจากผ่าครั้งที่สาม มันดีขึ้นแต่อยู่ได้ไม่ถึง1ปี อาการก็กลับมาเหมือนเดิม
ที่ทำรพนี้เพราะเป็นรพชั้นนำในภูมิภาคและแม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้
เราอยากบอกว่าตอนนี้เรารู้สึกเฉยๆกับ ugly แต่เรารู้สึกรำคาญใจมากกว่า ตอนนี้เราอายุ20 นั้นคือเรากำลังเรียนมหาลัยนั้นเอง เรียนอยู่ปี3 เราพยายามโฟกัสเรื่องเรียน เราไม่ได้เครียดเรื่องเกรดหรอกนะ เพราะมันไม่ได้แย่หรอกแต่มันควรทำได้มากกว่านี้ แต่อุปสรรคของเราตอนนี้คือเราอ่านหนังสือได้ไม่ถึง5นาทีเราก็ปวดตามาก แล้วปวดตาไม่พอเวลาเรียนเราต้องเงยหน้าขึ้นทำให้ปวดคอปวดหนัง แต่อาการที่เป็นบ่อยสุดคือปวดหัวตาปิดข้างหนึ่งเราโครตเซ็ง ขนตาก็มาบังอีกเราเลยซื้อที่ดัดขนตา แต่เอิ่ม ไม่เวิร์คอ่ะ ตอนนี้พยายามไม่ฟุ่งซานเรื่องนี้ แต่มันจำเป็นจริงๆอ่ะ เราอยากอ่านหนังสือมากๆไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องการลงทุนอะไรต่างๆแต่มันไม่ได้อ่ะ ตอนนี้รู้สึกท้อมาก
แต่เราอยากขอบคุณพ่อแม่เรามากเรารู้ว่าท่านเสียใจ และสงสารเราที่เป็นแบบนี้ แต่ท่านพยายามทำทุกวิถีทางหาทางรักษาให้เราดีขึ้นถ้าท่านจะไปเรียนแพทย์เพื่อรักษาเราท่านก็คงทำไปแล้ว แต่เราตอบแทนท่านโดยการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีอาจจะไม่ดีที่สุด และทำตัวร่าเริงเวลาอยู่กับท่าน เราเห็นแววตาที่มีความสุขเราโครตมีความสุขเลยอ่ะ
เราอาจจะพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกไม่เข้าใจแต่ตอนนี้ปวดตามากเราคงไม่อ่านที่พิมพ์ แต่ก็ขอบคุณที่มาอ่านมารับฟังเรานะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้