ออกตามหา Passion ที่หายไป : ไปกาญกัน



สวัสดี เพื่อน ๆ พี่น้อง ชาวพันทิป ห้อง รัชดา (แท็กมอเตอร์ไซค์) และ บลูแพลนเน็ต (แท็กท่องเที่ยว) ด้วยครับ 
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา (ช่วงวันพ่อ) ประเทศไทยได้สัมผัสลมหนาวฝุด ๆ ขนาดนี้ที่ไม่ต้องเปิดแอร์นอน ประจวบกับไม่ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปทริปไหนนานแล้ว ไม่เชิงว่าไม่มีเวลา แต่เหมือน(ช่วงนั้น)จะหมด Passion ไปเฉย ๆ (อารมณ์หายเห่อ) เลยต้องหาทริปเพื่อออกตามหาสิ่งที่เราเคยหลงใหลกลับมา !!!



แผนเดิมที่วางเอาไว้คนเดียวคือ ลงใต้ ไปกางเต็นท์แถว ๆ ชุมพร หรือ สุราษฯ แต่จู่ ๆ ก็แว่บมาในหัวว่า ไกลวะ ขี้เกียจละ เลยเปลี่ยนพิกัด GPS ไปกาญจนบุรีแทน !!! (ไปเป็นหมู่คณะจู่ ๆ เปลี่ยนแผนแบบนี้ไม่ได้นะ 555)



7 โมง 20 อุณหภูมิ 21 องศา ขี่ไปหนาวไป ขี่เร็วไม่ได้ แข็ง 55


ระหว่างทางมาคือ ไม่รู้จะนอนไหน มันจะมีที่พักหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะมันเป็นวันพ่อ กึ่ง ๆ เทศกาลหยุดยาว แต่ก็มาเรื่อย ๆ ขี่ชมนกชมไม้ จะสิบโมงแล้วอากาศยังเย็น ๆ อยู่ เลยไปตั้งหลักเขื่อนศรีนครินทร์ ค่อยหาที่พักต่อ พอถึงแล้วก็เคว้ง เลยจิ้มมือถือหาที่พักแจ่ม ๆ จนไปเจอที่นึงน่าสนใจมาก คือ ภูชนินทร มีทั้งบ้านพักและกางเต็นท์ได้ แต่โทรไม่ติดเลยไม่รู้ว่าเต็มหรือยัง เลยวัดดวงขี่ตาม GPS ไปก่อน 555



พอมาถึง วิวสวยมากกกกกกก แถมที่พักไม่ได้เต็มอย่างที่คิด จุดกางเต็นท์ว่างทุกจุด เลือกทำเลของตัวเองได้เต็มที่ แต่มีผมอยู่คนเดียวก็จะเหงา ๆ หน่อย 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


นึกว่าจะไม่มีเพื่อนละ นอนอ้วน ๆ อาบแดดกันสบายเลยนะ


หลังจากจัดการข้าวของ กางเต็นท์จับจองพื้นที่เสร็จแล้ว ก็ไปหาอะไรกินดีกว่า


ตอนแรกก็กะจะไปกินร้านอาหารข้างทางแถวนั้น แต่เห็นศูนย์อาหารในตลาดเงียบเหงาเสียเหลือเกิน เลยตัดสินใจกินที่นี้แทน



ง่าย ๆ เบา ๆ พอ ผัดเผ็ดหมูป่านี้มันเผ็ดสมชื่อ
กินเสร็จแล้ว เวลายังเหลืออีกเยอะจนเกินไป เลยหาสถานที่ฆ่าเวลา เลยดิ่งไปน้ำตกเอราวัณไม่ไกลจากสถานที่กินข้าว


ใจก็อยากจะเล่นน้ำ แต่อากาศมันหนาว เลยไม่ได้ลง เลยเดินขึ้นไปชั้นสูง ๆ ต่อ

ใครมาเอราวัณ น่าจะได้เจอบันไดนี้กันทุกคน โครตเหนื่อย 55


ไม่แน่ใจว่าชั้น 3 หรือ 4 แต่ตาเหลือบไปเห็นไอ้นี้พอดี มันคืออะไรเนียะ ...


ระหว่างเดินขึ้นก็ต้องแบกหมวก แบกกระเป๋าไปด้วย ภาระชัด ๆ 55



ผมมาถึงชั้น 4 ก็พอละ ไม่ไหว ขาสั่น เพี้ยนสะอื้น
นั่งชิว เอาขาจุ่มน้ำ พร้อมไถมือถือซักพักก็เริ่มเบื่อ มาคนเดียวไม่รู้จะทำอะไร เลยกลับที่พักดีกว่า


กลับมาต้มโอวัลตินกิน จริง ๆ ที่พักมีเครื่องดื่มขายนะ แต่อยากชงเอง 555



เอาละ ถึงเวลาฆ่าเวลาของจริง เลยเอากันดั้มที่พกมาด้วย มานั่งต่อซะเลย


ดันประมาทไปหน่อย ใช้เวลาเยอะกว่าที่คิด จนเย็นฟ้าเริ่มมืดยังต่อไม่เสร็จ เลยต้องเลิกต่อ ไว้ไปต่อพรุ่งนี้ ตอนนี้ต้องทำอะไรกินก่อน 555


เนื่องจากลืมซื้อหมูกับข้าวมา เลยต้องไปซื้อมาม่ามากินแทน เพี้ยนกินมาม่า


สำหรับค่ำคืนนี้ 19 องศา โครตจะหนาว

หนาวไม่พอ ลมแรงด้วย พัดทั้งคืน นึกว่าเต็นท์จะปลิว 555
สำหรับค่ำคืนนี้ก็นอนหนาวจนเช้า 


ตั้งปลุก 6 โมง ออกมาสัมผัสความหนาว เสียดายไม่มีหมอกเลย เม่าในกองไฟ

มีเพื่อนมาชมวิวด้วยแหละ

ดูวิวฟิน ๆ ก็เอาอาหารเช้ามานั่งกิน อาหารหลักร้อย แต่ได้วิวก็คุ้มแล้ว

จากนั้นก็เอาอุปกรณ์ไฟฟ้ามาชาร์จให้เรียบร้อยเตรียมตัวเดินทางต่อ



ระหว่างรอชาร์จก็ชงกาแฟ นั่งต่อกันดั้มอีกนิดหน่อย และเอามาถ่ายรูป อันนี้กาแฟลองผสมน้ำผึ้งดูด้วย รสแปลก ๆ ดี 55

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และก็เก็บข้าวของเตรียมเดินทาง

26 องศา แต่ก็ยังถือว่าหนาวจนไม่อยากอาบน้ำอยู่ดี สรุปก็ไม่ได้อาบนั้นแหละ


ทีนี้เคว้งของจริง เพราะไม่รู้จะไปไหนดี มีเวลาเที่ยวอีก 2 วัน 1 คืน แต่ไม่รู้จะไปไหน ไม่มีจุดหมาย เลยไปที่สันเขื่อนไปถ่ายรูปหน่อย เผื่อจะนึกอะไรออก



จากนั้นก็กินข้าวบนนั้น แล้วก็เปิดกูเกิ้ลว่าจะไปไหนต่อดี

จากนั้นเจอสถานที่น่าสนใจ จู่ ๆ ก็อยากไปดู คือ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาน้ำพุ แต่ไปแล้ว มันไม่มีอะไรเลย เลยยืนมึน ๆ ไปไหนดีหว่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นเลยขี่รถออกไปก่อน ขี่แบบไร้จุดหมายของจริง ไม่รู้จะไปไหนดี สายตาเหลือบไปเห็นร้านกาแฟแนวป่า เขา เลยวนรถกลับมา แวะดื่มไรซะหน่อย
ปรากฏว่าเป็นร้านแบบชาวบ้าน แม่ค้าดูเก้ ๆ กัง ๆ เครื่องดื่มมีไม่กี่อย่าง กาแฟก็เป็นแบบซองฉีกชงให้ แต่ผมรู้สึกอบอุ่นดีแหะ ดูจริงใจดี บรรยากาศร้านก็สวยงาม จุดให้ถ่ายรูปเยอะ แต่เงียบเหงา คนไม่ค่อยแวะกันจากคำบอกเล่าแม่ค้า ฟังดูก็น่าเห็นใจแหะ


ขี่ได้สักพัก ปวดท้อง เลยแวะปั้มเข้าห้องน้ำ พรางคิดไปว่าจะไปไหนต่อดีวะกับเวลาอีก 2 วัน 1 คืน ที่แสนจะเงียบเหงา แปลกมากที่ไปไหนก็ไม่ค่อยมีคน ทั้ง ๆ ที่วันพ่อคนน่าจะเยอะแท้ ๆ จนกดดูเฟส อ่อ เขาไปเที่ยวเหนือกัน 555


เป็นการผจญภัยแบบเหงา ๆ ที่ตอนแรกไม่รู้ว่าจะมาทำไม อ่อ มาต่อกันดั้ม 555
จากตอนแรกที่ผมเหมือนจะเบื่อ ๆ (หายเห่อ) อยู่ช่วงนึง เพราะไม่ได้ขี่ไปทริปไหน และเบื่อกระแสสังคม (สาเหตุหลัก) ไม่ว่าจะจากกลุ่มบิ๊คไบค์ หรือจากกลุ่มคนที่ไม่ชอบก็ตาม ทำให้ค่อย ๆ ลืมความรู้สึกสมัยที่เรายังมีความหลงใหลในมอเตอร์ไซค์
ให้คุณลองคิดภาพ เปิดพันทิปมา เจอแต่ความเห็นด่าบิ๊คไบค์ หรือ เจอแต่กลุ่มบิ๊คไบค์ที่ทำตัวในแบบที่เราไม่ชอบ พอเจอบ่อย ๆ ก็ทำเอาเราเบื่อไปตอนไหนก็ไม่รู้เฉยเลย รู้ตัวอีกทีก็จอดฝุ่นจับซะแล้ว

จนผมลืมคิดไปว่า ทำไมเราต้องให้ปัจจัยภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลยมาทำให้ passion ของเราหายไป
ผมชอบในการขี่รถ ความสุขที่ได้ขี่ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง ไม่ใช่แค่สองข้างทาง ไม่ใช่แค่วิวตอนเดินทาง แต่เป็นช่วงเวลาตอนขี่รถนี้แหละ  คือความสุขของผม ใครจะเบื่อวลีมิตรภาพสองล้อ เบื่อคำว่าสังคมหรือวงการบิ๊คไบค์ แล้วบอกว่าตัวเองไม่อยากขี่รถแล้วเบื่อ นั้นก็เรื่องของเขาครับและเขาก็ไม่ได้ผิด เพราะผมก็เคยคิดแบบนี้
ผมขี่รถเพราะชอบไม่ได้ขี่เพราะสังคม ชอบดีไซต์ของมอเตอร์ไซค์ ชอบเสียง ชอบตอนแต่งตัวใส่หมวก ชอบลงสนามแข่ง ชอบกลุ่มเพื่อนที่ไลฟ์สไตล์เหมือนกัน ทริปนี้ทำให้ความหลงใหลในมอเตอร์ไซค์ผมลุกอีกครั้งจนอยากจะขี่ไปเที่ยวอีก แต่อย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นด่าเหมือนทุกวันนี้ก็พอ
 
ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่